ในยุคสมัยที่ผมเติบโตมาจะว่าไปแล้วเพื่อนฝูงและคนรอบกายที่จะเอาธุระกับเรื่องบ้านเรื่องเมือง จนถึงขั้นนำไปสู่การลงมือคิดทำในสิ่งที่เรียกว่าเพื่อส่วนรวมนั้นดูจะน้อยนิดจนไร้เท่าใบพุทรา แม้กระทั่งเพื่อนฝูงที่พากันไปออกค่ายอาสามาหลายสิบค่ายก็ดูจะคิดเรื่องนี้ในมุมมองที่แตกต่าง แต่สำหรับผม เรื่องเอาธุระกับบ้านเมืองดูเหมือนจะเป็นเลือดเนื้อและวิญญาณของตัวตนจนเข้าขั้นที่ผู้คนมักประชดประชันว่าเป็นพวกแบกโลก และด้วยความที่ผมชอบแบกโลกทั้งใบไว้นี่เองที่ทำให้ผมอยู่อาศัยในโลกใบนี้ได้ยาก บางครั้งเหมือนเป็นคนเอาแต่ใจไปเสียเลยด้วยซ้ำ จะว่าไปก็โลกใบที่แบกอยู่นี้ผมแบกมันด้วยจิตสำนึกที่หวังว่าสักวันโลกใบนี้จะต้องดีงาม แต่ก็อีกนั่นแหละ ดูเหมือนโลกใบนี้ไม่เคยหยุดนิ่งให้เราเปลี่ยนมันได้ง่าย ๆ เพราะโลกมันก็พริ้วไหวไปตามกระแสของจิตมนุษย์ บางครั้งก็เหมือนว่าผมจะเข้าใจอะไรง่าย ๆ ที่เป็นมาและเป็นไปแต่บางครั้งนิสัยแบกโลกที่เป็นมาสามทศวรรษ ก็เข้ามาครอบครองจิตใจให้ต้องขัดแย้งกับตนเอง และขัดแย้งกับผู้อื่น จนบ่อยครั้งกลายเป็นสงคราม ตั้งแต่ผมจำความได้ ผมทำสงครามกับผู้คนที่รายรอบนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งแพ้ทั้งชนะ แต่ก็ทิ้งริ้วรอยเป็นบาดแผลในจิตใจไว้มากโข ไม่มีสักครั้งที่เมื่อผมเข้าสู่สงครามผมจะไร้บาดแผล
ไม่มีความเห็น