ขี้วัวกู้ชาติ


ขี้วัวกู้ชาติ

เดนมาร์ก ประเทศเล็กมากๆ ในแถบแสกนดิเนเวีย  ผมไปเยี่ยมมานานหลายปีแล้ว  ผ่านโครงการวิจัยด้านกังหันลมที่ผมทำร่วมกะโปรเฟสเซอร์  ของเขา

ผมเป็นวิศวก็จริง  แต่ก็เป็นนักบูรณาการสังคมศาสตร์อิสระด้วยนะ    จากการค้นคว้าอิสระผมพบว่า เดนมาร์กมีรายได้ต่อหัวประชากรเฉลี่ย ๒๐ ปีที่ผ่านมาน่าจะสูงที่สุดโลก  (พูดง่ายๆ รวยที่สุดในโลก)  ทั้งที่เป็นเป็นเพียงแดน “โคนม”  ......ทั้งประเทศไม่มีอุตสาหกรรมอะไรนอกจาก ไร่นา  อาหาร นมวัว  (อาจมีกังหันลมบ้างในช่วง ๒๐ ปีทีผ่านมา)

เดนมาร์กมีประชากรต่อพื้นที่ประมาณ ๒๕๐ คนต่อตารางกิโลเมตร  ถือว่าติดอันดับแออัดต้นๆ ของโลก  ไทยเรามีประมาณ ๑๒๕ (อ้างอิง คำนวณเอง ไม่ยากเลย)  แสดงว่าไทยมีพื้นที่ทำเกษตรต่อหัวมากกว่าเดนมารก์  ๒ เท่า

อีกทั้งเดนมาร์กทำเกษตรได้ปีละ ๖ เดือน เป็นอย่างมาก  (เพราะหนาว)  ส่วนไทยทำได้ปีละ ๑๒  เดือน

ดังนั้น ถ้าไทยเราทำเกษตรให้ดีๆ  เพิ่มมูลค่าให้เต็มที่แบบเดนมาร์ก  เราจะมีรายได้ต่อหัวมากกว่าคนเดนมาร์ก เท่าไหร่  ลองคิดดู

น่าจะ ๒ คูณ ๒  คือ ๔  เท่านะครับ  กล่าวคือ ทำดีๆ  ไทยเราจะรวยกว่าชาติที่รวยที่สุดในโลก  ๔  เท่า  เข้าใจไหม   แล้วถ้าทำให้ดีกว่านั้นอีกล่ะ  อะไรจะเกิดขึ้น  ระดมจุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร ให้มาช่วยกันคิด  ไม่ใช่เอาแต่ไปเล่นกีฬาประเพณีงี่เง่า 

น่าเสียดายที่นักวิชาการไทยเราก็ขี้ไก่ (ตามก้นซีพีอีกต่างหาก)  แถมวันนี้มีแต่นักการเมืองขี้ไก่  คิดอะไรแบบฝ่อๆ   เน้นไปแต่การเป็นขี้ข้าการลงทุนของต่างชาติ   ฝันจะเป็น ดีทรอยด์ออฟเอเชีย  แบบยืมจมูกคนอื่นหายใจ

เดนมาร์ก ประเทศเล็กๆ มีความหนาแน่นพลเมืองต่อพื้นที่มาก แต่กลับเป็นประเทศเดียวในยุโรปที่ส่งออกอาหาร  ประเทศอื่นต้องนำเข้าหมด  อีกทั้งเป็นประเทศที่รวยเฉลี่ยในรอบ ๒๐ ปีสูงสุด

ว่าไปแล้ว สวิสเซอร์แลนด์ ก็คล้ายๆ กัน

ไม่ต้องพูดถึงประเทศที่มีประชากรต่อพื้นที่ต่ำ เช่น   usa  aus  หรือ  NZ   พวกนี้รวยจากเกษตรทั้งสิ้น  

ผมได้เขียนวิเคราะห์ไว้แล้วว่า  รายได้ประชาชาติ  usa ๘๐ ปซ. มาจากการเกษตร ไม่ได้มาจากรถยนต์  คอมพิวเตอร์ ยานอวกาศ  อย่างที่พวกท่านคิดกันหรอก

...คนถางทาง (๑๒ เมษายน ๒๕๕๖)


หมายเลขบันทึก: 532804เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2013 22:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน 2013 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

มาร่วมกู้ชาติ กับขี้วัวด้วยครับท่าน

...ไม่ต้องพูดถึงประเทศที่มีประชากรต่อพื้นที่ต่ำ เช่น   usa  aus  หรือ  NZ   พวกนี้รวยจากเกษตรทั้งสิ้น (???)

USA & AUS might have started on agriculture on history books, but USA came to prosperity on "the trains" (of slaughtered bison buffalos) and AUS on the "sheepbacks" (live export to Isamic countries). In the last 100 years both USA and AUS have been busy digging up their land for "gold" (and other minerals including coal, oil and uranium). Today, both countries are fracking for coal seam gas (CSG) and polluting agricultural lands. It seems that the (global corporate) miners are more powerful than farmers and governments.

NZ are still riding on sheepbacks and vocanos. NZ is much cleaner and greener and becoming h[e]avens for the super rich. 

Thailand could have been a utopian place for tourists (exporting charms, easy lifestyles and good clean environment with intellectual religious underlining, with a sufficient and sustainable economy. But we took wrong turns again and again. Now we are lost!

ด้วยความเคารพ อาจารย์เป็นนักวิเคราะห์ทางวิศวกรรม และนักสังเกตุการณ์ในด้านอื่นที่แหลมคมมากครับ และนั่นเป็นสาเหตุที่ผมอดไม่ได้ที่ต้องแวะมาแอบอ่านอยู่เสมอ เป็นมุมมองที่แปลกแหวกแนว และโดดเด่นสมหัวเรื่องจริงๆ ครับ


เพียงแต่ทักษะนี้ของอาจารย์ ยังไม่ครอบคลุมถึงด้านการเมือง ดังนั้น (ในมุมมองของผม) บทสรุปด้านการเมืองของอาจารย์จึงพลาดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย ผมไม่ได้ว่านักการเมืองของเราดีเลิศอะไรมากมายนะครับ ส่วนมากก็จะเลวนะแหละ ยิ่งตั้งพรรคนานยิ่งเลวเลยหละครับ เป็น observation ง่ายๆ ที่อาจารย์คงไม่ปฏิเสธกระมัง หลักฐานเชิงประจักษ์เยอะแยะออกขนาดนั้น ถ้าทำตารางลิสต์รายการชื่อพรรคและผลงานโกงกินและความเสียหายที่เกิดขึ้น ใครนำโด่งเอ่ย? 


นักการเมืองที่ดีกว่าก็ยังมีนะครับ น่าเสียดายที่อาจารย์เหมารวมเข่งไปซะงั้น ประเทศไหนก็มีนักการเมืองแต่ก็เห็นเขาเจริญได้  เพราะอะไรนะหรือครับ ก็เพราะระบบของเขาไม่ปล่อยให้คนเลวฉุดรั้งคนดียังไงละครับ เขามีกติกาและเคารพกติกากัน  ใครเป็นรัฐบาล ก็ 4 ปีไป โชว์ฝีมือไปทำได้ดีแค่ไหน หมดเวลาแข่งกันใหม่ ไม่มีปัดแข้งปัดขาระหว่างทางแบบนอกกรอบทุกรูปแบบอย่างของเราไงละครับ


แต่นักการเมืองเหล่านี้ยังไม่ใช่ทั้งหมดของความชั่วร้ายในประเทศนี้หรอกครับอาจารย์ ยังมีช้างตัวใหญ่อีกหลายตัววิ่งเพ่นพ่านอยู่ในห้องที่เปิดไฟสว่าง ชนข้าวของล้มระเนระนาดไปหมด ทุกคนเห็น....แต่กลับมองไม่เห็นหรือทำเป็นมองไม่เห็น ขนาดชนคนตายไปหลายครั้งยังมองไม่เห็น แล้วเราจะไปหวังอะไรละครับ?






เอๆๆ..ยังสงสัยนิดๆ...วัวไทย..ผอมแห้งแรงน้อย..เห็นเดินท่อมๆอยู่ข้างทาง..ไม่มีทุ่งหญ้าของตัวเอง..ขี้ที่คนจนเก็บมาขายข้างทาง..ถุงละสิบห้าบาท..อ้ะ..วัวนมที่มีอาณาจักรในไทยชื่อเดนมารค์..ขี้คงขายได้ราคาหลายร้อยเท่าตัว...อิอิ..กู้ชาติได้...สงสัยๆๆๆๆอ้ะ...ยายธี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท