พ่อแม่จะอยู่กับคุณอีกกี่ปี? ... อยากทำสิ่งใดก็รีบทำ จะรอเวลาทำไม?


เช้านี้ (๒๙ มีนาคม ๒๕๕๖) มีบางเรื่องที่อยู่ห้วงคำนึงของตัวเอง
และทำให้ได้ฉุกคิดสิ่งที่เราได้คร่ำหวอดและสอนนักศึกษามาหลายปี

กิจกรรมที่คอยกระตุ้นให้นักศึกษาได้คิดวิเคราะห์ทุก ๆ ครั้งในเรื่องของ
"การสร้างความตระหนักรู้และความกตัญญู"


ผมพบว่า "เหตุผลที่นักศึกษาที่ไม่ชอบแสดงออกความรักต่อบุพการี
หรือพ่อแม่ของตัวเอง"
ได้แก่

๑. รู้สึกอายเพื่อน เขินพ่อแม่

๒. รู้สึกว่าตัวเองโตแล้ว

๓. ครอบครัวไม่เคยแสดงออกในเรื่องนี้

๔. พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ แทบไม่เจอกันในแต่ละวัน

๕. เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องดูแลส่งเสียตัวเอง



แน่นอนว่า คำสอนของผมที่มีหลังจากกิจกรรม ...
เป็นคำถามกระตุ้นให้เขาลองคิดเอง ...


๑. คุณคิดว่า พ่อแม่รอคุณจนคุณเรียนจบแล้วรับปริญญาได้ไหม?

ผมเคยเห็นพ่อแม่ของนักศึกษาบางคนรอลูกรับปริญญาไม่ทัน
เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เป็นโรคปัจจุบันทันด่วน
คุณพ่อบางคนเสียชีวิตในวันพ่อ ...
คุณแม่บางคนเสียชีวิตหลังจากลูกกำลังจะกลับบ้านไปกราบเท้า ...

รอทันไหม?


๒. คุณคิดว่า พ่อแม่จะอยู่กับคุณอีกสักกี่ปี?


๓. บางคนบอกว่า คุณจะเลี้ยงดูแลท่าน ก็เมื่อคุณเรียนจบ มีงานทำดี ๆ
คำถาม คือ พ่อแม่เขาจะรอคุณไหวไหม?


๔. บางคนบอกว่า คุณจะตอบแทนบุญคุณพ่อแม่โดยการตั้งใจเรียนให้ดี ไม่ทำให้ท่านผิดหวัง
คำถาม คือ พอไหม และทำไมต้องรอเวลา?


๕. บางคนบอกว่า ปัจจุบันคุณเป็นลูกที่ดีแล้ว ดูแลบ้าน ดูแลพ่อแม่เป็นอย่างดี
คำถาม คือ คุณคิดว่า คุณทำได้ดีเท่ากับพ่อแม่เลี้ยงคุณมาจริง ๆ หรือ?

ผมพบคนที่คิดว่า ดีแล้ว แต่สำหรับผม ดีแล้ว คือ เทียบไม่ได้กับพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเรามาหรอก



ทำไมคุณถึงไม่ตอบแทนพ่อแม่ซะตอนนี้ และ เดี๋ยวนี้!

คุณจะรอเวลาทำไม พ่อแม่เขารอคุณไม่ได้หรอก
อายุท่านก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
จากร่างกายแข็งแรง ก็ อ่อนแอลงตามสังขาร

ยังจะรออีกไหม


ใครไม่เคยกราบเท้าพ่อแม่เลยในชีวิต ... ให้กลับบ้านไปลองทำดู
แล้วคุณจะรู้ว่า มันปลื้มปีติแค่ไหนในชีวิต
อย่าได้ไปกราบเท้าท่าน ตอนท่านนอนอยู่ในโลงแล้ว

ใครไม่เคยบอกรักพ่อแม่เลยในชีวิต ... ให้กลับบ้านไปบอก
ทีแฟนหรือเพื่อนบอกรักได้ตลอด
ทีกลับพ่อแม่ กลับเขินอายที่จะทำ

ใครไม่เคยกอดพ่อแม่บ้างเลยในชีวิต ... ให้กลับไปกอด
แล้วคุณจะรู้ว่า ความสุขจากความอบอุ่นของท่านมันสุขแค่ไหน


อย่าได้รอเวลาอีกเลย

พ่อแม่เขาไม่รอคุณหรอก

อยากทำอะไรก็รีบทำเสียบัดนี้ ตอนนี้


เมื่อภายหลังจะได้มาต้องบอกว่า "รู้แบบนี้ ... ทำดีกว่า"
คงจะมีคนเห็นใจคุณหรอก
จะมีก็แต่คนที่สมน้ำหน้า


คำสอนของผมเหมือนเหล็กที่หนักมาก
ดึงสิ่งที่เขาละเลย มองเห็นเป็นเรื่องปกติ
ว่า มันไม่ปกติตรงไหนเลย
ให้เขาได้คิดด้วยตัวเอง

มันคือเรื่องที่ต้องคำนึงและตระหนักรู้ที่สุดของชีวิตตัวเอง


พ่อแม่มีได้แค่คนเดียวในชาิติหนึ่ง
ยังจะมาลีลา หรือ รีรอ อีก

หรือคุณมีพ่อแม่กี่ครั้งก็ได้


ตลกนะ !



คนเรานี่มันก็แปลกนะครับ คุณว่าไหม...

ขณะที่มีสิ่งที่รักอยู่ข้าง ๆ กายอยู่แล้ว
แต่กลับไม่เคยคิดจะดูแลรักษา
มองเห็นเป็นเรื่องธรรมดาไป

เืมื่อสูญเสียไปแล้ว ถึงค่อยจะรู้สึก


การแสดงออกของความรักเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ในเรื่องความสัมพันธ์ทุกแบบ

หากคุณไม่แสดงออก แล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่า


คุณรักเขา ห่วงเขา หรือ คิดถึงเขาแค่ไหน?


แสดงออกและบอกเขาก่อนที่จะสายเกินไปเถอะครับ


โอกาสในชีวิตอาจไม่ีมีครั้งที่สองเสมอไป


บุญรักษา คนที่คุณรักทุกท่าน ;)...


หมายเลขบันทึก: 531589เขียนเมื่อ 29 มีนาคม 2013 08:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 เมษายน 2013 16:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

เห็นด้วยมากครับ...ต้องยึดหลัก ททท (ทำ-ทัน- ที)...สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกทำให้พ่อแม่....พ่อแม่ก็ปลื้มใจไม่รู้ลืมแล้วครับ

...ใช่คะ แต่เพราะไม่มีการรณรงค์ในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง มุ่งแต่สร้างวัตถุ หาเงิน กู้เงิน

เลยทำให้เรื่องวัฒนธรรมครอบครัว สถาบันนี้ถูกมองข้าม ยิ่งมีปัญหาพ่อแม่ที่มีหลายบ้านก็ยิ่งทำให้ประเด็นนี้ห่างไกลออกไป ผลก็ไปตกที่เด็กขาดความมั่นใจ จะทำแม้แต่กอดพ่อแม่ก็ไม่กล้า..

ททท. ครับ คุณหมอ ทิมดาบ ;)...

ขอบคุณมากครับ

คุณน้อง ทองคำ วิเคราะห์ได้ถูกต้องแล้วครับ ;)...

ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ ;)...

เชื่อมั่นว่าต้อง ททท จริงๆๆด้วย  มีเรื่องหนึ่งที่ผมยังทำให้แม่ไม่ได้เลยแงๆๆ

ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆครับ

งั้นก็ต้อง ททท. นะครับ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง  ;)... 

ขอบคุณมากครับ ;)...

ขอเล่าหน่อยนะคะ เผื่ออาจารย์จะไปเล่าให้ลูกศิษย์ฟัง

    สมัยเมื่อ 23 ปีที่แล้ว  พี่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรมสธ.ที่สวนอัมพร ในช่วงที่ถ่ายรูปเห็นภาพประทับใจมาก มีนิสิตตำรวจชายคนหนึ่งแต่งกายชุดขาวเต็มยศห้อยกระบี่ด้วย มือหนึ่งถือชุดครุยอีกมือหนึ่งจูงมือแม่ที่แก่แล้ว แต่งกายแบบชาวบ้านธรรมดาๆนุ่งโจงกระเบน เคี้ยวหมากพร้อมกับถือตระกร้าใส่หมากด้วย คาดว่าน่าจะมากันสองแม่ลูก เพราะให้คนอื่นถ่ายภาพค่ะ  เห็นแล้วซึ้งจริงๆค่ะ 

    ***แต่สมัยนี้บางคนต้องดูแลเสื้อผ้าหน้าผมให้พ่อแม่ด้วยเดี๋ยวจะอายเพื่อนๆ ***

   ^-^ ขอให้ลูกๆตอบแทนพระคุณพ่อแม่ทุกลมหายใจที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นะคะ

สัญญาไว้ตั้งแต่ต้นปีว่า.. จะกราบเท้าแม่ทุกวัน

ตอบแบบอายๆว่า ทำไม่ได้ทุกวันค่ะ (ก็ยังดีที่ได้เริ่มใช้ไหมคะ)

ได้มีโอกาสอ่านเรื่องราวคล้ายๆกัน ในวันเดียวกันเลยค่ะ

คุณว่ามันแปลกไหม...
แปลกไหม? ที่คนที่คุณคิดว่าเขารักคุณ กลับทิ้งคุณไปอย่างไม่ใยดี
แปลกไหม? ที่วันเกิดเรา เราไม่เคยคิดถึงพ่อแม่ แต่เราไปรับประทานข้าวกับคนอื่นหน้าตาเฉย
แปลกไหม? ที่คุณเลี้ยงข้าวเพื่อนตอนรับปริญญา แต่คุณไม่ได้เลี้ยงข้าวคนที่ส่งคุณเรียนจนจบปริญญา
แปลกไหม? ที่เรายังจำได้ถึงเพื่อนที่เคยเลี้ยงข้าวเราเพียง 1 มื้อ แต่เรากลับไม่เคยส่งเงินให้กับคนที่เลี้ยงข้าวเรามาเป็นสิบสิบปี
แปลกไหม? ที่เรารักใครบางคนที่ไม่กล้าแม้จะจับกางเกงในเรา แต่เรากลับเบื่อเสียงเตือนของคนที่ล้างก้นให้เรานานเกินกว่า 3 ปี
แปลกไหม? ที่เพื่อนโทรมาชวนเราเวลาไหนเราก็ออกไปได้ แต่พ่อแม่จะมาหา เรากลับบอกว่าไม่ว่าง
แปลกไหม? ที่คุณต้องพูดจาเพราะๆ เพื่อให้อีกฝ่ายยอมรับ แต่ไม่เคยพูดครับหรือค่ะกับพ่อแม่คุณเอง
แปลกไหม? ที่คุณตื่นมาทำำกับข้าววุ่นวาย เพื่อที่จะทำบุญกับท่าน แต่ท่านก็จากไปเสียแล้ว
"แต่มันไม่แปลกเลย"...ที่เราจะทำดีกับพ่อแม่ตอนนี้...ก่อนที่มันจะสายเกินไป...

ที่มา http://www.facebook.com/people.khon

ขอบคุณเรื่องเล่าจากพี่นก Hong Hern มาก ๆ นะครับ

ผมจะใช้สอนในสัปดาห์หน้านี้พอดีครับพี่ ;)...

ถือเป็นเรื่องที่ดีงามครับผม kunrapee ;)...

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณเรื่องราวที่แ่บ่งปันเข้ามานะครับ คุณครู ไอดิน ;)...

จงทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุดนะครับ

ขอบคุณมากครับ ;

เป็นคำถามที่ใช้กับตัวเองเสมอ เมื่อเวลาที่ละเลย บางช่วงบางตอนของชีวิต

ที่จะทำหน้าที่ลูกที่ดี 

ยินดีสำหรับคำถามนั้นครับ คุณ หนูณิชน์ ;)...

ขอบคุณมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท