L o v e i s . . . . . .


เหตุเกิดของบันทึกนี้ดูไม่เข้าท่าไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านใคร เพียงแต่บันทึกนี้เพื่อน ๆ มักจะ Forward ภาพวิดีโอ การ์ดแต่งงาน มาให้รับชมกัน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นที่สำคัญกว่านั้นมักมีคำตัดพ้อ น้อยใจ หรือไม่ก็เป็นข้อกังขาของใครบางคนที่อยากมีใครสักคนเหมือนอย่างใครบางคน แล้วในที่สุดก็มักจะลงเอยด้วยคำถามที่ฉันเองไ่ม่อยากตอบ เวลาเจอวงศาคณาเพื่อน เพราะขี้เกียจสาธยายว่าเพราะอะไร ? ทำไม ? อย่างไร ? แต่จนแล้วจนรอดเพื่อนก็ใช้คำถาม (หะมา ๆ ) บีบคั้นทางจิตใจกัน ทำให้คำตอบที่เพื่อนอยากได้ยินมันอาจจะไม่ตรงกับใจของพวกมันนัก ฮ่า ๆ

หลายต่อหลายครั้งที่ใครมักจะถามถึงว่าความรักคืออะไร ? เพื่อนแต่ละคนก็มีนิยามของตัวเองอยู่ในใจ ทัศนคติแตกต่างกันไปตามเพศ วัยหรือประสบการณ์ที่ผ่านมาของชีีวิต หลาย ๆ ครั้งที่ชอบนั่งฟังนิ่ง ๆ กับแอบคิดย้อนไปตามเหตุการณ์บางเหตุการณ์ของเพื่อนแต่ละคน ตามแต่เหตุการณ์ใดที่เคยเผชิญและได้เห็นวิวัฒนาการความรักของเพื่อนรักแต่ละคน นิยามของใครก็ไม่เหมือนกัน บางนิยามก็ดูเป็นตัวของตัวเองจนบางทีกลั้นยิ้มแทบไม่ไหว เออ ! สมัยคบกันเป็นแฟนกับตอนแต่งงานเป็นสามีภรรยา มีสำเนาเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน สองคน หรือสามคน นิยามความรักของพวกมันก็ค่อย ๆ เพิ่ม Option ขึ้นทีละนิด....ทีละหน่อย แล้วในที่สุดมันก็เหลือกันอีกไม่กี่คนที่ยังไม่พบใครสักคนพอจะให้เป็นนิยาม เพื่อน ๆ ที่ผ่านนิยามมาอย่างโชกโชนจึงตั้งข้อสังเกตไว้กับอิพวกนี้ว่า "เพราะไร....ว๊า ?" อะไรดลใจให้พวกที่เหลือยังคงรอใครมาเป็นนิยามความรักของตัวอยู่ ? ที่เหลือก็คุยกันไป ตอบกันไป เถียงกันไปบ้าง หรือแย้งกันนิดหน่อย แต่ครั้งนี้เพื่อนอยากรู้บ้างว่า ฉันมีนิยามเป็นอย่างไร ? เป็นแบบไหน ? เป็นคำถามที่ไม่อยากตอบ เพราะรู้ตัวว่าคำตอบเป็นคำตอบที่จริงจังสำหรับคนตั้งคำถาม แล้วก็จะมีคำถามต่อไปอีกไม่จบ เอาล่ะซิ....จะโดนพระบาทเพื่อนไหม....ว๊าเนี่ย ?

ความรักของเราหรอ เราว่ามันคือ "การเปลี่ยนแปลง" มันดู Abstract ไปปะวะ ? แต่เฮ้ย ! เราไม่ได้ตอบกวนฟรีนนะเว้ย แต่ถ้าเพื่อนถามเราเร็วกว่านี้สัก ๒๐ ปี คำตอบมันอาจดูเข้าท่ากว่านี้หรือดูไม่เอาอ่าวก็ได้ว่ะ ทำไมอ้ะ? มันเปลี่ยนแปลงยังไงหรอวะ ? หรือชอบหลายคนดิแก ? ฮ่า ๆ ไม่ใช่อย่างนั้นวุ๊ย เพียงแต่ปูนนี้แล้ว มุมมองชีวิต ๓๖๐ องศา ก็ได้เห็นกำเนิดความรัก ความเป็นไปของความรัก หรือแม้แต่จุดจบของความรัก ทั้งของเพื่อน เพื่อนไม่สนิท เพื่อนสนิท เพื่อนรัก เพื่อนของเพื่อน พี่ของเพื่อน เพื่อนของพี่ หรือคนรู้จักทั้งไม่มักคุ้นและคุ้น กับใครต่อใครที่อยู่รอบ ๆ ตัว ต่างกันไป บางทีความรักอาจเริ่มต้นด้วยความสัมพันธ์แบบมิตรภาพ แบบเพื่อน จนพัฒนามาเป็นความรักแบบหนุ่มสาว คู่สมรส คู่ชีวิต หรือบางคนอาจโชคดีหน่อยที่ความรักกำเนิดจากบุพเพสันนิวาสจึงครองคู่กันจากคู่รักแบบหนุ่มสาว คู่สมรสและคู่ชีวิต

หากใช้ใจเรามองดี ๆ เราจะพบความจริงว่าความรักมันไม่ใช่สิ่งที่กล่าวไปทั้งหมด บางคนเริ่มต้นจากความเป็นเพื่อน เอ็นดู เอื้ออาทร ดูแลซึ่งกันไปจนถึงช่วงหนึ่งที่ต่างตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นก็ดำเนินการตามขั้นตอนขนบประเพณีกันไป แรกเริ่มชีวิตคู่ที่มีเพียงเธอและฉัน เป็นช่วงที่อบอวลด้วยความรัก ดูล่องลอย พริ้ว ๆ เลี้ยงความรักให้อ้วนพองได้สักช่วงหนึ่ง แต่ความลงตัวของชีวิตคงไม่ใช่แค่เพียงเธอและฉันเท่านั้น มีพ่อแม่เธอ พ่อแม่ฉัน พี่น้องเธอ พี่น้องฉัน และความรักที่มีเพียงเธอและฉัน มันก็ต้องกระจายปันกันไปตามสัดส่วนของคนสำคัญที่รัก

เมื่อวันที่ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่ความรักของคนหนุ่มสาว แต่เป็นการสืบเผ่าพันธุ์ มีทายาทเป็นสำเนาตัวน้อยกระจ้อยร่อยเพิ่มเข้ามาในชีวิต ความรักของเธอและฉันมันยังมีอยู่ แต่ทั้งเธอและฉันต้องปันความรักให้กับสำเนาของเรา บทบาทหน้าที่ของคู่รัก คู่ชีวิต เปลี่ยนเป็นอีกบทบาทหนึ่งคือคำว่าพ่อและแม่ ชีวิตยังเต็มไปด้วยความรักอย่างมีพัฒนาการ ค่อย ๆ เริ่มกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูสำเนาไป ผ่านไปสิบปี ความรักที่เคยมีอยู่ก็คงยังมีอยู่ (อาจมีเท่าเดิม เพิ่มขึ้น หรืออย่างไรก็แล้วแต่....แต่เชื่อว่าความรักยังคงมีอยู่) แต่จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปตามช่วงชีวิต จนถึงวันที่สำเนาของเธอและฉันเติบโตเป็นผู้ใหญ่ สำเร็จการศึกษา ทำงาน มีแฟน แต่งงาน มีทายาท ความรักยังคงมีอยู่ไหม ? แน่นอนความรักยังคงมีอยู่ ในฐานะที่เธอและฉันผ่านวันเหล่านั้นมาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนภาพย้อนกลับมาอีก จนวันที่คิดว่าจะมาถึงของเธอหรือของฉัน ที่มาถึงวันแห่งการพลัดพรากตลอดชีวิต ความรักของเธอหรือของฉันก็ยังคงมีอยู่ เป็นความรักที่เหลืออยู่คู่ความทรงจำ ด้วยกายเนื้อของฉันหรือของเธอกลายเป็นเศษเถ้าถ่าน ความรักยังมีอยู่ไหม ? ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ในที่สุดแล้วความรักไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม มีพัฒนาการและมีจุดจบลงเอยแบบนี้ เนี่ยแหละ....คือความรักในแบบที่เราเห็น...เข้าใจ

โหยยยยยยยยยยย....ย !!!! ไอ้เก๋ !! แกคิดเยอะไปปะวะ ? อย่าไปมองอนาคตไกลอย่างนั้นดิ อ้าว !!!!!! ไมอ้ะ แกว่าเรามองไกลเกินไปหรอ..... งั้น ! เราขอถามแกบ้างว่า เป้าหมายในชีวิตของตะเองคืออะไร ? เพื่อนอึ้งไปเล็กน้อย บ่นก่อนตอบสักพัก ฮ่า ๆ ก็ทำงาน เลี้ยงลูก พอลูกโตคงหมดห่วง แค่นั้นหรอ ? มีอีกไหม ? ก็อยากให้ลูกเรียนที่ดี ๆ มีงานดี ๆ ทำ ไหนแกว่าแกไม่คาดหวังกะลกไง !! ไรฟะ....แอบกดดันลูกลับหลังนะวุ๊ย !!! แกไม่ต้องมาตะแบงเลยไอ้เก๋ เดี๋ยวแกแก่ไปแกจะไม่มีใครเลี้ยงนะจะบอกให้ อยู่คนเดียวเหงานะว๊อยยยย !!!! อืม !!! มันก็จริงนะ แกก็มีลูกมีเมียไมบางทีแกก็บ่นกะเพื่อน ๆ กะฉันว่าเหงาวะ (สงสัยมันจะลืมหรือเปล่า ?) แล้วบางคนมีลูกโตเป็นควายจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว ไมมันยังขอตังค์แม่ใช้ ให้แม่ซักผ้า รีดผ้า ทำกับข้าวให้วะ ตกลงใครเลี้ยงใคร ? ตกลงไงวะเนี่ย ? เพื่อนนิ่งไปอึดใจ แล้วถามใหม่ว่า แกไม่คิดว่าอยู่คนเดียวบางทีมันไม่มีคู่คิดนะวุ๊ย แล้วที่แกแต่งงานมีสามีภรรยากันนี่ แกเคยใช้ให้มันคิดบ้างไหมวะ ? ฉันก็เห็นแกคิด ให้แม่คิด ให้พ่อคิด ให้ฉันคิด ให้อิคุณเพื่อนแต่ละคนมาสุมหัวกันคิด แกเคยใช้ให้อิคู่ชีวิตคิดกี่ครั้งฟะ ? ก็เข้าใจว่าอย่างไรสองหัวดีฟ่าหัวเดียว ....ล่าสุดแกจำได้ไหมไปเลือกกระเบื้องห้องน้ำกัน คิดมาแล้ว ถามความเห็นมาแล้ว แกลากฉันไปเดินซะขาลาก สุดท้ายหล่อน...ไปเจอสีที่ถูกใจกว่า แกก็ตัดสินใจจากตัวแกเอง แกไม่กลัวเหงาจริง ๆ อ้ะ ? อินี้ตอบจากใจ เราไม่เคยกลัวกับความเหงานะ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ที่บางทีก็รู้สึกเหงา แต่เราเชื่อว่ามันจะเป็น ๆ หาย ๆ ในที่สุดแล้วก็คงจะอยู่กับมันได้ มีวิธีการจัดการกับมัน ชีวิตมันก็สุขสงบได้ง่าย ๆ นะ

ฉันว่าการมีชีวิตคู่มันก็ดีนะสำหรับใคร ๆ แต่ถ้าบางคนต้องการมีชีวิตแบบเรา เราว่ามันก็ต้องอยู่ได้ซิ เพราะในที่สุดแล้วผู้ที่ให้ชีวิตกับเราก็ต้องจากเราไป หรือแกลองคิดดูดิ แกเป็นผู้ให้ชีวิตคนหนึ่ง แล้ววันหนึ่ง...สมมติว่าชีวิตที่แกเป็นคนให้ บ๊าย....บาย ไปก่อน แกจะทำยังไง ? ในที่สุดแล้ว...เราไม่มีอะไรเลยที่ยึดเป็นของเราได้ ละเป้าหมายชีวิตแกล่ะเก๋.....คืออะไร ? ฉันมีคำตอบในใจที่ไม่ได้ตอบเพื่อนไป เป้าหมายของเราน่ะหรอ คงทำประโยชน์ต่อตนเอง ดูแลคนที่เรารัก คนที่รักเรา ทำประโยชน์ต่อผู้อื่นในระหว่างทางของชีวิตที่ยังเหลือเวลาอยู่ และมีความสุขสงบด้วยธรรม ก่อนที่จะหมดลมหายใจไปด้วยความเข้าใจในคุณค่าของชีวิต

เฮ้อ !!!! ถ้าเพื่อนได้ยินคำตอบ ก็คงจะมีคำถามอีกมากมาย และในสายตาของเพื่อนคงคิดว่าเราเพี้ยน ๆ เบื๊อก ๆ ไม่เลิกราซะที จะมีใครแต่งงานอีกไหม หรือดาราคู่ไหนที่เป็นแรงบันดาลใจของเพื่อน ๆ มาตั้งคำถามกับฉันอีก จะได้ไม่เจอมัน แต่ถ้าเพื่อนรักตกลงปลงใจได้ว่าจะสละโสด....ฉันเองก็ชอบบรรยากาศงานมงคลสมรสชาวบ้านไม่น้อย ได้ชื่นชมคู่รักที่ช่วยกันเลี้ยงความรักให้อ้วนกลมจนได้ที่ ฮ่า ๆ แม้จะรู้ว่าเพื่อนจะอยู่ในสภาวะไม่ได้ดั่งใจนักกับคำตอบที่ได้ ตั้งใจไว้ว่าเจอกันที่เชียงใหม่คราวหน้าจะตั้งคำถามดี ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ตอบดูบ้าง แต่โชคดีไม่น้อยที่คราวนี้มีคำถามดี ๆ จากเพื่อนรักให้วนิดาได้ทบทวนคำตอบต่อตัวเอง.....ไม่มาก...ไม่น้อยเลยทีเดียว

(@^_____________^@)

หมายเลขบันทึก: 545520เขียนเมื่อ 14 สิงหาคม 2013 23:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 ตุลาคม 2013 22:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

พรหมลิขิตด้วยค่ะ บางทีเราก็ไม่ได้วางแผนอะไรหรอกค่ะ เขาจะมาเขาก็มาเอง เห็นมาเยอะแล้วค่ะ

 

จริง ๆ ด้วยค่ะ เพราะบางคู่ที่เก๋เห็นก็เป็นอย่างนั้นจริง

ขอบคุณพี่โอ๋ค่ะ  ฝากเสียงบรรเลงเปียโนเพราะแทนคำขอบคุณนะคะ

พี่โอ๋มาจุดประกายให้อยากอ่านนวนิยายของ "รอมแพง" ค่ะ

(@^______________^@)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท