จ้ำบ๊ะ...ใครรู้จักบ้าง...ต้องการตัวช่วยจ้า....
ใครมีประสบการณ์เรื่องจ้ำบ๊ะ...
จะเป็นจ้ำบ๊ะชนิดเต้น.....หรือจ้ำบ๊ะชนิดกิน...
ช่วยให้ข้อมูลป้าเจี๊ยบหน่อยนะคะ
เพราะป้าเจี๊ยบหาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว วว...
เหตุเกิดเนื่องจากไปอ่านข่าวใน นสพ.ประชาชาติธุรกิจว่า
มีหนุ่มเมืองจันท์ (ที่ไม่ใช่นักเขียน) วัยสามสิบ
จดลิขสิทธิ์การค้าคำว่า “จ้ำบ๊ะ” ที่เป็นน้ำแข็งใสใส่ขนมปัง ราดน้ำหวาน โรยนมข้น เรียบร้อยแล้ว!
หนุ่มให้สัมภาษณ์ว่าเป็นผู้คิดค้นการกินน้ำแข็งใสหรือขนมปังเย็นแบบนี้ขึ้นมา?!?
ไม่ต้องการให้ใครมาเลียนแบบ จึงไปจดลิขสิทธิ์...ซะงั้น!
ป้าเจี๊ยบก็เกิดอาการกระตุกอยู่ไม่สุขขึ้นมาทันที
เพราะรู้จักกินจ้ำบ๊ะ... น้ำแข็งไสใส่ขนมปังมาก่อนเจ้าหนุ่มจะเกิดซะอีก
จึงหาเรื่องใส่ตัวด้วยการขอทุนมหาวิทยาลัยทำวิจัยเรื่องนี้
เพื่อจะได้บันทึกจ้ำบ๊ะฉบับป้าเจี๊ยบอย่างเป็นทางการสำหรับคนรุ่นหลังได้รู้ไว้
สำนักวิจัยฯออกจะงงๆ แต่ก็ยอมให้ทุนมานิดๆหน่อยๆ เพื่อลองดูก่อน ถ้าไปไหวก็บอกว่าให้ขอทุน สกอ. ต่อไปอีก
กะว่าถ้างานนี้ไปรุ่ง ก็จะวิจัยเรื่องอื่นๆ ที่คนทั่วไปเห็นเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ จนไม่มีใครใส่ใจ จนวันหนึ่งดันมีคนมาตีตราจองเป็นเจ้าของ “สามัญนาม” ที่ชาวบ้านใช้มานานซะนี่
โจทย์สำคัญคือ ความเป็นมาของวัฒนธรรมการกินน้ำแข็งไสแบบไทยๆ กับความเชี่อมโยงระหว่างน้ำแข็งไส อันเป็นจ้ำบ๊ะชนิดกินได้กับจ้ำบ๊ะชนิดเต้นได้...หุ หุ หุ
ป้าเจี๊ยบจึงถือโอกาสลาพักร้อนช่วงพฤษภาคม ตะเวนไปตามจังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือกะอีสาน พูดคุยคนโน้นคนนี้ เก็บข้อมูลมาสะสมไว้ คงต้องใช้เวลาต่ออีกพักใหญ่
แล้วก็ปลื้มมากที่เมื่อ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ป้าเจี๊ยบได้ “กบไสน้ำแข็ง” เป็นของกำนัล
คุณลุงใจมา ระวังทรัพย์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านดอกบัว ที่พะเยา ยกของเก่าที่ท่านเก็บไว้ให้ฟรีๆ ระหว่างตามรอยจ้ำบ๊ะ
ใครมีประสบการณ์เรื่องจ้ำบ๊ะ ช่วยกรุณาให้ข้อมูลป้าเจี๊ยบด้วยนะคะ ...
จ้ำบ๊ะถ้วยนี้ กินเมื่อ 9 ก.พ.2555 ที่ร้านส้มตำในซอยใกล้บ้าน
ความเห็น (10)
มหา ก็ชอบจ้ำบ็ะ คงแซบ
ที่ปักษ์ใต้เรียกน้ำแข็งไส หรือน้ำแข็งซรูน (คืออาการ ผลัก ดัน รุนไปข้างหน้า) มีมานนานคนอายุ 90 ปี รู้จักกินน้ำแข็งนี้มาแล้ว) ปัจจุบันใช้เครื่องปั่นกันแล้ว มีส่วนผสมหลายอย่าง กินครั้งสุดท้านเมื่อ 5พค.เดือนนี้ที่ตลากน้ำหัวหินสามพันนาม
ที่ปักษ์ใต้เรียกน้ำแข็งไส หรือน้ำแข็งซรูน (คืออาการ ผลัก ดัน รุนไปข้างหน้า) มีมานนานคนอายุ 90 ปี รู้จักกินน้ำแข็งนี้มาแล้ว) ปัจจุบันใช้เครื่องปั่นกันแล้ว มีส่วนผสมหลายอย่าง กินครั้งสุดท้านเมื่อ 5พค.เดือนนี้ที่ตลากน้ำหัวหินสามพันนาม
- คุณมะเดื่อรู้ัจักและได้กินจ้ำบ๊ะ ก่อนหน้าที่เจ้าหนุ่มคนนี้เกิดเช่นกันจ้ะ
- แต่คงเป็นเพราะคนที่คิดค้นของกินประเภทนี้คนแรก ๆ หรือคนต่อ ๆ มาในยุคไม่สนใจเรื่องลิขสิทธิ์ และสมัยนั้นไม่มีการจดสิทธิบัตรก็เป็นได้ จึงไม่มีใครคิดถึงเรื่องนี้จ้ะ คนรุ่นใหม่จึงสามารถจดลิขสิทธิ์ได้
- คุณมะเดื่อว่า อาหารคาวหวานของไทยอีกมากมายหลายชนิดที่ไม่มีใครสนใจเรื่องลิขสิทธิ์มาก่อน อย่างขนมครก ขนมบัวลอย ขนมปลากริมไข่เต่า ( เอ..!ไม่ทราบว่ามีการจดลิขสิทธิ์กันหรือยัง) เป็นต้น
- แต่....ต่อ ๆ ไป อาจจะมีคนนึกถึงเรื่องนี้และจดลิขสิทธิ์ไว้ ถ้าเป็นคนไทยขอจดลิขสิทธิ์ก็คงไม่ว่ากัน แต่ถ้าต่างชาติขอจดล่ะ....จะว่ายังไงกัน !
ตามมาเจอบันทึกนี้ของป้าเจี๊ยบแล้ว รู้สึกว่าโจทย์วิจัยป้าเจี๊ยบน่าสนใจดีจัง เป็นกำลังใจให้ป้าเจี๋ยบนะคะ
ส่วนตัวหนูเองไม่คุ้นเคยกับคำนี้เลยค่ะ
- จากอีสานกับเหนือแล้ว ป้าเจี๊ยบจะต้องลงใต้ไปกินน้ำแข็งซรูน
- ท่านวอญ่า บอกว่าทีเครื่องหลายอย่าง ช่วยบอกด้วยสิคะว่ามีอะไรบ้าง
- คุณมะเดื่อกินตั้งแต่ปีไหน ใส่อะไรบ้างคะ
- ขอบคุณน้องมะปรางเปรี้ยวที่มาให้กำลังใจ
- ป้าเจี๊ยบ
- ครูที่สุพรรณบุรี
- เพิ่งทำให้กิน
- แต่ผมไม่ได้กิน
- เสียดายงานยุ่ง
- กลับมาจ้ำบ๊ะหมด
- ใส่น้ำแข็ง ไส ดูเหมือนมีน้ำแดง ด้วยครับ
- สวัสดีครับอาจารย์
- น่าทานยังเลยครับ
- เห็นแล้วหวานปากเลย อิ อิ
เพิ่งไปกินครับอร่อยมากๆ ป้าเจี๊ยบสบายดีนะครับ
..กินน้ำแข็งไส..ใส่..น้ำแดง(หวาน)..มาตั้งแต่เด็กๆ(เมื่อหกสิบกว่าปีที่ผ่านมา)..ไม่รู้เลยว่าสมันนี้เรียก..ขนมนี้ว่า..จ้ำบ๊ะ..หากแต่ว่า..งานวัดสมัยก่อน..จะมี..โรงเต้น..เขาเรียกว่า..ระบำ..จ้ำบ๊ะ..๕๕๕๕๕....(เรื่องลิขสิทธิ์ถ้าจะซับซ้อน..ฟ้องกันเป็นเรื่องเป็นราว..คงสนุกกันใหญ่..หากที่พัทยา..เกิดนางเต้นระบำกอดเสา..อยากจะเรียก..อาชีพ..ตัวเอง..ว่า"จ้ำบ๊ะ"เอาชื่อเก่าๆมาเรียกใหม่..จาทำไงกันเนี่ยะ...ชาวบ้านคง..จะงงๆ...อ้ะะๆๆๆ)...ยายธี