หากเป็นท่าน จะทำอย่างไร เมื่อลูกชายขอไปเป็นทหารพราน


ทุกคนมีสิทธิกำหนดกำหนดตัดสินใจดำเนินชีวิต แต่ใช่ว่าการตัดสินใจจะเป็นเป็นสิทธิเด็ดขาดโดยสิ้นเชิง ยังต้องอาศัยสิทธิครอบครัว สิทธิพี่ร่วมท้องน้องร่วมแม่มาประกอบการตัดสินใจ

        ขณะที่นั่งประชุมเรื่องการปรับระดับชั้นเงินเดือนลูกจ้างอยู่ที่พัทยา  แม่บ้านภรรยาก็โทรมาแจ้งข่าวว่า ลูกชายคนสุดท้องน้องเพื่อน จะสมัครไปเป็นทหารพรานที่ยะลา  ให้รีบกลับมาทัดทานห้ามปราม ก็ได้บอกภรรยาไปว่าให้ใจเย็นๆ  เรื่องบางเรื่องการแสดงความเห็นในการตัดสินใจ  ต้องได้นั่งคุยนั่งพูด  นั่งมองหน้า หากใช้การเจรจาทางโทรศัพท์   อยากที่จะจับอารมณ์ความรู้สึกได้    

 

      ครอบครัวผู้เขียนเป็นครอบครัวง่ายๆ มีประชาธิปไตยในครัวเรือนสูง มีการสมานฉันท์ ปรองดองดี ทุกเรื่องราวที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน เราจะมีการประชุมลงมติ  อย่างที่ ตอนผู้เขียนจะไปเรียน ป.โท ก็ใช้การประชุมลงมติเสียงส่วนใหญ่ถูกล็อบบี้โดยแม่บ้าน ผู้เขียนเป็นประธานมักงดใช้สิทธิ์  งดออกเสียง

 

     เกี่ยวกับลูกชายคนนี้มีเรื่องให้แม่บ้านกังวลแคร์ต่อความสึกต่อคนข้างบ้านตั้งแต่เมื่อครั้งยังเรียนมัธยม ที่ผมมักถูกกดดันด้วยผลการเรียนของลูกชาย  ด้วยว่าคนข้างบ้านมักเอาผลงานใบเกรดของลูกมาอวดมาดูกัน แล้วโม้ข่มกัน ผมมักถูกแม่บ้านกดดันด้วยว่าไม่สนใจสอนลูกชายให้เรียนสอบได้เกรดดีๆ  

 

   จนกระทั่งเด็กทั้งสองจบ มัธยมต้น แยกย้ายกันไปเรียนต่อวิทยาลัยเทค ลูกเพื่อนบ้านไปเรียนเทคนิคนครศรีธรรมราช ลูกชายผมไปเรียนเทคนิคยะลา จบปีแรกเขาก็เอาผลสอบมาคุยกัน ลูกชายผมยังไดเกรดสองต้นๆนิดๆ แต่ลูกเขาได้ สามกว่า พอผ่านปีที่สอง เขาก็เอาผลสอบมาดูกันอีก  ลูกเขาได้เกรด สามจุดสอง ส่วนลูกผม  ผมดูเกรดเทอมแรกบวกกับเกรดเทอมสอง รวมกันแล้วทั้งปีเกือบสี่เต็ม จึงคุยทับ"ว่าลูกชายผมไปเรียน ยะลาเขาสนใจ ปีนี้ได้เกรดสามจุดแปด" จากนั้นเป็นต้นมาเขาไม่เคยพูดเรื่องเกรดการเรียนของลูกมาให้แม่บ้านผมฟังสักคำ

 

   โดนกุศโบาย รวมเกรดทั้งปี ลดการกดดันทั้งพ่อทั้งลูก  ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ในเรื่องลูกชายจะไปเป็นทหารพราน แม่บ้านรับไม่ได้ อายคนข้างบ้าน ส่งลูกให้เรียนจบ วิศวะโทรคมนาคม แต่จะไปเป็นทหารพราน รับไม่ได้ๆ  

 

    ผู้เขียนสอบสวนทวนความถามเหตุผลกลไกในความคิดเรื่องทหารพราน ก็ได้ข้อมูลคำตอบจากลูกชายว่า ทำงานเป็นออกแบบติดตั้งก๊าซ NGV ให้กับปั๊มมาทั่วในกรุงเทพก็หลายปีไม่มีความสุข  เบื่องานลาออกมาอยู่บ้าน ด้วยเหตุผลทำงานแล้วไม่เป็นสุข จึงอยากทำอะไรๆ ที่เป็นสุขเป็นประโยชน์ จึงอยากสมัครไปเป็นทหารพราน ที่คิดว่าน่าพบสุขนิรันดร์

 

    ผู้เขียนได้เปิดเวทีประชาธิปไตยครัวเรือน มีมติเอกฉันท์  หนี่งต่อสี่ไม่อนุญาติให้ไปเป็นทหารพราน  ประธานงดออกเสียง

 

    ก่อนปิดประชุมประธานให้โอวาสในการใช้ชีวิต ของแต่ละคน ในความเป็นครอบครัว ทุกคนมีสิทธิกำหนดตัดสินใจในการดำเนินชีวิต  แต่ใช่ว่าการตัดสินใจในบางเรื่องจะเป็นสิทธิเด็ดขาดโดยสิ้นเชิง เพราะยังมีสิทธิของครอบครัว  พี่ร่วมท้อง น้องร่วมแม่ อยู่ในแต่ละคนที่ต้องมาพิจจารนา หาทางออกบอกทางถูกเป็นการประกอบในการเลือกทางเดินของชีวิต ก่อนปิดประชุมประชาธิปไตยครัวเรือน

หมายเลขบันทึก: 500497เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2012 02:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม 2012 18:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (44)

เป็นกำลังใจให้เหตุผลของทุกคนในครอบครัว....ผมเชื่อว่า จะได้คำตอบที่ดีให้กับทุกคนนะครับ

Each life has one owner. Each owner owns all outcome of her/his decisions. We share side effects and duties of respect!

;-)

ผมขอชื่นชมบทความเรื่องนี้อย่างมากเลยน๊ะพี่บังซึ่งทางบ้านของผมเดี่ยวนี้เกิดปัญญาฝ่ายลูกชายหัวแก้วผมคิดว่าทางบ้านมีสองมาตราฐานเกือบทุกเรื่องเพราะลูกสาวเรียนทางฝ่ายสาธารณสุขมีงานทำแล้วมีเงินเดือนแต่ตัวลูกชายกำลังเรียนวิศวะแต่ตัวเองอยากได้สิทธฺและของใช้ทั่วไปที่เท่าเทียมกับฝ่ายพี่สาวทุกๆเรื่องทางครอบครัวต้องเรียกประชุมกันบ่อยมากๆ เพราะเดี่ยวนี้การสื่อของโทรศัพท์วัยรุ่นใช้ประโยชน์หรือโทษกันแน่ (เราใช้ไม่เป็น)มาเป็นที่ระบายพวกเราพ่อและแม่ตามไม่ทัน จึงมีพวกเพื่อนๆๆของพ่อและแม่ของพี่สาวชอบถามเราว่าบ้านเราเกิดปัญหาอะไรซึ่งพ่อกับแม่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยผมจึงชื่นชมแบบอย่างที่พีบังใช้มากครับ

สวัสดีค่ะ

ชอบเรื่องเล่าของท่านมากเลยค่ะ คิดไปถึงตัวเองด้วยเพราะตอนเด็กๆเรียนตกๆหล่นๆ เพราะเป็นเด็กสมาธิสั้น พอได้รายงานผลการเรียน จะเอาไปซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าแม่ พอแม่เห็นตอนเช้า แม่ก็จะหยิบมาใส่กระเป๋านักเรียนให้ ไม่ได้บ่นว่าอะไร แต่ชอบบอกคนนี้คนนั้นว่า... ลูกสาวคนเล็กเรียนเก่งๆ

หลังๆ ก็ตั้งใจเรียนเพราะอยากเรียนเก่งอย่างแม่ชมไว้ค่ะ

ประชาธิปไตยครัวเรือนจริงๆ

แต่น่าเห็นใจคนที่ถูกตัดสินไม่ให้ไปนะคะ..

  • ชีวิตเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคลที่เป็นเจ้าของชีวิต
  • แต่การตัดสินใจเป็นสิทธิ์ของตนเอง+คนรอบตัวที่ต้องร่วมรับผิดชอบในชีวิตนั้น.....ใช่จ้ะลุงวอ
  • นี่แหละ  คุณมะเดื่อก็เจอกับตัวเองมาแล้ว มีสิทธิ์คิด แต่ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเนาะ

สวัสดีครับ คุณ วอญ่า-ผู้เฒ่า

ผมคิดว่า ผมสงสารลูกชายคนสุดท้องน้องเพื่อนนะครับ

ทุกคนอาจคำว่าการตัดสิ้นใจควรเป็นสิทธิของครอบครัวหรือญาติ ๆ ด้วย

แต่ผมมองว่า เขาเป็นผู้ที่น่าสงสารมากนะครับ  เพราะว่าเขาเป็นคนกลางหรือตัวกลาง ระหว่าง งานที่จะไปทำ (อันเกิดขึ้นจากจิตใจที่มีความมุ่งมั่น) และครอบครัวหรือญาติ ๆ (ที่จะอนุญาตหรือไม่)  ว่าเขาควรจะเลือกสิ่งไหนดี หรือ ทางไหนดี

หลายท่านคงเคยเกิดความรู้สึกอึดอัด เมื่อต้องตัดสิ้นใจ หรือ เจอกับปัญหาที่ต้องแยกระหว่าง สามี/ภรรยา และ พ่อ/แม่ และครอบครัว ว่าจะทำอย่างไรดี 

เขาก็กำลังตกอยู่ในภาวะเช่นนั้น  ไม่สามรถบอกได้ว่าสิ่งไหนดี หรือข้างไหนดี แต่บทสรุปทุกอย่าง ก็จะเป็นสิ่งที่ลูกชายคนนี้คิดอยู่ตลอดเวลา....

เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากค่ะ เข้าใจและเห็นใจทั้งสองฝ่ายค่ะ กาลเวลาและความรักจะนำทางให้ได้คำตอบที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ค่ะ

เรียนท่าน
sr ที่ต้องร่วมตัดสินเพราะ ไปเป็นทหารพรานที่สามจังหวัดชายแดนใต้ นั้นถึงการสูยเสียสมาชิกในครอบครัวเห็นๆ

จึงต้องร่วมกันตัดสินใจ

เรื่องอย่างนี้พูดง่าย แต่ทำยากครับ หากเกิดขึ้นในครอบครัวของผม ผมก็เชื่อว่า ผมคัดค้านไม่ให้ไปเหมือนกันครับ แต่เด็กมันจะเชื่อเราหรือเปล่า สุดท้ายถ้าเป็นความสุขของเขาจริงๆ เขาก็ดิ้นรนที่จะทำให้ได้แหละครับ.....เฮ้อ

ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเหตุและปัจจัย ลองพิจารณาดูค่ะ

สวัสดี น้องทิมดาบ เหตุการณ์ สามจังหวัดชายแดนใต้ หาคนสมัครลงไปทำงานยากมาก

ยิ่งคนมีความรู้ ระดับวิศวะ ไปสมัครทหารพราน คนทั่วไปเขาจะมองว่าไม่ปกติ

หากเป็นในยามเหตการณ์ปกติคงไม่ต้องเปิดสภาครอบครัวสมัยวิสามัญ เคารพในการตัดสินใจลูกชายไปแล้ว

เรียนนายหัวตุ้ม ที่นัดกันว่าจะแวะหาวันนี้นั้น ปรากฎว่ามาประชุมที่ทุ่งสงไม่ใช่คอน

จึงไม่ได้แวะไปหาขออภัย ชุมกันเลิกสี่ทุ่มแล้ว

เรียนคุณ หยั่งราก ฝากใบ

หากไม่ใช่ อาสาไปเป็นทหารพรานที่ สามจังหวัดชายแดนใต้ ผมคงไม่คัดค้าน

แต่สถานการณ์ที่เห็นและเป็นอบู่ไม่มีพ่อแม่คนใหนทำใจได้

สวัสดีค่ะท่านBlank วอญ่า- ผู้เฒ่า  หวังว่าท่านคงจะสบายดีนะคะ

มาให้กำลังใจค่ะ ในสถานการณ์ ของคนเป็นพ่อ  ก็คงจะทำใจลำบากเหมือนกันค่ะ

ท่าน วอญ่า ได้ถามความคิดน้องไหมว่า 
เพราะอะไรจึงอยากไปเป็นทหารพราน
ทั้งที่รู้เต็มใจว่า...ไปแล้วจะเจออะไร
หัวอกคนเป็นพ่อแม่..ไม่มีทางให้ลูกไปเด็ดขาด
แต่หัวอกลูกล่ะคะ..เขาคิดอะไร..???

พ่อ-แม่-พี่-น้อง อาจช่วยให้เหตุผลต่างๆนาๆมากมาย.. แต่การตัดสินใจ ต้องยกให้เค้าเลือกเอง.. เราต้องเคารพการตัดสินใจของเค้า..

 

เรียนครูกี้ การได้พูดคุยกันในครัวเรือน หาเหตุบอกผล คนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยมีโอกาสพูดต่อหน้า

ลดกระแสร์ความอึดอัดลงได้

สวัสดี คุณมะเดื่อ ชุมชน สังคม ครอบครัว สถาบันครอบครัวถือเป็นองค์กรหลักในการที่ทำให้สังคมมีสุข

หากทุกคนในครอบครัวครัว มีกฎกติกามารยาท วัฒนธรรม

สวัสดีครับ ลูกสายลม ขอบคุณที่ให้ข้อคิดอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเรื่องครอบครัว เป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่ผูกพันธ์

ในกรณีนี้ พวกเราชาวใต้ทุกคนมีความรู้สึกว่าสมัครไปเป็นทหารพรานที่สามจังหวัดชายแดนใต้ หมาย ไปตาย ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องรอบคอบและให้เวลา ประกอบการตัดสินใจ

(เขาก็กำลังตกอยู่ในภาวะเช่นนั้น ไม่สามรถบอกได้ว่าสิ่งไหนดี หรือข้างไหนดี แต่บทสรุปทุกอย่าง ก็จะเป็นสิ่งที่ลูกชายคนนี้คิดอยู่ตลอดเวลา.)

เวลาและความรักของคนในครอบครัว จะเยี่ยวยาความรู้สึกในความคิดได้

เรียนอาจารย์ ศิลา หากไม่ใช่สาม ขังหวัดชายแดนใต้ ก็คงไม่ทัดทาน

แต่นี้มันมีลูกคนข้างบ้าน เอาศพมาเผาให้เห็นทุกเดือน แล้วหัวอกพ่อแม่แม่จะทำอย่างไร

เรียนอาจารย์
Mitochondria

เรื่องจบลงด้วยความสมประสงค์ คือลูกชายเปลี่ยนเข็มทิศมาทำเกษตร มีที่ดินอยู่สามไร่ เห็นลงไปดูแล้วบอกว่า โอเค

ทุกคนหายห่วงโล่งอก

เรียนผอ. ปิยะกุล ด้วยอานิสงส์แห่งความรักที่ถักทอ เยี่ยวยาความคิด ที่มองเห็นและอยากไปเป็นไป

แต่พอมีข้อมูลอีกชุดมาบอกมาให้เห็นความรักของครอบครัว

เรียนคุณครู ป. 1 ตอนนี้มีงานใหม่ให้ลูกชายทำแล้ว เขาอยู่ จะขอทำเกษตรอยากอยู่บ้านแล้ว

อ่านจบความเห็นทั้งหลายได้รู้ว่าพบทางออกของหนุ่มน้อยแล้ว ดีใจกับพี่บังมากๆเลยค่ะ เขาคงรับรู้ได้ว่าเสียงคัดค้านทั้งหมดมาจากความรัก ความห่วงใยของคนที่รักเขามากที่สุดในชีวิตนั่นเองนะคะ มีน้องชายของเพื่อนเป็นทหารพรานอยู่มาสองปีแล้ว เขาบอกพ่อแม่ว่า ถ้าจะตายอยู่ที่ไหนก็ตาย เขาพร้อมยอมรับสภาพ และขอให้ทุกคนที่บ้านเชื่อเหมือนที่เขาเชื่อ แต่ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ร้าย  เราแม้อยู่ห่างๆก็อดใจสั่นขวัญแขวนไปด้วยไม่ได้ เลยเข้าใจพี่บังและครอบครัวมากๆเลยค่ะ ที่ไม่สามารถจะปล่อยให้หนุ่มน้อยตัดสินใจคนเดียวได้ในเรื่องนี้

สวัสดีคุณวอหญ้า-ผู้เฒ่าครับ

ผมว่าถ้าคนใต้คิดว่าไปทำงานสามจังหวัดภาคใต้

หมาย ไปตาย ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องรอบคอบและให้เวลา ประกอบการตัดสินใจ

ผมคิดว่าคิดไม่ถูกนะครับ  ปัญหาภาคใต้ปัจจุบันถึงไม่จบไงครับ เพราะคนใต้พากันออกมา ไม่ไปทำงานที่สามจังหวัด ไม่ทำงานแต่ที่อื่น แล้วให้ภาคอื่นที่พูดใต้ไม่ได้ไปทำงาน ไหนจะวัฒนธรรม  ท่านต้องคิดคูณสองนะครับ ว่าภาคอื่นต้องเสียสละมากเลยนะครับ ที่ไม่ทำงานที่นั้น

เมื่อคิดแบบนี้ เราจะรู้มีกำลังใจและให้คนที่รักไปทำงาน ถ้ามีมากเท่าไร(คนใต้) ก็สามารถที่จะแก้ปัญหาภาคใต้นะครับ  ถ้าคนใต้ไม่ไปทำงานที่อื่นะครับ จบมาลงให้เพื่อแก้ปัญหา ไม่นานภาคใต้ของเราก็จะดีนะครับ

สุดท้าย  ผมก็ไม่ล่วงความคิดและเคารพความคิดของผู้ใหญ่นะครับ

ขอคุณครับ

สวัสดีครับคุณครูทิพย์

ขอบคุณกำลังใจ ที่มีให้ หัวอกพ่อแม่ และความรู้สึกที่ต่างกัน

แต่พอเหตการคลี่คลาย ก็เบาใจลง

ขอบคุณ คุณระพี ที่ชี้แนะ ปรึกษาหารือให้ข้อมูล สุดท้ายเขาตัดสินใจเองถูกต้องที่สุด

เรียนอาจารย์ โอ๋ ลำพังผมทำใจได้ เพราะรู้เห็นอะไรๆมามาก แล้วผมเองก็ เป็นคนคิดอะไรๆคล้ายๆลูกชาย

แต่ที่สำคัญ แม่บ้าน เพรียง ประโยคว่า สมัครทหารพราน ความดันก็พรุ่งพรวด

ที่ต้องเยียวยาก่อนคือภรรยา ไม่ใช่ลูกชาย

แต่ตอนนี้มีทางออกแล้วครับ

ขอบคุณที่กรุณามาให้ข้อคิด

เรื่องครอบครัว ไม่มีสูตรสำเร็จ อยู่ที่จะประคับประคองรอมชอม เพื่อให้ทุกคนอยู่กันอย่างมีสุข

เป็นกำลังใจเมื่อเริ่มต้น คอยช่วยเหลือเมื่อลงมือ และให้อภัยเมื่อผิดพลาด...ครับ!..

เรียนคุณ ลูกสายลม ขอบคุณสำหรับ ข้อคิด สะกิด ในข้อความนี้(ผมคิดว่าคิดไม่ถูกนะครับ ปัญหาภาคใต้ปัจจุบันถึงไม่จบไงครับ เพราะคนใต้พากันออกมา ไม่ไปทำงานที่สามจังหวัด ไม่ทำงานแต่ที่อื่น แล้วให้ภาคอื่นที่พูดใต้ไม่ได้ไปทำงาน ไหนจะวัฒนธรรม ท่านต้องคิดคูณสองนะครับ ว่าภาคอื่นต้องเสียสละมากเลยนะครับ ที่ไม่ทำงานที่นั้น

เมื่อคิดแบบนี้ เราจะรู้มีกำลังใจและให้คนที่รักไปทำงาน ถ้ามีมากเท่าไร(คนใต้) ก็สามารถที่จะแก้ปัญหาภาคใต้นะครับ ถ้าคนใต้ไม่ไปทำงานที่อื่นะครับ จบมาลงให้เพื่อแก้ปัญหา ไม่นานภาคใต้ของเราก็จะดีนะครับ

สุดท้าย ผมก็ไม่ล่วงความคิดและเคารพความคิดของผู้ใหญ่นะครับ)

ขอบคุณอีกครั้ง

เป็นกำลังใจเมื่อเริ่มต้น คอยช่วยเหลือเมื่อลงมือ และให้อภัยเมื่อผิดพลาด

ขอบคุณ ครูอนันต์ที่ มาบอกเล่าชวนคิด

ขณะที่นั่งประชุมเรื่องการปรับระดับชั้นเงินเดือนลูกจ้างอยู่ที่พัทยา แม่บ้านภรรยาก็โทรมาแจ้งข่าวว่า ลูกชายคนสุดท้องน้องเพื่อน จะสมัครไปเป็นทหารพรานที่ยะลา ให้รีบกลับมาทัดทานห้ามปราม ก็ได้บอกภรรยาไปว่าให้ใจเย็นๆ เรื่องบางเรื่องการแสดงความเห็นในการตัดสินใจ ต้องได้นั่งคุยนั่งพูด นั่งมองหน้า หากใช้การเจรจาทางโทรศัพท์ อยากที่จะจับอารมณ์ความรู้สึกได้

ถ้าจะตายอยู่ที่ไหนก็ตาย เขาพร้อมยอมรับสภาพ และขอให้ทุกคนที่บ้านเชื่อเหมือนที่เขาเชื่อ แต่ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ร้าย เราแม้อยู่ห่างๆก็อดใจสั่นขวัญแขวนไปด้วยไม่ได้ เลยเข้าใจพี่บังและครอบครัวมากๆเลยค่ะ ที่ไม่สามารถจะปล่อยให้หนุ่มน้อยตัดสินใจคนเดียวได้ในเรื่องนี้

หากไม่ใช่ อาสาไปเป็นทหารพรานที่ สามจังหวัดชายแดนใต้ ผมคงไม่คัดค้าน

แต่สถานการณ์ที่เห็นและเป็นอบู่ไม่มีพ่อแม่คนใหนทำใจได้

เรื่องจบลงด้วยความสมประสงค์ คือลูกชายเปลี่ยนเข็มทิศมาทำเกษตร มีที่ดินอยู่สามไร่ เห็นลงไปดูแล้วบอกว่า โอเค

ทุกคนหายห่วงโล่งอก

สวัสดี คุณลุงวอญ่า

เข้าใจคะ สำหรับความรู้สึก ของคนที่ไม่ใช่คนในพื้นที่

แม้พวกเราเป็นคนในพื้นที่ ไม่เคยมีความมั่นใจในความปลอดภัย

ถ้ามีโอกาสเลือก ด้วยความเป็นมนุษย์ เราต้องเลือกสิ่งที่เรา คิดว่าดีที่สุดคะ สำหรับเรา

สวัสดีครับคุณ Stream

วันนี้นั่งฟังหมอ โกมาตร จึงเสถียรรัตน์ เสวนาที่ ศูนย์ประชุมนานาชาติมอ. นั่งไกล้ท่านหนึ่งเขาซักถาม (คงเห็นความไม่เหมือนเพื่อนของเรา) ก็คุยท่านเป็นหัวหน้าแผนกสูฯ รพ ธารโต ท่านถูกใจที่ได้คุย ไปเรียกรุ่นน้องมาคุยต่อ จากสองเป็นสาม ได้ความว่าคนที่สามเป็นหมอฟันทันต์แพทย์

ก็คุยกันขายความคิด หมอฟันโดนใจอยากชวนไปทำเวทีที่ธารโต ถามว่ากล้ามั้ย ผมตอบว่ากล้า ...

แต่ให้สมัครไปเหมือนลูกชาย คงไม่กล้า

ด้วยความสัตย์

ขอบคุณที่เข้าใจ แม่บ้านความดันขึ้น แต่ตอนนี้ลดงปกติแล้ว

ชอบประโยคนี้จังเลยค่ะ "ใช่ว่าการตัดสินใจในบางเรื่องจะเป็นสิทธิเด็ดขาดโดยสิ้นเชิง เพราะยังมีสิทธิของครอบครัว พี่ร่วมท้อง น้องร่วมแม่ อยู่ในแต่ละคนที่ต้องมาพิจจารนา หาทางออกบอกทางถูกเป็นการประกอบในการเลือกทางเดินของชีวิต"

จะจดจำนำไปใช้ในครอบครัวบ้างค่ะท่านลุง

สวัสดี น้องน้ำชา วันนี้แฮบปี้แล้ว เพราะลูกชายขอทำสวน

เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ ปลูกปาล์ม เลี้ยงปลา ลงทุนให้อยู่บ้าน

สบายใจกว่าไปเป็นทหารพรานแล้ว

น้ำตาจะไหล...ยากจะบรรยายเลยท่านวอญ่า...

เวลาทหารหาญ..ศพแล้วศพเล่าสังเวย..ไม่รู้จะพูดจะเอ่ยว่าอย่างไร...

สวัสดีครับครู อ้อยเล็ก ...ขอบคุณที่แวะมาบันทึกนี้ แรกๆก็ยากที่จะใจ ในการพูดคุย แต่เมื่อคนในครอบครัวช่วยกันพูด ทำความเข้าใจ สิ่งที่วิตกกังวลก็คลี่คลายเมื่อลูกชายเปลี่ยมเข็มทิศ

สวัสดีครับ  Nursing Administration

เข้าชมตามคำเชิญแล้วครับ

ผมก็เป็นอีกคนที่มีเนื้อหาเหมือนกับนิทานข้างบนสุดท้ายของเรื่องพ่อแม่ผมก็เข้าใจถึงความคิดที่ผมตัดสินใจและอณุญาตให้ไปทำงานที่ใต้ถึงแม้เงินและค่าเสี่ยงภัยอาจไม่คุ้มค่าที่ทำงานแต่อาจทำให้ผมมีความสุขยิ่งกว่าการทำงานเพื่อหวังผลประโยชน์ในการทำงานของบริษัทที่ผมเคยทำมา ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่การมีเงินแต่เป็นการที่คุณทำอะไรเพื่อส่วนรวมหรือยังนี้ยิ่งสุขกว่า บางคนคิดว่าผมบ้าแต่ผมคิดว่าไม่บ้ายิ่งทำก็ยิ่งมีความสุข ลองทำแล้วจะรู้ว่าสุขที่แท้เป็นไงอย่าปล่อยเวลาผ่านไปวันๆไปให้ถึงที่คิดที่ฝันเอาไว้ โชคดีครับ

เป็นลูกคนเดียวของที่บ้านค่ะ เป็นผู้หญิงด้วย เคยคิดที่จะไปสมัครทหารพราน ตัวหนูเองจบการศึกษาระดับปริญญาตรี แต่ทางบ้านคัดค้านเรื่องนี้มาก โดนด่าเละเลยค่ะ เป็นอาสาทหารพรานมันไม่ดีตรงไหนค่ะ นี้คือข้อสงสัยค่ะ

เรียนคุณนกน้อยทำรัง

ประเด็นการอาสาเป็นทหารพรานไม่ใช่ไม่ดี

แต่ประเด็นอยู่ที่สถานการณ์ ชายแดนภาคใต้ คุกรุ่น คนเป็นพ่อแม่ ย่อมต้องเป็นห่วง ในความปลอดภัย

ซึ่งนำมาซึ่งความไม่สบายใจของคนในครอบครัว

ที่ต้องกังวลห่วง

ซึ่งหากมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า ปลอดภัยกว่า เชื่อว่า พ่อแม่ต้องเลือกในเรื่องความปลอดภัยเป็นเบื้องต้น

ขอบคุณ ที่เข้ามาแชร์ความคิด


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท