สุขภาวะถิ่นแพร่ น่าน ลำปาง : ๑. เวทีเครือข่ายคนทำงานพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Learning Space) ภาคเหนือ


เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ ๒๖-๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา บ้านผมและครอบครัวได้เปิดต้อนรับเครือข่ายคนทำงานกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่ง ๒๐ กว่าคน จากจังหวัดน่าน แพร่ และลำปาง จังหวัดละ ๔-๕ คน เพื่อนำเอาประสบการณ์ในการทำงานเชิงพื้นที่ของตนเองในแต่ละจังหวัดมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถอดบทเรียนทางด้านการพัฒนาการจัดการพื้นที่สร้างสรรค์ พัฒนาวิถีชีวิตชุมชน สุขภาวะและคุณภาพชีวิตในสังคมเมือง และกระบวนการเรียนรู้เพื่อสร้างเสริมรสนิยมชีวิตของคนกลุ่มต่างๆ ทั้งผู้ดำเนินชีวิตในเมือง ย่านเมืองเก่า ชนเผ่า คนด้อยโอกาส ชุมชนเมืองและชนบท เพื่อยกระดับการทำงานสู่อนาคตในระยะต่อไป

  ผู้ประสานงานโครงการ  

ผู้ประสานงานและดำเนินการจัดเวทีครั้งนี้ขึ้นคือบางกอกฟอรั่ม ซึ่งเป็นองค์กรทำงานพัฒนาสุขภาวะเชิงพื้นที่แบบบูรณการ ผ่านการสนับสนุนเชิงวิชาการ เพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ พัฒนาเครือข่าย และพัฒนาศักยภาพการจัดการตนเองของกลุ่มการรวมตัวและองค์กรการจัดการในลักษณะต่างๆของประชาชนและชุมชน ทั้งในชุมชนเมือง ชนบท ชนเผ่า และประชากรกลุ่มพิเศษที่ก่อเกิดด้วยเงื่อนไขแวดล้อมใหม่ๆของสังคม เช่น กลุ่มประชาสังคมเพื่อสร้างสุขภาวะสาธารณะ กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาสังคม กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มพึ่งตนเองทางสุขภาพและการพัฒนาทางเลือก

ผมเป็นที่ปรึกษาของบางกอกฟอรั่มและเป็นองค์กรหนึ่งที่ผมได้ร่วมเป็นเครือข่ายวิชาการที่มุ่งพัฒนาการทำงานเชิงสังคมในแนวทางเดียวกันนี้มากว่า ๑๕  ปีนับแต่หลังวิกฤติเศรษฐกิจของไทยและของโลกเมื่อทศวรรษ ๒๕๔๐ โดยเฉพาะการช่วยทางด้านการถอดบทเรียนเพื่อยกระดับการทำงาน การประเมินเพื่อเสริมศักยภาพการจัดการ การช่วยสร้างความรู้และสื่อสารกับสาธารณะ การเยี่ยมเยือนแบบเสริมพลัง การถอดบทเรียนเชิงกระบวนการและการพัฒนาเทคนิควิธีทำงาน รวมทั้งการเขียนความรู้ สร้างความรู้ และพัฒนาสื่อ เพื่อส่งเสริมการทำงานของคนทำงานในแนวนี้ โดยเชื่อว่าจะเป็นอีกทางหนึ่งของการสร้างสุขภาวะสังคมให้มีความเข้มแข็งนับแต่ชุมชนฐานราก รวมทั้งเป็นการสร้างทุนมนุษย์ และการสร้างทุนปัญญาปฏิบัติระดับกลุ่มก้อนทางสังคม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสังคม

ก่อนที่จะได้พบและทำงานความรู้บนเวทีด้วยกันนั้น ผมก็ไม่รู้จักกับสมาชิกของกลุ่มผู้เข้าร่วมเวทีถอดบทเรียนในครั้งนี้มากนัก ทราบเพียงข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นการทำงานเชิงพื้นที่ วิธีทำงาน และความต้องการต่างๆที่จะดำเนินการผ่านเวทีถอดบทเรียนด้วยกัน รู้จักบางคนที่เคยพบกันโดยการทำงานต่างกรรมต่างวาระ แต่ก็ทำให้พอจะรู้ทำให้รู้ถึงแนวทางของกลุ่ม เป็นต้นว่า ความมุ่งมั่นในชีวิต อุดมคติต่องานและชีวิต แนวคิด แนวนโยบาย วิธีทำงาน และลักษณะของเครือข่ายที่ทำงานด้วยกัน

  เครือข่ายคนเมืองน่าน  

เครือข่ายทำงานของน่านนั้น นำโดยครูศิลปะและครอบครัว คือ อาจารย์ยุทธภูมิ สุประการ ศิลปินน่านและโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์น่าน และครอบครัว กับอาจารย์สุทธิธัช ธิติกุลเกษมศักดิ์ ศิลปินน่าน และศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนน่าน เป็นเครือข่ายที่ทำงานศิลปะเพื่อสังคม บูรณาการการทำงานศิลปะไปสู่การส่งเสริมพลังความริเริ่มและความสร้างสรรค์ ตลอดจนการทำงานเชิงอนุรักษ์และฟื้นฟูมรดกทางศิลปะ สถาปัตยศิลป์ สิ่งแวดล้อมทางศิลปวัฒนธรรม ระบบนิเวศทางสังคม ธรรมชาติ สายน้ำ และศิลปวัฒนธรรม การพัฒนาการศึกษาเพื่อชุมชนและคนด้อยโอกาส

  เครือข่ายคนเมืองแพร่  

เครือข่ายทำงานของแพร่ นำโดยวุฒิไกร ผาทอง กับชิณวร ชมภูพันธุ์ ชิณวร ชมภูพันธุ์นั้น ในอดีตทำงานอยู่ในกรุงเทพฯและประสบความสำเร็จในความเป็นมืออาชีพหลายสาขา เช่น การเป็นสถาปนิกในบริษัทชั้นแนวหน้าของประเทศ การทำบริษัทสื่อโฆษณา การทำบริษัทออร์แกไนเซอร์ ก่อนที่จะกลับไปดูแลบุพการีและ เป็นประธานเครือข่ายชมรมสถาปนิกอนุรักษ์สถาปัตยกรรมท้องถิ่น

ส่วนวุฒิไกร ผาทองนั้น เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์หม้อฮ่อมแก้ววรรณาของแพร่ รวมทั้งเป็นผู้บริจาคที่ดินก่อตั้งและให้การอุปถัมภ์วัดแพร่แสงเทียน วัดที่สำคัญแห่งหนึ่ง ที่เน้นการปฏิบัติในแนวหลวงพ่อเทียนของภาคเหนือ วุฒิไกรนี้ผมรู้จักผ่านการที่เขาเป็นเครือข่ายการทำงานสุขภาพชุมชนและเครือข่ายสื่อสารสุขภาพมาก่อนหน้านี้มานานพอสมควรบ้างแล้ว

เครือข่ายของแพร่ประกอบด้วยกลุ่มเยาวชนด้วย โดยเป็นกลุ่มเยาวชนคนแพร่ลูกศิษย์ผู้เรียนรู้การทำงานกับชิณวร คนหนึ่งกำลังศึกษาต่อในระดับอาชีวศึกษาที่จังหวัดแพร่ อีกคนหนึ่งกำลังศึกษาคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้ร่วมกันก่อตั้ง Home Studio เป็นของตนเอง ทำงานสร้างสรรค์ด้านการถ่ายภาพ แอนนิเมชั่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเคลื่อนไหว สื่อเสียง งานออกแบบนิเทศศิลป์ และสื่อออนไลน์ พร้อมกับทำงานเชิงสังคมเพื่อเครือข่ายรักษ์เมืองแพร่

  เครือข่ายคนเมืองลำปาง  

เครือข่ายทำงานของลำปางนำโดยครูปิงปอง หรืออาจารย์อนุกูล ศิริพันธ์ ศูนย์ศิลปะลำปางและพิพิธภัณฑ์แหล่งการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และศิลปกรรมทางพุทธศาสนา วัดปงสนุก กับกลุ่มเยาวชนทำงานเชิงอนุรักษ์ทางศิลปวัฒนธรรมและการทำงานพัฒนาการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมของชุมชนวัดปงสนุก จังหวัดลำปาง มีผลงานสร้างความเข้มแข็งในการจัดการทางศิลปวัฒนธรรมชุมชนอย่างแพร่หลายและต่อเนื่องทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับนานาชาติ แต่เป็นกลุ่มที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเวทีครั้งนี้เพียงเล็กน้อยเพราะต้องไปรับรางวัลประกาศเกียรติคุณของกลุ่มทางด้านการทำงานพุทธศิลป์และการอนุรักษ์เพื่ออการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมทางพุทธศาสนา ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ จังหวัดเชียงใหม่

  การเตรียมการจัดเวทีพัฒนาเครือข่าย  

เครือข่ายการทำงานเชิงพื้นที่ทางด้านศิลปวัฒนธรรมและการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ในเมืองและชนบทเหล่านี้  เป็นเครือข่ายที่บางกอกฟอรั่มได้ลงไปเรียนรู้และร่วมสัมผัสกระบวนการทำงานในพื้นที่มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง รวมทั้งได้จัดกระบวนการเสริมศักยภาพและให้การสนับสนุนการทำงานเชิงความรู้ เพื่อยกระดับการจัดการตนเองตามความสนใจและช่วยขยายขีดความสามารถในการทำงานเชิงสังคมผ่านการถอดบทเรียน สร้างความรู้ และจัดการความรู้เพื่อผลิตสื่อการเรียนรู้ สื่อสารกับสาธารณะ ซึ่งกล่าวได้ว่า เป็นการพัฒนาภาคสาธารณะผ่านการสร้างคน การจัดการชุมชน และพัฒนาพื้นที่ความสร้างสรรค์  โดยส่งเสริมปฏิบัติการและการพัฒนากระบวนการจัดการตนเองของเครือข่ายที่มีเป้าหมายการทำงานเพื่อสาธารณะที่อยู่ในวิถีการงานและวิถีดำเนินชีวิตใกล้ตัวของตนเอง แต่ก่อเกิดผลดีทั้งต่อถิ่นฐาน ชุมชนในระดับต่างๆของจังหวัด ภูมิภาค และต่อสังคมประเทศ ตลอดจนต่อการอยู่อาศัยร่วมกันของประชาชนหลากหลายชนเผ่าและไร้พรมแดน

  สถานะเวที :  
พัฒนาเครือข่ายผู้นำการจัดการเรียนรู้สุขภาวะสาธารณะ
ของเมืองและชนบท ภาคเหนือ

สถานะของเวทีที่จัดขึ้นในครั้งนี้ จึงเป็นการทำงานวิชาการเชิงสังคมผ่านการเสริมพลังทางความรู้และพัฒนาความเข้มแข็งทางการจัดการอีกด้านหนึ่งของเครือข่ายคนทำงาน ที่จะสะท้อนเชื่อมโยงไปสู่การทำงานในพื้นที่ โดยแต่ละกลุ่มและในฐานะปัจเจกแต่ละคน ต่างก็มีกลุ่มเป้าหมายและความเป็นสาธารณะในพื้นที่การทำงานของตนเองอยู่แล้วอีกต่อหนึ่ง เวทีจึงมีลักษณะเป็นวงจรสร้างศักยภาพผู้นำการเปลี่ยนแปลง ของคนที่เชื่อมต่อตนเองกับความเป็นส่วนรวมโดยการปฏิบัติอยู่แล้ว

ขณะเดียวกัน ก็ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ต่างพื้นที่และต่างบริบทประเด็นการทำงาน เพื่อยกระดับประเด็นความเป็นส่วนรวม ให้เห็นความครอบคลุมและความเชื่อมโยงของการทำงานเชิงลึกในพื้นที่ ที่มีนัยสำคัญต่อการส่งเสริมสุขภาวะสังคม พร้อมกับทำให้คนทำงานได้มีโอกาสสร้างความลุ่มลึกในชีวิตและการทำงานมากยิ่งๆขึ้นไปด้วย

  เวที บรรยากาศ และสภาพแวดล้อม  
เพื่อจัดวางชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยพลังสร้างสรรค์

การเปิดบ้านจัดเวทีในหน้าฝนครั้งนี้ มีทั้งด้านดีและด้านที่เป็นอุปสรรคปัญหาอยู่บ้างพอสมควร ในด้านดีก็คือ ทั้งบางกอกฟอรั่มและเครือข่ายคนทำงานจาก ๓ จังหวัด รวมทั้งผมและครอบครัว เป็นคนทำงานในแนวทางนี้ด้วยใจ ไม่มีเงินและสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก แต่ต้องการทำงานกันอย่างเต็มที่ที่สุดในบรรยากาศที่เอื้อต่อการคิด เรียนรู้ และทำงานเชิงสร้างสรรค์ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นสัดส่วน ให้ความอิสระในการคิดและแสดงออก เงียบสงบ มีความเป็นธรรมชาติ ได้อยู่กับสภาพแวดล้อมที่ให้ความบันดาลใจ ได้พูดคุยและสนทนากันในบรรยากาศที่สร้างสรรค์ทั้งต่อการทำงานและการสร้างรสนิยมชีวิต ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างเข้มข้น ไร้อกรอบจำกัดให้มากที่สุด ซึ่งที่บ้านผมสามารถยกให้เครือข่ายทำงานและอยู่ในบรรยากาศเหมือนกับบ้านตนเองของทุกคนได้

  ด้วยแรงกายแรงใจเพื่อน้อมสันถวะต่อความงดงาม  

แต่อุปสรรคและปัญหาที่เหนือการควบคุมของเราก็เกิดขึ้น กล่าวคือ กลางวันและต่อเนื่องอีกคืนหนึ่งก่อนที่เครือข่ายของทั้ง ๓ จังหวัดจะเดินทางไปยังบ้านผมนั้น ได้เกิดพายุฟ้าคะนองและฝนลงอย่างเต็มที่ ทีมบางกอกฟอรั่มได้เดินทางล่วงหน้าไปเตรียมงานกับผม แล้วเราก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยืนตากฝนสาดและตะโกนคุยกันไปพลางเพื่อทำงานความคิดและซักซ้อมการจัดกระบวนการต่างๆ เท่าที่จะสามารถทำได้เมื่อฝนซาและต้องทำในวันรุ่งขึ้น เป็นเบื้องหลังความสำเร็จของเวทีนี้ที่ทุลักทุเลอย่างยิ่ง

ฝนตกจนน้ำเจิ่งนองไปทั่วบริเวณบ้าน ลมก็แรงจนต้นไม้ล้มระเนระนาด ชมพู่กิ่งหักและลูกที่ห่อกันแมลงก็หล่นเกลื่อนกระจุยกระจาย รกเต็มไปหมด กอไผ่หักและลู่เอน จึงนอกจากทำอะไรกันไม่ได้แล้ว สภาพที่ประชุมก็มีสภาพเละเทะอย่างน่าใจหาย ผมต้องรื้อเอาม่านผ้าใบกันแดดมาขึงเป็นม่านกำบังฝนและลมแรงให้น้องๆทีมบางกอกฟอรั่มเพื่อยืนประชุมและรอให้ฝนลมหยุดที่ใต้ถุนบ้าน

รุ่งขึ้นเกือบตี ๕  อึ่งอ่าง กบ เขียดร้องระงม ผมกับภรรยาลุกขึ้นจัดสถานที่ ผู้เข้าร่วมเวทีครั้งนี้อุตส่าห์เดินทางมาไกลและเจียดเวลาที่ผมทราบวิถีการทำงานในแนวนี้ดีว่านอกจากไม่ค่อยมีเวลามากนักแล้ว หากไม่เห็นความสำคัญต่อการทำงานก็ไม่ต้องการออกจากพื้นที่ไกลจากการได้ทำงานปฏิบัติของตนเอง เมื่อได้มาร่วมเวทีแล้วก็ต้องให้ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้กันได้

ดังนั้น ผมจึงต้องการจัดสภาพแวดล้อม และบรรยากาศ ให้ผู้เข้าร่วมเวทีได้เห็นตัวอย่างการทำงานแบบพึ่งการจัดการของตนเอง และได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ให้พลังความบันดาลใจต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยกันอย่างดีที่สุด ต้องการแขวนรูปและงานศิลปะที่แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตชุมชน ตามกอไผ่และซุ้มแมกไม้ที่เฝ้าดูแลสำหรับใช้ทำงานไปด้วย เพื่อเห็นความหมายของการทำงานในแนวทางใหม่ๆให้กลมกลืนไปกับการใช้ชีวิต พอสว่างก็เดินตัดกิ่งไม้และฟื้นฟูค้ำยันต้นไม้ที่ล้มให้ยืนต้นขึ้นใหม่ จากนั้น ก็คว้าเอาเครื่องตัดหญ้าขึ้นมาเพื่อใช้เวลาจาก ๖ โมงเช้าตบแต่งสนาม ริมถนนเข้าบ้าน ลานจอดรถ และบริเวณรอบสระบัวสักชั่วโมงกว่าก็คงจะเสร็จ

น้ำยังขังเจิ่งนอง เม็ดฝนตามใบไม้ผสมกับเหงื่อโทรมกายมอมแมมตั้งแต่ปลายเส้นผมจรดปลายเท้า แต่ก็ต้องลากรองเท้าบู๊ตลุยดินโคลนเดินตัดหญ้า เก็บกิ่งไม้ แขวนรูป เก็บขยะ จากหลังบ้านออกไปถนนหน้าบ้านในบริเวณ ๔ ไร่ กระทั่งรู้สึกว่ากุมสภาพทั้งหมดได้อย่างที่ใจนึกแล้วก็ให้รู้สึกพอใจ ครั้นพอหยุดเครื่องตัดหญ้าและเงยหน้าขึ้น ก็มีรถตู้ขับเข้าบ้านตามกันมา ๒ คันเข้ามาจอดข้างๆและลงมากล่าวทักทายสวัสดี ผมคิดว่ายังเช้าอยู่และคิดว่าตัดหญ้ากับเก็บกิ่งไม้ไร่ไปสักชั่วโมงกว่าเท่านั้น ที่ไหนได้ ปาเข้าไปตั้ง ๙ โมงกว่าแล้ว เวลากว่า ๔ ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผมเลยต้องเดินสะพายเครื่องตัดหญ้าพาผู้เข้าร่วมงานเดินเข้าสู่สถานที่จัดเวทีครั้งนี้ของเรา ดินโคลนและเศษหญ้าเปรอะเต็มตัวมะล่อกมะแล่ก

เมื่อได้พบกันแล้วก็เป็นดังคาด ทั้งหมดราวกับไม่ต้องทำความรู้จักกันก็เกิดความคุ้นเคย เหมือนกับคนที่รู้ความคิดจิตใจอย่างคนกันเอง มากกว่าจะเป็นเพียงการประชุมและทำงานเวทีวิชาการของคนที่เพิ่งรู้จักกัน ผมและภรรยาพลอยได้มีความสุขที่ทุกคนเมื่อเห็นแมกไม้กับงานศิลปะและสภาพแวดล้อมแบบกันเองในบ้านแล้วก็เกิดหัวข้อพูดคุย เดินสำรวจ เดินถ่ายรูป และเกิดวงย่อยๆหลายวงสำหรับถามไถ่และพูดคุยกันเอง รอให้ผมไปอาบน้ำและเราก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการต่างๆด้วยกันอย่างไม่ต้องมีพิธีรีตอง.

หมายเลขบันทึก: 489598เขียนเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 13:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กันยายน 2013 22:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจจริงของเจ้าบ้านและแขกผู้มาเยือน เพื่อบรรลุถึงการเสวนาที่ตั้งใจไว้ค่ะ..คงมีภาคสอง และ ฯลฯ..ตามมาอีก

ขอบคุณที่มีเวทีดีดีให้กับคนทำงานพัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิดครับ อ.สิทธิธัช และ อ.ยุทธภูมิ มีบทบาทกับการเคลื่อนไหวภาคประชาสังคมน่านมากครับ ผ่านงานศิลปะสร้างสรรค์งานผ่านคนรุ่นใหม่ เป็นกำลังสำคัญกับการมุ่งม่ันพัฒนาเมืองน่านให้เป็น "เมืองศิลปะ" ตามที่เขาใฝ่ฝันไว้ เป็นกำลังใจให้ครับ

ช่อดอกลีลาวดีของพี่ใหญ่งามมากเลยนะครับ
ขอบพระคุณที่นำความสดชื่นมาแบ่งกันชมครับ
จะพยายามย่อยบทเรียนของเวทีนี้มาถ่ายทอดไว้อีกหลายตอนครับ
น่าสนใจ สร้างสรรค์ และงดงามดีมากเลยครับ

สวัสดีครับพ่อน้องซอมพอครับ

มองในแง่การเป็นผู้นำในการพัฒนาการเรียนรู้ไปบนการสร้างสรรค์ความเคลื่อนไหวและความเปลี่ยนแปลงต่างๆอย่างที่ตนเองมีและเป็นในชีวิต ในบ้านเกิดและถิ่นอาศัยนี่ ต้องนับว่าทั้งสองท่าน และรวมทั้งท่านอื่นๆที่มาร่วมเวที เป็นครูมืออาชีพของสังคม เป็นครูออกมาจากจิตวิญญาณและเลือดเนื้อ มากจริงๆเลยครับ เห็นความมีพลังของผู้ที่มีความสำนึกทางสังคม ที่มักสะท้อนถึงการมีความงดงามอยู่ในทุกมิติ ทั้งมุมมองต่อสังคม ทรรศนะต่อชีวิตทั้งของตนเองและผู้อื่น การเปิดใจต่อผู้อื่น ความเป็นนักศึกษาค้นคว้า คิดค้น ใคร่ครวญและแยบคายลึกซึ้งต่อชีวิต เป็นนักอ่าน เป็นคนทำงานแบบใช้ความรู้และมีวิชาการผสมผสานไปบนการปฏิบัติที่จริงจัง เป็นคนรุ่นใหม่หลายรุ่นที่มีพลังความริเริ่มสร้างสรรค์มากๆครับ

สวัสดี วันฟ้าหลังฝนนะคะ อาจารย์่วิรัตน์ที่เคารพ

นอกจากจะชะล้างอากาศให้สดใสแล้ว

ของแท้ต้องเต็มไปด้วยใบไม้เกลื่อน กิ่งไม้หักเสียก่อน

อาจารย์ยังแข็งแรงมากเลยนะคะ

ขอขอบคุณ คุณหมอธิรัมภา และ คุณใบไม้ย้อนแสงครับ
ที่เข้ามาให้กำลังใจ คุณใบไม้ย้อนแสงสบายดีนะครับ เหมือนหายไปเป็นครู่เลยนะเนี่ย

สวัสดีครับคุณหมอธิรัมภาครับ

อากาศสดใสมากจริงๆอย่างคุณหมอว่าเลยละครับ เชียงใหม่และแถวทางเหนือหลังฝนตกได้สองสามครั้งแล้วนี่ ก็มีอากาศสดใสและเมฆสวยมากครับ ก่อนหน้านี้มัวซัวอย่างกับตาเป็นฝ้า

ฝนตกและลมแรงในช่วงที่ผ่านมานี่ มีลมแรงและฝนลงอย่างหนัก ๒-๓ ครั้งแล้วครับ เจอทั้งต้นไม้ล้ม กิ่งไม้ใบไม้เกลื่อน แถมบางครั้งก็กระเบื้องหลังคาห้องน้ำเปิดปลิวหายไปเป็นแผ่นๆ ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วว่า ชาวบ้านที่ปลูกบ้านและมุงหลังคาด้วยตองตึงนี่ ทำไมมักปลูกบ้านอยู่ท่ามกลางสวนหรือในบริเวณที่มีต้นไม้มากมายล้อมรอบ แล้วก็มักมีกอไผ่รวกหรือกอไผ่ที่มีพุ่มและกิ่งหนาแน่น เป็นแนวล้อมรอบ นอกจากเป็นเรื่องของการสำรองทรัพยากรไว้ใช้สอยแล้ว ก็เป็นกำแพงป้องกันและสลายแรงลมอย่างนี้นี่เอง

ตอนนี้ร่างกายปรับตัวใหม่พอได้แล้วครับ แรกๆนั้น แค่ลงจอบขุดดินสัก ๒-๓ ฉึก หรือเดินถือมีดหวดพงหญ้าไปสักสองสามช่วงแขน ก็ยอกทั้งกาย แทบจะแบกสังขารเดินกลับเข้าบ้านไม่ไหวแล้วครับ ตอนนี้ หากไม่มืดค่ำหรือไม่มีใครไปหาก็ไม่อยากหยุด ตอนเช้าก็อยากตื่นและรอคอยที่จะถึงสว่าง อยากเห็นต้นไม้ใบหญ้างอกและอยากดูผลที่ทำสิ่งต่างๆลงไปว่าจะเป็นอย่างไร

ขอบคุณบังวอญ่าและทิมดาบครับ ที่แวะมาเยือนและทักทายกัน
เป็น ๒ ท่านที่เป็น Popular Vote ของ ๕ บล๊อกเกอร์รางวัลสุดคะนึงประจำเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆนี้เลยนะครับเนี่ย มีความสุขแ มีกำลังใจ และมีไฟสร้างสรรค์สิ่งดีๆเสมอๆครับผม

เรียน อ.วิรัตน์ เห็นคุณวุฒิไกรนำรูปขึ้นFBไม่เล่าให้ฟังเลยว่าทำกิจกรรมดีงามกับอาจารย์ ชื่นชมๆๆกับการทำงานของอาจารย์มาตลอดค่ะ

อ๊ายยยะ คุณอัมพรนั่นเอง สบายดีนะครับ
ฝากถึงวุฒิไกรด้วยนะครับว่า หลังจากทุกท่านกลับไปแล้ว
วันรุ่งขึ้นภรรยาถึงได้ประคองหอ่ใบตองของฝากมาแสดง
โดยบอกว่าคุณวุฒิไกรทำและห่อมือด้วยตนเอง
พอแกะออกมาก็พบว่าเป็นไส้อั่ว
อร่อยมากครับ อร่อย ฝากขอบคุณตามหลังด้วยนะครับ
เขาเป็นนักธุรกิจผลิตภัณฑ์หม้อห้อมแก้ววรรณา
ที่ทำงานสังคม ปฏิบัติธรรม และทำไส้อั่วได้ด้วยนะนี่ ป๊าดโท่ะ !!!

ขออภัยครับ ผมเข้าใจสลับคนแน่ะครับ
ไปจำว่าเป็นจากคุณวุฒิไกร ทางภรรยาบอกว่าไม่ใช่ครับ เป็นคุณชิณวรน่ะ
งั้นก็ต้องขอขอบคุณไปยังคุณชิณวรนะครับ
เป็นไส้อั่วจากฝีมือสถาปนิกหรอกหรือนี่

เรียนอ.วิรัตน์ขออภัยเรื่องไส้อั่วนะครับ ผมไม่ได้ทำเองแต่ซื้อมาจากเจ้าประจำแถวบ้านครับ พี่เขาสืบทอดมาจากคุณพ่อเขาอีกทีจะขับมอเตอร์ไซค์ดัดแปลงเป็นสามล้อเร่ขายในตัวเมืองแพร่ทุกวันเว้นวันพระครับ แต่บางวันจะไม่เหลือไส้อั่วมาถึงบ้านผมต้องคอยโทรศัพท์บอกไว้ก่อนไม่งั้นอดเคยซื้อไปฝากหลายคนที่อื่นๆแล้วเห็นว่ารสชาติดีติดที่เผ็ดไปนิดนึง ส่วนตัวแล้วผมว่าอร่อยที่สุดในเมืองแพร่แล้วครับถ้าสนใจเมื่อไหร่แจนมาบ้านจะฝากไปให้อีกครับ

สวัสดีครับครูชิณวร
อร่อยครับ รสเข้มข้นเลยละ แฟนผมเขาชอบและชวนดูที่คุณชิณวรห่อไส้อั่วแน่ะ เขาบอกพิถีพิถันและสวยเหมือนเป็นงานฝีมือเลย ตอนยกมาวางและแกะให้ดู เขาไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร ปล่อยให้ลุ้นเอง ดูจากข้างนอกผมก็นึกไปถึงงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นแพร่ หรืองานฝีมือของเด็กๆที่มาเรียนกับครูชิณวรของเขา ไม่นึกว่าจะเป็นไส้อั่วหรืออาหารเลย อร่อย อร่อย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท