นมัสการครับ
I read "...เป็นที่น่าเสียดาย วัฒนธรรมจังหวัดบอกว่า เอาไว้โอกาสหน้าหรือให้เป็นประเพณีต่างหาก ทั้ง ๆ ที่มีสถานภาพและโอกาสที่จะปรับเปลี่ยน สร้างสรรให้มีให้เกิดขึ้นในยุคนี้... ก็ปล่อยวันเวลาผ่านไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง..."
I think we have to take charge and do things ourselves, if we leave it to our cultural office, as we know a public service office hardly does anything for people, we would not go forward.
A little thought came to mind, had we added a word "red" here and there in the talk, the outcome could have been different. But on reflection --we have to lead--.
เจริญพรขอบคุณ-คุณโยม SR ที่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น
ผู้เขียนเห็นด้วยในทัศนะของท่าน ดังนั้นราชการ ไม่ควรมองงานเพราะเป็นงานตามหน้าที่
แต่ควรมองงานเพื่อการสร้างสรรค์และโอกาสในการพัฒนามากกว่านี้
ท่านพระครูครับ
เมื่อเช้านี้ที่วัดผม พระ(ลูกวัด)ท่านเทศน์เรื่องปวารณาออกพรรษาและลองประชาสัมพันธ์รณรงค์พูดรวมไปถึงเรื่องอุทกภัยในขณะเทศน์นั้นด้วย โดยบอกว่าเดี่ยวเราน่าจะร่วมกันทำบุญใหญ่สักครั้ง โดยนำข้าวสารอาหารแห้งจากที่โยมจะตักบาตเทโวฯในวันพรุ่งนี้ แม้ไม่มากมายเพียงเล็กน้อย ที่โยมร่วมทำบุญ นำไปบริจาคให้พี่น้องที่ประสบภัยพิบัติ
ผมสังเกตว่าทั้งพระและโยมตามท่านไม่ทันครับ สังสัยจุดไม่ติดแน่เลย(ผมก็เสียดายโอกาสดีๆอย่างนี้เหมือนกัน) โอกาสอย่างนี้จะเรียกว่าทำงานเชิงรุกก็ได้นะผมว่า แต่ก็พลาดไปอีก
ครับอาจารย์ครับ คำว่าโอกาสหน้ามักจะทำลายโอกาสอันดีไป หรืออย่างน้อยก็ทำให้โอกาสดีๆเลื่อนออกไปไกล
สวัสดีครับ หลวงพ่อมาหาแล หลายกรณีเมื่อจุดแล้วไม่ติด
ผมใช้วิธีลุยไปข้างหน้าก่อนครับ เดี๋ยวกัลยาณธรรม เขาก็จะตามเองครับ
คือแบบว่า ทำเพื่อให้เขาเห็นแนวทางก่อนครับ เพราะบางครั้งคำพูดเป็นนามธรรม จับต้องสัมผัสไม่ได้ หลายครั้งต้องทำให้เป็นรูปธรรมให้เห็นชัดเจน..ครับ
สวัสดีพระครูใบฎีกาฯ บางครั้งเขาก็ตามความคิดเราไม่ทัน หรือ
เป็นเพราะไม่ได้พูดคุยกันมาก่อน บางครั้งก็แปลความหมายผิด หรือ
การนำเสนอของเราเองผิดพลาด ที่ไม่สามารถสื่อสารให้เข้าใจได้ หรือ หรือ หรือ....