รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์)
รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์) ครูตาล วงษ์ชื่น

"โบสถ์ไม้ตาลหลังเดียวในโลก"


          

ระยะนี้ ถ้าใครเดินทางไปภาคใต้  แน่นอนต้องผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ "ประตูสู่ภาคใต้" อย่างหลีกเลี่ยง

ไม่ได้หลายนักเดินทาง จะสังเกตเห็นป้ายเชิญชวนให้แวะชม "โบสถ์ไม้ตาล" หลังเดียวในโลก โดดเด่น

สองข้างทางถนนเพชรเกษม


           หลายวันก่อน ฉันได้มีโอกาสพาเพื่อนต่างวัยสองท่าน ไปชมความงามของโบสถ์แห่งนี้ ด้วยระยะ

ทางจากบ้านไปวัดแห่งนี้ ประมาณ 10  กว่ากิโลเมตร  และเรียกได้ว่าเป็นการกลับไปเยี่ยมเยียนถิ่นเก่า 

เนื่องจากเคยรับราชการครูอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2540-2549   ซึ่งโรงเรียนกับวัดเกือบจะเป็น

อาณาจักรเดียวกัน  มีเพียงถนนคั่นกลางเท่านั้น  

         ทุกวันสำคัญทางศาสนา จะพานักเรียนไปทำกิจกรรมในวัด    และเนื่องจากฉันเองและลูก ๆ 

อาศัยบ้านพักครูเป้นที่ซุกหัวนอน  จึงได้มีโอกาสกราบนมัสการพระคุณเจ้า  เจ้าอาวาสวัดอ่างสุวรรณบ่อย

ครั้ง   ซึ่งพวกเราชาวบ้านมักเรียกท่านว่า "ท่านพงษ"  ท่านเป็นพระที่มีอัธยาศัยดี  มีเมตตา ฉันจึงพาลูก ๆ 

ไปเที่ยวที่วัดบ่อย นอกจากนี้ท่านยังมีวิชาเกี่ยวการรักษาผู้ที่ถูกงูกัด จนเป็นที่ร่ำลือไปทั่ว

                        


        จากการพูดคุยกับผู้เฒ่าผู้แก่  ทราบมาว่า วัดอ่างสุวรรณ (หนองหอย) เดิม มี "หลวงพ่อเฉลิม สุรโข" 

ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จนกระทั่งท่านมรณภาพลง จึงกลายเป็นวัดร้างไปช่วงหนึ่ง ประมาณปี 2521 ชาว

บ้านได้นิมนต์  "ท่านพงษ์" หรือ  พระครูผาสุกวิหารการ ซึ่งท่านเป็นนักพัฒนาด้านสังคมให้มาเป็นเจ้า

อาวาส  หลังจากเป็นเจ้าอาวาส "ท่านพงษ์" ได้อธิษฐานไว้ว่า จะขอสร้าง "อุโบสถไม้ตาล" ไว้ที่วัดนี้

 ท่านพงษ์  เคยปรารภให้ฟังเรื่องของการสร้างโบสถ์ด้วยไม้ตาลอยู่บ้าง  ตอนนั้นฉันไม่ใคร่จะสนใจ

นัก เหมือนกับชาวบ้านคนอื่น ๆ ที่คิดว่า ไม่น่าจะสำเร็จตามที่ท่านปรารภไว้ หลายคนไม่เห็นด้วยกับท่าน 

แต่ท่านก็มิได้ย่อท้อ  ได้ออกหาต้นตาลจากชาวบ้านในหมู่บ้านต่างๆ มาเริ่มสร้างอุโบสถ โดยไม้ตาลที่นำ

มาสร้างจะต้องเป็นตาลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 70-100 ปี เพื่อความแข็งแรงทนทาน ตัวอุโบสถใช้ไม้ตาลทั้งหลัง

กว้าง 8 เมตร ยาว 29 เมตร สูง 16 เมตร มีเพียงคานล่าง และไม้เครื่องบนเท่านั้น ที่ใช้ไม้ตะเคียน เพราะ

ต้องรับน้ำหนักมากๆ รอบๆ โบสถ์รวมถึงด้านหน้า ใช้ไม้ตาลแกะสล้กลวดลาย ตกแต่งสวยงาม พื้นไม้ใน

อุโบสถก็เป็นไม้ตาล ที่ให้ลายเส้นสวยงามในตัว  มิน่าเชื่อว่า  7 ปีให้หลัง ฉันจะได้มีโอกาสได้ชมโบสถ์

ไม้ตาลทั้งหลังที่สวยงาม วิจิตร  มีลักษณะโดดเด่น แตกต่างจากโบสถ์ทั่ว  ๆ ไป

                          

              สรุปว่าอุโบสถไม้ตาลหลังนี้ ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2547 โดยท่านพระครู "ท่านพงษ์" เดิน

หน้าทำไปด้วยตัวท่านเอง ใช้ไม้ตาลไปกว่า 10,000 ต้น จนวันนี้ตัวอุโบสถเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว เหลือเพียง

การตกแต่งบริเวณโดยรอบ ก่อนที่วัดจะมีงานใหญ่ ช่วง 10-20 เมษายน 2556 เป็นงานปิดทองฝังลูกนิมิต

นั่นเอง

               ตอนเด็ก ๆ เคยเห็นพ่อนำ "ไม้ตาล" มาสร้างคานหลังคาบ้าน  แต่ไม้ตาลของพ่อนั้นไม่งดงาม

เหมือนกับไม้ตาลที่ฉันได้สัมผัสที่วัดอ่างสุวรรณ แห่งนี้แม้แต่น้อย  และที่เห็นโดยมากแล้ว มักทำเป็นข้าว

ของเครื่องใช้ ที่เห็นคุ้นตายามที่มีงานประจำปี เห็นจะเป็น กำไรข้อมือ  กระปุกออมสิน  ทัพพีตักข้าว ที่เขี่ย

บุหรี่ โคมไฟ   กล่องใส่ของกระจุกกระจิก  แต่คราวนี้ มีไม้ตาลทำเป็นโบสถ์หลังใหญ่ๆ ทั้งหลัง งดงามมาก

จริง ๆ ค่ะ ใครผ่านลงใต้ ขึ้นเหนือ   ถึง อำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์  จะเห็นป้ายข้างทางเชิญชวนให้

คนไปเที่ยวชมอุโบสถไม้ตาล หนึ่งเดียวในโลก

                           

         ด้านในอุโบสถมีพระพุทธรูปหลวงปู่ไทร เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางวันทา ซึ่งแกะสลักจากไม้ไทร 

มีอายุกว่า 200 ปีมาแล้ว  หลวงปู่ไทรก็เป็นที่เคารพบูชา กราบไหว้ของชาวบ้านหนองหอยและละแวกใกล้

เคียงเป็นอย่างมาก ส่วนพระประธานเป็น พระพุทธชินราช หน้าตักกว้าง 2 เมตร มีองค์เทพหลังพระ

ประธาน สวมสร้อยสังวาลใช้ประดับด้วยพลอยขาว สวยงาม 

                            

         การเดินทางไปวัดอ่างสุวรรณ ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ไปตามถนนเพชรเกษม ถึงหลัก กม.ที่ 376-377 

เลี้ยวขวาช่วงยูเทิร์นหนองหอย และวิ่งตามถนนลาดยางเข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร 

                            

                            

                                                  


คำสำคัญ (Tags): #โบสถ์ไม้ตาล
หมายเลขบันทึก: 531979เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2013 17:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน 2013 22:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ขอบพระคุณค่ะ ท่าน ผอ.ชยันต์

ให้ดอกไม้กำลังใจดอกแรก 

ไม่เคยทอดทิ้งกันเลย เสมอต้นเสมอปลาย  ซึ้งใจค่ะ

มีโอกาสจะแวะชม เห็นป้ายบอกชื่อข้างทางแล้ว  

  • ไม้ตาล ดูง่ายๆ แต่ทำยากครับ ยกเว้นขุดเป็นเรือโปงตาล
  • โบสถ์หลังนี้ สำเร็จได้ด้วยความเพียรพยายามและความอดทนจริงๆ...ขอยกย่องชื่นชมด้วยใจจริงครับ

ท่านพี่  

  • แวะเข้าไปชมได้เลยค่ะ ไม่ผิดหวัง งามจริง ๆ 

งามมากๆค่ะ...ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันชม...

สวัสดีค่ะท่าน สามสัก

  • ค่ะ  ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของชาวบ้าน
  • เจ้าอาวาสท่านนี้มีความพยายามสูงมาก
  • แต่ผลลัพธ์ที่ได้ มิใช่ตกถึงวัดเพียงอย่างเดียว
  • แต่เป็นการสร้างความเจริญให้กับชุมชนอย่างมากค่ะ
  • ทุกวันนี้ มีทัวร์ นำเที่ยว เข้าไปในหมู่บ้านทุกวันค่ะ

ครูถ่ายรูปโบสถ์ได้งามมากเลยนะครับ

..

ผมเคยแวะไปสมัยที่ยังไม่เรียบร้อยเท่านี้

..

ชื่นชมงานฝีมือของคนในชุมชน

..

ขอบคุณครูมากนะครับ

ขอบพระคุณพี่ใหญ่ ที่แวะมาเยี่ยมชมค่ะ

สวัสดีค่ะคุณแสง

  • ่ต้องแวะอีกรอบนะคะ  ตอนนี้สวยงามกว่าตอนนั้นมากค่ะ

เข้าไปเยี่ยมชมช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา สวยงามมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท