ให้อภัยไม่แค้นเคือง


หลายๆคนถามครูอ้อยว่า  ไม่เจ็บแค้นกับผู้ที่ทำให้ชีวิตคู่ของเราอับปางหรือ  ครูอ้อยตอบได้ทันทีเลยว่า  ณ วันนั้นเรายังเด็ก  เราคิดแต่ว่า  เราทำผิดอะไร  ทำไมต้องบงการชีวิตเรา  ทำไมมายุ่งเรื่องของเรา  การทำดีให้เราทำไมต้องมาทวงบุญคุณ  ทั้งหมดเป็นคำถามที่ครูอ้อยคนนี้คิดเสมอในเวลานั้น

  

เมื่อเติบโตขึ้นมีวุฒิภาวะมากขึ้น  ไตร่ตรองให้ดีนี่คือวิถีชีวิตที่มีการขีดเขียนมาให้  ไปเต้นตามจังหวะของชีวิตมากเกินไปก็เสียใจเสียเวลา  ให้คิดในสิ่งที่ดี  รักร้าวไม่มีวันจะสมานให้ดีไปกว่าเดิมได้  แต่อย่าไปทำลายมิตรภาพต่อกัน  เพราะสายสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับลูกของเราทั้งสองคนมันตัดให้ขาดไม่ได้  พ่อของเขา  พี่ป้าน้าอาปู่ย่าของเขายังมีอยู่  เขาก็ต้องรักต้องกตัญญู  จะนำความแค้นเคืองของเรามาทาสีให้กับลูกมันคนละเรื่อง

  

เมื่อมีงานจำเป็น  เทศกาล  วันสำคัญต่างๆ  ลูกๆจะไปหาพ่อของเขา  เราก็ไม่เคยห้าม  ไม่เคยถามไถ่ด้วยเพราะไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะไปถามเพื่อให้รู้อะไร  ไม่รู้เรื่องสักเรื่องก็คงจะไม่เป็นอะไร  หลายๆครั้งที่คำพูดพวกเขาเหน็บแนม  เช่น  กระจอก  จนจะตาย  ไม่เห็นหล่อเท่าพ่อแก  แม่แกมันไม่อดทน  ไม่รักดี  หาให้ดีกว่าเดิมไม่ได้หรือ  ไปถามแม่แกสิ  หลายๆคำไม่ได้มาทำลายอะไรครูอ้อยคนนี้ไปได้เลย  เราก็มีความสุขของเราที่ได้เลือกมาแล้ว  จะมาอยากรู้เื่รื่องเราทำไม  เราดีมากจนอยากรู้หรือไร


เวลาผ่านไป  ลูกเรียนจบมหาวิทยาลัย  เป็นเรื่องที่จะต้องไปเป็นเกียรติกับลูกของเรา  พ่อของเขา  ลูกใหม่ของเขา  ปู่ย่าก็มา  ส่วนทางเรา ตายายไปด้วย  การถ่ายภาพเพื่อลูกที่จะได้ภาพออกมาสวยงามจะทำหน้าง้ำหน้างอได้อย่างไร  เราจะสวยให้ลูกเสมอ  เมื่อรูปภาพออกมาก็ดูดี  เพื่อนๆของเรายังบอกว่า  เหมือนไม่ได้หย่าขาดจากกัน


งานแต่งงานของลูกก็เช่นเดียวกัน  เราก็ยังคงนั่งเคียงคู่กับพ่อของเด็กๆ  ทำพิธีอะไรก็ตาม  แม้แต่พูดอวยพรให้ลูก  เราพูดได้อย่างสง่างาม  ไม่ได้คิดแค้นเคืองอะไร  เพราะเรื่องต่างๆได้จบไปแล้ว  นี่คือเรื่องที่เราทำเพื่อลูก  


เวลาผ่านไปอีก  ปู่ของเขาป่วยหนักหลายครั้ง  ลูกก็ไปเยี่ยม  ไปปรนนิบัติ ส่วนเราไม่ได้ไป  แต่เมื่อถึงแก่กรรม  งานพระราชทานเพลิงศพที่โคราช  เราก็ไปพาคุณตาคุณยายและน้องสาวไปด้วย  เราให้เกียรติสวมเสื้อชุดขาวไว้ทุกข์  ยืนที่แถวรับเสมือนญาติคนหนึ่ง  และย่าของเด็กๆ จับมือเราไว้แน่น  พูดกับเราว่า  ขอบใจนะอ้อย ที่มาพ่อรู้คงจะดีใจ


เมื่อปีที่แล้ว  ย่าของเด็กถึงแก่กรรม  เราได้ไปอีก  ญาติเขาชื่นชมเราที่ยังมางานนี้อีก  เราไม่ได้คิดแค้นเคืองอะไร  อโหสิ ผ่านไปแล้ว  นั่นมันคือบทเรียนชีวิตที่มีค่า  ที่ได้ฝึกให้เราเป็นคนอดทน  แต่ยังไม่อดกลั้นพอเพียงให้เขาพอใจ


การให้  ที่เข้มที่สุด  มีพลังที่สุดคือ  การให้อภัย


หมายเลขบันทึก: 518903เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2013 06:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2013 06:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ขอบคุณมากค่ะ  อาจารย์ตึ๋ง โสภณ เปียสนิท ที่ให้ดอกไม้ครูอ้อย ท่านแรก

ชื่นชม จิตใจที่เข้มแข็ง

และการให้ที่เป็นที่สุดคือการ "ให้อภัย"

ของครูอ้อยคะ.....

พี่ครูอ้อยเก่งมากเลยครับ ผมขอนับถือจริงๆ ครับ

สุดยอดของการให้ ก็คือ ...การให้อภัย  นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท