จักจั่นอาหารจานด่วน..


เมนูอาหารที่ยากจะได้กิน

วันนี้ได้เวลามาเล่าเรื่องราวที่ไปเจอมาหลังจากห่างหายไปนานมากเลย...วันนี้มาพร้อมกับเมนูอาหารจากจักจั่นที่ส่งเสียงร้องหรีดหริ่งเรไรในป่าใหญ่ ทุก ๆ วันพวกเราจะได้เสียงมันร้องอย่างไม่รำคาญ มันเป็นเสียงเพลงจากป่า แม้จะฟังไม่ออกว่ามันร้องว่าอย่างไร แต่มันก็พากันร้องเป็นจังหวะของมันไป...

แต่แล้วแอบไปเห็นน้อง ๆ ทำอุปรณ์อันหนึ่งเป็นไม้ยาว ๆ ปลายไม้จะมีถุงเล็ก ๆ ผูกไว้ พร้อมกับเปิดปากถุงไว้ เพื่อจะจับอะไรบางอย่าง ได้แต่นั่งดูยังเดาไม่ออกว่าจะทำอะไร 

เมื่อทำเสร็จแล้ว พากันเดินเข้าป่าหลังโรงเรียน เดินย่อง ๆ (เหมือนกลัวว่าอะไรบางอย่างจะได้ยินแล้วหลบหายไป) สายตามองขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่

สังเกตดูน้อง ๆ สักพัก เริ่มมองเห็นตัวที่น้อง ๆ ไล่จับแล้ว มันคือตัว"จักจั่น"นั่นเองค่ะ

จึงเดินเข้าไปถามน้อง ๆ พร้อมกับดูเทคนิคและวิธการจับจักจั่นของน้อง ๆ ต่อไป น้อง ๆ บอกว่าเล่าเรื่องอย่างสนุกสนาน น้อง ๆ เล่าให้ฟังพร้อมกับหยิบจักจั่นมาให้ดู ว่าจักจั่นเพศผู้จะท้องแบนไม่มีไส้สามารถนำมาทำเป็น"อั่วจักจั่น"ได้ ส่วนตัวเมียจะมีไส้ให้นะมาโขลกเพื่อทำเป็นไส้ของ"อั่วจักจั่น" มาถึงตอนนี้เริ่มอยากเห็นน้อง ๆ นำจักจั่นไปทำเป็น"อั่วจักจั่น"แล้วละสิค่ะ

@การจับจักจั่นด้วยไม้ด้ามยาว ๆ และมีถุงพลาสติกผูกไว้ตรงปลาย@

@จักจั่นจะเกาะอยู่บนต้นไม้ลักษณะแบบนี้ (ภาพไม่ชัดเท่าไหร่ค่ะ)@

 @เมื่อเห็นตัวจักจั่นแล้ว ค่อย ๆ ยื่นไม้ออกไป หันปากถุงไปทางที่มีจักจั่น เมื่อจักจั่นเผลอก็รีบควบถุงทันที@

@จับจักจั่นได้แล้ว@

@ข้างซ้ายคือจักจั่นเพศผู้ ส่วนทางขวาจะเป็นจักจั่นตัวเมีย@

ต่อไปได้เวลาสำหรับการปรุงอาหารแล้วค่ะ "อั่วจักจั่น" แต่ดูไปดูมาจะเหมือนจักจั่นชุบแป้งทอดมากกว่าค่ะ...

@นำข้าวสารไปแช่น้ำประมาณ 1 ชั่วโมง มาโขลกให้ละเอียดผสมกับพริก เกลือ ปรุงรสตามชอบ@

 

@ล้างจักจั่นที่ได้มาให้สะอาด และแยกตัวผู้ตัวเมียออกจากกัน@

@จักจั่นตัวเมียให้นำไปโขลกรวมกับแป้งที่เตรียมไว้@

@เมื่อตำเสร็จแล้วผสมน้ำนิดหน่อย@

@ส่วนตัวผู้ให้เด็ดก้นออกไปเก็บไว้ก่อน@

@ส่วนตัวให้เอาแป้งที่ได้เมื่อกี้มายัดใส่ แล้วนำก้นที่เด็ดออกไปมาปิดอีกที@

@ได้จักจั่นยัดไส้แล้วค่ะ@

@นำไปยอด ปกติจะย่างเอาค่ะ แต่วันนี้น้อง ๆ หิวมาก เลยเอาลงกระทะเลย@

@หน้าตาอาหารจากอั่วจักจั่น กลายเแป็นจักจั่นชุบแป้งทอดเลยค่ะ@

>>>รสชาติก็อร่อยดีค่ะ แต่เผ็ดและเค็มไปหน่อย

สำหรับคนที่แวะมาเยี่ยมชมบันทึกนี้ อย่าได้ตำหนิน้อง ๆ เลยนะค่ะ มันเป็นวิถีชีวิตและการเอาตัวรอดของแต่ละเผ่าพันธุ์  มีหลายคนที่เห็นแล้วนึกสงสารจักจั่นไม่ได้ ว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนี้ ไม่มีอย่างอื่นให้กินเหรอ ทำไมต้องกินจักจั่นด้วย ฯลฯ มีคำถามมากมาย แต่คำตอบคงอยู่ที่แต่ละคนตอบละกันค่ะ


ขอบคุณค่ะ

หมายเลขบันทึก: 489453เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 11:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 สิงหาคม 2012 11:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

เป็นการสร้างความสมดุลย์ให้กับธรรมชาติมังคะ

กว่าจะได้เปิบ  วิธีการซับซ้อนหลายขั้นตอน...

วิถีชีวิตของคนเราต่างกันค่ะ น่าชื่นชมกับการสืบต่อวิถีตามธรรมชาติของน้องๆ เขาค่ะ ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างพอเพียงเพื่อกินเพื่ออยู่ไม่เป็นภาระต่อตนเอง ต่อสังคม ธรรมชาติให้เราได้ไม่หมดหรอกค่ะ ตราบใดที่ยังไม่เปลี่ยนไปเป็นรูปแบบการค้าและมีคนกลางที่มีความโลภไม่สิ้นสุดเข้ามายุ่งเกี่ยว

หากเรามีเมตตากับสัตว์ เราก็ยิ่งต้องมีเมตตากับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมากขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็ด้วยการไม่ตำหนิวิถีชีวิตแบบธรรมชาตินั้นค่ะ ขอบคุณบันทึกที่น่าสนใจนี้ค่ะ :)

ขอแค่จับมากินก็พอนะครับ อย่าได้นำไปขายตามตลาดอย่างที่เคยเห็นมา

คุณ krugui วิธีการซับซ้อนจริง ๆ ค่ะ ขอบคุณนะค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณปริม pirimarj ส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านเองล้วนพึ่งพาธรรมชาติอยู่แล้วค่ะ แต่มีคนจากภายนอกหรือผู้ค้าคนกลางที่เข้ามามีบทบาทในการทำให้เกิดการค้าค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณ พ.แจ่มจำรัส ด้วยระยะทางแค่ 25 กิโลเมตร ถนนลูกรัง แต่ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงที่จะสามารถเข้ามาในเมืองได้ เพราะฉะนั้นโอกาสที่ชาวบ้านจะลงมาขายของข้างล่างมีน้อยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะจับไว้กินเองหรือแลกเปลี่ยนกันในชุมชนค่ะ ชาวบ้านบางคนมีโอกาสได้ลงมาในตัวเมืองแค่ปีละครั้ง หรือสองสามปีครั้ง บางคนไม่เคยเห็นตัวเมืองเลยด้วยซ้ำค่ะ

คนเป็นส่วนหนึ่งของป่าที่นั่น....อยู่ด้วยกันอย่างสมดุล

ที่ตลาดห้วยเดื่อ ติดถนนหนองบัวลำภู-อุดรธานี ช่วงลงจากภูเขา มีไข่จักจั่นมาขาย Pack ใส่ถุงพลาสติกเล็ก ๆ ขนาดครึ่งฝ่ามือ ๒๐ บาท ประมาณไม่เกิน ๓๐ ฟอง อย่างนี้....อาจมีผลต่อความสมดุล

คุณหมอทพญ.ธิรัมภาค่ะ ถ้าเป็นแบบนั้น มีผลต่อธรรมชาติแน่นอนค่ะ สำหรับน้อง ๆ แล้ว นาน ๆ จับมากินทีเท่านั้นแหละค่ะ เพราะอาหารอย่างอื่นที่หามารับประทานในป่ามีอีกเยอะ โดยเฉพาะพืชผักค่ะ

ผมเคยกินน้ำพริกจั๊กจั่นกับจั๊กจั่นทอด แต่ยังไม่เคยกิน "อั่วจั๊กจั่น" เลย...ท่าทางคงจะอร่อยดีนะครับ

เชิญแวะเข้าไปอ่านบันทึกของผม เรื่อง "ชีวิตอันน่าทึ่ง...ของจั๊กจั่น" ได้ที่นี่นะครับ

 

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/459938

เชิญแวะเข้าไปอ่านบันทึกของผม เรื่อง "ชีวิตอันน่าทึ่ง...ของจั๊กจั่น" ได้ที่นี่นะครับ

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/459938

ขอบคุณค่ะคุณอักขณิชที่เข้ามาแวะเวียน และแลกเปลี่ยนกันค่ะ

  • การอยู่รอดในแต่ละท้ิองที่ย่อมแตกต่างกันไป
  • แต่จุดหมายเดียวกันคือ  การเอาชีวิตรอด นั่นเอง
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกที่มีคุณค่าจ้ะ

ขอบคุณค่ะคุณมะเดื่อ ที่แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจมาให้

เสียงเพลงแห่งป่าเขา เจ้าจั๊กจั่นตัวน้อย เสร็จเจ้าเด็กน้อยชาวเขาไปเสียแล้วหรือนี่ !!!!!! เข้าใจค่ะว่ามันเป็นวิถีแห่งการดำรงชีวิตของชาวเขา เพิ่งรู้ว่าเค้าจับจั๊กจั่นกันแบบนี้นี่เอง เป็นอะไรที่ดูแปลกตา ไม่คิดว่าเค้าจับกันอย่างนี้

ทำไมถึงเรียกว่าการดำรงชีวิตแต่ละเผ่าพันธ์ุุุ มนุษย์ยุคไหนครับ ทั้งๆที่คนไทยกินกันแทบทุกภาค ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพก็มีทอดขาย ใช้คำว่าแต่ละพื้นที่น่าจะเหมาะกว่าคำว่าเผ่าพันธุ์นะครับ

ทำไมถึงเรียกว่าการดำรงชีวิตแต่ละเผ่าพันธ์ุุุ มนุษย์ยุคไหนครับ ทั้งๆที่คนไทยกินกันแทบทุกภาค ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพก็มีทอดขาย ใช้คำว่าแต่ละพื้นที่น่าจะเหมาะกว่าคำว่าเผ่าพันธุ์นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท