ได้ยินข่าวบริษัทใหญ่ล้ม ทำให้คิดถึง บรมครูสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ที่เคยบันทึกและมีการแสดงความคิดเห็นของท่านผู้รู้ไว้ที่นี่
http://www.gotoknow.org/posts/496225
แล้วนำมาคิดต่อ พอสรุปวิธีการทางธุรกิจได้ ดังนี้
(อย่างไรก็ดี ก็ยังไม่รับรองว่าถูกต้องจริง เพราะสิ่งรู้ยังไม่เคยทำจริง
ท่านใดรู้ก็ช่วยตัดเติมเสริมแต่ง เพื่อเรียนรู้ร่วมกันนะครับ)
ลำดับขั้นตอนทางธุรกิจจากรวยน้อยถึงรวยมากจนถึงล้มละลาย แล้วทำได้ต่อด้วยนอมินีที่ทำแทนแบบลับ ๆ หรืออาจโดนสับอุ้มฆ่า
- เปิดร้านขายของธรรมดา ๆ
ยังไม่รวยพอ
- ต่อมาเก่งขึ้นรวยขึ้น ตั้งบริษัท
ยังรวยไม่พอ
- เอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์
รวยล้น
- ขายทิ้งทั้งหมด เอาเงินไปทำกิจการใหม่
หรือ
- ขายหุ้นส่วนใหญ่ ยกให้คนอื่นไปบริหาร
หรือ
- ปล่อยให้ตนถูกฟ้องเป็นคนล้มละลาย ในระหว่างรอก็ค่อย ๆ ไซฟ่อนยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินด้วยวิธีการที่แยบยล
(ที่ได้รับคำบอกเล่ามา เช่น เอาเงินของบริษัทไปเช่าตึกนาน ๆ เช่น 90 ปี และตึกนั้นเป็นของลูกหลานของตนเอง ฯลฯ)
- 3 ปี ล่างไพ่ กฎหมายเลิกเอาผิด
- เอาเงินทรัพย์สินที่ไซฟอนไว้มาลงทุนใหม่ โดยให้นอมินี หรือคนที่ไว้ใจไปทำกิจการใหม่ให้ตนแบบลับ ๆ แล้วคอยเป็นผู้บริหารนอมินีอยู่เบื้องหลัง แต่จะไปกู้ธนาคารด้วยตนเองอีกไม่ได้ เพราะประวัติเสียไปแล้ว
ถามว่าทำไมต้องล้ม ก็พอสรุปคำตอบได้ว่า "ล้มได้ล้มไป กฏหมายเปิดโอกาสให้ฟอกความผิดได้ กลับมาทำใหม่ได้อีก" (หากไม่ถูกฆ่าตายเพราะโกงเสียก่อน)
เมื่อยามหนุ่มสาวมุ่งทำงานในหน้าที่ของตน ขาดความสนใจคน สนใจงานของกิจการอื่น ๆ จนมองภาพรวมในระดับใหญ่ ที่เป็นสิ่งดี สิ่งร้าย และความเชื่อมโยงไม่ออก เมื่อตกอยู่ภายใต้ความไม่รู้ จะคิด จะเชื่อ จะตัดสินใจทำอะไร ก็งก ๆ เงิ่น ๆ เพราะความรู้ ที่จะมาจากการอ่าน คิดเขียนไม่พอ จนส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ ที่ต้องอาศัยสังคมอุดมปัญญา ซึ่งเป็นที่มาของ โกทูโน เป็นส่วนหนึ่ง
จึงบ่นมาให้ชาวประชาไทยสนใจงานของกิจการอื่นบ้าง เพราะเป็นอีกทางที่จะช่วยสร้างสังคมอุดมปัญญาไทย