จากการศึกษาวิธีการสร้างและพัฒนาการของผิว ทำให้สามารถสรุปประเด็นสำคัญที่ควรมีที่ผิวพระเบญจภาคีไว้เป็นหลักจำได้เลย
หหลังจากผมใช้เวลาทบทวนวิวัฒนาการของการสร้างพระในชุดเบญจภาคี และพัฒนาการของผิวพระ ที่เป็นเอกลักษณ์ใหญ่ๆ หรือเป็นองค์รวมของพระแต่ละชุดทั้ง 5 ในเบญจภาคี ทำให้ผมได้ข้อสรุปเป็นคำสำคัญ ดังนี้
- พระสมเด็จ ผิวนวล
- เนื่องจากเป็นพระเนื้อผงปูนดิบ มีการละลายของน้ำปูนแคลเซียมคาร์บอนเนตออกมาคลุมที่ผิวเป็นผิวแข็งสีมุกโทนสีต่างๆ
- และ มักจะมีส่วนผสมปูนสุก แคลเซียมไบคาร์บอนเนต ในพระสมเด็จมากบ้างน้อยบ้าง
- น้ำปูนสุกจะละลายออกมาเคลือบผิว และรอยแตก จะทำให้เกิดคราบนวลๆ ตามผิวและรอยแยก
- ถ้าไม่มี มักจะเก๊
-
- พระรอด ผิวขี้ผึ้ง
- เนื่องจากการผสมแร่เหล็กกับดินกรองแล้วเผาไปที่ความร้อนสูงเกิน 1000 องศาเซลเซียส ทำให้แร่ต่างๆละลาย จนถึงไปทำปฏิกริยาใหม่เป็นแร่เชิงซ้อน ออกสีเขียวเข้มออกดำ
- เมื่อเวลาผ่านไป แร่ต่างๆก็จะมีการสลายตัวบ้าง ออกมา มากน้อยตามระดับความร้อนที่เผา ถ้าร้อนน้อยจะสลายตัวมาก ออกเป็นสีนวลๆ และสีสนิมของแร่ขาวนวลคล้ายขี้ผึ้ง
-
ทำให้ผิวพระรอด "มาตรฐาน" เป็นสีขาวนวลออกแดงๆ แต่ถ้าร้อนมาก สีพื้นจะเป็นสีเขียวของแร่เหล็กเชิงซ้อน แต่สนิมเหล็กจะต้องมีแบบบางๆ แต่ยังต้องมี
- ถ้าไม่มี มักจะเก๊
-
- พระผงสุพรรณ ผิวฉ่ำ
- เนื่องจากพระผงสุพรรณเป็นพระดินดิบ ไม่ผ่านการเผา จึงอาศัยเนื้อว่านในการรักษารูปทรง และความคงทนของเนื้อพระ
- น้ำว่านจะซีมออกมาคลุมเนื้อดินไว้ไม่ให้กร่อน จึงทำให้ผิวมีความมันฉ่ำ ยิ่งมากยิ่งดี
- ถ้าไม่มี มักจะเก๊
-
- พระซุ้มกอ ผิวผดผื่น
- พระกำแพงซุ้มกอ จะมีการผสมน้ำว่านที่ส่วนใหญ่มีสีแดง แร่เหล็ก ลงไปในเนื้อพระ กดอัดเข้ารูป สีน้ำว่านทำให้กลายเป็นพระซุ้มกอเนื้อแกร่ง แดง ขาว เหลือง หรือเนื้อดำ
- แต่ พระซุ้มกอส่วนใหญ่ ยังคงรักษาสภาพ เม็ดแดงๆในเนื้อ ที่แข็งกว่าเนื้อดินเล็กน้อย
- เมื่อดินกร่อนยุ่ยหลุดไป ก็จะเห็นเม็ดแดงๆ ของก้อนน้ำว่าน และแร่เหล็กลอยขึ้นเหนือผิวดินยุ่ย เห็นเป็นเม็ดผดผื่นแดงๆ มนๆ นูนสูงกว่าผิวดินเล็กน้อย
- ถ้าไม่มี มักจะเก๊
-
- พระนางพญา ผิวร่องทรายมน
- พระนางพญาพิษณุโลก จะมีการผสมเม็ดทรายในเนื้อพระดินดิบ ที่แน่นอนว่าจะมีการกร่อนช้ากว่าเนื้อดิน
- และมักมีรอยแยกระหว่างผิวทรายกับผิวดิน เป็นร่อง เรียกว่า ร่องทราย เนื่องจากการกร่อนของเนื้อดินรอบเม็ดทราย
- ขณะเดียวกัน เม็ดทรายก็จะกร่อน มีความมน ถ้าผ่านการใช้จะกร่อนเป็นริ้วๆ
- จึงเกิดเป็นเม็ดทรายมน ท่ามกลางร่องทราย
- ถ้าไม่มี มักจะเก๊
ดังนั้น จากการศึกษากระบวนการสร้าง และผิวพระแท้ๆที่หลากหลาย
ทำให้สามารถสรุปประเด็นสำคัญที่ควรมี ที่ผิวพระเบญจภาคี ไว้เป็นหลักจำไว้ใช้ได้เลย
ลองดูนะครับ