ผู้ค้ำประกันมืออาชีพ


หากท่านจำเป็นต้องใช้บริการนักกฎหมายหรือทนายความ ให้ใช้ในแนวทางป้องกัน จึงจะเป็นการใช้ที่ถูกต้อง

ผู้ค้ำประกันมืออาชีพ

ก่อนอื่นขอสวัสดีทักทายชาว G2K ทุกท่านที่ติดตามอ่านบทความการรู้เรียนกฎหมายของผมมาโดยตลอดผมจากไปนานคิดถึงทุกท่านมาก ผมต้องกราบขออภัยที่ขาดหายไปนานไม่ได้เข้ามาเขียน บล็อก เป็นเวลานานปี เพราะมีภารกิจจำเป็นที่มิอาจก้าวล่วงได้  นอกจากนี้ก็ขออภัยทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นและสอบถามในท้ายบันทึกเดิมในหลายๆบันทึกแล้วผมไม่ได้ตอบความเห็นนั้นไว้ ณ.โอกาสนี้ด้วยครับ

          ผมติดค้างเรื่อง “การค้ำประกัน” ไว้นานแล้วยังไม่เขียนบทความให้ได้อ่านกัน กลับมาคราวนี้เลยได้ขอนำเอาเรื่องนี้มาเป็นกำนัล

มาเข้าเรื่องกันเลยครับ

          เรื่องที่จะเล่านี้มีอยู่ สองกรณี ขออนุญาตแบ่งเป็นสองบทความนะครับ

กรณีแรก       เป็นเรื่อง ของลูกหนี้ สถาบันการเงิน แห่งหนึ่ง ตัวลูกหนี้เป็นบริษัท มีอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง มีการประมูลงานของทางราชการบ่อยๆ ตั้งแต่ วงเงินไม่กี่ล้าน ไปจนถึง วงเงินหลายร้อยล้าน ตัวประธานกรรมการของบริษัท มีฐานะพอควร รู้จักกับผมมานานปีแล้ว ก็เพราะเหตุนี้ผมถึงได้เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้กับ บริษัท นี้  ขณะที่ผมรับเป็นที่ปรึกษา ผมต้องทำคดีให้หลายคดี เป็นทั้งฝ่ายโจทก์ ฝ่ายจำเลย จนผมต้องเสนอความคิดให้จัดตั้งแผนกกฎหมาย จัดจ้างทนายความประจำไว้เพราะมีคดีมากเกินจำเป็นแต่ที่สำคัญคือ บริษัท ต้องแพ้คดีเป็นส่วนใหญ่  ในแนวคิดของผมคือ บริษัทไม่สมควรที่จะต้องแพ้คดีความโดยไม่มีเหตุอันควร ไม่ว่าจะเป็นโจทก์หรือจำเลยก็ตาม ก็ท่านประธานยอมเสียเงินจ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวให้ผมแล้ว หากปล่อยให้แพ้คดีความบ่อยๆ เดี๋ยวผมก็อดได้ค่าก๋วยเตี๋ยวไว้เลี้ยงน้องๆนะซี ฮิ.ฮิ.

เมื่อคิดได้ดังนี้ ผมก็เสนอว่าในทุกครั้งที่ บริษัททำสัญญากับบุคคลใดก็ตาม ต้องให้ผมเข้าร่วมประชุมรับทราบและวางแนวทางปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายให้เพื่อป้องกันความเสียหายเพราะไม่ได้ทำตามขั้นตอนของกฎหมาย 

เริ่มง่วงยังครับ น่าเห็นใจ....น่าเห็นใจ......ครับแต่ละท่านเริ่มมีอายุกันแล้ว(ยกเว้นผม) ฮา.ฮา....

พักสายตาก่อนนะครับ

 

 

หายง่วงยังครับ 

กลับเข้าที่ประชุมกันเลยครับ

ที่ประชุมมีวาระต้องพิจารณาเรื่องที่บริษัท ไปประมูล ได้งานก่อสร้างของทางราชการมางานหนึ่ง ขอที่ประชุมพิจารณาการขอหนังสือค้ำประกันวงเงิน 20,000,000.-บาท ของ สถาบันการเงิน เพื่อนำไปวางค้ำประกันสัญญาจ้างตามระเบียบของทางราชการ ความเห็นที่ประชุมบ้างก็ให้จัดหาหลักทรัพย์ไปจดจำนอง บ้างก็ให้ขอเพิ่มวงเงินจำนองจากหลักทรัพย์เดิมที่ใช้วงเงินอยู่กับสถาบันการเงิน แต่ปัญหาคือ ต้องมีหนังสือค้ำประกันของสถาบันการเงินไปวางกับทางราชการให้ทันกำหนดการลงนามในสัญญา หากไม่เช่นนั้น จะถูกริบเงินประกันซองประมูลและไม่ได้งาน ซึ่งเหลือเวลาไม่เกิน 7 วัน ส่วนผมเมื่อเข้าประชุมแล้วก็ ขอยกมือสูงๆ เพื่อแสดงความเห็นกับเขาบ้างให้สมกับเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ฮิ.ฮิ....

ความเห็นของผม เสนอว่า ไม่สมควรเอาหลักทรัพย์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ (ที่ดินหรือบ้านพร้อมที่ดิน) เดิมหรือที่จัดหามาใหม่ เข้าไปผูกพันกับ ภาระหนี้หรือวงเงินเดิม ควรขอเป็นวงเงินใหม่ ไม่เช่นนั้น สถาบันการเงินจะจับมัดรวมกับภาระหนี้ที่ บริษัท มีอยู่เดิมจนแยกกันไม่ออก

กรรมการถามผมว่า แล้วจะทำอย่างไร ในเมื่อทุกครั้งที่ขอวงเงินเพิ่ม ก็ต้องลงชื่อค้ำประกันเพิ่มและในสัญญาจะระบุว่า ต้องรับภาระหนี้สินที่มีอยู่เดิม(ใครทำไว้ก็ไม่รู้) หรือมีอยู่ในปัจจุบัน(อันนี้น่าจะทำเองถ้าไม่งง ฮิ.ฮิ..)  รวมถึงหนี้ในอนาคตด้วย (ถ้ายังไม่ตาย ฮา.ฮา....)

ผมเลย ถามท่านประธานว่า ท่านมีเงินเก่าๆที่ฝากเก็บไว้และไม่ได้นำมาใช้เว้นแต่ดอกเบี้ย (จนท่านลืมไปแล้วว่าเป็นเงินของใคร ฮา.ฮา...) สัก 20 ล้านเปล่าครับ ถ้ามี ผมขอครับ ท่านประธาน งง.....ฮา....ฮา....

ท่านประธานหลังจากหาย งง....ท่านบอกว่า......เองเป็นใครวะ...ขอที 20 ล้าน สวยก็ไม่สวย หล่ออย่างเดียว....ฮา.ฮา......

ผมเสนอให้ทำดังนี้ครับ ทำหนังสือถึง สถาบันการเงิน แจ้งขอนำเงินมาฝากประจำไว้ 20 ล้าน แล้วจะขอจำนำสมุดคู่ฝากไว้เป็นประกัน แลกกับหนังสือค้ำประกันที่ สถาบันการเงินออกให้เพื่อนำไปวางค้ำประกันสัญญาที่เราประมูลงานได้ โดยในหนังสือเราต้องแจ้งให้ชัดว่า ขอฝากเงิน 20 ล้าน ค้ำประกันเฉพาะเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวไม่ขอผูกพันภาระหนี้อื่นที่ บริษัท มีอยู่เดิมหรือจะมีขึ้นในอนาคต โดย ยินยอมเสียค่าธรรมเนียมเป็นเงินสดต่างหาก เมื่อเสร็จงานและส่งคืนหนังสือค้ำประกันที่สถาบันการเงินออกให้แล้ว จะขอถอนคืนเงินฝาก 20 ล้านทันที

ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการ จึงมอบหมายให้ ท่านประธานไปดำเนินการด้วยตนเอง (ไม่มอบหมายได้งัย ฮิ.ฮิ....เงินของท่านประธาน ฮา.ฮา...)

อ้าว!....เห็นผู้สูงวัยกำลังจะหลับ พักก่อนนะ.....ฮา.....ฮา......

 

หายง่วงแล้วนะครับ มาต่อกันเลย

หลังจากรับหลักการ ก็ติดต่อสถาบันการเงิน ทันที ผมร่างหนังสือให้ตามหลักการที่เสนอไป พอถึงตอนที่ท่านประธานจะต้องลงนามในสัญญาค้ำประกันพร้อมกับสัญญาจำนำสมุดคู่ฝาก ปรากฏว่ามีข้อความในสัญญาทั้งสองฉบับเป็นประมาณว่า“ลูกหนี้/ผู้ค้ำประกัน ต้องรับผิดในภาระหนี้ทั้งเมื่อในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต”  พอท่านประธานอ่านแล้วไม่ตรงกับที่ผมแจ้งมาในหนังสือนำ ท่านก็ถามผมว่าจะทำไงผมยืนยันให้ท่านลงนามไม่ต้องคิดมากเอาไว้เสร็จงานแล้วรับรองถอนเงินคืนได้แน่ หากแพ้คดีไม่ต้องจ่ายค่าก๋วยเตี๋ยว ฮิ.ฮิ....

เหตุที่ผมยืนยันให้ทำสัญญาทั้งสองฉบับเพราะมันเป็นสัญญาสำเร็จรูป ไม่เคยมีลูกค้าของสถาบันการเงินท่านใดที่มาทำนิติกรรมได้ร่างขึ้นใหม่ และก็ไม่มีสถาบันการเงินใดยอมแก้ไขแน่นอน แต่ผมมั่นใจและกล้ารับรองว่าวิธีการของผม สถาบันการเงินไม่อาจยกข้อนี้มาต่อสู้ได้แน่ เพราะหนังสือนำที่ส่งมาระบุไว้ชัดว่า ให้ยึดถือหนังสือนำเป็นสาระสำคัญของการขอออกหนังสือค้ำประกัน

ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ สาม ปี เศษ บริษัทได้รับคืนสัญญาค้ำประกันจากทางราชการตามสัญญา ก็นำส่งคืนต่อให้ สถาบันการเงิน และขอถอนเงินฝาก 20 ล้าน สถาบันการเงินก็ไม่ได้ขัดข้อง ท่านประธานถอนเงินฝากจำนวนดังกล่าวได้

เอะ....หลายท่านอาจสงสัยว่า ก็ไม่เห็นมีอะไรเป็นกรณีศึกษา มีครับไม่ต้องสงสัย ถ้าไม่มีเดี๋ยวจะว่า ชาวฝนแปดแดดสี่ ไม่หล่อ ฮิ.ฮิ...

คือกรณีมีอย่างนี้ครับ ภายหลังจากที่ผมชี้แนะวิธีการนี้ไปแล้ว บริษัท ก็ได้ประมูลงานอื่นๆและได้ทำสัญญากันอีกหลายงาน ทุกงานก็ต้องมีการนำสัญญาค้ำประกันของสถาบันการเงินไปวางทุกงาน ก็ใช้หลักการเดียวกันนี้แหละ แต่มีอยู่งานหนึ่ง ที่เป็นปัญหา วงเงิน 55 ล้าน คือช่วงปี 2542 บริษัทมีปัญหาค้างชำระดอกเบี้ยและเงินต้นกับสถาบันการเงิน ในบัญชีประเภทเบิกเงินเกินบัญชี กับตั๋วสัญญาใช้เงิน อยู่ประมาณ 80 ล้าน เมื่อ บริษัทได้ส่งคืนสัญญาค้ำประกันให้สถาบันการเงินไปแล้ว ท่านประธานก็ขอถอนเงินฝากตามที่เคยทำมาแล้วในหลายๆครั้ง แต่ครั้งนี้ปรากฏว่า สถาบันการเงินขัดข้อง แจ้งว่า ต้องให้บริษัท ชำระหนี้ส่วนที่ค้างให้เสร็จสิ้นเสียก่อนจึงจะเบิกถอนเงินจำนวนนี้ได้ เพราะสัญญาค้ำประกันระบุว่ายินยอมรับภาระหนี้อื่นที่มีอยู่เดิม หรือหนี้ปัจจุบัน หรือหนี้ในอนาคต เอาไว้ด้วย พร้อมนำเอาสัญญามาให้ดู (ก็สัญญาที่มีข้อความเดียวกับฉบับ 20 ล้านนั้นหละครับ) กรณีนี้ก็ต้องไปศาลซิครับ

ก่อนไปศาลอนุญาตให้ผู้สูงวัยพักอีกครั้งครับ....ฮิ.ฮิ...

พักกันแล้วเราไปศาลกันครับ

คดีนี้..... ท่านประธาน  เป็นโจทก์ครับ เพราะเป็นเจ้าของเงินฝาก   ส่วนสถาบันการเงิน แน่นอนครับ เป็น จำเลย ซิครับ รับฝากเงินลูกค้าแล้ว เวลาขอถอนไม่ให้ก็ต้องเป็นจำเลยเสียบ้าง...ปกติแล้วสถาบันการเงินชอบเอาลูกค้ามาเป็นจำเลย...งานนี้กลับกันตกเป็นจำเลยเสียงานหนึ่ง จะได้เข้าใจหัวอกคนเป็นจำเลยเสียบ้าง...ฮา.ฮา....

ในชั้นศาล

ฝ่ายโจทก์นำสืบว่าก่อนทำสัญญาจำนำสมุดคู่ฝากและทำสัญญาค้ำประกันไว้กับจำเลย โจทก์ได้มีหนังสือนำแจ้งกับ จำเลยขอให้ออกหนังสือสัญญาค้ำประกันเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสัญญารับเหมาก่อสร้างที่บริษัททำกับทางราชการและโจทก์ยินยอมเป็นผู้ค้ำประกันให้กับบริษัทเกี่ยวกับธุรกรรมครั้งนี้เองและขอเสียค่าธรรมเนียมเป็นเงินสดของโจทก์เอง ทั้งขอใช้เงินสดเต็มจำนวนวงเงินตามสัญญาค้ำประกัน ซึ่งจะขอฝากประจำไว้กับจำเลยเป็นหลักทรัพย์ และจะไม่ขอถอนคืนเงินที่ฝากจนกว่าจะได้ส่งมอบ สัญญาค้ำประกันที่จำเลยออกให้คืนกับจำเลยแล้วเสร็จ นอกจากนี้โจทก์ยังนำสืบให้ศาลเห็นว่า ระหว่างโจทก์กับจำเลย ได้ทำธุรกรรมในลักษณะนี้มาแล้วถึง 15 ครั้งเป็นกรณีๆไป และทั้ง 15 ครั้ง ก็มีการถอนเงินปิดบัญชีไปทุกครั้งเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการส่งมอบสัญญาค้ำประกันคืน ก็มีครั้งนี้หละที่จำเลยฝันไปว่าเงินจำนวนนี้เป็นของจำเลยไม่ต้องคืน.....ฮา.ฮา.....

ฝ่ายจำเลย นำสืบว่าได้ทำสัญญาลักษณะนี้มาหลายครั้งจริง แต่ทุกครั้งที่ให้โจทก์ถอนเงินฝากคืนไป เพราะบริษัท ของโจทก์ ที่โจทก์เป็นประธานกรรมการอยู่ไม่ได้ติดค้างดอกเบี้ยและติดค้างเงินกู้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่ครบกำหนดแล้วจำนวนมากถึง 80 ล้านบาท และในสัญญาจำนำสมุดคู่ฝากกับสัญญาค้ำประกันที่โจทก์ทำไว้คราวจำนำสมุดคู่ฝากก็มีข้อความระบุไว้ชัดว่า “ผู้ค้ำประกันยินยอมเข้าค้ำประกันหนี้สินทุกชนิดบรรดามีที่ บริษัท...........จำกัดได้เป็นหนี้ต่อธนาคารอยู่แล้วก่อนวันทำสัญญานี้ และ/หรือเป็นหนี้อยู่ในขณะทำสัญญานี้และรวมทั้งหนี้สินที่ลูกหนี้จะได้เป็นหนี้ต่อธนาคาร หลังจากวันทำสัญญานี้เป็นต้นไป...”

เห็นข้อต่อสู้ของจำเลยยังครับ โจทก์นั่งฟังการนำสืบอยู่ถึงกับหนาวเลย...หันมาบอกผมว่าอย่าลืมนะ หากศาลบอกถอนเงินไม่ได้คุณต้องคืนค่าก๋วยเตี๋ยวผมนะ....ฮา.ฮา.....

สืบพยานกันเสร็จก็ถึงกำหนดนัดฟังคำพิพากษา

ผลหรือครับ.....ฮิ.ฮิ....

ผมไม่ต้องคืนค่าก๋วยเตี๋ยวแถมได้เพิ่ม....ฮา.ฮา......

เพราะทุกศาลพิพากษาตรงกันมีโดยสรุปว่า

“ โจทก์ขอให้จำเลยออกหนังสือสัญญาค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาก่อสร้างเป็นการเฉพาะรายเท่านั้น มิได้มีเจตนาที่ ค้ำประกันหนี้สินอย่างอื่นของ บริษัท......จำกัด ที่มีต่อจำเลย แต่อย่างใด เห็นว่าผู้จัดการธนาคารจำเลยขณะที่มีการ ทำสัญญา ย่อมรู้ถึงเจตนาของคู่สัญญาได้เป็นอย่างดี เมื่อได้พิเคราะห์ถึงแบบหนังสือสัญญาค้ำประกันดังกล่าว เป็นแบบฟอร์มของสัญญาสำเร็จรูปที่จำเลยทำขึ้นเพื่อใช้เป็นหนังสือค้ำประกันได้ทุกประเภท ข้อความในสัญญามีลักษณะเขียนครอบคลุมให้ลูกหนี้ต้องรับผิดในภาระหนี้ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งอาจไม่ตรงกับเจตนาของคู่สัญญา แต่เนื่องจากเป็นสัญญาสำเร็จรูป ลูกค้าที่มาทำนิติกรรมกับธนาคารก็จำต้องยอม ลงชื่อในสัญญาดังกล่าว นอกจากนี้การที่จำเลยออกหนังสือค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาให้แก่ บริษัท...จำกัด ในแต่ละครั้ง จำเลยจะให้โจทก์ทำสัญญาค้ำประกันควบคู่ไปกับสัญญาค้ำประกันที่จำเลยออกให้ทุกครั้งไป แสดงให้เห็นเจตนาของคู่สัญญาว่าประสงค์ค้ำประกันหนี้เฉพาะรายเท่านั้น อีกทั้ง บริษัท...จำกัด ขณะที่ทำสัญญากู้เงินและสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีกับจำเลยนั้น  จำเลยได้ให้ บริษัท...จำกัด จำนองที่ดิน ที่มีราคาประเมินมากกว่าวงเงินที่ขอกู้ตามสัญญา เป็นประกันอีกทั้งให้กรรมการผู้จัดการของ บริษัท....จำกัด เข้าทำสัญญาค้ำประกันไว้ต่างหาก เห็นว่าถ้าจำเลยมีเจตนา จะให้โจทก์ต้องร่วมรับผิดในหนี้ดังกล่าวของบริษัท....จำกัด จำเลยก็น่าจะให้โจทก์เข้ามาทำ สัญญาค้ำประกันเป็นการเฉพาะเจาะจง ดังที่เคยให้โจทก์ทำสัญญาค้ำประกันการที่จำเลยออกหนังสือค้ำประกันให้ บริษัท....จำกัด เพื่อแลกกันในแต่ละครั้ง   พิพากษาให้จำเลยคืนเงินฝาก 55,000,000.-บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับแต่วันฟ้องให้โจทก์”

พักอีกทีนะครับมีอายุกันแล้วอย่าฝืนเดี๋ยวจะแก่ไว.ฮา.ฮา....

 

คราวนี้มาดูข้อกฎหมายกัน

ข้อกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ผมนำมาฟ้องคดีมีดังนี้ครับ

มาตรา 420 

ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ   ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี  เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี  ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น

มาตรา 657

อันว่าฝากทรัพย์นั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้ฝากส่งมอบทรัพย์สินให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง  เรียกว่าผู้รับฝากและผู้รับฝากตกลงว่าจะเก็บรักษาทรัพย์สินนั้นไว้ในอารักขาแห่งตน แล้วจะคืนให้

มาตรา 680

อันว่าค้ำประกันนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลภายนอกคนหนึ่งเรียกว่าผู้ค้ำประกันผูกพันตนต่อเจ้าหนี้คนหนึ่ง เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น

          อนึ่ง สัญญาค้ำประกันนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ ท่านว่าจะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่

เห็นยังครับอย่างนี้ถึงจะเรียกว่า  “ ผู้ค้ำประกันมืออาชีพ ”

เมื่ออ่านจบแล้วท่านไม่ต้องไปนั่งคิดว่าจะใช้วิธีการที่ผมนำมาเป็นกรณีศึกษานี้ไปปฏิบัติบ้าง หากต้องไปค้ำประกันให้ใคร ก็อย่ามั่นใจว่าจะต้องชนะทุกคดีนะครับ เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้วมีรายละเอียดอื่นอีกมากที่ศาลนำมาประกอบการวินิจฉัย อย่างเช่น วิธีปฏิบัติระหว่างคู่สัญญา สภาพของธุรกรรมที่ทำมาแต่เดิม ส่วนภาระหนี้ที่มีอยู่เดิมนั้นศาลไม่ได้พิพากษาว่า จำเลยไม่อาจฟ้องลูกหนี้ได้ ขอบอกว่าหลังจากคดีนี้แล้ว บริษัทก็ได้รับหมายศาลตกเป็นจำเลยเช่นกัน

ที่ยกเอาเรื่องนี้มาเล่าเพื่อให้แนวคิดว่า หากท่านจำเป็นต้องใช้บริการนักกฎหมายหรือทนายความ ให้ใช้ในแนวทางป้องกันจึงจะเป็นการใช้ที่ถูกต้อง อย่างเช่นกรณีที่เล่ามานี้ในตอนแรก บริษัท ก็ใช้ผมในแนวทางแก้ไข คือมีปัญหาแล้วก็ส่งคดีมาให้ทำ ต่อมาผมเสนอแนวทางป้องกันให้ประธานบริษัท ทราบ จึงได้ใช้ผมในแนวทางป้องกันแทน ทำให้บริษัท สามารถลดมูลค่าความเสียหายได้ปีละหลายล้าน

เป็นอันจบครับสำหรับกรณีแรก

ติดตาม ผู้ค้ำประกันมืออาชีพ กรณีที่สองในบทความคราวหน้าครับ เป็นเรื่องที่ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นความรับผิด ผู้ค้ำประกันรายต่อไปทำอย่างไรต้องตามไปดูครับ

คนเขียนรูปหล่อ คนรออ่านน่ารัก

ขอบพระคุณครับที่อดทนอ่าน......ฮิ.ฮิ........

หมายเลขบันทึก: 494240เขียนเมื่อ 10 กรกฎาคม 2012 01:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กรกฎาคม 2012 02:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

ไม่อ่านที แขบไปทำฮาน แต่มา ใฮ้ดอกไม้แบบจองไว้ก่อน

คิดถึงระโห๊ะนิ

สวัสดีคุณทนายแปดขา

ว้าว ๆ คุณครูทนายหายไปนานมากๆ ลูกศิษย์ก็หายขึ้นฟ้าเข้ากลีบเมฆ ไปเช่นกันค่ะ ฮา

อ่านไปอมยิ้ม อ่านไปขำไป โดยเฉพาะก่อนช่วงพักเบรค 5 5 5 ว้าว ภาพงามๆ เหมือนเดิมค่ะ

ไม่แน่ใจว่ามีกรณีศึกษา เรื่องผู้ค้ำประกันความรัก ไหมคะ ดีใจที่ได้อ่านบันทึก ขอบคุณค่ะ

หวัดดีครับท่าน Blank วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

บายดีนะครับ รูปนี้หล่อหร่อยแรง

ทำฮานแล้ว แขบๆมาฮานนะ

คิดถึงระโห๊เหมือน......ฮา.ฮา....

สวัสดีครับ คุณBlank ปูดำอันดามัม

คุณปูสบายดีนะครับ คิดถึงจัง

เดี๋ยวนี้ถ่ายภายได้อย่างมืออาชีพแล้วนะครับ ภาพในบล็อกของคุณปูสวยมาก

แสดงว่าคนอยู่หลังกล้องสวยขึ้น....ฮา.ฮา....

ฮิ.ฮิ....เรื่องผู้ค้ำประกันความรักมีครับ....

แต่จะค้ำประกันให้เฉพาะคนสวยและไม่สูงวัย

มิอาจนำมาเป็นกรณีศึกษาได้...เกรงคนที่บ้านนะ

เพราะยังไม่ขาดอายุความ.......ฮา.ฮา....

ขออนุญาตเรียกคุณปูในชื่อเดิมนะครับ ตัวดำๆน่ารักออก.ฮิ.ฮิ....

  • ได้ความรู้ คู่ความบันเทิง
  • น่าเพิ่มอาชีพใหม่ที่เหมาะเหม็ง คือ เขียนบทละครหรือบทภาพยนต์อีกซักหนึ่งอย่าง..จะดีไม่น้อยเลย.. 5555

ข้อกฎหมายต่าง ๆ สำหรับคนทั่วไปคิดว่า มันยุ่งยาก วกวน แต่หากตั้งใจอ่านจากผู้มีความสามารถกลั่นกรอง ย่อยเรื่องยากให้อ่านเข้าใจง่ายแล้ว นานวันสิ่งที่ว่ายากก็จะง่ายขึ้นครับ

ขอบคุณครับสำหรับความรู้นี้ พรุ่งนี้ผมกำลังจะไป "ค้ำประกัน" ให้เพื่อนพอดี เกรงข้อผิดพลาดจะเกิดขึ้นเหมือนกันครับ แต่ใจมันบอกว่า วัดใจกันดู ถ้ามีอะไรที่เสียหายเกิดขึ้น ก็จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายสำหรับเขา

สวัสดีครับคุณ Blankสามสัก(samsuk)

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ผมมีเป้าหมาย (เอาไว้พุ่งชนนะ....แต่ไม่มีตังค์ไปซื้อของเมา...ฮิ.ฮิ...)

ต้องการจะให้ทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านบันทึกได้รู้เรียนกฎหมายบ้างโดยไม่เบื่อ

เลยต้องหาวิธีการเขียนบันทึกไม่เน้นข้อกฎหมายมากนัก

สิ่งที่นำมาเขียนก็อาศัยจากข้อเท็จจริงที่ได้ผ่านเข้ามาในอาชีพที่ทำเท่านั้น

ความสามารถไม่ถึงที่จะเขียนบทละครให้ นางเอก-พระเอกมีปัญญานุ่มนวนได้

พูดถึงบทละครของไทยแล้ว นึกสมเพชตัวเองที่ต้องทนดู

ไม่ทราบว่าทำไมต้องทำให้ นางเอก-พระเอก มีปัญญานุ่มนวน ถึงเพียงนั้น

คนไทยที่เป็นนักการ........(เติมเอาเองนะ)ดูแล้วมันฝังลงในจิตใต้สำนึกว่า

ทำดีเห็นผลช้า เลยทำชั่วมันเสียเลย

มีละครกี่เรื่องนะที่คนไทย จดจำตอนจบ นางเอก-พระเอก เป็นอย่างไร

นอกจากได้เสียเป็นผัวเมียกัน.....แต่กลับจำตัวร้ายได้ดี.....ฮา.ฮา.......

ขอบพระคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ มีเวลาผมจะแวะไปหาครับ

Blankคณิน อุดมความสุข

ขอบพระคุณที่แวะมาให้กำลังใจ

ผมพยายามเขียนให้บุคคลทั่วไปได้เข้าใจหลักการของกฎหมายกันบาง

หวังแต่เพียงว่า เมื่อมีท่านใดได้เข้ามาอ่านบันทึกในบล็อกนี้แล้ว

จะได้มีแนวทางนึกมองในแง่มุมของกฎหมายบ้างก่อนจะทำอะไรลงไป

ผมยินดีครับที่ทำให้คุณคณิน ได้มีโอกาส คิดถึงแง่มุมของกฎหมายก่อนทำ

การค้ำประกัน ให้เพื่อนไม่น่าจะมีข้อผิดพลาดนะครับเพราะคุณคณินมีจิตใจดี

อย่างน้อยก็ได้มีโอกาสช่วยให้เพื่อน ได้มีหนทาง

ถือเป็นการสร้างกุศลอย่างหนึ่งครับ

เราเปิดทางให้เพื่อนเราได้เดินไปข้างหน้ากุศลที่ทำ เราจะไม่พบทางตันครับ

ขอบพระคุณอีกครั้งครับ มีเวลาผมจะแวะไปครับ

หลบมาอ่านแล้ว ตามที่ชันชี

อ่านปานี้ได้คิดตามแนวกฎหมาย ค้ำประกัน

"อยากรวยให้เป็นนายหน้า อยากเป็นขี้ข้าให้เป็นนายประกัน"

  • หายไปนานมากๆๆ
  • รบกวนให้ความคิดเห็นบันทึกนี้หน่อยได้ไหมครับ
  • http://www.gotoknow.org/blogs/posts/474983
  • ตามมาขอบคุณ
  • สำหรับข้อมูลที่ให้คำปรึกษาครับ

หวัดดีครับท่าน  Blank วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

ฮิ.ฮิ....ผมรอบังอยู่เหมือนกัน....ชันชีกับผมแล้วว่าจะกลับมาอ่านก็มาจริง

พันนี่ให้จองไว้ก่อนได้หลาว....ฮา.ฮา.........

ผมชันชีกับบังบ้าง.....ต่อเหรือง...จะไปแขบไปหา

ขอบพระคุณครับบังที่แวะมาให้กำลังใจเป็นรายแรก พันนี่รักระโห๊

สวัสดีครับท่าน Blank ขจิต ฝอยทอง

ครับผมหายไปนานปีเลยครับ

มีภาระกิจที่ไม่อาจก้าวล่วงได้จริงๆ...คิดถึงทุกท่านใน G2K ครับ

ผมต้องหาเวลาอ่านบทความของทุกท่านย้อนหลังอีกที

ส่วนบันทึกที่จะให้ผมเข้าไปให้ความเห็น...พรุ่งนี้จะแวะไปอ่านครับ

สำหรับข้อมูลที่ให้คำปรึกษาไปนั้น ผมยินดีและเต็มใจครับ มีอะไรที่คิดว่าผมจะช่วยได้ ติดต่อผมได้เสมอครับ

ขอบพระคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ อาจารย์สบายดีนะครับ

สวัสดีครับคุณครู  Blank อิงจันทร์

ผมได้เข้าไปอ่านบันทึกที่ลิงค์มาให้แล้วครับ และส่งอีเมลไปถึงคุณครูด้วยแล้ว

ยินดีให้คำปรึกษาด้วยความเต็มใจครับ

ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจครับคุณครู 

สวัสดีค่ะ

ต่างคนต่างหายไปนานมากเหมือนกันพอกลับเข้ามาก็เข้ามาไล่เลี่ยกัน

ถ้ารู้ว่าจ้างทนายแค่เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวละก็  จ้างไปตั้งนานแล้วค่ะ  อิอิ

ดีนะที่ยัง สว น้อย เลยอ่านรวดเดียวจบไม่ต้องพัก hahahaha


สวัสดีครับ คุณครู Blank krugui

อย่างที่บอกไว้ครับ....กลับมาคราวนี้ ครูกีร์สวยขึ้นและแอบน่ารักด้วยนะ...เลยอ่านรวดเดียวจบไม่ต้องพัก....แต่พออ่านจบปุ๊บ....ลืมปั๊บ....อย่างนี้ไม่ถือว่าสูงวัย......ฮา.ฮา......

ครูกีร์ครับ....ค่าก๋วยเตี๋ยว ของทนายแพงทุกคนนะครับ.....ไม่ต้องจ้างนะดีที่สุดเดี๋ยวรู้ว่าค่าก๋วยเตี๋ยวกี่ตังค์แล้วจะนอนไม่หลับเน่อ.....ฮิ.ฮิ....

ขอบคุณครับที่แวะมาทักทายแล้วผมจะแวะไปครับ

แอบมาอ่านหลายครั้ง. ได้ประโยชน์มากเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท