นาน ๆ ๆ มาก กว่าเด็ก ๆ จะได้มีโอกาสได้ลงมาเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ มีบางคนเท่านั้น ที่ได้แวะเวียนลงมาเที่ยวพร้อมกับคุณครู อีกหลายคนที่การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ออกจากบ้านมาไกลขนาดนี้ จากบ้านถึงเชียงใหม่ก็รวมระยะทางกว่า 230 กิโลเมตร หลายคนตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศข้างทาง หลายคนก็เกิดอาการเมารถ ทั้ง ๆ ที่ก่อนขึ้นรถครูได้ให้น้อง ๆ กินยาแก้เมาคนละเม็ด พร้อมกับเอาพลาสเตอร์ปะหัวมาปิดตรงสะดือด้วย (ทำไมกับบางคนจึงไม่ได้ผล)
เมื่อนั่งดูน้อง ๆ นั่งรถแล้ว นึกถึงวันนั้น วันที่ฉันได้เดินทางเข้ามาในเมืองครั้งแรกด้วยตัวคนเดียว ณ เวลานั้น ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า หวาดกลัวกับสิ่งรอบตัว กลัวผู้คน (เพราะได้ยินว่าคนในเมืองมีหลายแบบ อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน) ทำให้ฉันนั่งรถโดยสารแบบมีความกังวลตลอดทาง ฉันไม่กล้าแม้แต่จะหลับตาลง คนกระทั่งถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย...ฉันผ่านประสบการณ์วันนั้นมาได้ด้วยดี
แต่สำหรับน้อง ๆ กลุ่มนี้โชคดีที่มีคุณครูคอยดูแลและนำทางให้...
นั่งรถหกล้อของมหาลัยค่ะ
ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศนอกรถ
หลับ
นี่ก็หลับ แต่ระวังหัวด้วยนะค่ะน้อง ๆ
และนี่ก็หลับค่ะ อิงหลังพ่อไว้ปลอดภัยดี
ตื่นแล้วก็กิน
เตรียมถุงโจ๊กให้เรียบร้อย เผื่อฉุกเฉิน
แล้วการเดินทางครั้งนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ได้เห็นบรรยากาศทั้งหมดในการเดินทางจริง ๆ
คนในเมือง เข้ามา
อิจฉา เด็กๆ ที่อยู่กับธรรมชาติ ดอย ป่า เขา ครับ
หน้าเหมือนเจ้าของบันทึกเลยเนี่ย 555
รถแบบนี้ คนเมา เมาแน่นอนครับ
ขอบคุณคุณ art7yod2 ค่ะที่แวะมาเยี่ยมชม
อาจารย์ Wasawat Deemarn หน้าเหมือนจริง ๆ เหรอค่ะ
น้องเขาออกจะน่ารัก หนูสู้ไม่ได้หรอกค่ะ
อาจารย์ขจิต ฝอยทองค่ะ อาจเพราะการนั่งรถไกล ทำให้ร่างกายอ่อนเพลี
ทุกคนจึงหลับกันหมดสภาพเลยค่ะ