สืบเนื่องจากบันทึกนี้ รายงานการประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาครู โดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring
หลังจากทิ้งระยะห่างให้โรงเรียนที่ร่วมโครงการพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring พอประมาณ ดังนั้นวันพฤหัสบดี ที่ 4 กรกฎาคม 2556 ผู้ช่วยศาสตราจารย์เกลียวพันธ์ ขจรผดุงกิตติ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี จึงได้มานิเทศติดตามโครงการ นับเป็นการติดตาม ครั้งที่ 1 ณ โรงเรียนบ้านพุตะแบก
ตอนแรกรู้สึกเบื่อ ๆ "นี่เราต้องทิ้งเด็กให้อยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ทิ้งไว้กับใบงาน กับการอ่านหนังสือเรียน อีกแล้วเหรอ" อย่างน้อยก็น่าจะครึ่งวันเช้า เดินถือแฟ้มโครงการเข้าห้องนิเทศ ด้วยความไม่สนใจอะไรมากนัก
เวลาผ่านไปประมาณสักครึ่งชั่วโมง การนิเทศเริ่มเข้มข้นขึ้น ฉันเริ่มให้ความสนใจและจับประเด็นอย่างจริงจัง ท่าน ผศ.เกลียวพันธ์ เป็นอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษมากจริง ๆ ท่านมีเทคนิคในการสอนเด็กอย่างที่เราคาดไม่ถึง หลายต่อหลายอย่างที่ได้รับวันนี้ ยากที่จะถ่ายทอดคำพูดของท่านออกมาเป็นตัวอักษรเพื่อให้เห็นชัดเจน แต่มันชัดเจนอยู่ที่ใจของคุณครูทุกคน ก่อนเข้ารับการนิเทศคิดว่า"เสียเวลา" แต่เมื่อการนิเทศจบลงกลับคิดว่า "ใช้เวลา" แทน เพราะมันเป็นการใช้เวลาอย่างคุ้มค่า จึงมิควรใช้คำว่า "เสียเวลา" บทสรุปของวันนี้ที่พอจะถ่ายทอดออกมาได้อยู่ที่ว่า
* วิธีการสอนตามโครงการพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring เสนอให้ครูใช้วิธีสอนเพียงสามแบบ คือ - Problem-Based Learning: การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน - Project- Based Learning: การเรียนรู้โดยใช้โครงงาน และ - Research-Based Learning: การเรียนรู้โดยใช้วิจัยเป็นฐาน จะเลือกวิธีสอนแบบใดควรคำนึงถึงสาระวิชา มิได้เจาะจงว่าให้ใช้สามวิธีนี้เท่านั้น
* การวิจัยในชั้นเรียนไม่ควรกำหนดเรื่องที่กว้าง เริ่มต้นจากเรื่องเล็ก ๆ
* การทำโครงงานเน้นให้นักเรียนได้สัมผัสจริงให้มีความหลากหลายด้วยการ
บูรณาการกับทักษะกระบวนการวิทยาศาสตร์
* การสอนคณิตศาสตร์เรื่องโจทย์ปัญหา ครูต้องมีกระบวนการสอนที่ให้นักเรียนได้ฝึกคิดอย่างเป็นลำดับขั้น (ท่าน ผศ.ยกตัวอย่างได้ดีมาก ๆ ถ้ามีเวลาจะถอดบทเรียนนำมาเผยแพร่ในบันทึกหน้า)
เสียดายมากครับ วันที่อาจารย์ราชภัฎมานิเทศ ติดราชการเป็นผู้อำนวยการฝึกอบรมลูกเสืออาสา กกต. เลยไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมด้วยครับผม
ครูอิงครับ ผมว่าชื่อโครงการ ใช้ชื่อฝรั่ง (ลอกฝรั่งมา)มันแปลก ดูทันสมัย แต่เข้าถึงยาก แต่พอครูอิง พูดถึงเนื้องาน มันใช่เลย เป็นภารกิจครู จริงๆครับ แถวบ้านผม เขาจะลงเรื่องนี้ ที่โรงเรียนใหญ่ๆ คงไม่ถึงผมหรอก แต่ผมจะพยายามอ่านและติดตามความเคลื่อนไหว ไปกับครูอิง นี่แหละ
รอตามอ่านบันทึกนี้