ดีใจที่วงการ พาลลิเอทีฟแคร์ ได้คนเก่งคนดีมาช่วยอีกมากมายค่ะ :)
เรียนอาจารย์ คุณหมอ ป.
ได้ฟังเรื่อง พาลลิเอทีฟแคร์ มาจากท่านอาจารย์หมอ สกล สิงหะ และอาจารย์หมอเต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี ผ่านบันทึก
แต่ไม่ได้ลงลึกศึกษาเพราะเห็นว่าทำประเด็นอื่นๆในเรื่องสุขภาพอยู่
เมื่อต้องมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องๆในรพ. ก็ต้องสืบเสาะหาข้อมูล จากท่าน กู จึงได้รู้ข้อมูลมาคุยเล่าให้ฟังกัน
ว่าฮอสพิช กับพาลลิเอทีฟแคร์ที่แท้สายพันธ์เดียวกัน
ทั้งอโรคยาศาลวัดคำประมง กับวัดพระบาทน้ำพุ คือชุมชนดูแลผู้ป่วย
งานนี้หากทำตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายคงยากที่ไปถึง หากขาดใจอาสาสั่งมาให้ทำ
ในส่วนของการสร้างเครือ สร้างใจคนทำงาน และชุมจัดการต้องอาศัยหลายภาคส่วน
ดังนั้นในวันอาทิตย์ ที่คนราชการต้องมาประชุมในวันหยุดตามรายชื่อ จะเป็นการประเมินกำลังเครือข่ายในเบื้องต้น
ขอชื่นชม ท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า คนดีของสังคมค่ะ
ขอบคุณครูทิพย์ ที่มาให้กำลังใจผู้เฒ่า ทำดี ทำเพิ่ม ทำเผื่อ เพื่อสังคม น่าอยู่ครับครู
เรื่อง Palliative care .. ที่สูงเนินยังทำได้ไม่เวิร์คเท่าไรค่ะ ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน.. ระบบยังไม่นิ่ง..
ส่วนใหญ่จะทำได้-ทำเป็น เฉพาะคนที่ไปอบรมมาค่ะ.. ต้องพัฒนา Competency ทีมงานเรื่องนี้อีกเยอะ เพราะอยู่ที่จิตใจล้วนๆ ต้องใช้เทคนิคและ ทักษะอย่างมาก
ที่มโนรมย์ เริ่มทำที่แผนกผู้ป่วยในมา 1 ปี กว่าๆ และประสานศูนย์เยี่ยมบ้าน ร.พ.สต. เครือข่าย ซึ่งถือว่าดีระดับหนึ่ง แต่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและยากมาก จึงได้ อบรมสหสาขา 100% รวมทั้ง ER ด้วย เนื่องจากเมื่อผู้ป่วยเกิดอาการวิกฤต ญาติบางส่วนจะนำผู้ป่วยมา ER ทำให้ ER มีส่สนในการดูแลผู้ป่วยวาระสุดท้ายด้วยเช่นกัน
เรียนคุณ ระพี...วันนี้ไปต่อยอดPalliative care เด็กที่ รพ.มอ. มีอาจารย์หมอสกล มาให้ความรู้
และมีการเล่าเรื่องจาก รพ.ต่างๆใ้เรียนรู้กัน
เรียนคุณ มโนรมย์ ที่ปากพะยูนก็เคลื่อนงานแบบค่อยเป็นค่อยไป ยังสร้างเครือข่ายกันต่อไป