เคล็ดจากแพทย์แผนจีน


คำแนะนำจากแพทย์แผนจีนผสมแพทย์แผนปัจจุบันก็ไปทางเดียวกันได้

 ได้อ่านพบคำแนะนำจากแพทย์แผนจีนในการดูแลรักษาสุขภาพด้วยตนเองอย่างง่ายๆ  จึงอยากนำมาเผยแพร่ให้รู้ไว้ใช่ใส่บ่าแบกหามแต่อย่างไร    และเมื่อพิจารณาแล้วก็สอดคล้องกับองค์ความรู้แพทย์แผนปัจจุบันนั่นเอง  ถ้าเราสามารถปฏิบัติได้ก็ดีต่อสุขภาพของเรานั่นเอง  แพทย์แผนอะไรใช่แปลกแยกแตกต่างกันโดยสิ้นเิชิง  เพราะสุดท้ายปลายสุดต่างมีเป้าหมายเดียวกันเพื่อสุขภาวะที่ดีของมนุษยเรานั่นเอง

 

ท่านแนะนำเคล็ดลับไว้ 12 ข้อดังต่อไปนี้... 
1. 
หวีผมบ่อยๆ : 
หวีผมเบาๆ บ่อยหน่อยช่วยให้ตาสว่าง และรากผมแข็งแรง (ใช้หวีซี่ห่างหน่อย แปรงเบาหน่อย เพื่อกันผมหลุด) 

2. 
ถูใบหน้าบ่อยๆ : 
ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดก่อน หลังจากนั้นใช้ฝ่ามือ 2 ข้างถูหน้าเบาๆ บ่อยหน่อยเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ใบหน้าเปล่งปลั่ง 

3. 
เคลื่อนไหวดวงตาบ่อยๆ : 
ให้มองไกล-มองใกล้ มองข้างนอก-ข้างใน มองบน-มองล่าง หลีกเลี่ยงการมอง
หรือจ้องอะไรนานๆโดยเฉพาะคนที่ทำงานคอมพิวเตอร์ควรพักสายตาด้วยการมองไกลอย่างน้อยทุกชั่วโมง 

4. 
กระตุ้นใบหูบ่อยๆ : 
การดึงหู ดีดหู บีบหู ถูใบหูเบาๆ บ่อยหน่อย ช่วยบำรุงตานเถียน (จุดฝังเข็ม) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เก็บพลังงานของร่างกาย (ใต้สะดือ) สัมพันธ์กับไต ซึ่งเปิดทวารที่หู ทำให้แรงดี ป้องกันเสียงดังในหู หูตึง และอาการเวียนหัว 

5. 
ขบฟันบ่อยๆ : 
ขบฟันเบาๆ บ่อยหน่อย (ไม่ใช่ขบแรงดังกรอดๆ) ช่วยให้ฟันแข็งแรง และกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย 

6. 
ใช้ลิ้นดุนเพดานปากบ่อยๆ : 
การใช้ปลายลิ้นกระตุ้นเพดานบนด้านหน้าเป็นการกระตุ้นจุดฝังเข็ม เพื่อเชื่อมพลังลมปราณตู๋และเยิ่น ซึ่งเป็นเส้นควบคุมแนวกลางลำตัวส่วนหลัง และส่วนหน้าร่างกาย ทำให้เกิดการกระตุ้นการหลั่งสารน้ำ และน้ำลาย 

7. 
กลืนน้ำลายบ่อยๆ : 
การกลืนน้ำลายบ่อยๆ ช่วยกระตุ้นพลังบริเวณคอหอย และกระตุ้นการย่อยอาหาร 

8. 
หมั่นขับของเสีย : 
หมั่นขับของเสีย โดยเฉพาะดื่มน้ำให้พอ กินอาหารที่มีเส้นใย  ออกกำลัง เพื่อป้องกันท้องผูก เมื่อปวดปัสสาวะหรืออุจจาระให้ถ่ายทันที อย่ารอโดยไม่จำเป็นการทิ้งของเสียไว้ในร่างกายนานเกินทำให้เกิดสารพิษ และการดูดซึมสารพิษ (กลับเข้าสู่ร่างกาย) มากขึ้น ทำให้ป่วยง่าย 

9. 
ถูหรือนวดท้องบ่อยๆ : 
ให้นวดท้องตามเข็มนาฬิกาเบาๆ เพื่อช่วยให้การขับถ่ายของเสียดีขึ้น 

10. 
ขมิบก้นบ่อยๆ : 
การขมิบก้นบ่อยๆ ช่วยป้องกันริดสีดวงทวาร และท้องผูก 

11. 
เคลื่อนไหวทุกข้อ : 
การอยู่นิ่งๆ หรืออยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป ทำให้เกิดโรคได้ง่าย ควรเคลื่อนไหวข้อต่างๆ ให้ครบทุกข้อทุกวัน ฝึกฝนการใช้กล้ามเนื้อและข้อให้สมดุล  เช่น การฝึกชี่กง ไท้เก้ก โยคะ ฯลฯ 

12. 
ถูผิวหนังบ่อยๆ : 
ใช้ฝ่ามือถูตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย คล้ายกับการถูตัวเวลาอาบน้ำ มีส่วนช่วยให้เลือดและพลังไหล เวียนดี 

     เรียนเชิญท่านผู้อ่านลองนำไปปฏิบัติดู เพื่อสุขภาพ พลัง และลมปราณที่ดีไปนานๆ  ครับ... 
     ท่านอาจารย์นายแพทย์ภาสกิจ(วิทวัส) วัณนาวิบูล อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแพทย์แผนจีน แนะนำเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ ตามศาสตร์แพทย์แผนจีนว่า 

อาหาร 10 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกิน  นำแนวคิดศาสตร์แพทย์แผนจีนมาวิเคราะห์โดยใช้หลักแพทย์แผนปัจจุบันประกอบ... 

อาหารที่ไม่ควรกินมากเกิน หรือบ่อยเกินได้แก่... 
1. 
ไข่เยี่ยวม้า : 
ไข่เยี่ยวม้ามีตะกั่วค่อนข้างสูง ตะกั่วทำให้การดูดซึมแคลเซียมน้อยลง กินบ่อยๆ จะเสี่ยงโรคกระดูกโปร่งบาง และอาจได้รับพิษตะกั่วเช่น สมองเสื่อมเป็นหมัน ฯลฯ 
2. 
ปาท่องโก๋ : 
กระบวนการทำปาท่องโก๋มีการใช้สารส้ม ซึ่งมีตะกั่วปนเปื้อนตะกั่วทำให้ไตทำงานหนักในการขับสารนี้ออกไป นอกจากนั้นยังทำให้คอแห้ง เจ็บคอง่าย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคร้อนในได้ง่าย 
3. 
เนื้อย่าง : 
กระบวนการรมไฟ ย่างไฟทำให้เกิดสารเบนโซไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง 
4. 
ผักดอง : 
ผักดอง และของหมักเกลือทำให้ร่างกายได้รับเกลือโซเดียมสูง ถ้ากินบ่อยเกินหรือมากเกินจะทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดความดันเลือดสูงและโรคหัวใจได้ง่าย นอกจากนั้นกระบวนการหมักดองยังทำให้เกิด สารแอมโมเนียมไนไตรด์ ซึ่งเป็นสาร ก่อมะเร็ง 
5. 
ตับหมู : 
ตับหมูมีโคเลสเตอรอลสูง การกินตับหมูบ่อยเกิน หรือมากเกินทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ เส้นเลือดสมอง (อัมพฤกษ์-อัมพาต) และโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น 
6. 
ผักขม ปวยเล้ง : 
ผักขมและปวยเล้งมีสารอาหารสูง  ทว่า... มีกรดออกซาเลตมาก ทำให้เกิดการขับสังกะสี และแคลเซียมออกจากร่างกายมาก การกินบ่อยเกิน หรือมากเกินอาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลเซียม หรือสังกะสีได้ 
7. 
บะหมี่สำเร็จรูป : 
บะหมี่สำเร็จรูปมีสารกัดบูด สารแต่งรสค่อนข้างสูง และมีคุณค่าทางอาหารต่ำ การกินบะหมี่สำเร็จรูปมากเกิน หรือบ่อยเกินอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคขาดอาหาร และการสะสมสารพิษได้ 
8. 
เมล็ดทานตะวัน : 
เมล็ดทานตะวันมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง  ทว่า... การกินมากเกิน หรือบ่อยเกินอาจทำให้กระบวนการเคมี  (metabolism) ในร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิดการสะสมไขมันในตับ ภาวะไขมันในตับสูงอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคตับ เช่น ตับแข็ง ฯลฯ เพิ่มขึ้น 
9. 
เต้าหู้หมัก เต้าหู้ยี้ : 
กระบวนการหมักเต้าหู้อาจมีการปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่าย   ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อคนสูงอายุ หรือเด็กเล็กได้ นอกจากนี้กระบวนการผลิตยังทำให้เกิดไฮโดรเจนซัลไฟด์  ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย 
10. 
ผงชูรส : 
คนเราไม่ควรกินผงชูรสเกินวันละ 6 กรัม หรือประมาณ 1 ช้อนชา... การกินผงชูรสมากเกิน หรือบ่อยเกิน ทำให้เกิดภาวะกรดกลูตามิกในเลือดสูงอาจทำให้ปวดหัว ใจสั่น คลื่นไส้  และมีผลเสียต่ออวัยวะสืบพันธุ์ 

 

**** ทำได้ย่อมดีต่อสุขภาพของเราอย่างแน่นอน  โดยเฉพาะหลายเรื่องเกี่ยวโยงโดยตรงกับมนุษย์หน้าจอจริงๆ ****

 

หมายเลขบันทึก: 488789เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2012 10:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เรียนท่าน มันอ้น

มีหลายสิ่งเหมือนกันที่ เห็นทีต้องเลี่ยง ละ เพื่อสุขภาพ ตามที่ท่านนำข้อมูลมาบอก

ด้วยความขอบคุณครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจครับ

ถ้าพอทำได้ก็เป็นการดีครับท่านวอญ่า ผมก็พยายามเช่นกัน จะได้อยู่คุยกันนานๆๆๆๆๆ ครับผม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท