ค่ายจิตตปัญญาเพื่อพัฒนาปัญญาภายใน : ฮักแพงเบิ่งแงงกัน


ฮักแพง เบิ่งแงงกัน

      

        เมื่อวันที่ ๒๔ - ๒๖  พฤษภาคมที่ผ่านมา  ผมได้นำทีมครู Fa ไปจัดกิจกรรม ค่ายจิตตปัญญาศึกษาเพื่อพัฒนาปัญญาภายใน  ฮักแพง เบิ่งแงงกัน  ของ โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย  นักเรียนชั้น ม. ๔  จำนวน ๗๐  คน   จัดที่สวนดอนธรรม  กาฬสินธ์  

   

                    

                                ไปถึงตอนค่ำ วันที่ ๒๔  ก็ทำกิจกรรมเล่นเกมเบาๆ  สนุกสนาน

 

                                        

                                                            สาธิตการฟัง  ๒ แบบ

 

                             

                                                               กิจกรรมการฟังความรู้สึก

                      

 

                                      สาธิตกิจกรรม  ความรู้สึก ความต้องการ

                            

                                    นักเรียนก็แยกไปตั้งวงทำกิจกรรม  ความรู้สึก  ความต้องการ

                              

                       นี่ครับ  มาดูภาพกิจกรรมกันชัดๆ  นักเรียนชอบกิจกรรมนี้มากครับ  ว่าจะให้เล่นสักชั่วโมงเดียว   ปาไปเกือบสองชั่วโมง  แล้วบางวงก็ขอนำไปเล่นต่อที่โรงเรียน  ผมก็ให้ไว้ ๑  ชุด  ให้ไปเล่นต่อที่โรงเรียน

 

                           

                                                   ตั้งใจเล่นกันมาก

 

                             

  กิจกรรมยามบ่าย ซึงถือเป็นหัวใจสำคัญ  กิจกรรม "เพื่อนช่วยเพื่อน"  แบ่งกลุ่มพูดคุยกัน  โดยมี ครู Fa ไปประจำกลุ่ม  กลุ่มละ  ๑   คน

                     

                                          บางกลุ่มก็แยกไปคุยตามร่มไม้

 

                      

                                                                       วงของครูนัท

 

                                

                           วงนี้  หลากหลายรส ครับ มีทั้งครบน้ำตา  รอยยิ้ม  เสียงหัวเราะ   เสียงปรบมือ  อาจารย์ที่โรงเรียนมาร่วมสังเกตุการณ์ด้วยครับ

 

                       

                                 

                              

                   นี่ครับ กลุ่มของผม สนุกสนานและมันส์มาก    ผมเองส่วนใหญ่จะนั่งฟังครับ   นักเรียนเขาจัดการของเขาเอง  เขาเป็น Fa ของเขาเองเลย    ท้ายที่สุด   ผมเลยกลายเป็นสมาชิกในวง   ที่ผมต้องร่วมพูดคุยไปกับเขาแบบสมาชิกในวงเหมือนนักเรียนคนอื่นๆ

 

                  

                                                 กลางคืนมีงานเลี้ยงที่สนุกสนาน

 

                      

                                                          ถ่ายรูปที่ระลึก   ครั้งละห้อง

 

                         

                              คณะครู Fa แต่ละท่าน  กล่าวสะท้อนความรู้สึก   วันปิดการประชุม

                                      

                                                        นักเรียน สะท้อนการเรียนรู้ สะท้อนความรู้สึก

                     

                                                                กิจกรรม   touching

                                     

 

                                            พวกเราต่างมาชุมนุม  ต่างกุมใจรัก สมัคร สมาน

                           

                                         อันความกลมเกลียว กันเป็นใจเดียว   ประเสริฐศรี

                 

                                              ถ่ายรูปรวมกัน   โดยถ่ายทีละห้อง  

 

                  สาระสำคัญที่จะนำมาฝากครับ

                 ๑. กิจกรรมที่ยึดวิทยากรเป็นสำคัญ   เด็กจะไม่สนใจครับ   เช่น  การบรรยาย  การสั่งให้ทำตาม

                 ๒. กิจกรรมต้องปรับอยู่เสมอตามความสนใจของเด็ก บางกิจกรรม  ถ้านานไป เด็กจะเบื่อ  แม้แต่การเล่นเกม     บางกิจกรรม  ถ้าเด็กชอบ  ก็ต้องต่อเวลาออกไป  ตามความสนใจของเขา

                 ๓. ไม่ต้องเน้นเนื้อหาวิชาการมาก  แต่ต้องเน้นกิจกรรมให้เด็กมีส่วนร่วมมากๆ

                 ๔. ข้อนี้สำคัญ  ต้องถอดความเป็นครูออก  มาเป็นเพื่อนกับเขา มาฟังเขาคุยได้ทุกเรื่อง  และ ที่สำคัญ  ต้องไม่ไปสอนเขา   ต้องไม่ไปแสดงความเหนือกว่า

