วันวาน : เตี่ยได้สร้างสวนแห่งนี้ขึ้นมาด้วยพลังแห่งความรักที่จักให้ลูกหลานได้อยู่กันอย่างสบายในวันหน้า เตี่ยเคยบอกไว้เสมอว่า ปลูกของกินได้มันไม่เสียหายอะไร ขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราก็เก็บไว้กินเองไม่ต้องไปซื้อ ของอะไรที่แพงก็ไม่ไม่ต้องซื้อกิน เราเลือกกินของที่ถูกกว่า หรือหาได้ในสวนของเราก็มีคุณค่าทำให้อิ่มได้เช่นกัน กินผักผลไม้ในสวนเรา ไม่ต้องเสียเงินซื้อ เหลือจากกินแล้วค่อยนำไปขาย
เตี่ยนั้นปลูกอะไรต่อมิอะไร มากมาย ฉันรู้สึกภูมิใจมากมาย กับชุปเปอร์ฮีโร่ในดวงใจฉัน "เตี่ย"
วันนี้ : อาหารในตลาดนั้นมีราคาแพง ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองนั้นเปลี่ยนไป การได้รับการปลูกฝังไว้ตั้งแต่วันวานเมื่อวัยเยาว์ ทำให้ได้รู้ว่า การมองกาลไกลของเตี่ย ทำให้วันนี้เราอยู่ในบ้านสวนได้แบบสบายๆ ไม่ต้องมีเงินมากมาย ก็มีอาหารกินไม่ลำบาก เพียงลดค่าใช้จ่ายจากสิ่งของฟุ่มเฟือย ดังที่เตี่ยเคยสอนไว้
วันนี้วันที่ : ฉันได้ลาออกจากงานมากว่าสามปี ทำให้ฉันได้รู้ว่า การที่ต้องวิ่งหาความสุขจากเงินทองที่หามาได้ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานอย่างมนุษย์เงินเดือน ทุกอย่างที่อยากได้ต้องซื้อหา เพื่อมาชดเชย ความเหนื่อยล้า ความเครียด ให้เป็นรางวัลแก่ตัวเอง ...กับความคุ้มค่านั้นมันจริงหรือ
ทุกวันนี้ : ฉันไม่มีเงินเดือนอย่างที่เก่าก่อน รายได้มีเพียง ไม่ถึงครึ่งของแต่ก่อน แต่ฉันกลับรู้สึกถึงความสุขที่แตกต่างอย่างชัดเจน กับการกินอิ่มนอนหลับ สุขภาพที่ดีขึ้น ไม่เจ็บป่วย ปวดหัวตัวร้อนอย่างก่อนหน้าที่ที่ต้องพึ่งหมอ พึ่งยา ทั้ง โรคกระเพราะอาหารและไมเกรน
ฉันมีเวลาให้กับตัวเอง มีเวลาให้กับครอบครัว และคนรอบข้าง ฉันมีเวลาช่วยเหลืองานบุญ งานส่วนรวมมากขึ้น กว่าเก่าก่อน ที่ฉันมักจะอ้างกับใครเสมอ ว่า ฉันลางานไม่ได้บ้าง งานยุ่งบ้าง งานค้างยังไม่เสร็จ เจ้านายเขาเร่ง ฉันต้องทำให้เสร็จ ...
แม้กับเหตุการณ์ครั้งหนึ่งที่เตี่ยฉันป่วยหนัก(วาระสุดท้ายของเตี่ย) ฉันเฝ้าเตี่ยที่โรงพยาบาลทั้งคืนกับพี่สาวที่โรงพยาบาล ถึงตอนเช้าฉันยังต้อง ออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปทำงานที่ค้างให้เสร็จ คิดมาดิดไป ... ทำไปได้ยังไงหนอเรา ก็เพราะเกรงกว่า เขาจะหาว่าเราละเลยหน้าที่ขาดความรับผิดชอบนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ที่ต้องเครียด อารมณ์ขุ่นมัว ไม่เคยมีความสุขสันต์กับใครเขา ... วันๆ หน้านิ่วคิ้วขมวด เป็นคุณยายขี้วีนขี้โมโห ...
ทุกวันนี้ : ความรู้สึกเหล่านั้นมันจางหาย ... แม้เงินมีน้อย ทำงานมากขึ้น แต่ก็ล้วนแต่เป็นงานที่ทำแล้วสุขใจ ถึงแม้ว่าบางงานนั้นไม่มีค่าตอบแทนเป็นเงิน แต่ค่าตอบแทนนั้นเป็นความรัก ที่จักทำให้หัวใจนั้นพองโตเสมอๆ มันเป็นความสุขในหัวใจ ที่เปี่ยมล้น
ความสุขวันนี้เป็นความสุขที่เลือกเอง ...
แม้ไม่มีเงินมากมาย แต่มีตู้กับข้าวมีชีวิต ในสวนของเตี่ย ก็พอเพียงแล้ว
หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา ... เดินรอบบ้านก็เก็บมาปรุงเป็นอาหารได้แล้ว
อย่างเมนูนี้ ...
ภาพนี้ : มีหอมและกระเทียม ที่ซื้อค่ะ
ที่เก็บจากสวน ก็มี ขมิ้น พริก คะไคร้ ข่า ใบมะกรูด มะเขือพวง ปรุงเป็น แกง ได้ มาดูต่อกัน ว่าเป็นเมนูอะไร...
ภาพนี้ : กล้วยดิบ มะเขือเปราะ มะเขือพวง
ภาพนี้ : หน่อไม้
ภาพนี้ : เครื่องแกง โขลกแล้ว พร้อมปรุง
ภาพนี้ : ยังต้องซื้อ อยู่ เลี้ยงไม่ได้ ปลาทูย่าง
ภาพนี้ : เป็นแกง แล้วนะคะ ปรุงจากผักในตู้กับข้าวมีชีวิตในสวนของเตี่ย
แกงไตปลา ใส่ปลาทู กล้วยดิบ มะเขือเปราะ มะเขือพวง หน่อไม้ ใบมะกรูด
ส่วนไตปลาแม่ก็ทำเองนะคะ :)
อ่านเพิ่มได้จากบันทึกนี้ >>
http://www.gotoknow.org/blogs/posts/309733
ปิดท้ายบันทึกด้วยคำขอบคุณ
ขอขอบคุณทุกๆท่านนะคะ ที่ติดตามอ่านบันทึก ขอให้มีความสุข สุขภาพดีนะคะ
Happy Ba , Happy Body , Happy Family ค่ะ
อยากทานข้าวจัง ... แกงไตปลา .... น่าทานจริงเอย .... ชอบตรง ที่มีหน่อไม้ เยอะๆๆ ข้าวสวยร้อนๆๆ ไข่เจียวอีกหน่อย .... ความสุข จริงๆๆค่ะ
ขอบคุณมากๆๆค่ะ
หน้าตาดีรสคงหร่อยแน่เลยนะครับ
ขอบคุณค่ะครูทิพย์
เป็นความสุขตามอัตภาพค่ะ สุขตามความพอเพียงเรียบง่าย แบบบ้านๆ:)
นับเป็นความสุขแบบพอเพียงจากมรดกของผู้เป็นที่รัก..อร่อยอิ่มด้วยสองมือเรานะคะ..
ขอขอบคุณกำลังใจจากคุณหมอเปิ้ลมากๆนะคะ
ด้วยวิถีชาวบ้านชาวสวน ทุกอย่างล้วนต้องทำเอง :)
ขอขอบคุณพี่ใหญ่ค่ะ
ด้วยความพอเพียงจึงเพียงพอ เรียบง่าย ฉบับบ้านๆ ค่ะ :)
ขอขอบคุณนะคะท่านอาจารย์โสภณ เปียสนิท
^__^
สวัสดีค่ะน้องหนูรี
ได้กลับไปถ้ำทะลุ เมื่อไหร่ จะเห็นได้ว่าน้องหนูรีจะผ่อนคลายมากๆใช่ไหม๊เอ่ย??? บ้านนี่นา กลับไปเมื่อไหร่ก็สุขเสมอ อืมม์...สูตร แกงพุงปลา ฝืมือชั้นครูเนี่ย ปรุงพิเศษต้องความรัก ผักจากฝีมือปลูกที่เตี่ยมองการณ์ไกล ปลูกไว้ให้ได้ใช้ แม่ทำไตปลาพร้อมใช้ และน้องหนูรี ก็จับมาปรุงสูตรกลมกล่่อม หน้าตาฟ้องว่า เมนูปักษ์ใต้แบบเผ็ดๆเลยนะค่ะเนี่ย แต่การันตีความหร่อยอยู่แล้วหล่ะ เชื่อฝีมือจ๊า :-))
สวัสดีค่ะ น้องหนูรี
หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา "ที่บ้านน้องหนูรี" ไม่เคยผิดหวังเลยค่ะ อิจฉาเล็กๆ ที่ได้มีชีวิตแบบนี้ค่ะ ในขณะที่พี่ไม่มีโอกาสโขลกพริกแกงแบบนี้ เดินไปเก็บมะเขีือสดๆ แบบนี้ค่ะ ฝันนะคะว่าสักวันอยากมีชีวิตแบบนี้บ้างค่ะ เมื่อตอนเด็กๆ เราก็เคยทำแบบนี้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหนูรี
ความอิ่ม...ทั้งที่ท้อง...และที่ใจ...ที่เตี่ยมีให้เสมอ...ผมอิ่มจังครับพี่หนูรี..
ตู้เย็นริมรั้ว มะละกอชายครัว ส้มขามริมดม มีพร้อมบ้านสวนน้องหนูรี
น่าอร่อยมากค่ะคุณหนูรี
ปริมจะลองทำสูตรมังสวิรัติดูสักวันค่ะ ;))
สวัสดีค่ะ คุณหนูรี
ความสุขของพี่หนูรีอยู่ใกล้แค่เอื้อม ไม่พ้นสวนครัวค่ะ สิ่งนี้ คนในเมืองขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย ต้องนำภาพและบันทึกอบอุ่นนี้ไปเผยแพร่ค่ะ