เหตุเกิดที่ปากซอย
เช้าวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๕ ฉัน เตรียมตัวไปตักบาตร
เหมือนเฉกเช่นทุกวันที่ผ่านมา
วันนี้ ฉันมานั่งรอพระที่เก้าอี้หินใกล้ร่มคันใหญ่ที่มีฐานเป็นปูนซิเมนต์ โดย
ฐานปูนซิเมนต์นั้น ถูกจัดทำขึ้นมาใหม่ โดยมี ระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนอยู่
ประมาณ ๕ นาที่ ก็มีรถ ตำรวจที่นำพระมาจากวัดขจรประชาราม ซึ่งมีพระเพียง ๒ รูป
รถกระบะจอดขวาง ร่มคันที่มีระเบิด ฯ
ฉันและน้องอร ยืนตักบาตรอยู่แนวเดียวกับ ระเบิด โดยให้น้องอรเป็นผู้ตักก่อน
ข้าวช้อนที่ ๓ ของน้องอร ถูกตักลงบาตร ก็มีเสียง ดังสนั่น
ครั้งแรก ฉันเอง ยังยืนอยู่ได้ โดยไม่ล้มลง ไม่มีเลือด
...เสียงอะไร เศษระเบิดกระจายเต็มถาดอาหาร
ตูม เสียงระเบิดอีกลูกตามมา คราวนี้ เริ่มตั้งสติได้ น้องอรวิ่งเร็ว เราโดนระเบิด
หันไปดูพระทั้งสองรูป ท่านก็ยังยืนงง ครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก
ของการถูกระเบิดระหว่างการเดินบาตรของท่านทั้งสอง
เสียงวิ่งกับเสียงเรียกตะโกนของเพื่อนๆ ที่ยืนรอตักบาตรอีก ฝั่งตะโกนกันเสียงดัง
เราหันไปดูในเหตุการณ์อีกครั้ง ก็เห็นน้องตำรวจนอนหงายท้องอยู่ ๑ คน
และเพื่อนอีก คน ก็นอนราบไปกับพื้นเพื่อที่จะลากเพื่อนออกมากจากจุดเกิดเหตุ
เพียง ๓ นาที่ก็มีรถ อพปร ๓ คัน มารับผู้ป่วย ณจุดเกิดเหตุ ฉันเป็นคนสุดท้าย
ที่ขึ้นรถไปโรงพยาบาล
มาถึง โรงพยาบาล ก็ต้องเอกซเรย์ทุกจุดที่โดนสะเก็จระเบิด
เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่า ไม่มีสะเก็จระเบิดตกค้างในร่างกาย
งดอาหารและน้ำเผื่อต้องผ่าตัดเอาสะเก็จระเบิดออก
มีน้ำเกลือ ยาป้องกันบาดทะยัก และ ยาปฏิชีวนะ ..
เพียง ไม่กี่นาที่เพื่อนๆ ต่างก็มาเยี่ยมกันเต็มห้อง
......................................................................................
พรุ่งนี้ ฉันคงไม่ได้ไปตักบาตรที่ปากซอยอีกแล้ว .......
แต่พระ ๒ รุป และน้องตำรวจอีก ๓ นาย ยังต้องทำภารกิจต่อไป ............
ความเห็น (7)
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ เป็นห่วงคนทางใต้เสมอ ถึงแม้มิใช่คนใต้ และยังไม่เคยไปเที่ยวภาคใต้ จะอยู่ภาคไหนก็ไทยด้วยกันค่ะ
เข้มแข็งครับ ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องเราทุกคน
น้องจิตติมาค่ะ ...สาธุ....เดชะบุญที่ปลอดภัยถึงแม้จะต้องพักรักษาตัวดูอาการ..พี่ก็เพิ่งจะไปทำบุญ เอาอาหารไปถวายพระที่วัดเมื่อเสาร์ที่ 3 มิย.นี้ ความรู้สึกเดียวกันกับน้องค่ะ ...ไม่ต้องการให้วัดร้างขณะเดียวกันก็เป็นห่วงพระคุณเจ้าและน้องทหารและแม้กระทั่งพวกเราทุกคนที่ต่างล้วนทำหน้าที่อย่างทรนง..
ขอบคุณคะ
พรุ่งนี้จะไปทำงานแล้ว พรุ่งนี้ คงต้องมีสติมากขึ้น
การเรียนรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น และเป็นไป จะเป็น หนทางที่ก่อให้เกิดสติ มากขึ้นจริง ๆ
- สวัสดีครับ
- เป็นกำลังใจและเอาใจช่วยผู้บริสุทธิ์ที่ไม่ได้เป็นคนก่อ
- แต่ต้องมาเป็นคนรับกรรมครับ
- อ่านไปแล้วก็สะเทือนใจเช่นกันครับ
- นับว่าดีเลยครับที่ไม่เป็นอะไรมาก อาจจะมาจากบุญที่ท่านได้กระทำไว้ในอดีตและปัจจุบันครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