                 ๕ สำหรับกลุ่มผม  มันส์มากครับ   คุณครูบางท่าน หรือ ผู้ใหญ่บางท่านอาจยอมรับไม่ได้   เพราะผมปล่อยให้พูดคุยกันเต็มที่ด้วยภาษาพูดเดิมๆ ของเขา   เขาขออนุญาตผมก่อน  ผมบอกได้  ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง  ก็ใช้คำพูดภาษาพ่อขุุน   สัตว์ต่างๆ โผล่ออกมา  รวมทั้งอวัยวะเบื้องต่ำ   ใช้ภาษาตลาดของแม่ค้าหลายคำ  ผมก็โอเค   เพราะเท่าที่ผมสังเกตดู เขาไม่ใช่เด็กก้าวร้าวครับ เขาพูดแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร   ที่ผมนึกไม่ถึง คือ  พอผมให้พูดคุยหมดทุกคนแล้ว   ก็มีนักเรียนคนหนึ่ง  ถ่ามผมด้วยคำถามเดียวกัน กับคำถามที่ผมใช้ถามเขาครับ เล่นเอาผมอึ้งไปเลยครับ  เพราะคาดไม่ถึง  ผมก็ตอบเขาไปทุกคำถามครับ   เขาก็ดูชอบใจ ที่ผมได้ตอบคำถามของเขา   และ  ก็มีนักเรียนอีกคน   ได้มาสะท้อนตัวตนของผมครับ   เหมือนที่ผมฝึกให้เขาสะท้อนเพื่อนๆ   นักเรียนถามผมว่า มีลูกกี่คน   ผมก็บอกคนเดียว  เป็นลูกสาว  นักเรียนก็สะท้อนว่า   ผมเป็นคนที่ใจดีกับลูก  ไม่ดุ ไม่ว่าลูก   แต่วันไหน ถ้าเหลืออดเมื่อไร    ก็จะประมาณว่า "ระเบิดลง"  ผมก็ยิ้ม ยอมรับในการสะท้อนของนักเรียนครับ

                ๖. อีก ๖ วงที่เหลือ ได้มาคุยกัน ก็มีเรื่องดีๆ  สนุกๆ  ประสบการณ์ที่น่าสนใจ   หลากหลายเรื่องราวครับ  และ ทีมคุณครูทุกท่านที่พาไป   ต่างก็ยอมรับว่า  เด็กนักเรียนชุดนี้  เป็นเด็กที่กล้าพูด  กล้าแสดงออก   มีความคิดที่ฉลาด และ  มีประสบการณ์ดีๆ ที่น่าสนใจ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ที่ดีๆ จากเด็กพวกนี้

คำสำคัญ (Tags): #จิตตปัญญาศึกษา
หมายเลขบันทึก: 537229เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2013 09:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2013 08:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

.... ตามมาให้กำลังใจ นะคะ .... กิจกรรมดีจังเลยค่ะ ..... 

อยากทราบว่า.."ความรู้สึกลึกๆ..จริงๆ..นั้นเป็นอย่างไร.."..บังเอิญไปนั่งดูหนังผี(สมัยใหม่ที่พูดภาษาใหม่เป็นที่เฮฮาและยอมรับในปัจุบันหมู่วัยรุ่น..นากกับมาก...)สำเนีบง..ส่อภาษาและสกุล..คงใช้ไม่ได้ในระดับหนึ่ง..และความฉลาดรอบรู้..คงไม่เกี่ยว..กับ..ภาษาที่ใช้.."สนใจและอยากทราบความเห็น..เจ้าค่ะ.."..ยายธี

ขอบคุณมากครับ Dr.Ple  ที่มาให้กำลังใจ

ยายธีครับ    

       ตามความรู้สึกของผมเองนะครับ  เรื่อง การใช้ภาษาที่ไม่สุภาพ  พูดจากัน   ผมว่าผมโอเคครับ และ  ผมก็ยอมรับได้    ข่อดี คือ  ได้พูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติ   ออกมาจากความรู้สึก   ออกมาจากข้างในจิตใจของเขาจริงๆ  เขาไม่ต้องมาฝืนคำ   มาฝืนตัวตนของตัวเอง  ที่ต้องใช้คำอื่นมาพูดคุยกับเพื่อน   เพียงเพื่อให้ดูดีในสายตาคนอื่น

       สำหรับผม ผมยอมรับได้ครับ  ไม่รู้สึกอะไร   และ เห็นว่า   เขาก็สื่อสารกันเข้าใจ  สือสารกันได้น่ารักดีครับ   ไม่ใช่เป็นการก้าวร้าวรุกรานอะไร   ไม่ได้ทำให้โกรธ  หรือ ขุ่นเคืองอะไร กัน

       ผมว่าเป็นการสนทนาที่ออกมาจากใจจริงครับ

     (แรกๆ  เขาก็เกรงใจ  ไม่ค่อยกล้าใช้   แต่ผมอนุญาตเขาเองครับ  )

      มุมมองของผม  ผมอาจจะผิดก็ได้นะครับ   ที่ปล่อยให้เด็กพูดกันแบบนี้    แต่ผมถือว่า คุยกันในวงแคบๆ ครับ

                                             ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะท่านรองฯ น้องหายไปนานต้องขออภัยด้วยค่ะ วันนี้ว่างนิดนึงเลยแวะมาชมภาพบรรยากาศการทำกิจกรรม น้องชอบที่ท่านนำกิจกรรมแล้วสนุกสนานเป็นกันเอง จริงๆอยากเข้าร่วมกิจกรรมด้วยจังเลยค่ะ ปีนี้น้องได้เลื่อนขึ้นมาสอนป.1 ก็จะพยายามให้เต็มที่สมกับที่ท่านผอ.เขาไว้วางใจให้น้องมาปราบเด็กทั้ง 37 คน แต่หนักใจตรงที่การจัดโต๊ะเรียนของเด็กเท่านนั้นท่านพอจะแนะนำได้บ้างไหมคะ ผอ.ท่านไม่ให้แยกห้องค่ะ(ความจริงน่าจะแบ่งเป็น 2 ห้องได้) ท่านสบายดีนะคะรักษาสุขภาพด้วยค่ะ ด้วยความเคารพและห่วงใยเช่นเดิมค่ะ น้องหมูจ๋า...

ท่านรองพัฒนาไปมาก  ดีใจได้ทีมทำงานแล้ว

ดูภาพกิจกรรมแล้วทราบได้ว่านักเรียนมีความสุข

ขอบคุณสำหรับกิจกรรมดีๆครับ

อ.ขจิตครับ   ขอบคุณมากครับที่เข้ามาให้กำลังใจ   เรื่อง "ทีมงาน" เป็นทีมงานเฉพาะกิจครับ  ซึ่งหามายากมาก  ด้วยเหตุหลายๆ ปัจจัย   โดยเฉพาะปัจจัยสำคัญ คือ คุณลักษณะของการ "ฟัง"  โดยไม่ตัดสิน  ไม่ชี้แนะ  ไม่สอน ไม่แนะนำ   นี่ละครับ   หาคุณครูที่จะมีคุณลักษณะดังกล่าวได้ยากมาก  ได้มาแล้วก็ต้องพาไปหาเวทีออกภาคสนามทดลองการฟัง    กิจกรรมในวันนั้น ก็พอไปได้ครับ   พอดีเป็นเด็กเรียนดี   เขาเลยพูดเก่ง  กล้าพูด กล้าแสดงออก   กิจกรรมก็ลื่นไหลไปด้วยดีด้วยตัวของนักเรียนเองครับ

"...ปัจจัยสำคัญ คือคุณลักษณะของการ "ฟัง"  โดยไม่ตัดสิน  ไม่ชี้แนะ  ไม่สอน ไม่แนะนำ  

หาคุณครูที่จะมีคุณลักษณะดังกล่าวได้ยากมาก  ได้มาแล้วก็ต้องพาไปหาเวทีออกภาคสนามทดลองการฟัง"

...ดีจังค่ะ  

 

ชอบกิจกรรมแบบนี้ที่สุดค่ะ

และเท่าที่เคยพบผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยมัธยม วัยนักศึกษา

หรือผู้ใหญ่วัยทำงาน มักชอบกิจกรรมนี้

เพราะเป็นโอกาสที่ทุกคนได้สะท้อนตัวตน ความรู้สึกนึกคิดของเขา

ด้วยความรู้สึกว่า มีคนตั้งใจฟังเขาอยู่

เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งในแง่ของความทุกข์และสุขระหว่างกัน

ลองๆใช้กับเด็กเล็กชั้นประถม วงเล็กก็พอเป็นไปได้ค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ

 

คุณ Tawandin ครับ   ขอบคุณมากเลยครับ สำหรับ 

       ไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยมัธยม วัยนักศึกษาหรือผู้ใหญ่วัยทำงาน มักชอบกิจกรรมนี้เพราะเป็นโอกาสที่ทุกคนได้สะท้อนตัวตน ความรู้สึกนึกคิดของเขาด้วยความรู้สึกว่า มีคนตั้งใจฟังเขาอยู่เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งในแง่ของความทุกข์และสุขระหว่างกัน

        จากประสบการณ์ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ  ครับ  ผมเคยทำมาแล้ว ทั้งกลุ่มผู้ปกดรอง  กลุ่มคุณครู   กลุ่มนักเรียน  ม.ต้น   ม.ปลาย    รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่น

 

         สำหรับวงเด็กเล็กชั้นประถม   ผมเคยลองทำดูครับ  รู้สึกว่าจะไม่ค่อยเวิร์คครับ   หรือ  ผมอาจจะไม่ถนัดคุ้นเคยกับการเข้าถึงเด็กเล็กก็ได้ครับ

                       ขอบคุณมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท