"จิบปลายจันทร์" ... (เสียงกู่ร้องของเมล็ด : สันต์ธวัช ศรีคำแท้)



จิบปลายจันทร์



...

มีเพียงเราและท่านจะฝันเช้า
ที่จะเล่าสนทนาภาษาเสนาะ
ฟังกวีเรไรอันไพเราะ
ที่เคาะกล่อมคืนค่ำด้วยคำกวี

เธอคงยินคลื่นพลิ้วเหนือผิวน้ำ
ใต้เงาคล้ำคลื่นฉายพรายน้ำคลี่
เสี้ยวแสงจันทร์สั่นไหวอยู่ในที
คว้างอยู่กลางราตรีนี้ตื่นตา

มีเพียงเธอและฉันจวบฝันเช้า
ที่จะเล่าลำนำด้วยคำกล้า
กับรูปเงาอึมครึมอันทึมทา
ห่างพอเห็นเลือนพร่าใต้สะพาน

เห็นคือเหงานิ่งงันในความเงียบ
เหงาก็เปรียบจันทร์เพรียก, เราเรียกขาน
เราเฝ้าจิบน้ำตาตรมมานาน
เธอก็เพียงไหวผ่านคลื่นน้ำพราย

เราเพียรสนทนาภาษาเสนาะ
ฟังเรไรไพเราะเคาะปีกสาย
จันทร์เจ้าส่องกระจะแสงกระจาย
เราสะอื้นจักหมายจิบปลายจันทร์

เราวักน้ำลูกหน้า-เย็น, คราหนึ่ง
คมจันทร์จึงกระจายไหววูบสั่น
ในห้วงแห่งปีติอันนิรันดร์
เราเฝ้าจิบแสงนั้นจวบฝันเช้าฯ

...


...................................................................................................................................................................................

เสพกวีนิพนธ์ ...


...

กวีนิพนธ์จะนานสักแค่ไหน
แต่หัวใจของกวีอยู่ที่แก่น
จะเนิ่นนานกี่ปีกี่หมื่นแดน
ให้เหมือนแม้นแก่นธรรมที่นำทาง

สัจธรรมคำคมที่จมจ่อม
จารอักษรทับถมนิยมถาง
กระดาษเก่าเร่าร้อนทุกทิศทาง
ใช่อ้างว้าง ฉันปล่อยวางไว้กลางใจ

...


ได้หนังสือกวีนิพนธ์เล่มนี้จากแผงหนังสือเก่าแผงหนึ่งในงาน CMU Book Fair ครั้งที่ ๑๙


บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...


...................................................................................................................................................................................

ขอบคุณหนังสือกวีนิพนธ์

สันต์ธวัช  ศรีคำแท้.  เสียงกู่ร้องของเมล็ด.  กรุงเทพฯ : หนังสือใต้ดิน, ๒๕๔๒


หมายเลขบันทึก: 510164เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2012 23:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 19:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

ครู was น่าจะรวบรวมบทกลอนของตัวเอง เป็นหนังสือ คงได้ กวีนิพนธ์ที่สวยอีกเล่ม นะนี่

คงจะได้ "หนังสือทำมือ" กระมัง คุณ Ico48 ชลัญธร ;)...

ขอบคุณยามดึกครับ ;)...

สันต์ธวัช ศรีคำแท้

บทกวีของ สันต์ เคยนำมาวิพากในวง ที่ บ้าน กานติ ณ.ศรัทธา ปี 35 จำได้

มีนักกวีหลายคน กล่าวถึง ประเด็นร้อนวันนั้นสีบเนื่องมาจาก ดอกไม้ดำ(สมพง ทวี) จุดประกายว่า กวี โรแมนติคจงไปตายเสียเถอะ 

แล้วกลุ่มกวี เขามานั่งเคลียร์กัน 

มีกวีสาว เพ็ญ ภัคตะ พิทักษ์ ใจซื่อ จส. รมณา โรชา กานติ ณ.ศรัทธา ดวงแก้ว กัลยา วีระศักดิ์ ขันแก้ว 

เอื้อ อารีย์ รุมสกรัม สมพง ทวีกัน.....

เอ๊ะ...หลายปีผ่าน แต่พอเห็น ชื่อ สันต์ธวัช จำขึ้นได้ทันที

อ้อลืมไป เจ้าของกวีที่ถูกกระทบในวันนั้น คือ พจนารถ พจนาพิทักษ์

เรื่องราวจากเรื่องเล่าของท่าน Ico48 วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- ทำให้ทุกคนได้ทราบเรื่องราวนี้

ขอบคุณมากครับ ;)...

ยังไม่มีหนังสือเล่มนี้เลยครับ เริ่มจะปลูกผักหรือยัง ตอนนี้ผมทำโรงเห็ดเพิ่มให้ครูและนักเรียนครับ

ยังเลยครับ อาจารย์ Ico48 ขจิต ฝอยทอง ;)...

ขออภัยจริง ๆ ครับ

เศร้า 555

ตาร้อนจัง 

ขอยืมอ่านสักสามเดือนได้ไหมคะอ.วัส

ขอบคุณมากค่ะ

ขนาดนั้นเลยหรือครับ คุณ Ico48 Tawandin 555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท