เมื่อประมาณช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเรียนรู้นวัตกรรม Lesson study จากเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ครูเพื่อศิษย์ โดยการนำเสนอของทีมงานโรงเรียนเพลินพัฒนา
หลังจากที่ได้เรียนรู้ ผมว่าเป็นนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนการสอนครับ ผมเลยทดลองนำมาใช้จริง ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
นำคุณครูและผู้บริหารโรงเรียนไปสังเกตการสอนจริงในชั้นเรียน ที่โรงเรียนวัดสลักเพชร
อำเภอเกาะช้าง
สังเกตการเรียนรู้ของผู้เรียน
หลังจากนั้นจึงมาสะท้อนหลังสอน ว่าผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หรือไม่
ล่าสุด นโยบายของ สพฐ. Coaching & Mentoring โดยใช้ Lesson study ก็ตรงกับที่ผมเคยทำมาแล้ว คราวนี้ ทำเป็นทางการ ทำเป็นโรงเรียน โดยผมและทีมศึกษานิเทศก์ รับผิดชอบที่โรงเรียนอนุบาลวัดคลองใหญ่
มีคุณครูเข้าร่วมโครงการทั้งหมด สิบกว่าท่าน ผมร่วมกับทีมวิชาการโรงเรียน และศึกษานิเทศก์ ก็ได้เข้าไปสังเกตการสอนในชั้นเรียน ด้วยหลักการของ lesson study ตามขั้นตอน Plan Do See
Plan คือ ดูแผนก่อนสอน Do คือ สังเกตการสอนในชั้นเรียน See คือ สะท้อนหลังสอน
ขั้น Do จะเน้นพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ว่าที่คุณครูสื่อสารออกมา ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หรือไม่ สังเกตจากสีหน้าและแววตา
สังเกตว่า Teach less learn more หรือไม่ (ครูสอนน้อย เด็กเรียนมาก)
หลังจากนั้นก็สะท้อนหลังสอนว่า ที่สอนมา ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หรือไม่
จากประสบการณ์ เมื่อ ๖ เดือนที่แล้ว และ ประสบการณ์ล่าสุด ของการทำ Lesson study พบว่า
๑. ผู้สอนหลายคน สอนมาก เด็กจะเรียนน้อย หรือ อาจไม่เกิดการเรียนรู้เลย
๒. ผู้สอนตลุยสอนให้จบเนื้อหาใน ๑ ครั้ง โดยขาดการสังเกตตรวจสอบว่า ในแต่ละขั้นตอน ในแต่ละกิจกรรม ในแต่ละคำพูด ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้หรือไม่
๓. ผู้สอน สอนเนื้อหาหลายเรื่องในแต่ละครั้ง ทำให้เด็กสับสน จับประเด็นสาระสำคัญไม่ได้
๔ ที่ตรวจสอบได้ง่ายๆ ว่าเป็น teach less learn more หรือไม่ ตรวจสอบจากสื่อที่ใช้ ถ้าเป็นสื่อการสอนที่สาธิตโดยครู ครูเป็นพระเอก เด็กจะเกิดการเรียนรู้น้อยมาก ถ้าเป็นสื่อสำหรับเด็ก ให้เด็กฝึกปฏิบัติเป็นกลุ่ม หรือปฏิบัติรายบุคคล จะเป็น teach less learn more ผู้เรียนจะเกิดการเรียนรู้ได้ดี
๕. ครูหลายท่านยังสอนโดยการ อธิบายความรู้ หรือ บอกความรู้ โดยผู้เรียนไม่ได้คิดเลย
๖. บุคลิกภาพของครู มีผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
ทั้ง ๖ ข้้อ ผมก็ได้วิพาก์ให้คุณครูได้รับทราบอย่างเปิดใจครับ พร้อมกับให้โอกาสได้โต้แย้งกลับมาได้
ทั้ง ๖ ข้อ จะนำไป Plan ร่วมกับทีมวิชาการของโรงเรียน ทีมศึกษานิเทศก์ และ คุณครูผู้สอนแต่ละท่าน ในครั้งต่อไปครับ วันที่ ๒๘ - ๒๙ กรกฏาคม เป็น Lesson study ที่เน้น Teach less learn more
น่าสนใจมากเลยครับท่านรองฯ ระบบการสอนแบบสอนน้อยแต่เรียนรู้มาก
คุณครูจะต้องจัดการเรียนรู้ได้เก่งด้วยครับ
ดีใจที่ได้รับข่าวดีครับ...
ดีค่ะที่ Lesson study เป็นที่รู้จักและนำไปใช้มากขึ้นในบ้านเราประเทศไทย ส่วนตัวรู้จักอยู่พอควรในฐานะนักศึกษาและวิทยากรการสอนคณิตศาสตร์ รวมทั้งทำวิจัยจึงขออนุญาตแลกเปลี่ยนกับท่านนะคะ
หัวใจของ Lesson study อยู่ที่การที่ครู (ที่สอนในสายเดียวกัน ระดับเดียวกัน มีความสนใจเดียวกัน) แลกเปลี่ยน เรียนรู้ เสริมหนุนกันและกัน โดยอาจวางแผนการสอนด้วยกัน แล้วนำไปใช้ในห้องเรียน คนอื่นในทีมเข้าสังเกตการสอน หลังจากนั้นมีการพบกันเพื่อวิเคราะห์ ประเมินว่ามีสิ่งใดที่ดีแล้ว ควรปรับปรุงแก้ไข วัดผลออกมาแล้วได้สัมฤทธิผลเพียงใด ถ้าเปลี่ยนแปลงวิธีการจะได้ผลกว่าเดิมหรือไม่ กลุ่มครูอาจจะเล็ก ๆ 2-3 คน ทำอย่างเป็นธรรมชาติ ทำเป็นปกติ ก็จะเป็นการพัฒนาครูอย่างต่อเนื่อง กล่าวได้ว่า Lesson
Study เป็นการพัฒนาครู เป็นการสร้าง Learning community
Lesson study อาจมองเป็นการวิจัยวิธีสอน บทเรียน ทดลองแนวคิดใหม่ ๆทางการศึกษา กระบวนการใช้เครื่องมือ พฤติกรรมการเรียนรู้ และจะเกิดประโยขน์อย่างยิ่งถ้าได้ข้อสรุปว่า อะไรที่ Work สำหรับนักเรียนที่มีธรรมชาติของความแตกต่างระหว่างบุคคล
วิธีการสอนมีมากมายหลายวิธี ไม่มีวิธีใดที่ให้ผลในทุกสถานการณ์ เพราะมีปฏิสัมพันธ์กัน( interaction effects) ระหว่างหลาย ๆ ปัจจัย เช่นระดับสติปัญญา แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ สไตล์การเรียนรู้ของเด็ก(Learning styles) ความพร้อมทางด้านอุปกาณ์ ความรู้ของครู ธรรมชาติของผู้เรียน ฯลฯ ไม่ควรใช่วิธีสอนน้อยเสมอไป ไม่ควรต้องค้นพบความรู้ที่พบแล้วสอนตรง ๆก็ได้ สิ่งที่ต้องจดจำก็ต้องให้ท่องจำไม่เสียหายอะไร สอนทุกครั้งต้องเกิดทั้ง ความรู้ ความคิด ทักษะ และ เจตคติที่ดี และควรเป็น Active Learning ต้องระวังที่จะไม่เป็นเรื่อง Active แต่ ไม่ Learning มีแต่ Chaosity ในห้องเรียน
ขอบคุณค่ะ
หวังว่าคุณครูทั้งหลายจะเข้าใจว่าเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไม่ใช่การไปสังเกตการณ์เพื่อจับผิดจับถูกนะคะ เพราะเรื่องนี้ทัศนคติและมุมมองน่าจะสำคัญมากๆในการสะท้อนภาพที่เห็น เพราะการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำมาจนเป็นประเพณีแล้วนั้นน่าจะไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะถ้ามุมมองไม่เปิดกว้างให้ตรงกัน อาจจะมีปัญหาต่อต้านลึกๆที่ทำให้ไม่มีความสุขได้นะคะ
Teach>>>Learn>>>Earn ครับ
อาจารย์ ทะเลงาม ครับ
ขอบคุณมากครับ ที่กรุณามาเสริมเติมเต็ม ทั้งทฤษฎี ที่มา รูปแบบ และ หลักการ ของ Lesson study สำหรับผมเอง จะเน้นไปที่การปฏิบัติจริงครับ เลยทำให่้อ่อนในเรื่องของหลักการ ในเรื่องของวิธีการไปมาก ทำแบบง่ายๆ ไม่ค่อยยึดรูปแบบ ไม่ค่อยยึดหลักการ ได้อาจารย์มาเสริมเติมเต็ม ต้องขอขอบคุณอย่างสูงครับ มีหลายประเด็นที่ผมยังไม่สมบูรณ์ตามหลักการ
ผมชอบตรงนี้ครับ Active แต่ ไม่ Learning มีแต่ Chaosity ในห้องเรียน
ขอบคุณครับ
คุณ โอ๋ - อโณ ครับ
ยอมรับเลยครับ เรื่อง Lesson study ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แทบที่จะเป็นเรื่องทวนน้ำเลยครับ เพราะเหมือนกับไปจับผิด และ อีกอย่าง เรามักไม่ค่อยยอมรับกัน แล้ว คนไปสังเกต ก็มักไม่กล้าพูด ในข้อที่เป็นจุดอ่อน เพราะตัวเอง ก็ยังมีจุดอ่อนเช่นกัน ไม่ได้ดีไปกว่าเขา
อีกอย่า ระบบอาวุโส ก็สำคัญครับ เป็นอุปสรรคมาก ต่อ Lesson study
ผมทำแบบค่อยเป็นค่อยไปครับ ต้องใช้เวลา ต้องมีความจริงจัง และ จริงใจ ให้เขาไปก่อน โดยเฉพาะตัวผมเอง ไม่ได้่อยู่ในหน่วยงานเดียวกับเขา ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเขา ก็พอที่จะพูดวิพากษ์ได้บ้าง แต่ต้องทีละน้อย ค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้น
แต่คุณครู กับ คุณครูด้วยกันเอง ค่อนข้างเป็นเรื่องยากครับ ต้องใช้เวลาพอสมควร
ขอบคุณมากครับ