บันทึกการไปทัศนศึกษาประเทศพม่า : พระธาตุอินทร์แขวน



บ่ายวันที่ ๑  พฤษภาคม  ๒๕๕๖ รับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว กลับขึ้นรถถึงแก่เวลาออกเดินทางสู่ คินปุนแคมป์ (เชิงเขาไจ้เที่ยว) ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ ๓ ชม. ครึ่ง จึงจะถึง คินปุน แคมป์ รถวิ่งมาสักพักแวะพักร้านเป็ดน้อยเพื่อให้คุณครูทั้งหลายได้เข้าห้องน้ำ  ดิ้มน้ำชา  กาแฟ  ชาที่นี่ไม่ใช่ใบชาจีน   แต่เป็นชาใส่นม  สั่งกาแฟเย็นมาลองดื่มเขาบอกว่าอร่อย  จริง ๆ ไม่อร่อยเอาเสียเลย  น้ำแข็งเขาก็เย็นไม่เหมือนบ้านเขา  เย็นเบา ๆ ไม่สะใจดับร้อนได้เลย  เวลา  ๑๓.๓๐ น. กลับขึ้นรถเดินทางต่อ ตลอดทางที่รถแล่นผ่านสองข้างทางมีป่าไม้  ภูเขา  สวนยาง เห็นแล้วน่าภูมิใจแทนที่ทรัพยากรธรรมชาติของเขายังมีอยู่เยอะมาก  หยุดพักเพื่อเปลี่ยนรถโดยสารท้องถิ่นเป็นรถหกล้อ มีม้าพาดนั่งเป็นแถว ๆ  เพื่อขึ้นไปบนเขาไจ้เที่ยว ใช้เวลาเดินทางจากบริเวณนี้ 1 ชม. ชมทัศนียภาพอันสวยงาม สองข้างทาง และความหวาดเสียวที่คนขับขับขึ้นเขาทางแคบ ๆ เขาขับเก่งมาก เลี้ยวแต่ละครั้งหัวใจจะวาย  แต่สนุกดี

           

 เดินทางเกือบถึงพระธาตุอินทร์แขวน เปลี่ยนรถเป็น เสลี่ยง ใช้เวลาเดินทางโดยเสลี่ยง จากบริเวณนี้ประมาณ ๔๕ นาที ผู้สูงอายุและผู้ที่ไม่เคยเดินขึ้นภูเขา ขอแนะนำให้ใช้บริการเสลี่ยง ลักษณะ เสลี่ยงเป็นเก้าอี้ผ้าใบ ผูกกับไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ๒ ลำ หาม ด้วยคน ๔ คน ข้างหน้า ๒ คน ข้างหลัง ๒ คน  ไม่อยากนั่งเพราะสงสารคนหาม  แต่น้องเรย์บอกถ้าสงสารเขาก็ต้องนั่ง  เพราะจะได้ทำให้เขามีข้าวกินมื้อเย็นนี้  เสลี่ยงนี้บริษัททัวร์เขาเหมาแล้ว  โดยหัวคิวหักไว้ร้อยละ ๖๐  คนหามจะได้เพียงร้อยละ ๔๐ ดังนั้นเราต้องให้ทิปเขา ดดยทั่วไปให้คนละ ๑,๐๐๐ จัต (๔๐ บาท) ต่อคน  และในบางครั้งระหว่างทางบางคนมีลูกเล่น ขอเล็กขอน้อย เช่นบอกว่าหิวน้ำ ให้เราซื้อน้ำกระป๋องประเภทน้ำอัดลมให้ จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ดื่มแต่ร่วมมือกับคนขายรับเงินเราไปแล้วเอาน้ำไปขายคืน เวลาเขาหามเราเดินขึ้นเขา จะมีพักนับได้ ๔ ครั้ง ก็มีแม่ค้าเอาโค้กมาให้เรา เพื่อซื้อให้คนหาม แต่เราไม่ซื้อ ขณะที่หามพวกเขาน่าสงสารมาก  เสียงหอบ  เสียงหายใจดังมาก  เหงื่อโทรม แต่เขาแข็งแรงมาก นี่แหละที่เขาบอกว่าเงินที่กว่าจะได้มาต้อง "แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและแรงกายจริง ๆ "  ถึงที่หมายให้ทิปไป ๔,๐๐๐ จัต เขารับไปไม่พูดอะไร แต่เราตั้งใจพรุ่งนี้ตอนนั่งเสลี่ยงลงจะให้มากกว่านี้  การนั่งเสลี่ยงนี่ตื่นเต้นมาก  สงสารก็สงสาร คงเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ต้องทรมานคน(หาม)

           

ถึงที่พักโรงแรม ไจ้ทีโย เป็นโรงแรมที่อยู่ใกล้พระธาตุอินทร์แขวนมากที่สุด ซึ่งมีอยู่โรงแรมเดียวเท่านั้น มีทัศนียภาพที่งดงามมาก เห็นภูเขาและทิวเขา ซึ่ง อยู่รอบ ๆ และ ตื่นตาตื่นใจ กับพระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักมาก เข้าที่พักรับกุญแจห้องพัก ๑๐๒ พัก ๒ คนกับน้องสาว ห้องพักสบายพอสมควร  บนเขาสูงสภาพอย่างนี้ก็เยี่ยมแล้ว มีน้ำอุ่นอาบ พัดลมไอน้ำ ห้องสะอาด เครื่องใช้มีพร้อม ก็สบายอากาศก็ดี  เก็บสัมภาระแล้ว คณะครูพร้อมขึ้นไปนมัสการพระธาตุอินแขวน ซึ่งเดินจากที่พักขึ้นไปประมาณ  ๑๐ นาที

            

 พระธาตุอินทร์แขวน “ไจก์ทิโย” เมืองไจก์โถ่ รัฐมอญ เชื่อกันว่าพระอินทร์เสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์ เพื่อนำเอาพระธาตุมาแขวนไว้ให้ผู้มีบุญมากราบไหว้ ใครได้มาสักการะก็เท่ากับได้ไหว้พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ และจะได้สั่งสมอานิสงส์ให้ไปเกิดร่วมยุคกับพระศรีอาริยเมตตรัย และผู้ที่มีบุญก็จะสามารถมองเป็นองค์พระธาตุลอยอยู่อย่างชัดเจน พระธาตุอินทร์แขวนตั้งอยู่บนหน้าผาสูงกว่า ๑,๒๐๐ เมตร สร้างตั้งไว้บนก้อนหิน สูงถึง ๕.๕ เมตร เส้นรอบวงของก้อนหินราว ๑๗ เมตร มองดูคล้ายก้อนหินตั้งอยู่หมิ่นเหม่ใกล้จะตกลงมาเต็มที่

 เป็นสิ่งศักดิ์สิทธ์ ๑ ใน ๕ ของพม่า  

ก่อนจะไปนมัสการพระธาตุอินทร์แขวนได้เขาไปนมัสการเทพเพื่อสุขภาพ เจ็บปวดบริเวณใดก็ไปจับบริเวณนั้นแล้วอธิษฐานให้หายเจ็บ ถวายปัจจัยทำบุญ       

  

จากน้ันฟังคำอธิบายจากน้องเรย์ในการนมัสการพระธาตุอินทร์แขวนตามขั้นตอนที่ถูกต้อง  ผู้หญิงเข้าไปปิดทองที่องค์พระธาตุไม่ได้ต้องฝากผู้ชายไปปิด  ทุกคนแยกย้ายไปนมัสการพระธาตุ

      

ตกค่ำที่นี่งดงามมาก  มีผู้คนมากมายมาทำบุญ  มานมัสการ  มานอนค้างตามบริเวณลานกว้าง เขาบอกว่าควรมานมัสการให้ได้ ๓ ครั้ง คือปีละครั้ง แต่คนไกลเขาใช้วิธี เย็น ๑ ครั้ง กลางคืน ๑ ครั้ง และเช้ามาตักบาตรพระธาตุอีก ๑ ครั้ง จึงครบขั้นตอน 

       

ไหว้พระแล้ว กลับเข้าห้องอาหารรับประทานอาหารเย็น ประมาณ ๑๙.๓๐ น. เป็นอาหารพม่า แบบบริการตัวเอง  อาหารรสชาติอร่อย

       

ทุกคนรับประทานอาหารแล้วอาบน้ำ  พักผ่อน  แต่บางคนขึ้นไปไหว้พระธาตุอีกครั้ง ที่นี่อยู่บนที่สูงอากาศเย็น  ลมแรง ไม่ได้ออกไปไหว้พระไม่ไหว ขอพักผ่อน เช้าหากตื่นทันก็จะไปตับาตร

มิงกะลาบา : สวัสดีค่ะ (ใช้ได้ตลอดวัน)


๒  พฤษภาคม  ๒๕๕๖   เช้าวันใหม่ ๐๕.๐๐ น. เขามาปลุกโดยการเดินเคาะประตูห้อง ตื่นอาบน้ำเก็บของลงไปห้องอาหารไม่ได้ขึ้นไปตักบาตร กินกาแฟ แล้วเก็บภาพสวย ๆ หน้าที่พัก

       

 เช้านี้มีคนขึ้นไปไหว้พระธาตุมาก และมีฤๅษี เดินเคาะระฆังขอรับบริจาคเงิน  อาหาร  ป้านวลที่มาด้วยกันซื้อเงาะที่ชาวบ้านมาขาย เงาะเนื้อสีเหลือง ลูกเล็กกว่าเงาะเมืองไทย   รสชาติเปรี้ยวมาก  และดูการสาธิตการทาแป้งทานะคา จากเปลือกไม้ ไม้ทานะคาเขาใช้ฝนเจากเปลือกรอบนอกเข้าไปมีให้เห็นเป็นวงไม่ถึงเนื้อไม้ ทาแก้ฝ้า  แก้สิว  และกันแดด  เขาว่ากันว่า  สาวพม่าหน้าผ่องไม่มีสิว ฝ้า ครูอิ๊ดได้ทดลองให้เขาทาแป้ง  ๐๘.๐๐ น. เสลี่ยงขึ้นมารับตามนัด ทุกคนขึ้นเสลี่ยง ขาลงเร็วแต่กระเทือนมากสั่นคลอนไปทั้งตัวระบม ลงจากเสลี่ยงคราวนี้จ่ายทิปคนละ ๑,๕๐๐ จัต สงสารเขา ทุกคนมีแซวกันว่างานนี้พุงยุบเพราะแรงกระเพื่อมของแรงกระแทกคนหามเสลี่ยง เปลี่ยนเป็นรถหกล้อ ระหว่างรอ ชาวบ้านตักบาตรพระ  พระเยอะมาก  นอกจากนั้นจะมีเด็ก ๆ ขอเงิน และมีคนขอบริจาคโน่นนี่เยอะมาก  ไม่ได้ให้ใคร มีความคิดว่าให้ง่าย ๆ เขาเคยตัว  แต่เต็มใจให้คนหามเสลี่ยงมากกว่า


ด้วยศรัทธาอันมีพุทธธรรมน้อมนำใจ ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าสตางค์ของชาวมอญ และพม่าแทบทุกคน จะต้องมีรูปสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างน้อย ๓ สิ่ง เคลือบพลาสติกไว้สำหรับ พกพาเป็นสิริมงคลอยู่เสมอ สิ่งแรกคือ พระมหาเจดีย์ชเวดากอง ย่างกุ้ง พระมหามัยมุนีมัณฑะเลย์ และสามคือ พระธาติอินทร์แขวน “ไจก์ทิโย”

คุณครูของเราได้มนัสการสิ่งศักดิ์ของชาวพม่าแล้ว ๒ สิ่ง  ได้แก่ พระเจดีย์ชะเวมร์อดอร์หรือพระธาตุมุเตา  และพระธาตุอินทร์แขวน

                                     มีต่อ .......คลิกตามไปนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของขาวพม่า




หมายเลขบันทึก: 534860เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 23:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2013 20:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณนะครับที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆระหว่างเดินทาง...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท