ไปชงSHA ที่โรงพยาบาลกระบี่ โชคดีที่ได้เรียนรู้ U - Theory


เพราะคนไม่ใช่เครื่องจักร จึงต้องการความรักและเข้าใจในการทำงานคุณภาพ

         

GotoKnow   บ้านแห่งนี้ เป็นที่รวมพลคนทำงาน ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เติมเต็ม  บอกต่อ ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน ก่อเกิดกลุ่มเครือข่ายหลายเครือ พัฒนาการสานสัมพันธ์ไปมาหาสู่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน  ก้าวข้ามผ่านข้อจำกัด  ทั้งเพศ/ วัย /วุฒิและตำแหน่งหน้าที่  มีให้เห็นผ่านบันทึกในหลายเครือข่าย อย่างเช่นเรื่องนี้ .......

 

ทีมงานพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลกระบี่

      หมอเจ๊ (ศิริรัตน์ สุวันทโรจน์ )แซ่เฮคนสวย คุณหมอบล็อกเกอร์ผู้ที่ลึกเนียนในงานเขียนบันทึก ได้โทรมาหาผู้เขียน ชวนให้มาช่วยเล่าเรื่องSHA ให้แก่พี่น้องชาวโรงพยาบาลกระบี่ฟัง ในวันที่ 21 กันยายนนี้  ผู้เขียนดูสมุดนัด ปรากฎว่า 21 กันยายน มีนัดของพี่น้องชาวโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช ซึ่งในช่วงบ่ายของวันที่ 21 ทางกรรมการสมาคมฯนัดคุยสรุปงานเกษียณเมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมาทีจัดในจังหวัดจังหวัดอุดร  แล้วตอนเย็นกรรมการสมาคมลูกจ้างฯก็เข้าร่วมงานแสดงมุฑิตาจิตแก่ผู้เกษียณอายุราชการของลูกจ้างโรงพยาบาลมหาราช ในปีนี้  จึงตอบตกลงรับปากหมอไปคุยไปเล่าเรื่องSHA ในช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายจะได้เดินทางเข้านครศรีฯ ในราตรีแห่งเกษียณ .......

 ท่านเภสัชผู้ซึ่งมีลีลาการเล่าที่ยิ้มแย้มอย่างมีสุขที่ได้เล่าเรื่อง

 

     ณ.กระบี่ที่ได้มาเยือน หมอเจ้ ได้ต้อนรับอาคันตุกะด้วยมิตรภาพที่อยากจะลืมเลือน ได้เรียนรู้ตั้งแต่เรื่องอาหารและการทำหน้าที่ของคนทำงานที่ต้องใส่ใจในงานที่อยู่ตรงหน้า เพื่อไม่ให้ผิดพลาดในสื่อสารสั่งการ  

 

    มาถึงที่พักได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนกับเคือข่ายคนทำงานชุมชนที่ศูนย์เรียนรู้"อบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ ชุมชนบ้านทุ่งโหลง"เครือข่าย ศตส ปชช.(ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดภาคประชาชน) ผู้เขียนเป็นคณะทำงานของ ศตจ.ปชช.(ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะความยากจนภาคประชาชน)พัทลุง  ซึ่งทั้ง ศตส ปชช.และ ศตจ ปชช. เราทำงานร่วมมือกันมาในนามภาคประชาชนร่วมกัน ถือเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างจังหวัดโดยไม่ได้นัดหมาย....

 

      รุ่งเช้าหมอเจ๊  มารับไปทานอาหารเช้า ข้าวหมกแพะและซุบแพะของชอบ ที่แสนอิ่มอร่อย แล้วเราก็ค่อยๆไปที่โรงพยาบาลเข้าห้องประชุม  ตึกอบัติเหตุ  

 

คนหลังเขา ชาวBacK Officeที่พัฒนางานคุณภาพจากฐานราก

 

     ณ.ห้องประชุม ผู้จัดการประชุมทักทายเสมือนคนรู้จักที่มักคุ้นกันมา  สอบถามได้ความว่า ได้ไปฟังการเสวนาเรื่อง"ทำอย่างไรให้หัวใจมีSHA"ที่สุราษฎร์งานนั้นสรพ.ได้เชิญผู้เขียนไปเสวนาด้วย

 

      "โครงการประชุมเชิงปฎิบัติการ  การผสมผสานแนวคิดจิตตปัญญาในงานบริการสุขภาพ(SHA) ของโรงพยาบาลกระบี่  แวบแรกที่เห็นชื่อเรื่อง ก็เห็นใบหน้า กริยาคำพูดเรื่องเล่า และงานเขียนของอาจารย์หมอสกล สิงหะ  ที่กรุณาเล่าให้ฟังในเวทีต่างๆ   และนึกไปถึงหนังที่อาจารย์หมอได้เปิดฉายให้ดู "ดิพาร์ทเจอร์" จนจำได้  "จิตตปัญญา SHA กระบี่" ที่ต้องชงให้เจ้าหน้าโรงพยาบาลกระบี่ชิม คงแตกต่างไปจาก SHA ที่ไปชงให้โรงพยาบาลสตูลชิม เพราะที่นี้กระบี่ บริบทพื้นที่ ค่านิยม และคมคิดของคนขับเคลื่อนงานHA ต่างกัน

 

      พิธีกรและนักกระบวนการในเวที นำสู่บทเรียน  เตรียมตัวเตรียมใจอยู่กับปัจจุบันโดยการ Baby Scan ก่อนนำเข้าสู่บทเรียน  ทบทวน รู้จักตัวตน และการทำหน้าที่  นำไปสู่บทเรียนเรื่องSHA Program เพื่อการรู้ข้อมูลอย่างเท่าทันกัน  ในการพัฒนาจิตวิญญาณ  ทำงานให้มีความสุข Spiritual ในความดี  ความงาม ความจริงอย่างมีคุณค่าแล้วท่านเภสัชก็ชวนคุยถึงการฟังตามแนวทางU -Theory  ที่ต้องฟังอย่างลึกตามทฤษฎีทั้ง 4 ระดับ คือ

ฟังแบบตอบสนองอย่างรวดเร็ว

ฟังแบบพยายามแก้ไข

ฟังแบบเปิดใจเปิดความคิด

มาสู่การฟังอย่างลึกที่ก้นตัวยู  ....

       .เตรียมพร้อมปูทางนำเรื่องได้อย่างลงตัวก็ส่งต่อให้ผู้เขียนมาช่วยเล่าการชง SHA ของโรงพยาบาลปากพะยูน ที่ผู้เขียนใช้หลักการ โค้ช หลักการ ฟา และหลักการ"ยอน" ให้เกิด"พลัง"และการสร้างคุณค่าของงานที่ทำงานบนพื้นฐานของการทำงานที่มีความสุข  ซึ่งเป็นเรื่องเล่าจากประสบการณ์ ในการ FA ตัวเอง FA เพื่อนคนงาน FA และ FA องค์กรให้เกิดคุณภาพในการทำงาน ให้หน่วยงานมีคุณภาพ มีมาตรฐาน เพื่อให้ พ่อแม่พี่น้องลูกหลาน ได้รับบริการทางสาธาณสุข ที่มีมาตรฐานและคุณภาพ  คือเป้าหมายของSHA อย่างยั่งยืน ด้วยจิตตปัญญาในงานบริการสุข ภาพ

 

     ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าพูดดีหรือพูดแล้วคนฟังไม่รู้เรื่อง ทำให้ผู้จัดเพิ่มเวลาตอนบ่ายให้อีกหนึ่งชั่วโมง  ทั้งภาคเช้าและภาคบ่ายผู้เขียนถ่ายทอดประสบการณ์ชงชาแบบจิตตปัญญาด้วยการเล่านิทาน  จากการเล่าเรื่องจนจบ รายการ คุณหมอ เจ๊ได้กรุณษจับประเด็นผูกโยงเชื่อมร้อยให้เห็นว่าเข้าหลักการ ยู  ทฤฎีได้อย่างไร   เสร็จเวที คุณหมอกรุณาให้รถโรงพยาบาลกระบี่ได้มาส่งที่รพมหาราชนคร ขณะนั่งรถได้ขายความคิดจุดประกายให้ พขร. ทำนวัตกรรม และCQI ในหลักการ PDCA ซึ่งน้องพขร. บอกรับปากว่าจะมีงานCQI เข้าประกวดระดับให้ได้  

       

        Emphaty คือต้องเข้าใจผู้อื่นเป็นหลัก

 

      " เพราะคนไม่ใช่เครืองจักร  จึงต้องการความรักและเข้าใจ ในการทำงานคุณภาพ ทีม FA ต้องให้แตกในเรื่องนี้"

 

คุณหมอเจ๊ได้กรุณาสรุปประเด็นให้

หัวหน้าแผนกวิสัญญีที่กรุณามอบของที่ระลึกให้

หมายเลขบันทึก: 503265เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2012 22:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 ธันวาคม 2012 03:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)

หมายเหตุ

คลื่นสมอง 4 ระดับ Bata Wave เป็นคลื่นสมองที่เกิดขึ้นขณะสมองตื่นตัวเต็มที่ในขณะที่เราทำกิจกรรมทั่วไป ไม่ใคร่มีสมาธิมากนัก ความถี่ 14 – 21 รอบ / วินาที Alpha Wave เป็นคลื่นที่เกิดในขณะที่สมาธิตื้นเป็นคลื่นที่เด็กสามารถรับรู้และเรียนรู้ได้ดีมาก โดยเฉพาะเป็นการเรียนรู้ระดับที่ส่งผลต่อจิตใต้สำนึก (Sub conscious) เกิดในช่วงที่คนรู้สึกผ่อนคลาย จิตสงบ ความถี่ 7 – 14 รอบ / วินาที Theta Wave เป็นคลื่นที่อยู่ในช่วงภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นดังนั้นคนจึงมีปรากฏการณ์ทางจิตมากที่สุดในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ยังหลับไม่ลึก อยู่ในภาวะ เคลิ้ม แต่สมองไม่อยู่ในภาวะที่ถูกควบคุมตามปกติ คือ ขาดจิตสำนึก (conscious) คอยควบคุม Delta Wave เป็นคลื่นที่เกิดในขณะที่หลับลึกที่สุด ซึ่งทั้งคลื่น ธีต้า และเดลต้า เป็นคลื่นที่มีประโยชน์มาก คนที่เป็นโรคจิตโรคประสาท เพราะมีคลื่นนี้ไม่เพียงพอเวลานอนจิตไม่สงบที่จะเข้าสู่การหลับลึกได้ จากหนังสือ “สมองมหัศจรรย์” ดร.อุษณีย์ อนุรุทวงศ์

สี่ระดับของการฟัง “Listen to others and to What Life Calls you to do”

Otto Scharmer.

      หนังสือ “Theore U” ชาร์เมอร์ ได้จัดแบ่งการฟัง ออกเป็น 4 ระดับ

ระดับที่1

  การฟังแบบใช้วิธีการตอบสนองอย่างรวดเร็ว (Reacting) เป็นการดาวน์โหลด 

“ชุดข้อมูลเก่า” ที่เรามีอยู่ในสมองมาตอบโต้อย่างรวดเร็ว เราไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่จากการฟังระดับนี้ เราเพียงตอบสนองสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างรวดเร็วเท่านั้น

ระดับที่ 2

  เป็นการฟังที่เราพยายามที่จะแก้ไขปัญหา เพราเมื่อเราเริ่มรับรู้แล้วว่า การฟังของเรายังไม่ค่อยดี เรายังมีปัญหาเรื่องการรับฟัง เรายังไม่ได้ฟังลูกน้อง ไม่ได้ฟังลูก ไม่ได้ฟังสามีหรือภรรยาของเราอย่างดีมากเพียงพอ เราพยายามจะตั้งใจฟังมากขึ้น 

เราพยายามค้นหาเทคนิคต่างๆในการฟัง เราเริ่ม “เปิดความคิด” แต่การฟังระดับนี้ยังเป็นการฟังเพื่อ “จับผิด” เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เราคิดที่เราเห็นนั้นถูกต้อง ของคนอื่นอาจไม่ถูกต้องนะ ยังเป็นการฟังเพื่อเปรียบเทียบว่าถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี ยังไม่พ้นเรื่องการตัดสินเรื่องถูกหรือผิด

ระดับที่ 3

  เป็นการฟังที่ต้องอาศัย “การเปิดใจ” ซึ่งจะลึกซึ้งมากไปกว่าการ “เปิดความคิด” ในระดับที่สอง 

เราเริ่มรู้สึกจริงๆกับคนที่กำลังพูดคุยกับเรา เราเริ่มฟังผ่านมุมมองของคนที่อยู่ตรงหน้าเรา เราเริ่มด้วยการ “เปิดพื้นที่” ในตัวเราให้ว่างเพื่อให้ “คำพูด” ของคนที่เราสนทนาด้วยไหลผ่านเข้ามาในตัวเราได้ การฟังแบบนี้จะทำให้เรา “รู้สึก” เหมือนกับคนพูดที่กำลังรู้สึก รับรู้อารมณ์ที่แท้จริงของเขาว่า เขากำลังสื่อสารอะไรอยู่ การฟังระดับนี้ไม่ยากถ้าเราจะทดลองฝึกการใช้ “ความรู้สึกมากกว่าเหตุผล”

ระดับที่ 4

 เป็นการฟังระดับที่ลึกที่สุด ตามทฤษฎี ยู คือการฟังที่อยู่ ณ ก้นตัว ยู เป็นการฟังไปถึง “ความหมายที่แท้จริง” ที่ผู้พูดต้องการจะสื่อ.......เป็นการฟังที่ไม่ใช่ฟังแต่เฉพาะตรงที่อยู่ตรงหน้าเรา เราจะฟัง “ตัวตน” ของเขาทั้งหมด ตัวตนทั้งในอดีตและอนาคตของคนคนนี้ สิ่งที่คนนี้ต้องการจะสื่อสารและในขณะเดียวกัน เราก็จะรับฟังบริบทรอบข้างทั้งหมดของเขาและของสถานการณ์ทั้งหมดในขณะนั้น 

เป็นการฟังที่เราจะได้ “ความสดใหม่” ของอะไรบางอย่างที่จะปรากฏขึ้นมา ณ ขณะนั้น เป็นการฟังที่เราอาจจะได้ “ความรู้ใหม่” ที่สังเคราะห์และกลั่นตัวผ่านเรา แล้วแวบออกมาในความคิดของเราและอาจจะเป็นการฟังที่ทำให้เราได้ยินเสียงว่า “ชีวิตต้องการให้เราทำอะไร?” ออตโต ชาร์เมอร์ จบปริญญาเอกทางด้านเศรษศาสตร์และการบริหารจัดการ เขาทำเรื่องกระบวนการเรียนรู้มากมาย และเขาพบว่าเรื่องแรกที่สำคัญที่สุดที่จะนำพาให้เราเข้าใจเรื่องราวต่างๆได้นั้น ต้องอาศัย “ทักษะการฟัง” ทั้งหมดทั้งสิ้น

นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์ Dwithan @ hotmail.com มติชน 9 มี.ค.51

(ขอบคุณข้อมูลจากอินเตอร์เนต ของคุณหมอ วิธาน ฐานะวุฑฒ์)

บังวอญ่า ... มีความสุข....ที่ได้รับความรู้ ... ได้รับใช้+ช่วยเหลือสังคม ... จริงๆๆนะคะ .... คนดีศรีสังคม .... ของหมอเปิ้น นะคะ .... ถ้าในสังคมหนึ่งๆ มีคนแบบบังวอญ่า สัก 1-2  คนในสังคมไทย.... สังคมไทยคงน่าอยู่ + เจริญ + พัฒนาเร็วขึ้น นะคะ

ขอบคุณหมอเปิ้น ที่มาให้กำลังใจ ตอนเย็นได้ไปงานเกษียนลูกจ้าง เห็นผู้เกษียณมีความสุขที่เขาจัดงานให้ ก็ปลื้อม(เหนื่อยมาหกสิบปี ขออย่างนี้สักวัน คือวันที่ได้พักผ่อน)

  • สวัสดีค่ะท่านBlankวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei
  • หวังว่าท่านคงจะสบายดีนะคะ
  • มาให้กำลังใจในการทำงานค่ะ

                                 

 

สุดยอดมากครับ...ได้ความรู้ และกำลังใจไปทำงานต่อครับ...ขอบคุณครับ

ครูทิพย์ มาตอนเช้าพร้อมฝนพรมทานตะวัน อันอบอุ่น ให้กำลังใจ

มีพลังออกไปประชุม นักข่าวพลเมืองThai PBS ในวันนี้

เพราะคนไม่ใช่เครืองจักร จึงต้องการความรักและเข้าใจ ในการทำงานคุณภาพ ทีม FA ต้องให้แตกในเรื่องนี้

ขอบคุณน้องทิมดาบ....ที่มามอบกำลังใจ

การเดินทางย่อมพบเส้นทางใหม่ การทำงานก็พบสิ่งใหม่ๆเพิ่มขึ้นเสมอ เป็นการเรียนที่ไม่รู้จบ

เล่าเรื่อง SHA โดยคนที่มีหัวใจ SHA ผลลัพธ์ออกมา ช่วยส่งความสุขให้ kunrapee มากมายค่ะ แถมได้ความรู้ใหม่เรื่อง U - Theory อีกต่างหาก ขอบคุณวอญ่าท่านผู้เฒ่ามากค่ะ เรื่องการฟังนี่.. คงต้องฝึกฟังอีกเยอะค่ะ

 

สวัสดีครับคุณ Stream ใช่เลยครับ ทำงานกับคนต้องอาศัยความเข้าใจ ความรักงานถึงมักเกิดผลดี

ครับสวัสดีครับคุณ มะเดื่อ มาเยี่ยมลุง วอ แต่เช้า แต่ลุงวอไปประชุม สภาผู้ชมของ ทีวี Thai PBS ที่สงขลาเพิ่งกลับมา

สวัสดีครับคุณระพี sha ประสบการณ์ ยิ่งแลกเปลี่ยน ยิ่งเพิ่มปัญญาและทักษะ

เพราะแต่ละโรงพยาบาลมีค่านิยม บริบท และการจัดการที่แตกต่าง

จึงต้องขอบคุณ หมอที่ได้ชวนไปคุยได้แลกเปลี่ยนเกิดปัญญา

ดีใจแทนคนรพ.กระบี่จัง ที่มีโอกาสได้ฟังคุณวอญ่า เพราะตนเองเคยได้ฟังแล้ว ชอบมาก ขอบคุณที่ได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ดี ขยายวงออกไป เพื่อพวกเราและผู้รับบริการทุกคนค่ะ

ขอบคุณ คุณ เยาวลักษณ์ นักสร้างสุข ที่มาให้กำลังใจ ชื่นชม สำหรับผม คำชื่นชม ก่อเกิดพลัง เป็นพลังภายใน ให้ขับเคลื่อนงานอย่างมีสุข

เป็นความรู้ใหม่เลยบังเหอ sha ชา อยากฟังมั้งจัง

สวัสดีน้อง พัช ดีใจจังหู ที่เห็นคน พอช. มาร่วมแจม เรื่องคุณภาพ บริการงานสาธารณสุข

ผมยังไม่ลืม ที่พบกับน้องพัชครั้งแรกประทับใจในในการจับประเด็นและสรุปเรื่องในเวที ที่หาดใหญ่ในวันประชุมเรื่องสวัสดิการ

และทึ่งในการพูดของสิทธิโชค สตูลที่ใช้ภาษากลางสำเนียงใต้

ทำให้หาญแหลงทองแดงบ้านเรา ได้ก้าวข้ามพ้นเรื่องแหลงทองแดง

ทุกวันนี้ก็ได้ ฉายาว่า"เฒ่าทองแดง แหลงใต้ พายโน๊ตบุ๊ก" จากน้องๆ

มีความสุขวัน ในการทำงานนะคะ

namsha มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านบันทึกของท่านวอญ่า

สวัสดีครับคุณ แก้ว...นักสร้างสุขเมื่อมีโอกาสแบ่งปัน แลกเปลี่ยนก็จะไม่รอช้า ในการที่จะได้แลกเปลี่ยนกัน

ซึ่งเป็นการเรียนรู้อีกทางหนึ่ง ยิ่งคนเครือข่ายเชิญชวนยิ่งต้องรีบไป

"ถือเป็นพันธะ ไม่ใช่ภาระ"

สวัสดีน้องน้ำชา... แนวคิด ขาแก่งคอยที่ได้ไปเยือนไปฟัง และแลกเปลี่ยน

ทุกครั้งที่มีโอกาสคุยเรื่อง ชา จะคุย ชาแก่งคอยไปด้วยเสมอ

ขอบคุณ ชาแก่งคอยที่ทำให้ได้มาพูดเรื่องชา

4 ปีก่อนเคยได้มีโอกาสไปดูงานและทานอาหารกลางวันที่รพ.กะบี่มาเช่นกันอยากมีโอกาสไปเที่ยวอีกจังค่ะ

สวัสดีครับคุณ อรพรรณ ...กระบี่มีที่เที่ยวมากมายทั้งทะเลและภูเขา อาหารทะเลก็อร่อย

มีโอกาสมาอีกที อย่าลืมแวะพัทลุง เมือที่สงบ

    บังเป็นคนบันทึกที่น่ารักมาก  ใส่ใจต่อทุกความเห้นเลย  คนเข้ามาตามอ่านก็จะอยากรู้ว่าที่เราให้ความเห้นไว้เจ้าของบันทึกเขาอีว่าพรือ นี่คือจิตวิทยาที่ เจ้า fb เขาทำแล้วสำเร้จเพราะคนเราอยากรู้    แต่ที่ gotoknow ต้องกลับมาเขาไม่เตือนมั้งนะ

สวัสดีน้องพัช หลบจาก กทม.แล้วม้าย เห็นน้องพัชแวะมาหามร่ กทน.แล้วบายใจ ยังมีเรื่องเล่าจากชุมชนไม่ขาดตอน แวะเข้ามาดูความเคลื่อนไหวได้หลอดเลย

ตามมาขอบคุณ คุณราเชนทร์ มิตรที่เกาะติดบันทึกลุง"วอ"

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท