๓๐๖.ตำนานเสือทัย เสือใหญ่แห่งลุ่มน้ำอิง


 

                มีเรื่องเล่าว่า “เสือทัย” เป็นนักเลงที่โด่งดังสะท้านยุทธจักรของเมืองพะเยาในยุค พ.ศ. ๒๕๐๐ ในขณะที่บ้านเมืองสับสนวุ่นวายอำนาจของทางราชการเข้าไม่ถึงประชาชน คนทั้งหลายไม่มีระเบียบ แต่ละคนประพฤติตนตามอำเภอใจ จึงปิดช่องให้ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ได้ตั้งตนเป็นเจ้าพ่อแสดงอำนาจ สร้างบารมีในรูปแบบและลักษณะต่าง ๆ จนเป็นที่รู้กันว่าใครใหญ่ในท้องถิ่น

                มีคนเล่าว่า คืนไหนได้ยินเสียงดังปัง....แล้วตามมาด้วยเสียงร่ำไห้ระงมของเด็กน้อย หรือเสียงโหยหวนของผู้หญิงแล้วละก็....นั่นก็แสดงว่ามีคนตายอีกแล้ว  รุ่งขึ้นก็จะมีพิธีทำศพ และในความคิดของชาวบ้านพุ่งเป้าหมายถึงตัวการกระทำในครั้งนี้หรือทุกครั้งก็คือ เสือทัย

                “เสือทัย...บุก!...” จึงเป็นอีกประโยคแรกที่กลุ่มโจรมักกล่าวอ้างเวลาบุกมาปล้นบ้านเรือนประชาชน จนชื่อเสือทัย กลายเป็นมนต์สะกดผู้คนในบ้านและระแวกบ้านไม่กล้าลุกขึ้นมาสู้ หรือเข้าช่วยเหลือ มีชาวบ้านเล่าว่าไปเลี้ยงวัวควายที่ท้องทุ่ง ถ้ามีคนมาบอกว่าเสือทัยให้มาเอาตัวนี้ ๆ โดยจะชี้เอากี่ตัวก็ได้  แล้วจูงเอาไปหน้าตาเฉยก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากขัดขืน

                มีเรื่องเล่าว่าบ้านไหนที่มีลูกสาวไปทำงานที่กรุงเทพฯ เมื่อส่งเงินกลับมาบ้านต้องจ่ายเปอร์เซ็นต์ให้เจ้าพ่อ  หรือแม้แต่ถามซื้อที่ดินในราคาถูกๆ ชาวบ้านก็ยอมขาย เพราะทราบชะตาชีวิตตัวเองดี คือถ้าไม่ยอมขายก็จะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่คืนเดียวเท่านั้น พอรุ่งเช้าก็จะกลายเป็นศพทันที

                ในกรณีดังกล่าวนี้พระผู้ใหญ่ระดับรองเจ้าคณะอำเภอรูปหนึ่งเล่าว่า ในวัยเด็กท่านเป็นสามเณรกลับไปเยี่ยมโยมแม่ถูกยิงตาย เพราะก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ได้มีลูกน้องเสือทัยมาขอซื้อที่นา ซึ่งอยู่ในทำเลดีและอยู่ติดกัน ได้มีลูกน้องเสือทัยมาขอซื้อที่นา ซึ่งอยู่ในทำเลดีและอยู่ติดกัน แต่โยมแม่ท่านไม่ยอมขาย โดยบอกว่าจะเก็บเอาไว้ให้ลูก ๆ เมื่อวันคืนผ่านไปเรื่องถูกยิงตายก็เกิดขึ้น

                มีเรื่องเล่าว่า  ทางการเคยส่งตำรวจไปไล่ล่าอยู่หลายครั้งแต่ทุกครั้งก็มีอภินิหาร รอดพ้นมาได้ทุกครั้งมีคนเล่าเป็นโจ๊กตลก ๆ อยู่หลายเรื่องหลายเหตุการณ์  ซึ่งจะขอประมวลบางส่วนมาดังนี้

-                   เสือทัยทำภารกิจอยู่บนบ้าน ตำรวจไล่วิ่งขึ้นไปจับก็ใช้วิชาบังตาไม่ให้ตำรวจเห็น บ้างก็ขยายความไปว่า แปลงกายเป็นจิ้งจกเกาะติดเพดานเดินหนีไปต่อหน้าต่อตา

-                   ครั้งหนึ่งได้ยิงต่อสู้กับตำรวจอย่างดุเดือน  และในที่สุดก็วิ่งหนีไปอย่างทุลักทุเล  พอจวนตัวโดดลงพุ่งตะไคร้ แล้วหายตัวไปในพุ่มตะไคร้ไปโผล่ที่รูปูโน่นเป็นต้น

-                   ทางการส่งคนไปไล่ติดตาม เห็นหลังอยู่ไว ๆ อยู่กลางทุ่งนาพอตำรวจสั่งกำลังพลล้อมวงเข้าไปกลับหายตัวกลางจอมปลวกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

-                   และเรื่องเล่าที่เก่งกล้าสามารถอีกมากมายหลายประเด็นแต่ทั้งหมดนี้มิใช่สาระที่จะเข้าไปศึกษา และกล่าวอ้างถึงแต่อย่างใดและที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยเท่านั้น

                ในวงการนักเลงและคนเล่นของ มักจะมีกฎกติกา หรือข้อห้ามไว้หลายอย่าง เพื่อเป็นเสมือนครูหรือเกราะคุ้มกันผู้ถือคาถาหรือของ (วัตถุมงคล) ไม่ให้เสื่อมคลายลงไป แต่ที่นิยมกันก็คือ

๑.      ไม่ล่วงละเมิดศีลข้อที่ ๓ คือ การประพฤติผิดในลูกเมียบุคคลอื่น แต่ถ้าจะมีก็มีเมียทีละคน และผู้หญิงต้องยินยอมด้วยก็ไม่มีปัญหา  ความขลังของคาถายังไม่เสื่อม

๒.    ไม่ทำร้ายผู้หญิง หรือ ฆ่าผู้หญิง เขาว่าสะท้อนมาเข้าตัว คือไปทำร้ายเพศแม่ คนที่อ่อนแอกว่าไม่ได้

๓.     ไม่ห่างออกจากของขลัง เช่นตะกรุด หรือ เหรียญพระที่ถูกการปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ ผู้ทรงวิทยาคมแก่กล้า

๔.     ให้ระวังผ้าถุง,ประจำเดือนของผู้หญิง,ของต่ำทั้งหลายบางคนถึงกับไม่ลอดเข้าไปใต้ถุนบ้าน หรือราวตากผ้าเลยก็มี เพราะสิ่งเหล่านี้คาถาอาคมจะเสื่อมง่ายและรวดเร็ว

                ข้อห้ามทั้งหมดนี้ ถ้าเสือคนไหนไม่มีสัจจะแล้วทำการละเมิดก็จะมีอันเป็นไป ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความเสื่อมคลายของขลังจนถึงกับเสียชีวิตก็ได้  เพราะเมื่อตัวเองถือครูอาจารย์แล้วให้อาจารย์เสกคาถาให้

                อาจารย์ทุกคนล้วนกำชับว่า ให้ใช้วิชาอาคมในทางที่ดี ช่วยเหลือชาวบ้าน หากผิดสัจจะก็จะมีภยันอันตรายถึงตัว และโดยมากลูกศิษย์ทุกจะตกลงรับปากรับคำกับอาจารย์ทั้งนั้น

                แต่ผู้เขียนคิดว่า การที่รอดตัวมาได้บ่อยครั้งเป็นเพราะ.......

     ๑.      ความชำนาญในพื้นที่ รู้ทุกจุด ทั้งจุดเป็นจุดตาย จุดดับ จุดรอด รู้แม้กระทั่งทิศทางที่หนี แม้ทางการจะมีกำลังมากอย่างไรก็ตาม  ด้วยความชำนาญนี้เอง  จึงทำให้แคล้วคลาดมาตลอด

     ๒.    เลี้ยงลูกน้องไว้เยอะ รวมทั้งการมีภรรยาหลายคนหลายบ้าน ซึ่งจะคอยอำนวยความสะดวก และสร้างเครือข่ายในการหลบซ่อนตัวและหาทางหนีให้ไปในตัว  จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจอะไร

     ๓.     การระวังตัว และเปลี่ยนที่หลับนอนตลอดเวลา มีทั้งการนำธูปมาจุดถ้าหมดดอกก้ลุกหนีไป  หรือเมื่อคนมาถามว่า “ทัย” ไปไหน  ลูกน้องหรือภรรยาจะตอบทิศทางตรงกันข้าไปเพื่อความปลอดภัย เช่น เสือทัยไปในตัวเมืองก็จะบอกว่าไปต่างอำเภอ ถ้าไปทิศใต้ก็จะบอกว่าไปทางทิศเหนือ  เป็นต้น

                เดือนเมษายน  ๒๕๔๗ ที่ผ่านมาได้ไปเทศน์งานศพของลูกน้องคนหนึ่งของเสือทัย ผู้ใกล้ชิดเล่าว่าคนนี้แหละมือฆ่าหั่นศพเมื่อลูกพี่ตายมีคนบอกว่าให้บวชเสีย ถ้าไม่บวชแล้วมีทางไปทางเดียวเท่านั้นคือตาย ลูกน้องคนนี้กลัวมาก ท่านจึงบวชและตายในผ้าเหลืองด้วยวัย ๒๑ ปี

                เมื่อเราเข้าไปศึกษาและสอบถามผู้คนในตำบลห้วยลานกับพบว่าเสือทัยหรือ กำนันอุทัย เป็นนักพัฒนาเป็นผู้นำท้องถิ่นที่เข้มแข็ง และเป็นคนใจคอกว้างขวาง ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาไพเราะปากหวาน อารมณ์ดี รูปร่างผู้ใหญ่[1]

                ด้วยบุคลิกดังกล่าว  เสือทัยจึงเป็นที่หมายปองของหญิงนักข่าวท้องถิ่นคนหนึ่งเล่าว่า เสือทัยตัวจริงนั้นเป็นคนเกรงใจเมียรักเมียมาก ซึ่งพ้องกับภรรยาคนแรกของท่านเล่าว่า ครั้งหนึ่งท่านโกรธจัดไล่ตบตีเสือทัยท่านก็ไม่ว่าอะไร และไม่ตอบโต้

                ชาวบ้านเล่าเป็นคนอัธยาศัยดี จะมีปืนติดเอวอยู่ตลอดเวลา เวลาวัดจัดงานสมโภชต่าง ๆ มักจะไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นเพราะท่านคุมเอง ในอดีตทั้งตำบลมีอยู่ ๔ หมู่บ้าน จะสั่งเกณฑ์ชาวบ้านมาอยู่เวรหมู่ละ ๑๐ คน โดยหมุนเวียนกันไปและสร้างศาลาภายในบ้านพร้อมแจกปืนให้อยู่เวรคนละกระบอกเหล้ายาปลาปิ้งอยู่ได้ตลอดคืน ภายในตำบลเรื่องยาเสพติด,การลักวัวควาย,การปล้นฆ่า ไม่มี นอกจาก...ถ้าเกิดเหตุใดใดขึ้นผู้คนจะรู้กันดีว่าใครเป็นใคร

                ถ้ามีเหตุการณ์วัวควายใครหาย ให้ไปหากำนันทัย จะใช้เวลาเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น วัวควายที่หายไป จะมายืนเล็มหญ้าอยู่หน้าบ้านอย่างไม่มีรอยตำหนิและเหตุการณ์เกิดขึ้น

                จึงเป็นปริศนาว่า ใครคือ เสือทัย กันแน่ ซึ่งในเรื่องนี้ข้าพเจ้าได้ตั้งข้อสังเกตไว้ดังนี้

-                   เสือทัย ได้สร้างความเจริญก้าวหน้า และพัฒนาในเขตตำบลของตนเองแต่ไปปล้นและทำร้ายคนในเขตตำบล อำเภอ จังหวัดอื่น

-                   เมื่อมีลูกน้องมากมายหลายคน มีบางกลุ่มแตกแถวแอบอ้างชื่อเสือทัยออกปล้นฆ่า จึงทำให้เสือทัยมีศัตรูมากโดยไม่รู้ตัว

-                   เสือใบ,เสือไทย ในเขตภาคกลางในยุคนั้นก็มีชื่อ และความโด่งดังมากพ้องตรงกัน จึงเกิดตำนานเสือทัย ขึ้นมา

-                   ลูกน้องคนสนิทเสือทัยคนหนึ่งเล่าว่า กำนันทัยนั้นเป็นคนดีมีอัธยาศัย แต่เสือทัยตัวจริงคือ ภรรยาของท่านที่ชื่อ “ไพร่” ที่อยู่เบื้องหลังสั่งการทุกอย่าง เช่น สั่งให้ไปเอาวัวควาย จากบ้านนั้นบ้านนี้มา ฯลฯ

                เสือทัยเคยคัดค้านหลายครั้ง ไพรก็ตะครอกใส่ว่าไอ้เฒ่าจะไปรู้อะไรไม่ต้องกังวลเจ๊จะจัดการเอง  และผู้หญิงคนนี้เป็นคนเก่งจัดฉากได้ดี สามารถนำผู้ว่าราชการจังหวัดมารดน้ำดำหัวเสือทัยได้  ซึ่งปัจจุบัน ณ พ.ศ. ๒๕๔๗ นี้ “ไพร” ยังมีชีวิตอยู่ที่แม่สาย แต่อยู่ในสภาพที่น่าเศร้าสลด ไร้สติ เป็นคนวิตกจริต จะถือว่าเป็นกรรมหรืออะไรก็ไม่สามารถคาดเดาได้

                จะด้วยเหตุผลใดใดก็แล้วแต่ ในที่สุดตำนานเสือทัย ก็จบในพ.ศ. ๒๕๑๘ เมื่อถูกกราดยิงพร้อมลูกน้องคนคุ้มกัน ๔ ศพ ในคราวหาเสียงเลือกตั้ง ส.จ. ในเขตอำเภอดอกคำใต้

                ลูกน้องผู้รอดชีวิตและอยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า กลุ่มที่เป็นอริ หรือผู้ถูกอิทธิพลของเสือทัยได้รวมตัวกันตั้งจุดสกัดยิงถึง ๒ จุดในระยะห่างกัน ๒๐ เมตร

                กลุ่มแรกถล่มด้วยปืนอาร์พีจี และอาวุธหนักทุกชนิดเมื่อรถเสียหลักและจอดสนิท กลุ่มที่สองจะตามมายิงด้วยปืนเอ็ม ๑๖ และเข้ายิงซ้ำจนตาย

                ปรากฏว่าชุดแรกได้ยิงอาร์พีจี ทะลุกระจกเข้าไปถูกหน้าอกเสียทัย ลูกกระสุนไม่ระเบิดและลูกปืนที่ยิงกระหน่ำชุดที่สองก็ไม่ระคายผิว แต่ลูกน้องตายไปแล้ว ๔ คน

                เมื่อชุดที่สองยิงถล่มอีกระลอกหนึ่งก็กรูกันเข้ามาเปิดประตู เห็นเสือทัยล้มลงมากองที่พื้นในลักษณะเอามือกุมอกเหมือนคนจุกเสียดอะไรประมาณนั้น กลุ่มคนดังกล่าวจึงเข้าทุบด้วยด้ามปืนจนเสียชีวิต

                หนึ่งในผู้รอดตายครั้งนั้นคือลูกชายเสือทัย เพราะพระที่คุ้มครองเสือทัยก่อนออกจากบ้าน ได้ถอดมอบให้ลูกชายไปแล้วภรรยาท่านคนหนึ่งเล่าว่า ถ้าพระยังอยู่เสือทัยอาจไม่ตาย

                พระนั้นชื่อว่าพระคง แต่ที่น่าเสียดายลูกชายคนดังกล่าวหลังจากได้พระดีไปแล้ว ได้นำพระจำนำเสียเพราะติดการพนันและได้ฆ่าตัวตายในอีกหลายปีต่อมา

                การเข้าไปศึกษาครั้งนี้ ได้ไปสอบถามภรรยาและญาติของเสือทัยด้วย ซึ่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งหลายประการ ส่วนชื่อ - สกุล และครอบครัว ข้าพเจ้าขอปิดไว้เพราะบุคคลหลายคนยังมีชีวิตอยู่

 



[1]ดูบุคลิกและภาวะผู้นำ เหมือนขุนเดชที่สามารถครองใจชาวบ้านได้:ดูตำนานขุนเดช

 

หมายเลขบันทึก: 484957เขียนเมื่อ 12 เมษายน 2012 11:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 23:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เคยได้ยินมานานแล้วครับ สำหรับประวัติเสือไท เพราะพ่อผมได้ไปอาศัยพึ่งบารมีท่านอยู่ จนได้เจอกับแม่ผม เพราะแม่ท่านเป็นคนบ้านห้วยต้นตุ้ม ตำบลห้วยลาน ขอบคุณที่ลงประวัติท่านให้ครับ

  1. ผมเป็นลูกหลานท่านครับขอบคุณครับที่ลงประวัติท่าน

ขอบคุณค่ะที่ลงประวัติ ตาของหนู

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท