มนุษยสัมพันธ์ : ความสัมพันธ์ที่ต่างพึงใจ


จากประสบการณ์ในการเป็นสมาชิก GTK ย่างเข้าเดือนที่ 9 ผู้เขียนรู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ในการมีมนุษยสัมพันธ์อันดีต่อกันของชาว GTK

           

                                                              (ขอบคุณภาพจาก Internet)

         มนุษยสัมพันธ์” (Human Relations) เป็นความสัมพันธ์อันดีต่อกันของมนุษย์    ที่ทุกฝ่ายได้รับความพึงพอใจ ทำให้การอยู่ร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่น และก่อให้เกิดความร่วมมือในการทำงาน หรือในการทำกิจกรรมต่างๆ ดังภาพข้างล่าง ที่แสดงถึงมนุษยสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และระหว่างคนในชาติ      

                        

                                                                     (http://glitter.kapook.com/)

         “มนุษยสัมพันธ์” เป็นคำที่ใช้กับความสัมพันธ์ทางบวก ต่างจากคำว่า “สัมพันธภาพระหว่างมนุษย์ (Human Relationship)” ซึ่งเป็นคำกลางๆ ที่หมายถึง ความสัมพันธ์ที่อาจเป็นได้ทั้งทางบวกหรือทางลบ ซึ่งถ้าสัมพันธภาพเป็นไปในทางบวก ก็กล่าวได้ว่า ผู้ที่มาสัมพันธ์กันนั้น เป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์อันดีต่อกัน ดังตัวอย่างคำที่ใช้อธิบายความสัมพันธ์ในครอบครัว ในภาพข้างล่าง

  

                  http://www.gotoknow.org/                                           http://nenfe.nfe.go.th/elearning/

                       blogs/posts/287854                                                 courses/51/page2_1_1_1_1.htm      

             มนุษยสัมพันธ์ มีความสำคัญและประโยชน์หลายประการ ในด้านการดำเนินชีวิตนั้น มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การดำรงชีวิตของมนุษย์ทั่วไป ต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้อื่นตั้งแต่เกิดจนตาย ถ้าบุคคลใดมีความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่น และมีกัลยาณมิตร ก็จะทำให้มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข (ดังภาพล่างซ้าย) แต่ถ้าขาดความสัมพันธ์อันดีกับผู้คน จนไม่มีคนรู้ใจหรือไม่มีใครเคียงข้าง ก็จะรู้สึกโดดเดี่ยวเหงาหงอย มีชีวิตเหมือนไม่มีชีวา (ดัง 3 ภาพถัดไป)  

            

                                                                 (http://glitter.kapook.com/)

           และในด้านการทำงานนั้น มนุษยสัมพันธ์เป็นหัวใจของนักบริหาร เพราะฝ่ายบริหารหรือหัวหน้างาน ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ของเวลาทำงานในการติดต่อเกี่ยวข้องกับคน ถ้าผู้บริหารขาดมนุษยสัมพันธ์ จะไม่สามารถบริหารคนและบริหารงาน ให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร/หน่วยงานได้ อนึ่ง มนุษยสัมพันธ์เป็นสิ่งยึดโยงคนที่แตกต่างกันให้อยู่ร่วมกันในองค์กร/หน่วยงานได้ ถ้าไม่มีมนุษยสัมพันธ์เป็นสิ่งยึดโยงแล้ว คนในองค์กร/หน่วยงาน จะมีการแตกแยก แบ่งกลุ่ม และอาจขัดแย้ง แข่งขันกัน ทำให้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายขององค์กร/หน่วยงาน นอกจากนั้น ยังมีผลการวิจัยที่พบว่า สาเหตุที่บุคคลในระดับหัวหน้างานไม่ได้เลื่อนตำแหน่งหรือถูกปลดออกจากงาน ส่วนใหญ่เกิดจากการขาดความสามารถในการเข้ากับคน  มากกว่าเป็นเพราะขาดความรู้ความสามารถในงานที่ทำ 

                                                          (ขอบคุณภาพจาก Internet)

           จากความสำคัญของมนุษยสัมพันธ์ดังกล่าว ศาสนาต่างๆ จึงได้บัญญัติหลักธรรมด้านมนุษยสัมพันธ์เอาไว้ โดยในพุทธศาสนา จะมี “พรหมวิหาร 4” ซึ่งเป็นคุณธรรมสำหรับผู้บริหาร ในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับฝ่ายปฏิบัติงาน ได้แก่ 1) เมตตา : ปรารถนาให้ผู้ปฏิบัติงานเป็นสุข 2) กรุณา : ปรารถนาให้ผู้ปฏิบัติงานพ้นทุกข์ 3) มุทิตา : พลอยยินดีเมื่อผู้ปฏิบัติงานได้ดี   และ 4) อุเบกขา : มีความเป็นกลาง ไม่ลำเอียงเข้าข้างผู้ปฏิบัติงานคนหนึ่งคนใด และมี “สังคหวัตถุ 4” ซึ่งเป็นคุณธรรมของคนทั่วไปในการผูกมิตรกับผู้อื่น พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม เขียนโดย พระพรหมคุณาภรณ์  (ป.อ.ปยุตฺโต) ได้อธิบายเกี่ยวกับ “สังคหวัตถุ 4” เอาไว้ สรุปได้ดังนี้  

(http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=%CA%D1%A7%A4%CB%C7%D1%B5%B6%D8_4)

           สังคหวัตถุ 4 เป็นธรรมเครื่องยึดเหนี่ยว คือ ยึดเหนี่ยวใจบุคคล และประสานหมู่ชนไว้ในสามัคคี และหลักการสงเคราะห์ ประกอบด้วย

           1) ทาน : การให้ คือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ แบ่งปัน ช่วยเหลือกันด้วยสิ่งของ ตลอดถึงให้ความรู้และแนะนำสั่งสอน (กัลยาณมิตร GTK "คนบ้านไกล" ได้เขียนบันทึกเรื่อง “ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ผู้ขอย่อมเป็นที่รังเกียจ” เพื่ออธิบายถึงที่มาของข้อความดังกล่าว ซึ่งเป็นคำตรัสของพระพุทธเจ้า ที่มีปรากฏในชาดก)

           2) ปิยวาจา : วาจาเป็นที่รัก หรือวาจาซาบซึ้งใจ คือ กล่าวคำสุภาพไพเราะอ่อนหวาน สมานสามัคคี ให้เกิดไมตรีและความรักใคร่นับถือ ตลอดถึงคำแสดงประโยชน์ประกอบด้วยเหตุผล เป็นหลักฐานจูงใจให้นิยมยอมตาม

           3) อัตถจริยา : การประพฤติประโยชน์ คือ ขวนขวายช่วยเหลือ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ และปรับปรุงส่งเสริมในทางจริยธรรม

          4) สมานตัตตา: การมีตนเสมอ คือ ทำตนเสมอต้นเสมอปลายและวางตนเหมาะแก่ฐานะ ภาวะ บุคคลเหตุการณ์และสิ่งแวดล้อมถูกต้องตามธรรมในแต่ละกรณี

          ส่่วนผู้เขียนเองได้กำหนดหลัก “5 ย. ในการสร้างมนุษยสัมพันธ์” ซึ่งทุกคนสามารถนำไปใช้ในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้อื่นได้ ทั้งในการดำเนินชีวิตส่วนตัว และในการทำงาน ไม่ว่าจะในฐานะผู้ริหารหรือในฐานะผู้ปฏิบัติงาน เป็นหลักปฏิบัติที่มีความสอดคล้องกับ “สังคหวัตถุ 4” หลัก 5 ย. มีดังนี้

          1) “ยิ้มแย้ม” แจ่มใส มีไมตรี คือ เข้าไปทักทายปราศรัยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและท่าทีที่เป็นมิตร  

            2) “ยกย่อง” คุณความดี ของผู้อื่น คือ กล่าวแสดงชื่นชมในความดีงาม ความสามารถของผู้อื่น

           3) “หยิบยื่น” มีน้ำใจ ให้กัน เช่น ให้สิ่งของ ให้กำลังใจ ให้ข้อคิด ให้ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจ

            4) “เยือกเย็น” ในสัมพันธ์ ไม่วู่วาม คือ มีความอดทน ข่มใจในพฤติกรรมของอีกฝ่ายที่ไม่น่าพึงใจ

           5) ยืดหยุ่น ผ่อนตาม ความเหมาะสม คือ มีการผ่อนปรนในกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ตามสมควร

                                  (ขอบคุณภาพจาก Internet และจาก http://glitter.kapook.com/)

            จากประสบการณ์ในการเป็นสมาชิก GTK ย่างเข้าเดือนที่ 9 ผู้เขียนรู้สึกประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ในการมีมนุษยสัมพันธ์อันดีต่อกันของชาว GTK  ที่แสดงออกถึงการใช้ “สังคหวัตถุ 4” และ 3 ย. แรก ได้แก่ 1) ยิ้มแย้ม 2) ยกย่อง และ 3) หยิบยื่น ในความสัมพันธ์อย่างชัดเจน ดังตัวอย่างที่จะยกมาเพียงส่วนน้อย ดังนี้     

            ผู้เขียนสมัครเป็นสมาชิก GTK แบบแทบจะไม่รู้เรื่อง “Weblog (WB)” และไม่รู้จักใครใน GTK โดยในตอนเย็นของวันที่ 1 เม.ย" ผู้เขียนได้ศึกษาเรื่อง WB ด้วยตนเองโดยพิมพ์คำค้น "Blog" แล้วสืบค้นไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายได้ตัดสินใจสมัครสมาชิก GotoKnow.org ในเวลา 02.20 น. ของวันที่ 2 เมษายน 2554 (เพราะเมื่อเทียบกับ WB อื่นๆ แล้ว คิดว่า WB นี้เหมาะกับตนเองที่สุด) จากนั้น ผู้เขียนก็ลองผิดลองถูกสร้าง Blog "Pridetoknow" ขึ้นมา เพื่ออุทิศให้แม่ผู้ล่วงลับ เป็น Blog ที่ใช้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรแบบพอเพียง โดยมี "ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้" เป็นฉากหลัก และได้ลงบันทึกแรกเวลา 18.13 น. ในวันที่สมัครสมาชิก มีเนื้อหาเกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการสร้างฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ ซึ่งเป็นผลมาจากการหล่อหลอมของแม่ให้ผู้เขียนเป็นคนรักต้นไม้ใบหญ้า รักป่า รักวิถีชีวิตในชนบท แล้วก็ได้รับกำลังใจแรกจาก "ปิยวาจา" ของ "อ.พรชัย ภาพันธ์" ผอ.โรงเรียนที่ยโสธร  ในเวลา 18.52 น. ความว่า “ชีวิตอาจารย์เป็นแบบอย่างคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี เคยเป็นลูกศิษย์อาจารย์ ตอนเรียนปริญญาตรีวิชาเอกการบริหารโรงเรียน ที่วิทยาลัยครูอุบลฯ ช่วงปี ๒๕๒๙ - ๒๕๓๑ ครับ อาจารย์สอนดีมากครับ” (GTK ช่วยให้ได้พบกับลูกศิษย์ วิชาที่สอนผอ.พรชัย คงเป็นวิชา "มนุษยสัมพันธ์สำหรับครู" ซึ่งเป็นวิชาบังคับเลือกของหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต) เดือนต่อมาบันทึกของผู้เขียนเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 6 ปี GTK (ขณะที่ผู้เขียนเป็นสมาชิกไม่ถึง 2 เดือน) ที่ลงใน Blog "Goaltoknow" ที่ใช้เขียนบันทึกตามแรงบันดาลใจทางสังคมก็ได้รับ "กำลังใจ" จาก “คุณมะปรางเปรี้ยว” ผู้ดูแล GTK (28 พ.ค.) ความว่า “อ่านบันทึกนี้เต็มอิ่มและมีความสุขจังค่ะ ที่ได้เห็นสิ่งดีๆ เกิดขึ้นในสังคมของ GotoKnow” 

           บันทึกใน Blog “Learntoknow” ซึ่งเป็น Blog สำหรับแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านการจัดการเรียนรู้ เรื่องแรก “การพัฒนาสมรรถภาพในการเรียนรู้ของผู้เรียนในยุคสังคม-เศรษฐกิจฐานความรู้” "อาจารย์หมอป." จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าว “ยกย่อง คุณความดี ของผู้อื่น” (6 ก.ย.) ความตอนหนึ่งว่า “ได้มาพบขุมทรัพย์ทางปัญญาด้านการเรียนการสอนเข้าแล้วค่ะ บันทึกอาจารย์มีเอกลักษณ์ คือ มีความละเอียด ประณีตในเนื้อหาและการอ้างอิง แสดงถึงความวิริยะเป็นอย่างยิ่งค่ะ ประทับใจข้อความนี้ค่ะ "หนังสือเล่มที่ดีที่สุด ยังไม่มีใครเขียน" และบันทึกเรื่อง “แนวทางการพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของผู้เรียน : เกาให้ถูกที่คัน” ซึ่งเป็นบันทึกมีผู้อ่านมากที่สุดใน Blog นี้ (สร้าง : 31 สิงหาคม 2554, 04:03 น. ณ 21 ธ.ค. 54 : 19.00 น. มีข้อมูลว่า ได้รับดอกไม้ : 17  ความเห็น : 46 อ่าน : 984 สร้าง : 4 เดือน ที่แล้ว) ตัวอย่าง "ปิยวาจา" ที่ได้รับ คือ “ซุอิกะจัง” (12 ก.ย.) ครูภาษาอังกฤษที่ศรีสะเกษ “หนูลูกศิษย์ ค.บ.ภาษาอังกฤษ ปี 47 ดีใจมากที่ได้เข้ามาเจอท่านอาจารย์ แถมท่านยังมีความรู้ดีๆ มาฝากอีกต่างหาก…หนูจะตั้งใจทำหน้าที่ครูสอนภาษาอังกฤษที่ดี จะดำเนินรอยตามแบบอย่างที่ดี ดั่งเช่นท่านอาจารย์มอบให้ศิษย์คนนี้” (ผู้เขียนไม่ได้สอนวิชาภาษาอังกฤษให้กับเธอ แต่สอนวิชา "การคิดและการพัฒนาตน") และ "K.Paully" ครูภาษาอังกฤษที่กำแพงเพชร (20 ต.ค.) “ขอชื่นชมการบันทึกข้อมูลและสาระฯ เกี่ยวกับการพัฒนาการเรียนภาษาอังกฤษ อันเป็นประโยชน์อย่างครบถ้วน ...สามารถนำไปอ้างอิง และศึกษาเพิ่มเติมได้อย่างสะดวกสบาย ยอดเยี่ยมจริงๆ ค่ะ !”

              บันทึกใน Blog “Goaltoknow” เรื่อง “เมื่อวิชาชีพครูถูกกระทำย่ำยี” ได้รับ "ปิยวาจา" จาก “แม่ใหญ่” (12 พ.ค.) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาของโรงเรียนเอกชนในกทม. เขียนได้ครบเครื่องเรื่องครูจริงๆ ค่ะ ขออนุญาต share เอาไปลงใน facebook ให้ครูที่โรงเรียนอ่านก่อนเปิดเทอมนะคะ” ท่าน "ศน.ลำดวน" (14 พ.ค.) ที่สุพรรณบุรี “…มาอ่านรอบสองค่ะ อ่านด้วยความประทับใจในวิธีปฏิบัติของอาจารย์ และเข้าใจผู้ปิดทองหลังพระดีค่ะ เพราะตัวเองก็จะเป็นเช่นเดียวกัน บทกลอนนี้ประทับใจมากค่ะ "... เธออุทิศกายใจไม่พักผ่อน แม้เหนื่อยอ่อนกล้ำกลืนยืนหยัดสู้ ด้วยสมองและสองมือฝึกปรือครู ขอเชิดชูด้วยศรัทธาร่วมฝ่าฟัน” (เป็นบทกลอนที่พี่สาวประพันธ์ให้ผู้เขียน) และ “หนานวัฒน์ อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (11 มิ.ย.) “ผมอ่านแล้วก็อึ้งครับ ที่อาจารย์อดทนและผ่านเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ มาได้จนทุกวันนี้ ผมเองบางครั้งก็ "งง" กับเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยเช่นกัน หากไม่ตั้งสติและมุ่งผลสัมฤทธิ์ไปที่ "นักศึกษา" แล้ว ผมคงท้อใจและขอยอมแพ้เหมือนกันครับ... อาจารย์ฝ่าฟันมาได้ถึงขนาดนี้ ผมก็จะมุ่งมั่นทำในสิ่งถูกที่คนเป็นครูสมควรจะกระทำ ให้ได้เช่นเดียวกับที่ท่านอาจารย์ได้ทำให้เห็นแล้วครับผม” (สร้างแรงบันดาลใจในการอุทิศตนให้กับงานวิชาชีพครู)

            และ เรื่อง “น้ำท่วมกับความดีงามบนความหายนะ” ซึ่งผู้เขียนได้เขียน “ยกย่อง คุณความดี ของผู้อื่น” โดยกล่าวถึงความดีงามของชาว GTK ในช่วงที่ประเทศชาติประสบมหาอุทกภัย เป็นบันทึกที่มีความเห็นมากที่สุดใน Blog “Goaltoknow” (70 ความเห็น) และได้รับ "ปิยวาจา" กลับมา จาก “คุณสันติสุข สันติศาสนสุข” (8 พ.ย.) จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ความตอนหนึ่งว่า อาจารย์เป็นนักจัดการความรู้ที่ทุกคนควรปรบมือให้ นับเป็นตัวอย่างของคนในชุมชน Gotoknow ดีใจที่ได้พบกับอาจารย์ และกัลยาณมิตรในชุมชนคนทำงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ไม่ผิดหวังที่เข้ามาเป็นสมาชิกที่นี่…อ่านบันทึกนี้แล้วทำให้นึกได้ว่า เราปล่อยให้ความเห็นและข้อมูลดีๆในแต่ละเรื่องของเพื่อนๆในชุมชน กระจัดกระจายไปอย่างน่าเสียดาย ไม่ค่อยมีใครลุกขึ้นมาจัดการ เหมือนกับที่อาจารย์ได้ทำไว้ในบันทึกนี้ จะเรียกว่าต่อยอด บูรณาการ สังเคราะห์หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ได้เห็นคือความงดงาม ที่งอกออกมาจากความงดงามที่มีอยู่เดิม นำมาซึ่งความภูมิใจ อิ่มใจและความสุขที่เกิดกับผู้เกี่ยวข้องทุกคน ความรู้สึกเหล่านี้เป็นความหวังของคนในโลกแห่งการจัดการความรู้”

           บันทึกใน Blog “Pridetoknow” ซึ่งเป็นบันทึกที่มีการแสดงความเห็นมากที่สุด (ส่วนเรื่องที่มีคนอ่านมากที่สุด คือ "เมื่อเยาวชนเห็นว่าตนไร้ค่า" ใน Blog "Goaltoknow" ที่เขียนจากแรงบันดาลใจเหตุการณ์เด็กม.6 ที่ร้อยเอ็ด ฆ่าตัวตาย) เช่น เรื่อง “สุขกายสุขใจ ใต้ร่มเงาฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ ตอนที่ 1 มี 76 ความเห็น ตอนที่ 2 มี 70 ความเห็น เรื่องล่าสุดใน Blog นี้ เรื่อง “เรื่องนี้มีโมชิแสดงนำ” ที่เขียนเล่าเรื่องสุนัขของลูกสาว ที่ไปอยู่กับผู้เขียนในช่วงน้ำท่วมกทม.และผู้เขียนได้พาไปฟาร์มด้วย ได้รับ "ปิยวาจา" จากท่าน "ศน.ลำดวน” ที่ได้ติดตามให้กำลังใจกันมาตลอด (23 พ.ย.) “อ่านสนุก และมีความสุขจังเลยค่ะ รักโมชิ และข้าวเหนียว (สุนัขที่ฟาร์ม) ด้วย”  "ครูป.1" (4 ธ.ค.) คุณครูที่สุพรรณบุรี “โมชิน่ารักค่ะ แต่คุณยาย (ผู้เขียน) น่ารักกว่า"  "อ.เดชา สว่างวงศ์ " (กัลยาณมิตรหมาดๆ จากชัยภูมิ ของผู้เขียน (9 ธ.ค.) “อ่านประวัติของท่านแล้วรู้สึกทึ่งมาก เป็นนักต่อสู้ตัวยงจนประสบผลสำเร็จ…”

            และใน Blog ล่าสุด “Mantoknow” ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเมื่อ 4 ธ.ค. เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมภายใน/ภายนอกของคน โดยมี "อาจารย์หมอป."เป็น "แรงบันดาลใจ" จากการที่ผู้เขียนได้เห็นท่านเขียนประเด็นเกี่ยวกับคน โดยนำไปใคร่ครวญตัวตนของตัวเองอยู่เนืองๆ ซึ่งทำให้ผู้อ่านได้รับความรู้ใหม่ๆ และได้เพิ่มความเข้าใจในประเด็นต่างๆเกี่ยวกับคน จึงหวนคิดว่า ผู้เขียนเองเรียนและสอนมาทางจิตวิทยาแท้ๆ กลับไม้ได้ทำประโยชน์เช่นนั้น   บันทึกเปิดตัว Blog “Mantoknow” ได้รับกำลังใจเป็นอย่างดี โดย ณ 22 ธ.ค. 06.30 น. ได้รับดอกไม้ : 27 · ความเห็น : 72 · อ่าน : 475  "อาจารย์หมอป." (5 ธ.ค.) ได้กล่าว “ยกย่อง คุณความดีของผู้อื่น" ไว้ในบันทึกดังกล่าวว่า “ก่อนอื่นขอชื่นชมด้วยใจจริง ถึงวิธีการตอบของอาจารย์ค่ะ อาจารย์คิดทบทวนสาส์นอย่างละเอียดรอบคอบ ก่อนพิมพ์ออกมา แล้วยังมีการทบทวนความสมบูรณ์ ซึ่งสะท้อนตนเองที่หลายครั้งคิดแบบกระโดดๆ และพิมพ์ตกหล่นไม่รู้ตัว หากพัฒนาได้สักครึ่งหนึ่งของอาจารย์ก็พอใจแล้วค่ะ”น้องอิน” ครูที่อุตรดิตถ์ซึ่งผู้เขียนรักเหมือนน้องสาวบอกว่า “กำลังได้รับผลกระทบจากสัตว์สังคม" ผู้เขียนก็ได้ให้ข้อคิดไปว่า ถ้ามองในแง่ดีก็ถือว่าจะได้มีโอกาสฝึกความอดทน และให้ข้อคิดที่จำมาจากลูกศิษย์ในปี 2530 ว่า “ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด ใครเชิด ใครชู ช่างเขา ใครว่า ใครบ่น ทนเอา ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ” และปลื้มใจมากที่เธอบอกในวันที่ 13 ธ.ค. ว่า “ตั้งแต่ 23 พ.ย. เป็นต้นมา…ค่อนข้างได้รับผลกระทบที่ถึงขั้นรับประทานอะไรเข้าไปมันช่างไร้รสชาติซะเหลือเกิน แต่ ณ วันนี้ ได้ใช้หลัก “ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ" จึงได้รสชาติที่อร่อยกลับคืนมาทุกมื้อของอาหารที่ทานค่ะ ขอบพระคุณคุณพี่ที่มีอิทธิพลต่ออารมณ์ ความรู้สึกที่ปกติสุขให้กลับมาอีกครั้งหนึ่งนะคะ” และในวันที่ 8 ธ.ค. ผู้เขียนได้ตอบความเห็นของ "พี่ใหญ่นงนาท" จากกทม. ซึ่งผู้เขียนรู้สึกเหมือนเป็นพี่สาวคนหนึ่ง เป็นการคุยกันในประเด็นของมนุษยสัมพันธ์ว่า พี่ใหญ่ได้กรุณาชี้ทางปฏิบัติว่า เราทุกคนต่างจิตต่างใจที่มาอยู่ร่วมกันโดยธรรมชาติกำหนด การใช้ศาสตร์และศิลป์ของปฏิสัมพันธ์ดีๆ ต่อกัน จึงเป็นพื้นฐานอันมั่นคงที่ต้องสร้างอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน น้องขอเรียนว่า น้องได้ใช้ "ความจริงใจ ความบริสุทธิ์ใจ และความปรารถนาดี" เป็นพื้นฐานของการสร้างปฏิสัมพันธ์กับกัลยาณมิตร GTK  ส่วน ศาสตร์และศิลป์ ที่พี่ใหญ่พูดถึงนั้น น้องใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสัมพันธ์ค่ะ”

     

            ในการปฏิบัติตามหลัก “หยิบยื่น มีน้ำใจ ให้กัน” ของผู้เขียนเองนั้น ณ วันที่ 22 ธ.ค. ผู้เขียนได้แสดงความเห็นและตอบความเห็นในบันทึกของกัลยาณมิตรและของตนเองรวม 874 ครั้ง ซึ่งความเห็นส่วนใหญ่จะเขียนแบบมีสาระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องที่เจ้าของบันทึกต้องการความเห็นหรือข้อชี้แนะ ผู้เขียนจะอ่านบันทึกแบบ "วิเคราะห์" และเขียนความเห็นอย่างละเอียดเพื่อให้เจ้าของบันทึกนำความเห็นไปใช้ประโยชน์ได้ อย่างเช่น ที่ได้แสดงเกี่ยวกับทางออกในการแก้ปัญหาเด็กปานกลางและอ่อนไม่ตอบคำถามในชั้นเรียน ซึ่ง ท่าน "small  man""รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ตราด เจ้าของบันทึก ได้ตอบกลับมาว่า “อาจารย์ให้หลักการ พร้อมตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม  นำไปใช้แก้ปัญหาได้เป็นอย่างดีเลยครับ และหลักการตรงนี้ ผมว่า นำไปประยุกต์ใช้ในการพูด  การคิด ของผู้เรียน ในสาระต่างๆ รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นตามหลักประชาธิปไตย ขออนุญาตนำคำแนะนำของท่านอาจารย์ ไปแจ้งให้ที่ประชุมผู้บริหารโรงเรียนทราบนะครับ พร้อมกับนำไปเผยแพร่ในกลุ่มครู   เป็นวิทยาทานครับ  เพื่อ พัฒนาผู้เรียน เพื่อพัฒนาเด็ก" แต่ก็มีเหมือนกัน ที่ผู้เขียนเขียนคุยแบบสนุกๆ ดังที่ "กล้วยไข่" ลูกศิษย์ของ "ดร.ขจิต"  ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้เอาไปเขียนในบันทึกเรื่อง “ปิยวาจาของชาว G2K” โดยเกริ่นว่า "หนูชอบอ่านบทสนทนาของ blogger เพราะประทับใจในมิตรไมตรีที่มีให้ต่อกัน ทั้งๆ ที่บางท่านยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย บทสนทนานี้เป็นของคุณแม่กับคุณลูก ที่คุยกันอย่างสนุกสนาน แฝงความห่วงใยและความหวังดีของ ผศ.วิไล ที่มีต่อ อ.ขจิต " “จากที่อาจารย์แม่ให้ความเห็นไปว่า "สำหรับผู้ที่ในใจมีแต่คิดกิจกรรมเพื่อผู้อื่นอย่างลูกขจิต จนลืมที่จะหันมาคิดทำอะไรเพื่อตนเอง การมีครอบครัวอาจจะต้องเกิดจาก 1) ผู้ใหญ่ฝ่ายตนเองจัดหาให้ (คลุมถุงชน) หรือ 2) แฟนคลับจัดหาให้ (แม่สื่อแม่ชัก) แล้วลูกขจิตตอบสนองว่า "แบบนี้ต้องใช้แบบแม่สื่อแม่ชักแล้วละครับ"  อาจารย์แม่รู้สึกยินดีปรีดาเป็นยิ่งนัก จึงขอป่าวประกาศว่า "กัลยาณมิตรท่านใด พบเห็นนางใดที่ 1) คู่ควร 2) พึงใจ และ 3) รับได้ ที่จะใช้ชีวิตร่วมกับชายที่มีลมหายใจเพื่อผู้อื่น โปรดติดต่อโดยตรงที่ลูกขจิต ด่วน"… (ช่วงนั้นผู้เขียนกำลังอินกับละครเกาหลีเรื่อง "ทงอี จอมนางคู่บัลลังก์")  

           

           ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านตามที่ได้กล่าวนามไปแล้ว ท่านที่ระบุในภาพด้านล่าง รวมถึงท่านที่มิได้เอ่ยนาม (ซึ่งได้เข้ามาให้กำลังใจและแสดงความเห็นในบันทึกของผู้เขียน แต่ไม่อาจกล่าวนามได้ทังหมด) ที่ได้ให้การอนุเคราะห์แก่ผู้เขียนในเรื่องต่างๆ (เช่น "คุณอักขณิช" ได้กรุณาอนุเคราะห์ประสานให้ผู้เขียนได้มีโอกาสไปดูงานการทำสวนของพ่อบุญธรรมของตน ซึ่งได้รับการต้อนรับที่ประทับใจมาก) แวะเข้ามาทักทายพูดคุย ให้ข้อคิด แบ่งปันความรู้ มีความสัมพันธ์เป็นพี่เป็นน้อง เป็นลูก (เช่น พี่วอญ่า น้องกาย ลูกขจิต) ทำให้ผู้เขียนมีความรู้สึกอบอุ่นใจ สุขใจอย่างที่ไม่เคยได้รับจากสังคมภายนอกมาก่อน จึงรู้สึกซาบซึ้งและประทับใจ ที่จะไม่มีวันลืม

                                                   (ขอบคุณภาพจาก Internet)

  

 

    

   

 

                                                          ภาคผนวก

           ถ้ากัลยาณมิตรอยากทราบว่า ลักษณะทางมนุษยสัมพันธ์ของตนเป็นเช่นใด ก็ลองเข้าไปทำแบบทดสอบ “Human Relations Test” ได้ที่ Lnk ข้างล่างนะคะ แบบทดสอบดังกล่าวมี 10 ข้อ ถ้าต้องการให้การแปลผลเป็นตัวเราจริงๆ ก็จะต้องเลือกตัวเลือกที่ตรงกับตัวเรามากที่สุด ดังตัวอย่างการตอบของผู้เขียนในข้อสุดท้ายที่ถามเกี่ยวกับความฝัน ซึ่งมี 6 ตัวเลือก ผู้เขียนเลือกตัวเลือก "ปกติจะไม่ฝัน (you usually have dreamless sleep)" เพราะผู้เขียนจะนอนน้อย คืนละ 4-5 ชั่วโมง แต่จะหลับสนิทหลับลึกจึงไม่ค่อยได้ฝัน และจะตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น 

 10. You often dream that you are falling, fighting or struggling, searching for something or somebody, flying or floating, you usually have dreamless sleep, your dreams are always pleasant.   

 http://www.3smartcubes.com/pages/tests/humanrelations/humanrelations_instructions.asp 

           เมื่อตอบเสร็จ ชั่วอึดใจ ผู้เขียนได้รับรายงานผลว่า Wilai Phaengsri, people see you as fresh, lively, charming & amusing. (วิไล คนมองคุณว่า คุณเป็นคนสดชื่น มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์ และมีอารมณ์ขัน) และมีคำอธิบายเพิ่มเติมว่า “They see you as practical, and always interesting; someone who's constantly in the center of attention, but sufficiently well-balanced not to let it go to their head. They also see you as kind, considerate, and understanding; someone who'll always cheer them up and help them out.” ซึ่งผู้เขียนกระดากที่จะแปลออกมา ผู้เขียนได้ลงแบบทดสอบนี้ในอนุทินล่าสุด และ “คุณโอ๋-อโณ” กัลยาณมิตรที่ผู้เขียนได้เข้าไปเรียนรู้ภาษาอังกฤษในบันทึกของเธอบ่อยๆ ได้เข้าไปแสดงความเห็นในอนุทินในวันที่ 20 ธ.ค. ความว่า “เคยทำเมื่อนานมาแล้ว อ่านคำตอบอาจารย์แล้ว เหมือนกันเป๊ะทุกข้อเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ” ซึ่ง ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อจริงๆ เพราะในข้อที่มี 6 ตัวเลือก ซึ่งมีหลายข้อ โอกาสที่คนจะเลือกตัวเลือกตรงกันมีแค่ประมาณ 16.67 % เท่านั้น แต่คุณโอ๋-อโณกลับเลือกตัวเลือกตรงกับผู้เขียนทุกข้อ

หมายเลขบันทึก: 472161เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2011 05:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 สิงหาคม 2013 10:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (48)

ขอบคุณบันทึกที่เป็นดั่งของขวัญปีใหม่แก่กัลยาณมิตรค่ะ
..การเรียนรู้ใน gotoknow นี้ ได้มากกว่าเนื้อหา คือ
1.การเรียนรู้บุคลิกที่น่าเอาเป็นแบบอย่างจากท่านอื่น เช่น สังเกต อาจารย์วิไล ที่ก่อนแสดงความเห็นตนเอง มักทวนความ ตรวจสอบการตีความเนื้อหา แสดงถึงความเป็นผู้ฟังแล้วคิดอย่างลึกซึ้ง,   อาจารย์ขจิต ที่อารมณ์ดีและเปิดกว้างวิทยาการต่างสาขา, อาจารย์วิรัตน์ ที่ อ.ดร.ป๊อป กล่าวบรรยายไว้น่าประทับใจว่า "อ่อนน้อมและอ่อนโยน ดั่งข้าวเต็มรวง" และอีกหลายๆ ท่าน ที่หากกล่าวทั้งหมดคงไม่ไหวค่ะ
2. การสังเกต ปฎิกิริยาของผู้อ่าน ผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ในบล็อกของเรา..ค่อยๆ ขัดเกลา "อัตตา" ของตนเอง..การเขียนบล็อกระยะหลัง ที่มีกัลยาณมิตร มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้..สร้างความรู้สึกเพลิดเพลิน เมื่อถอดหมวกที่อุปโลกน์ว่า เราต้องเป็นผู้รู้ เป็น ผู้เรียนรู้ร่วมกัน.

...

ขอบคุณอาจารย์ที่ทบทวนหลักสังคหวัตถุ 4 ค่ะ..เป็นหลักสากลที่ฝรั่งเอาไปแต่งหนังสือขายดี ชื่อ The 5 Languages of Appreciation in the Workplace : Tangible Gifts (= ทาน) ,  Words of Affirmation + Physical touch (=ปิยวาจา), Acts of Service (=อัตถจริยา) , Quality time (= สมานัตตา?)

กลับจากกระบี่แล้ว แวะมามอบดอกไม้ ไว้ก่อน แล้วจะรีบกลับมาอ่านตอนดึกๆได้ตรึกตรอง

ขอบคุณค่ะอาจารย์แม่ท่านพี่ฯ :)

เดี๋ยวจะไปลองทำแบบทดสอบอยู่ ยังหาลิงค์บ่เจอเด้อค่า

  • หนู "PooIco48" คะ  ขอบคุณที่แวะมา กลับจากดูน้ำดูเมฆแล้วเหรอคะ มันเมืองไหนล่ะคะนั่น คล้าย Australia
  • ลง Links ให้ท้ายบันทึกแล้วเด๊อค่ะ Link บนทดสอบแบบคิดคะแนนเอง (Mannual) Link ล่างทดสอบแแบบ Online เลือกเอาโลดตามใจชอบ แต่แบบหลังเร็วดีและดู เดิ้นกว่า ทดสอบแล้วแชร์ด้วยเด๊อค่ะ ขอบคุณหลาย
  • เมื่อไหร่จะเปลี่ยนภาพประจำตัวให้เห็นหน้าเห็นตากันบ้างน้อ

 

สวัสดีครับ

แวะมาส่งข่าวว่า วันนี้กิจกรรมที่ผมแบกบุกมาหลายปี กลายเป็นโจทย์ร่วมของการขับเคลื่อนของที่นี่

จาก 1 คณะ 1 หมู่บ้าน....
สู่การเป็น 1 คณะ 1 ชุมชน
และวันนี้เป็น 1 คณะ 1 หลักสูตร  (ตั้งเป้า 84 หลักสูตร)
โดยมหาวิทยาลัยให้งบสนับสนุน 100,000 บาท/หลักสูตร (ไม่เกินนั้น)  เพื่อให้แต่ละหลักสูตร นำนิสิต (ป.ตรี) เข้าสู่การเรียนรู้ชุมชน พร้อมๆ กับการบริการวิชาการแก่ชุมชน ..

ซึ่งผมกำลังคิดและออกแบบกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงเตรียมสร้างกระบวนการลงสู่ชุมชน และกระบวนการถอดบทเรียนเพื่อให้ชุมชน-ชาวบ้านสามารถแตะต้องสัมผัสกับผลแห่งการเรียนรู้นั้นๆ ไม่ใช่วิชาการเลิศล้นจนชาวบ้านอ่านไม่รู้เรื่อง-

งานใหญ่...แต่หัวใจของผมก็พร้อมที่จะเผชิญกับสิ่งเหล่านั้น...

ขอบพระคุณครับ

 

มาส่งความสุขด้วยปฏิทินชุด "รอยยิ้มของพ่อ" ค่ะ

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/471969

 

  • ขอขอบคุณ "อาจารย์หมอ ป.Ico48" อีกครั้ง สำหรับการเขียนบันทึกหลายๆ เรื่องซึ่งได้นำสาระดีๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมภายในที่สำคัญของคน  (ที่ได้มาจากการเป็นผู้รักการอ่านและความสามารถในการอ่านเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษ) มาแบ่งปัน ทำให้กัลยาณมิตรที่ไม่มีโอกาสอ่าน ได้รับความรู้ใหม่ๆ ตามไปด้วย
  • และขอบคุณสำหรับการเป็นแรงบันดาลใจสะสม ที่ฟักตัวมาระยะหนึ่งจนถึงจุดที่ผลักดันให้มีการสร้าง Blog "Mantoknow" ขึ้นมา สำหรับเขียนบันทึกเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมภายนอก-ภายในที่สำคัญของคน
  • ขอพูดด้วยความจริงใจ (จริงๆ แล้วไม่อยากใช้ข้อความนี้ เพราะมันเหมือนกับว่า มีที่พูดแบบไม่จริงใจด้วย ทั้งที่จริงๆ แล้วตนเองเป็นคนพูดตรงกับใจเสมอมา แต่อยากจะย้ำว่า I mean what I say) ว่า ยิ่งได้มีปฏิสัมพันธ์กับอาจารย์หมอป.นานวันเท่าไหร่ ก็ยิ่งซาบซึ้งในความหมายของสุภาษิต "คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล"
  • ไม่อยากทำให้มีลักษณะเหมือนกับการยอกันไปยอกันมา แต่ช่วยไม่ได้ค่ะ "มันเป็นความชื่นชมซึ่งกันและกันจริงๆ" เป็น "ความชื่นชมในสิ่งที่อีกคนมี ในสิ่งที่ตนเองไม่มี และอยากมี"
  • ราวกับหยั่งรู้ถึงเจตนารมณ์ ที่อยากให้กัลยาณมิตรที่กรุณาเข้ามาแสดงความเห็นในบันทึกนี้ ได้กล่าวถึงความประทับใจในกัลยาณมิตรท่านต่างๆ ใน GTK ขอยกตัวอย่างที่อาจารย์หมอป.ได้แสดงนำทางไว้นะคะ "การเรียนรู้บุคลิกที่น่าเอาเป็นแบบอย่างจากท่านอื่น เช่น สังเกต ...อาจารย์ขจิต ที่อารมณ์ดีและเปิดกว้างวิทยาการต่างสาขา, อาจารย์วิรัตน์ ที่ อ.ดร.ป๊อป กล่าวบรรยายไว้น่าประทับใจว่า "อ่อนน้อมและอ่อนโยน ดั่งข้าวเต็มรวง"...  
  • หนังสือที่อาจารย์หมอป.กล่าวถึงน่าสนใจมากค่ะ ดังที่ผุ้อ่านคนหนึ่งได้แสดงความเห็นไว้ว่า "...It was an easy read and had some amazing information. I was already a fan of Dr. Chapman's 5 Love Languages books which has empowered my marriage and my relationships with my children so as an office administrator....I would recommend this book to EVERYONE that works or volunteers with others. Especially those in a supervisory position.
  • ขอบคุณอาจารย์หมอ ป.มากนะคะ ที่เข้ามาให้กำลังใจและพูดคุยแลกเปลี่ยนเป็นท่านแรกเลย

สวัสดีครับคุณน้องอาจารย์วิไล

มาอ่านบันทึก "มนุษยสัมพันธ์ : ความสัมพันธ์ที่ต่างพึงใจ"

อ่านแล้วคิดไป หลายคนหลายท่าน ที่เคยสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องทางสวนอักษร

และหลายท่านที่อาจารย์ได้กล่าวถึง ได้สัมพันธ์กันกินนอนร่วมกันในค่ายกิจกรรมเช่นอาจารย์ ผอ พรชัย ในค่าย หัวใจนักปราชญ์ ที่บ้านคำแดง

ดร.ขจิตนี้ก็ไปเยือนถึงถิ่น ไปสเต็กเนื้อวัวครั้งแรก กำแพงแสน

ท่านรองสมอล ก็เคยแวะท่านพาไปเลี้ยงซีฟู็ดจนอิ่มแปร้ ที่ตราด

น้องมะปราง ดร.จันท่านอยู่ไม่ไกลแวะไปหาบ่อย

อาจารย์แผ่นดิน ก็เจอกันในงานGotoKnow และร่วมถอดบทเรียนทีมFA ร่วมกับอาจารย์ โอ๋

น้องอุ้มบุญคนขยันในงาน HA ที่กทม.

ที่กล่าวมา เพียงบอกเล่าว่า จากการเขียนบันทึกในGotoKnow ทำให้มีโอกาสได้สร้างความสัมพันธ์อันดี

มีบล็อกเกอร์ เป็นเกลอ เกลอคิม

เป็นลูก(ขอเป็นลูก) เทียนน้อย

เป็นน้องอย่างอาจารย์

และเป็นเพื่อนร่วมงานอาสาอย่างขยันขันแข็ง อย่างหนานเกียรติ(ขอคารวะแก่ดวงวิญาณด้วย)

เหล่านี้เกิดจากมนุษยสัมพันธ์

  • อยากจะร้องไห้ พิมพ์คุยกับ "พี่วอญ่าIco48" เป็นชั่วโมง จากประมาณ 05.00 น. เป็นต้นมา ลืม Copy ข้อมูลไว้ เผลอไปว่าอยู่ที่ฟาร์ม มีปัญหาการใช้ Internet พอคลิกจัดเก็บ 'net หลุดข้อมูลหายหมด จะไปโทษท่านแซ้นต้าแกล้งก็ไม่ได้ ต้องโทษความสะเพร่าของตัวเอง
  • ต้องพักไปทำอาหารให้พ่อใหญ่สอนำไปจังหันที่วัดก่อน แล้วถึงกลับมาต่อ 'net ใหม่ ก็กว่าจะติด...เฮ้อ!
  • ดีจังเลยค่ะ ที่พี่วอญ่ากล่าวถึงกัลยาณมิตร ที่ได้พบปะพูดคุยสังสรรค์ ที่วัยรุ่นเขาเรียกว่า "แบบเห็นตัวเป็นๆ" (อิจฉานิ) คิดถึงน้องกระติก คุณชำนาญ และคุณถาวรที่พี่วอญ่าได้ไปพบที่ขอนแก่นเหมือนกันนะคะ อยากเห็นหน้าได้เจรจาพูดคุยเหมือนเดิม อาทิตย์ก่อนได้เข้าไปคุยในอนุทินของน้องกระติกที่ได้รำพึงรำพันเอาไว้ตั้งแต่ พ.ย. ได้คุยเป็นหนังยาวแต่รู้สึกน้องจะไม่ได้กลับไปดู อยากเห็นรอยยิ้มสดใสของน้องกลับมาเหมือนเดิม น้องคิมก็อีกคน บ่นว่าจิตตกยังไม่ทันได้คุย หายจาก GTK ไปเลย ดูเหมือนจะไปอยู่ใน Facebook ที่น้องเองก็ไม่ค่อยได้ไปดู
  • ขอแสดง "มุทิตาจิต" จากการได้เป็นคุณพ่อดีเด่นของลูกๆ และคนดีในดวงใจของน้องๆด้วยนะคะ แถมพี่ใหญ่นงนาทยังยกให้เป็นคนดีในดวงใจของชาว GTK ด้วย ซึ่งอย่างหลังก็เป็นผลจากการอุทิศตนเพื่อสังคมและการเป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์อันดีกับกัลยาณมิตร GTK ของพี่วอญ่านั่นเองค่ะ น้องเองยังรู้สึกอบอุ่นเมื่อเห็นหน้าและได้เจรจากับพี่วอญ่า จนต้องขอเป็นน้อง ทั้งที่จริงๆ ไม่รู้ตามอายุแล้วใครเป็นพี่เป็นน้อง ก็ขอเป็นน้องตามความรู้สึกแล้วกันนะคะ
  • มีอาจารย์ชาวสงขลาคนหนึ่ง อยู่บ้านพักติดกันตอนที่น้องไปบรรจุที่วิทยาลัยครูสุรินทร์ปี 2520 เธอเรียกน้องว่า "น้อง" และ "พี่" กลับไปกลับมา 4 เที่ยว จนน้องสับสนมากเลยถามเธอตรงๆ เธออธิบายว่า ครั้งแรกเรียกน้องเรียกตามหน้าตา ที่เปลี่ยนมาเรียกพี่เพราะรู้ภายหลังว่าจบปริญญาโทคงอายุมากว่าเธอที่จบปริญญาตรี แต่ตอนหลังดูข้อมูลในประวัติเห็นอายุน้อยกว่าจึงกลับไปเรียกว่าน้อง และสุดท้ายเรียกพี่เพราะเห็นว่าแก่ขึ้น...อิอิ ไม่ใช่...และสุดท้ายเรียกพี่เพราะเห็นวางตัวดีน่าเชื่อถือ และในที่ประชุมอาจารย์พูดจาฉะฉาน มีเหตุมีผลน่าเลื่อมใส และจะขอเรียกพี่ไปตลอด ก็แสดงว่าการที่จะเรียกว่าพี่ว่าน้องเธอเรียกตามความรู้สึก น้องก็ขอเรียกว่าพี่วอญ่าตามความรู้สึกเช่นกันนะคะ 

*** ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจและสาระความรู้มากมาย....คงต้องกล่าวว่า... นักมนุษยสัมพันธ์ตัวจริงต้อง " ผศ.วิไล  แพงศรี "  Ico48  อาจารย์ผู้แสนดีคนนี้ค่ะ !

       
                             
        
                         A Very Happy Christmas & A Happy New Year 2012

  • ขอขอบคุณ กัลยาณมิตร ที่ "แม้ไม่เจรจา แต่แวะมาให้กำลังใจ"

             Ico48                                       Ico48  

                         คุณน้องคนบ้านไกล                                    ดร.จันทวรรณ

             Ico48                                       Ico48  

                         คุณทิมดาบ                                                 คุณโอ๋-อโณ        

 

          Ico48

                     คุณประทีป  

  • ขอบคุณ "ลูกแผ่นดินIco48" ที่แวะมาส่งข่าว งานใหญ่ "งานพัฒนาคน เพื่อให้ได้คนที่มีคุณภาพ ไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ"
  • 
  • เมื่อวานอาจารย์แม่ไปคุยในบันทึกลูกแผ่นดินเกี่ยวกับกรอบแนวคิดในการพัฒนานิสิต มมส.ปี 2554 เอาคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ มรภ.อบ.ไปแชร์และขอข้อมูลคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ มมส. แต่พอคลิกจัดเก็บข้อมูล 'net หลุด อาจารย์แม่ไม่ได้พิมพ์ใหม่ กลับเข้ามาที่บันทึกนี้ ก็เรียกเครื่องมือจัดการข้อความไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน จนเกือบ 6 ทุ่ม เลยตอบความเห็นกัลยาณมิตรไม่ได้ ยกเว้นท่านวอญ่าที่ใช้ 'net ได้ในช่วงเช้า แต่กว่าจะได้ก็ปล้ำตั้งแต่ตี 5 แล้ว 'net หลุดข้อมูลหาย ต้องพักยกเตรียมอาหารไปจังหัน เสร็จแล้วมาปล้ำต่อเสร็จเอาแปดโมงกว่า
  • อาจารย์แม่สนใจ "1 คณะ 1 หลักสูตร" 
  • หวังว่าหลังจากที่ลูกแผ่นดินคิดและออกแบบกระบวนการที่เกี่ยวข้องเสร็จ จะนำมาแชร์นะคะ
  • อาจารย์แม่ขอเป็นกำลังใจ ให้งานดีๆ ที่คนชื่อ "แผ่นดิน" ทำเพื่อ "แผ่นดินเกิด" ดำเนินไปอย่างราบรื่น และบรรลุผลตามเป้าหมายนะคะ
         

สวัสดีปีใหม่คุณพี่ 

ให้ลูกสาวเล่นเปียโนเพลงที่คุณพี่ชอบ เชิญแวะเข้าไปเยี่ยมชมครับ

สวัสดี ปีใหม่ 2555 เรียนท่านสมาชิก โกทูโน และผู้ติดตามความเคลื่อนไหว ทุกท่าน ตลอด ปี 2555 นี้ มาร่วมสร้างสรรค์สิ่งดี เพื่อ เพื่อนมนุษย์ เพื่อนเกิด เพื่อนแก่ เพื่อน เจ็บ และเพื่อนตาย คิดในเรื่องดี ๆ เรื่องความจริง ความถูกต้อง เพื่อการดำรงชีวิตอย่างถูกทาง ซึ่งจักพบแต่สันติสุข สิ่งคิด สิ่งปฏิบัติเหล่านั้นย่อมสนองให้เราทุกคน มีความสันติสุขร่วมกันตลอดไป จาก "ธรรมชาติธรรมค้ำจุนโลก" http://www.nature-dhrama.com

นายประทีป วัฒนสิทธิ์

อำเภอสิชล

นครศรีธรรมราช

  • น้องต้องกราบขอโทษ "พี่ใหญ่Ico48" ด้วยนะคะ ที่ตอบช้ามาก เพราะมีปัญหาการใช้ Internet ค่ะ น้องเข้าฟาร์มตั้งแต่เย็นวันที่ 23 ธ.ค. ตอบพี่ใหญ่เช้าวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค. ตอนที่ยังอยู่ที่ฟาร์ม แต่ภาพมีปัญหา เลยลบพิมพ์ใหม่ค่ะ 
  • ขอบพระคุณมากนะคะสำหรับภาพปฏิทินที่พี่ใหญ่นำไปส่งความสุข ปลื้มปิติที่ได้เห็นรอยแย้มพระสรวลของพ่อหลวง พระผู้ทรงเป็นศูนย์รวมใจของชาวไทยผู้จงรักภักดี อยากจะเห็นความสามัคคีของคนในชาติ "...บวกกันเป็นดินเดียว ให้พ่อได้สุขใจ ไม่ต้องเหนื่อยเกินไปอย่างที่แล้วมา" 
  • ขอพระจงคุ้มครองพีใหญ่และคนในครอบครัว ให้แคล้วคลาดจากภยันตรายใดๆ ประสบแต่สิ่งที่ดีงาม และมีความสุขทุกๆ วันนะคะ
  • ขอบคุณ "หนู K. PaullyIco48" (คุณครูผู้นำพากิจกรรมแลกเปลี่ยนทางภาษาและวัฒนธรรมดีๆ มาสู่สังคมไทย) ที่มามอบ "ปิยวาจา พาชื่นใจ" ให้กับผู้สูงวัย ในครานี้
  • ขอ "ความเป็นผู้มีน้ำใจงดงาม" ของหนู "จงเชิดชูให้หนูก้าวหน้าในการงาน พบพานแต่คนดีๆ มากมีกำลังใจ และผองภัยไม่กร้ำกราย" นะคะ
  • คงเป็นภาพที่จัดกิจกรรมวันคริสต์มาสนะคะ ยังไม่ได้เข้าไปดูว่าหนูได้เขียนบันทึกเกี่ยวกับกิจกรรมนี้หรือเปล่า

เป็นกำลังใจให้อาจารย์ ครับ

ไม่ลืมที่อาจารย์ เคยให้กำลังใจ สำหรับตัวผมครับ

ขอบพระคุณค่ะอาจารย์แม่ท่านพี่ฯ

เมื่อก่อนมนุษยสัมพันธ์ปูดี๊ ดีค่ะ แต่หลังๆ รู้สึกได้โดยมิต้องทำแบบทดสอบว่า

ถ้าให้อยู่แผนกไล่แขก จะไปได้ราบรื่นมากค่ะ อิ อิ ภาพมีหน้าตาไว้จะส่งไปส่วนตัวนะคะ

แบบว่าเกรงจะมีเจ้า หนี้รัก มาตามทวงทักเจ้า :) อยากไปชมสวนดอกไม้บ้านอ.เด้อค่า

กุมภา กำลังถามไถ่สมาชิกว่า จะไปไหนดีระหว่าง อุบลฯ กะนครพนม ขอบคุณบันทึกอ.แม่

เข้ามาแล้ว ก็ได้ยิ้ม และมีความสุขเสมอ .. ว่าแต่ลูกชายอ.แม่ หายเงียบไปนานมาๆ ค่ะ :)

  • ภาพประจำตัวนี้ "Ico48" คงเป็นภาพสมัยเรียนปริญญาโทที่ USA นะคะ "คุณน้องคนบ้านไกล"
  • ตอนแรกพี่ใช้ภาพประจำตัวก่อนนี้ ลงในบันทึกนี้ แต่พอเห็นเปลี่ยนภาพประจำตัว เลยรีบเปลี่ยนตาม เวลาพูดถึงและลงภาพประจำตัว จะได้ตรงกับข้อมูลปัจจุบัน
  • พี่ได้ไปคุยในบันทึกของคุณน้อง 3 บันทึกเมื่อคืนนี้ค่ะ ดูเหมือนจะคุยข้ามวันด้วย
  • ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะที่อุตส่าห์ให้ลูกสาวเล่นเปียนโนเพลง "เป็นไปไม่ได้" ของวง "The Impossible" ที่บอกว่าคุณน้องและคุณพี่ชอบ (ขอบคุณหลานสาวมากค่ะ ที่อุตส่าห์เล่นเพลงที่ตนเองไม่เคยได้ยินให้ป้าฟัง...ดีใจที่ได้เห็นหน้าหลานสาวเป็นครั้งแรก...ถ้าคุณพ่อจะร้องคลอไปด้วยก็น่าจะช่วยให้ลูกมั่นใจมากขึ้นว่าเธอเล่นได้ถูกต้อง)
  • "ได้คืบก็อยากจะเอาศอก" รู้จักสำนวนนี้ไหมคะ แปลว่า "ไม่รู้จักพอ ได้แล้วยังอยากได้มากขึ้นไปอีก" ถ้าจะให้ลูกสาวเล่นเปียนโนเพลงที่พี่ชอบ คงจะต้องเล่นเป็นร้อยๆ เพลง แต่ขอเพลงที่สองก่อน "เพลงหนึ่งมิตรชิดใกล้" พร้อมด้วยเสียงร้องคลอของคุณพ่อ นะคะ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ชาว GTK ด้วย (ลงในบันทึกหน้าของคุณน้อง) ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
  • ขอบคุณ "ท่าน Small ManIco48" มากนะคะ ที่แวะมาให้กำลังใจ
  • ชอบใจ และศรัทธา "รูปแบบการนิเทศการจัดการเรียนรู้" ที่ท่านเรียกว่า "Lesson Study" ที่ท่านดำเนินการอยู่และนำมาแบ่งปันมากค่ะ เพราะจะทำให้ครูได้รับข้อมูลป้อนกลับในทันทีทันใด ซึ่งครูจะยังจำได้ว่าตนเองได้จัดการเรียนรู้อย่างไร  ดิฉันเองเวลาไปนิเทศการสอน (การจัดการเรียนรู้) ของนักศึกษา ก็จะบันทึกภาพเคลื่อนไหวด้วยตนเองตั้งแต่นักศึกษาพูดกับนักเรียนเป็นประโยคแรก และบันทึกเป็นช่วงๆ ในแต่ละกิจกรรม พอหมดเวลา ถ้านักศึกษามีเวลาก็จะให้ดูภาพการจัดการเรียนรู้ของตนเองประกอบการวิจารณ์เสนอแนะ ซึ่งการที่จะทำเช่นนั้นได้ ดิฉันต้องขับรถส่วนตัวไปนิเทศด้วยตนเองโดยไม่เคยเบิกค่าน้ำมัน ซึ่งดิฉันทำมา 2 ปีแล้วค่ะ เพราะถ้าไปกับรถบริการของคณะ ก็จะต้องไปและกลับพร้อมกับอาจารย์ท่านอื่นๆ ซึ่งไม่มีใครนิเทศแบบดิฉัน เพราะส่วนใหญ่จะเรียกนักศึกษามารวมกันและคุยไปพร้อมๆ กันโดยใช้เวลาไม่กี่นาทีค่ะ  
  •  ขอบคุณ "คุณ พ.แจ่มจรัส Ico48" มากนะคะ ที่แวะมามอบ "กำลังใจ" ให้กัน
  • จำเหตุการณ์ที่เคยเข้าไปให้กำลังใจ "คุณพ.แจ่มจรัส" ได้ดีค่ะ แม้เวลาจะนานมาแล้ว
  • ถ้าดิฉันจำไม่ผิด ในช่วงนั้น "คุณพ.แจ่มจรัส" ยังไม่ลงรายละเอียดประวัติส่วนตัวมากเหมือนกับที่ได้อ่าน ในตอนนี้
  • "ใจ" มีความสำคัญมากนะคะสำหรับมนุษย์ ทางพุทธศาสนาก็ได้ชี้ว่า "ใจเป็นใหญ่เป็นประธาน"   นักปรัชญาในอดีตที่เริ่มหันมาสนใจศึกษาเรื่องของ "คน" แทนการศึกษาเรื่องของ "จักรวาลและดวงดาว" ก็เชื่อว่า "จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" คำกล่าวที่มีให้กันเวลาชีวิตพบพานกับความสูญเสีย ก็คือ "เสียอะไรก็เสียไป แต่อย่าเสียกำลังใจ" 
  • ขอเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิต และการเผชิญปัญหาอุปสรรคให้กับ "คุณพ.แจ่มจรัส" นะคะ  
  • คุณประทีบ วัฒนสิทธิ์Ico48"  เชิญชวน "สมาชิก โกทูโน และผู้ติดตามความเคลื่อนไหว ทุกท่าน" ว่า "ตลอด ปี 2555 นี้ มาร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีเพื่อเพื่อนมนุษย์ เพื่อนเกิด เพื่อนแก่ เพื่อน เจ็บ และเพื่อนตาย คิดในเรื่องดีๆ เรื่องความจริง ความถูกต้อง เพื่อการดำรงชีวิตอย่างถูกทาง ซึ่งจักพบแต่สันติสุข สิ่งคิด สิ่งปฏิบัติเหล่านั้นย่อมสนองให้เราทุกคน มีความสันติสุขร่วมกันตลอดไป"  จาก "ธรรมชาติธรรมค้ำจุนโลก"
  • ขอสนองตอบ "คำเชิญชวนดีๆ"  ด้วยความขอบคุณนะคะ จริงๆ แล้วดิฉันเองก็ได้ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวมาตลอดชีวิต
  • แต่ดูเหมือน "Link" ที่คุณประทีปให้มา จะเข้าถึง (Access) ไม่ได้ ลองตรวจสอบดูด้วยนะคะ

 

  • ดีใจมากค่ะ ที่ "หนู PooIco48" ย้อนกลับมาคุยอีกรอบ
  • "มาบอกว่า เมื่อก่อนมนุษยสัมพันธ์ปูดี๊ ดีค่ะ แต่หลังๆ รู้สึกได้โดยมิต้องทำแบบทดสอบว่า ถ้าให้อยู่แผนกไล่แขก จะไปได้ราบรื่นมากค่ะ" ขอถามว่า Really? But, according to your personality, I don't think you meant what you said.
  • "ภาพมีหน้าตาไว้จะส่งไปส่วนตัวนะคะ"ขอบคุณหลายเด๊อค่ะ...I am looking fowards to seeing it. 
  • "กำลังถามไถ่สมาชิกว่า จะไปไหนดีระหว่าง อุบลฯ กะนครพนม" ...ว้าว! ใจตรงกัน อาจารย์แม่ว่าจะหาโอกาสไปนครพนม ไปดูสะพานข้ามไปฝั่งลาวแห่งที่สาม แต่เพื่อนๆ ปริญญาตรีรุ่นที่ 4 ทุกวิชาเอกก็มีนัดพบปะสังสรรค์ที่จ.ตรังในปลายเดือนกุมภาฯ เป็นช่วงที่กำลังสอบปลายภาคพอดี เพื่อนๆ เกษียณกันหมดแล้ว เริ่มเกษียณกันมาตั้งแต่ปี 2551 วันก่อนเจอเพื่อนเอกไทยที่เกษียณปี 53 เธอพูดอย่างหมั่นไส้ว่า "ทำไมเธออยู่นานกว่าเพื่อนกว่าฝูงเค้า ฮึ" ก็เพราะปัญหาไม่มีใครเลี้ยงดูในวัยเด็กนั่นแหละค่ะ ที่ทำให้แม่ต้องแก้ปัญหาโดยให้อาจารย์แม่เข้าโรงเรียนก่อนเกณฑ์ เลยเกษียณหลังเพื่อนที่เรียนรุ่นเดียวกัน ทำให้เพื่อนกระแนะกระแหนอยู่เนืองๆ เวลาติดงานและไม่สามารถไปพบปะเพื่อนฝูงได้
  • "ขอบคุณบันทึกอ.แม่ เข้ามาแล้ว ก็ได้ยิ้ม และมีความสุขเสมอ"..."อาจารย์แม่ก็ขอบคุณหนูเช่นกันค่ะ ที่ทำให้อาจารย์แม่มีความสุขทุกครั้งที่ได้คุยกัน"
  • "อยากไปชมสวนดอกไม้บ้านอ.เด้อค่า" ...ช่วงนี้ เมื่อเทียบกับรัศมีของดอกไม้ในงานดอกไม้ที่เชียงรายและที่เชียงใหม่ ดอกไม้ที่ฟาร์มของอาจารย์แม่คงจะเป็นเช่นเศษเสี้ยวธุลีดินสำหรับคนอื่น แต่ก็ให้ความสุขกับอาจารย์แม่ได้เสมอค่ะ"
  • "ว่าแต่ลูกชายอ.แม่ หายเงียบไปนานมากๆ ค่ะ :)"  ...I strongly agree. ตั้งแต่ไปอยู่แถว "Facebook" ลูกขจิต ลูกชายอาจารย์แม่เปลี่ยนไป วันหนึ่งไปเจอเลือกเพลงแต่งงานไว้แล้ว อาจารย์แม่ยังแซวเลยว่า "เลือกเพลงแต่งงานโดยยังไม่ได้เลือกเจ้าสาว จะไม่ข้ามขั้นไปหน่อยเหรอ" แล้วอาจารย์แม่ก็ไม่ได้เข้าไปดูอีก ว่าลูกขจิตตอบว่าอย่างไร...ที่หายไปหรือว่า Maybe, he is busy concerning the love affair. 

ข้อความดีๆหาอ่านได้ยาก โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์ครับอาจารย์

สวัสดีคุณน้องอาจารย์ วิไล.....

อ่านบันทึกนี้หลายครั้ง อ่านความเห็นของหลายคน

ยิ่งมาอ่านการตอบความเห็น ของอาจารย์ เหมือนกับการนั่งล้อมวงคุยกัน ในบรรยาศที่เป็นมิตร

ประเด็นของท่านรองสมอล

ประเด็นของอาจารย์แผ่นดิน

และหลายประเด็น เอามาตั้งวงคุยทำให้เกิดปัญญา....ตั้งวงคุยในสวนสักทีดีมั้ยคุณน้อง

  • ยินดีที่รู้จัก "ผศ.สุพิมล ศรศักดา" จากมหาจุฬาอุบลฯ นะคะ
  • ขอมอบ "ส.ค.ส.ปี่ 2555" ปีแห่งความเริงร่า จากฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ ด้วยค่ะ
  • ขอบคุณ "คุณอักขณิชIco48" มากนะคะ สำหรับการ "หยิบยื่น มีน้ำใจ (มากๆ) ให้กัน ที่ผ่านมา"
  • ยังประทับใจการต้อนรับที่อบอุ่นเป็นกันเองของคุณครูวิราช และคุณครูกัญญจนา กองแก้ว มิรู้ลืม
  • เมื่อวาน ได้ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ ผศ.คำผล กองแก้ว ลูกพี่ลูกน้องของคุณครูวิราชค่ะ ฝันเห็นหน้าท่านชัดเจนมากและท่านยังคุยด้วยอีก (เกือบตี 4 วันที่ 25 ธ.ค.ขณะอยู่ที่ฟาร์มค่ะ) ก่อนนั้นเป็นวิทยากรร่วมกันมาประมาณ 20 ปี (ท่านเกษียณไปประมาณ 10 ปีแล้ว) ให้การอบรมครู อบรมตำรวจ อบรมบุคลากรสาธารณสุข เยาวชน และบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ มาสารพัด แต่ไม่เคยฝันถึงท่าน 

    
  • ที่ "พี่ชายIco48" บอกว่า อ่านบันทึกนี้หลายครั้ง อ่านความเห็นของหลายคน ยิ่งมาอ่านการตอบความเห็น ของอาจารย์ เหมือนกับการนั่งล้อมวงคุยกัน ในบรรยาศที่เป็นมิตรประเด็นของท่านรองสมอล ประเด็นของอาจารย์แผ่นดิน และหลายประเด็น เอามาตั้งวงคุยทำให้เกิดปัญญา....ตั้งวงคุยในสวนสักทีดีมั้ยคุณน้อง"
  • เป็นความคิดที่น่าสนใจมากค่ะ 
  • ก็ลองดูว่าจะเป็นไปได้แค่ไหนนะคะ พี่ชาย
  • ขอบคุณอาจารย์แม่ครับที่กรุณา
  • พอดีงานยุ่งมาก
  • เลยไม่มีเวลาแสดงความคิดเห็น
  • พลาดบันทึกนี้ไปได้อย่างไรเนี่ย
  • ขอไปตามเจ้ากล้วยไข่มาแสดงความคิดเห็นด้วยดีกว่า
  • เย้ๆๆ
  • "ลูกขจิตIco64" ไม่ว่าง ไม่ต้องเม้นท์ แค่เห็นหน้าก็พอแล้ว
  • 
  • ขอบคุณ "น้องสุภัทราIco48" ที่แวะมา ให้ดอกไม้
  • วันสิ้นปี 2554 มีอะไรดีดี มาแบ่งปัน
  • 

ลาทีปีเก่า สวัสดีปีใหม่ครับคุณพี่

ตอนนี้เป็นเสาร์เช้าวันที่ ๓๑ ธันวาคม ปี๒๕๕๔ ภรรยาและครอบครัวจะไปทำบุญตักบาตรที่วัดป่า  จะเอาบุญมาฝากพวกเราครับ

นำรูปเก่าๆสมัยยังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยมาให้คุณพี่ได้ชม

ชื่นชีวิตจิตใจ

ผมเขียนให้เพื่อนๆว่า

รูปเหล่านี้อยู่เมืองไทยนานมากๆสามสิบปีกว่าๆ
เพราะจากเมืองไทยมีกระเป๋าใบเดียว
พี่สาวมาเยี่ยมปีนี้เอามาให้บอกว่าถ้าไม่เอา เขาจะทิ้งแล้ว
ไหนๆก็ไหนๆ มาถึงที่นี่แล้ว เพราะมีเหตุมีปัจจัย
เลยเห็นเป็นโอกาสดี ที่พวกเราจะ Reunion กันอีกทีทาง Youtube
บอกตรงๆเอาเงินล้านมาแลกก็ไม่ยอม อยากจะกลับไปเป็นหนุ่มเป็นสาวอีกครั้ง เพราะไม่ปรากฏว่ามีไขมันหน้าท้อง ให้เห็นเป็นเครื่องกวนใจ

การที่ได้เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน ช่วยเหลือกันมาก่อน
นับเป็นวาสนา

จากพี่ 


ปล. ดูวิดีโอนี้แล้ว บอกได้คำเดียว คิดถึงคนทางน้ำครับ

รูปทั้งหมดเป็นฝีมือชุมนุมช่างภาพธรรมศาสตร์ ถ่ายโดยวิชุ และสุนทร เป็นส่วนมาก
ฝีมือขั้นเทพ จังหวะการจัดภาพสวยงามมาก ขนาดภาพเก่ามากๆยังดูสวย
วิชุบอกว่า "มหัศจรรย์ ที่พี่ปูยังเก็บภาพพวกนี้ไว้อยู่"
อย่างที่เพลงนี้บอกไว้ตอนจบแหล่ะครับ

รักเธอ เสมอ มิ่งขวัญ - รักกันนิรันดร ไป

ขอบคุณสำหรับภาพถ่ายอันงดงามครับ

สวัสดีปีใหม่ 2555 นะคะ

มีความสุขกาย สุขใจค่ะ

ด้วยความรัก เคารพยิ่ง

อิน

 

 

  • "คุณน้องคนบ้านไกลIco64" คะ พี่เข้าไปดู "ชื่นชีวิตจิตใจ" แล้ว "แจ๋วจริงๆค่ะ" แอบเห็น " The Sexy Guy" ด้วยแหละ รูปอัลบั้มของพี่ช่วงที่เรียนปริญญาตรี พี่ฝากไว้ที่บ้านพี่สาวคนโต แต่ไม่โชคดีเหมือนคุณน้อง เพราะปีที่น้ำท่วมใหญ่ยโสธร พี่ๆ เก็บของไม่ทัน อัลบั้มที่พี่ฝากไว้เลยเสียหายตามไปด้วย คืนนี้จะเข้าไปดูภาพ "ชื่นชีวิตจิตใจ" อีกในบรรยากาศริมโขงค่ะ ยังไม่รู้จะเป็นที่ไหน จะขับรถเลาะริมโขงดูก่อน  เพราะไม่ชอบที่ๆ มีคนพลุกพล่านมากค่ะ 
  • 
  • ขอบคุณครอบครัว "คุณน้องคนบ้านไกลมากๆ นะคะที่นำบุญไปฝาก
  • พี่เองก็ขออาศัยบุญที่ลูกชายทำที่วัดในจังหวัดอุดรธานี และที่ลูกสาวไปสวดมนต์ข้ามปีที่วัดบวรฯ กทม. มาฝากเช่นกันนะคะ ลูกสาวจะสวดมนต์ นั่งสมาธิทุกคืนค่ะ ภาพขวามือเป็นภาพที่ลูกสาวไปร่วมกิจกรรมทำความสะอาดมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ที่อยุธยาหลังน้ำลดค่ะ เธอไปพบโดยบังเอิญ ที่เขานำไปจัดนิทรรศการความดีงามในช่วงมหาอุทกภัย และได้ส่งไปให้แม่ดู พี่ตัดมาเฉพาะส่วนที่มีเธอเป็นองค์ประกอบค่ะ  
  • 
  • ขอบคุณ "น้องอินIco48" มากนะคะ สำหรับคำอวยพรปีใหม่ที่มาพร้อมกับ "ต้น/ดอกราชพฤกษ์" ดอกไม้ประจำชาติ ในป่าอันอุดมร่มรื่น
  • ขอมอบ "ส.ค.ส.ปี 2555 ชุดแนะนำดอกไม้ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ : ดอกชบา" มาสร้างความสดชื่นตลอดปี 2555 ให้กับน้องสาวที่รักของพี่ ด้วยค่ะ

สวัสดีปีใหม่ครับ ผศ.วิไล

-อ่านบันทึกของท่านแล้วได้รับความรู้ซาบซึ้งมาก....ผมสนใจเรื่องมนุษย์มาก..มันศึกษาไม่มีสิ้นสุด...ปีใหม่ขอให้ท่านและครอบครัวมีความสุขมากๆอย่าเจ็บไข้ได้ป่วยนะครับ...

  • ขอบคุณ "ท่านเดIco48" มากนะคะ ที่แวะเยี่ยมบันทึกนี้ ซึ่งได้เลือกเขียนเรื่องเกี่ยวกับมนุษยสัมพันธ์เป็นเรื่องแรกใน Blog "Mantoknow" ตามที่ได้ใหสัญญากับท่านเดไว้ 
  • ใช่ค่ะ เรื่องของมนุษย์เป็นเรื่องที่ศึกษาได้ไม่สิ้นสุด และเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากที่สุดด้วย
  • ขอบคุณมากค่ะสำหรับคำอวยพรปีใหม่ เป็นดอกกุหลาบแดงบ้านท่านเดใช่ไหมคะ
  • และขอมอบส.ค.ส.ชุดแนะนำดอกไม้ฟาร์มไอดิน-กลิ่นไม้ : ดอกไหมจุรี (ที่เพิ่งถ่ายเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2555) ให้ท่านเดและครอบครัวมีความสุขกายสุขใจตลอดปี 2555 และตลอดไปนะคะ

 

 

  • ขอบคุณบุษยมาศ "Ico48" เจ้าของภาพสวยงามข้างล่างมากนะคะ ที่ติดตามให้กำลังใจกันมาตลอด
  • 

สวัสดีครับ ผศ.วิไล

-Blog "Mantoknow" ของท่านต้องกลับไปอ่านใหม่หลายๆครั้งครับ...ผมจะขออนุญาตเลียนแบบท่านเปลี่ยนบล๊อคของผมเป็น Blog "Daytoknow" 555

-มนุษย์นี้เข้าใจยากจริงๆโดยเฉพาะ..ความเข้าใจผิด..ความรู้สึก..ความนึกคิด..จิตใจที่ดีงาม..พูดได้คำเดียวว่า "ขอโทษ"

-เป็นกุหลาบหน้าบ้านครับ

-ผทมันอ่อนหัดทำ สคส.ไม่เป็นเหมือนเพื่อนคนอื่นเขา (ใส่ภาพได้ก็บุญแล้ว)ปีที่แล้ววานเพื่อนทำ สคส.ให้ 555 ความสุขหรือครับก็ตามอัตภาพครับ (มองโลกในแง่ดี)

-ถ้ามีที่เรียนวิธีใส่ภาพสวยๆใน Blog ผมจะสมัครเรียนทันที... ตอนนี้ก็ทำได้แบบงูๆปลาๆ

ผศ.วิไลครับ

ขออนุญาตทดลองใส่ภาพดูนะครับ (ลุ้นๆ)

ÄÄÄ..สวัสดีปีปัจจุบัน๒๐๐๐บวก๕๕๕...ค่ะคุณ ผศ วิไล...ยินดีที่ได้รู้จัก...ยายธีอ่อนหัดกับการเขียน..และไม่มีความรู้เลยเรื่อง คอม..(จำไม่เป็น..ได้แต่จิ้มไปเรื่อยๆ..นิ้วเดียว..อ้ะๆๆตามประสาคนแก่...ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ..ถ้ามีคำแนะนำ..ให้ยายธีก้าวไปอีก นิ้ด กว่านี้ ยินดีค่ะ..)

  • ขอบคุณ "ท่านเดIco48" มากนะคะ ที่แวะเข้ามาพูคุยกันเรื่อยๆ ทำให้คุ้นเคยกันมากขึ้นไปตามลำดับ 
  • และขอบคุณ คุณยายธี "Ico48" มากค่ะที่แวะมา ชอบคุณ "ยายธี" ที่เป็นคนอารมณ์ดี เข้าใจชีวิต เข้าใจโลก เชี่ยวชาญทางปรัชญา ศาสนา แม้จะไม่รู้ภูมิหลังของท่าน และไม่รู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน
  • พอดีทั้ง "ท่านเด" และคุณ "ยายธี" พูดถึงประเด็นความสามารถด้าน IT  เหมือนกัน ก็เลยขอคุยไปพร้อมๆ กันในเรื่องดังกล่าวค่ะ
  • ทุกอย่างเราก็เริ่มจากไม่เป็นกันทั้งนั้นแหละค่ะ ดิฉันเองก็อย่างที่บอกไปแล้วว่า สมัครสมาชิก GTK โดยแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ "Weblog" ไม่มีใครแนะนำ  และไม่ได้อ่านคำแนะนำ แต่ใช้การลองผิดลองถูก การสร้างบันทึกและการนำภาพขึ้นก็ลองทำดูตั้งแต่วันแรกที่สมัครสมาชิก และก็ลองผิดลองถูกจนทำได้สำเร็จ แล้ว ดร.ขจิต ฝอยทอง จึงได้เข้าไปแนะนำการนำภาพขึ้น เธอเขียนแนะนำยืดยาว และให้เข้าไปอ่านที่ Link นั่นนี่ อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ แต่ตัวเองก็ทำได้อยู่แล้วโดยไม่ได้ใช้วิธียุ่งยากแบบที่เธอแนะนำ
  • ส่วนเรื่องการแต่งภาพนั้น น้องชายให้คำแนะนำ 1 ครั้ง ประมาณ 3 นาทีตอนที่ไปเยี่ยมน้องที่ได้รับอุบัติเหตุและรับการรักษาที่รพ.ยโสธร (ใช้โปรแกรม Photoscape) แล้วก็กลับไปฝึกทำเอง ตอนแรกก็ใส่ข้อความในภาพไม่เป็น ตอนหลังโทรฯ ถามลูกสาว เธอก็บอกแค่ว่าให้คลิกแก้ไขภาพ แล้วคลิกเพิ่มวัตุถุ จากนั้นก็ใช้วิธีเดิมคือลองผิดลองถูกค่ะ ก็เลยค่อยๆ ทำได้มากขึ้นไปตามลำดับ
  • เรื่องพิมพ์ก็ไม่ต่างจากคุณ "ยายธี" เท่าไหร่ค่ะ จิ้มสองนิ้ว แต่ตำราที่ใช้สอน ใบความรู้ใบงาน ข้อสอบบทความลงวารสารคณะ เอกสารอบรม ฯลฯ จะพิมพ์เองทั้งหมด เพราะสามารถพิมพ์ไปแก้ไขไป ไม่เคยใช้เจ้าหน้าที่คณะ เพราะเขาทำได้น้อยกว่าที่เราทำได้ (เขาพิมพ์ข้อความได้อย่างเดียว และก็พิมพ์ผิดมากด้วยค่ะ) 
 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

บันทึกดีมีคุณค่า มาพร้อมกับจำนวนคนอ่านนะคะ

อ่านแล้วก็สงสัยอีกตามเคยว่าความเป็นคนละเอียดรอบคอบและการอ่านแบบวิเคราะห์ของอาจารย์มีมาแต่กำเนิดหรืออย่างไร?

ขอบคุณบันทึกที่ทำให้หนูอึ้งอีกตามเคยมากค่ะ

  • "หนูกล้วยไข่Ico48" นี่ ถ้าเรียนวิชามนุษยสัมพันธ์ กับอาจารย์แม่ ต้องให้ "A" แน่ๆ เพราะจาก "Authentic Evaluation" พบว่า เป็นคน "ยิ้มแย้ม แจ่มใส มีไมตรี ยกย่อง คุณความดี ของผู้อื่น และ หยิบยื่น มีน้ำใจ ให้กัน" ซึ่งเป็น 3 ย.ที่สำคัญในการสร้างมนุษยสัมพันธ์
  • จากที่หนูถามว่า "อ่านแล้วก็สงสัยอีกตามเคยว่า ความเป็นคนละเอียดรอบคอบ และการอ่านแบบวิเคราะห์ของอาจารย์ มีมาแต่กำเนิดหรืออย่างไร?" ขอตอบว่า "ลักษณะทั้งหลายทั้งปวงของมนุษย์นั้น "Born to Be" มีน้อยมาก ส่วนใหญ่จะได้มาจากการหล่อหลอมของประสบการณ์ แรงจูงใจ ค่านิยม และการฝึกฝน ฯลฯ
  • อย่างที่หนูเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส มองโลกในแง่ดี เห็นคุณค่าของตนเองและของผู้อื่น มีสุขภาพจิตดี  และมีจิตกตัญญู ไม่ใช่สิ่งที่ได้มาโดยกำเนิด แต่เกิดจากหนูมีประสบการณ์ที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักจากครอบครัวที่อบอุ่น และได้เห็นแบบอย่างที่ดี คือ ความรักความห่วงใยที่เตี่ยมีต่อแม่ และมีอาจารย์ที่ดีเป็นแบบอย่าง
  • และการที่หนู "เขียนเก่ง เขียนเป็น" ก็เพราะหนูอ่านมาก ทำให้ได้เรียนรู้จากการเขียนของผู้อื่นด้วย และการเขียนบ่อยๆ ก็ทำให้ชำนาญขึ้น
  • หนูเป็นเยาวชนที่อาจารย์แม่ภูมิใจมากนะคะ และได้นำไปเป็นแบบอย่างให้กับนักศึกษา มรภ.อบ. มาแล้วค่ะ
  • ด้วยความดีงามของหนู ขอให้หนูพบแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต เรียนสำเร็จและได้งานทำที่ตรงใจ ทำงานด้วยความสุข มีความก้าวหน้า และมีชีวิตส่วนตัวและชีวิครอบครัวที่มีความสุขตลอดไปนะคะ    
  • พยายามจะตอบหนูตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่ไม่สำเร็จ อยู่ที่ฟาร์มมีปัญหาใช้ 'net ค่ะ ตอนนี้ก็ยังอยู่ Click ครั้งแรกหาย ดีว่ารู้เท่าทัน Copy ไว้

 

ÄÄÄ...ขอบพระคุณยิ่งอย่างจริงใจ.".บางทีสิ่งที่ดีที่สุด..หยุด..กับสิ่งที่ ..พอดี"..ตรงใจเปะเลยเจ้าค่ะ...เพราะกำลังทำความเข้าใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...(..หยุด..ม่ายด้าย..เบรคแตก..เพราะ..ความอยาก..ไม่พอดี..ที่เหตุ..และปัจจัย..ที่วิ่งตามมาไม่ได้หยุดหย่อนใน.."ความรู้สึก"..อ้ะ...ประโยคนี้ที่เห็นจึงเป็นนิยาม..ที่..อ่ะๆๆอิอิ..อ้ะะๆๆๆ..เจ้าค่ะ...ชอบๆๆมากๆๆ..และกำลัง"หยุด"คิด..เขียนอ่าน ทำ..ซะที..ดีไหมเนียะ....วงกลม..ที่หารอยต่อ..พบ..เมื่อ.."หยุด"...)..สวัสดีปีปัจจุบัน๒๐๐๐บวก๕๕๕เจ้าค่ะ..คุณ ผศ วิไล แพงศรี..ยายธีค่ะ...

"ขอต่อนิดหนึ่ง..นึกขึ้นมาได้..ครั้งหนึ่งที่ได้..พบท่าน..คเวสโก..ท่านพูด..ว่า..หยุด คิด หยุด อ่าน..หยุด พูด...หยุด..ทำ.." เจ้าค่ะ...หยุดได้..คงจะ..พบ..กับ..คำว่า.."พอดี".........

  • ขอบพระคุณ คุณ "ยายธีIco48" มากนะคะ ที่กลับเข้ามาพูดคุยกันอีก (ขออนุญาตใช้คำแทนตัวว่า "น้อง" ตามความรู้สึกนะคะ) น้องอยากให้การพูดคุยทาง GotoKnow เป็นคล้ายๆ การติดต่อสื่อสารแบบที่ไม่เป็นทางการในชีวิตประจำวัน ที่คนสองคนจะพูดคุยกันได้มากกว่าที่ฝ่ายหนึ่งแสดงความเห็นมา แล้วอีกฝ่ายตอบความเห็นแล้วก็แปลว่าจบกัน คือ ถ้ามีความรู้สึกอยากพูดคุย หรือมีประเด็นที่ต้องพูดคุยกันต่ออีก ก็ทำไปได้เรื่อยๆ ตามที่ใจต้องการ
  • เอ๊ะ! มันจะขัดกับแนวคิด "บางทีสิ่งที่ดีที่สุด...ก็คือการหยุดกับสิ่งที่พอดี" หรือเปล่าคะนี่...อิอิ...ยายธีคงไม่คิดว่า...น้องเป็นคน "ปากว่า ตาขยิบ" นะคะ
  • ดีใจมากค่ะ ที่พี่ "ยายธี" บอกว่า "บางทีสิ่งที่ดีที่สุด..หยุด..กับสิ่งที่ ..พอดี"..ตรงใจเปะเลยเจ้าค่ะ...เพราะกำลังทำความเข้าใจอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน..หยุด..ม่ายด้าย..เพราะความอยาก..ไม่พอดี..ประโยคนี้ที่เห็นจึงเป็นนิยาม..ที่..อ่ะๆๆอิอิ..อ้ะะๆๆๆ..เจ้าค่ะ...ชอบๆๆ มากๆๆ ชอบ..."
  • แต่จะเสียใจมากค่ะถ้าประโยคดังกล่าว จะทำให้พี่ "ยายธี" หยุดเขียนบันทึก หยุดอ่าน หยุดเข้ามาพูดคุยใน GotoKnow ตามคำพูดของท่านเควสโก ขอร้องนะคะ เพราะถ้าหากทำเช่นนั้น "มันจะเกินพอดี ที่น้องจะรับได้" และกัลยาณมิตรท่านอื่นๆ ก็คงรับไม่ได้เช่นกัน ยังไงก็ขอให้พวกเราชาว GotoKnow มีความสุขต่อไป เพราะเห็น "ยายธี" เข้ามาเขียน พูดคุย เหน็บแนมใครบางคนบางกลุ่ม และหัวเราะอารมณ์ดี ใน GotoKnow นะคะ  
  • ขอบคุณสำหรับคำชมที่ทำให้หนูสามารถนำไปใช้เป็นกำลังใจและเสริมส่วนที่ดีให้เพิ่มขึ้นต่อไปค่ะ
  • มีโอกาสได้พูดคุยกับอาจารย์ผศ.วิไลก็เหมือนกับกำลังเรียนวิชามนุษสัมพันธ์เลย
  • ชอบแอบอ่านความคิดเห็นของอาจารย์มากค่ะ เพราะมี... (เป็นความชอบส่วนตัวอธิบายลำบาก)

ÄÄÄÄÄÄ....มาอีกครั้ง..อิอิ...ยายธีไม่ค่อยอยู่กับ..กด..เจ้าค่ะ (ขออภัยโกทูโน..หากไม่สุภาพ..อ้ะ)...ที่จริงไม่"ซีเครียด"ชอบ..ละเลียด..ไปกับ..กาลเวลา...See you ...again.bye ..ÄÄÄ..".คุณน้อง" ยายเขียนผิดรึเปล่าวไม่รุ (ตอนเขียนไม่ได้ถามอาจารย์ขจิต ๕๕๕)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท