ชาวนาวันหยุด ตอนที่ 8.2 เปลี่ยนเเปลงระบบการผลิตข้าว โจทย์ใหญ่ที่ต้องรีบทำ!!!

เรื่องข้าวนี้เราจะไม่คุยกันเรื่องของราคา เพราะเป็นมายาภาพ ข้าวราคาดี ไม่ได้บอกว่าชาวนาเหลือเข้ากระเป๋าตัวเอง เท่าไหร่ (ส่วนมากจะหมดไปกับ เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี ยาเคมี และบริจาคให้หมอช่วยรักษาสุขภาพ) เพราะผลตอบแทนสุดท้ายจาก "การทำนา" คือ ผลกำไรที่เป็นตัวเงิน (รายได้(จำนวนผลผลิต*ราคา)-ต้นทุน) + กำไรสุขภาพ + ความสุขของครอบครัวอยู่พร้อมหน้า

ชีวิตชาวนา ส่วนใหญ่ มักถูกสื่อล้าหลัง

นำเสนอในรูปแบบของโศกนาฏกรรม

การเข้าไม่ถึงข้อมูล ความล้มเหลวของระบบการศึกษา โดนกดขี่ โดนภัยธรรมชาติ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เป็นหนี้เป็นสิน ต้องขายนา ส่งควายเรียน เพื่อให้มีโอกาส และสถานะทางสังคมที่สูงขึ้น อะไรมันแย่ปานนั้น ...

เด็กรุ่นใหม่ที่ได้ติดตามดูจากสื่อแล้ว โอ้ ไม่ไหวๆ ไปทำอย่างอื่นดีกว่า ....

พ่อแม่ปลูกข้าว ส่งลูกมาเรียนหนังสือในเมือง ฉีกแต่ซองบะหมี่สำเร็จรูปกิน (ต้นเดือนลงขวด กลางเดือนแทงบอล ปลายเดือนลงซอง)

ก็เลยเคยชินกับความสำเร็จ แบบข้ามคืน งานอะไรเงินไว จะกลับไปทำนาปลูกข้าว กว่าจะได้เงินโน่น 4 เดือน ...

แรงงานภาคเกษตรไทย ส่วนใหญ่จึงเป็นผู้สูงอายุ ครับ!!! ...

มีสถิติต่างๆมากมาย ที่คนบนหอคอยงาช้าง ดูแล้วสนทนา กับคนข้างล่างว่า

Q: "เฮ้ย ทำไมผลผลิตข้าวต่อไร่ ของไทย ทำไมตกต่ำ ไปหารายงานมาทีซิ เเพ้เพื่อนบ้านมาหลายปีแล้ว "

Q: "สถิติการนำเข้า ปุ๋ยเคมี ยาเคมี ปัจจัยการผลิตของเราก็เพิ่มขึ้นทุกปีนะ "

A: "ปีนี้ น้ำท่วม ฝนแล้ง โรคแมลงระบาดครับ ทำให้ผลผลิตตกต่ำ"

Q: "แต่มันก็เป็นของมันอย่างนี้ทุกปี ไม่ใช่เหรอ เราก็ไม่ได้ป้องกัน กันเท่าไหร่"

Q: "แล้วทำไมในรายงาน บอกว่า เราเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับหนึ่งของโลก"

A: "บ้านเราน้ำดี ดินดีอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ครับ "

Q: "แล้วมันจะนำเข้าปุ๋ยเคมี ยาเคมี ปัจจัยการผลิต ทำไมตั้งมากมาย มันเอาไปถมทะเลหรืออย่างไร ???

A: เอ่อ??? ผมไม่เคยทำนาครับ ผมแนะนำชาวนาไปเพิ่มผลผลิตแล้วครับ ผมทำหน้าที่ของผมแล้ว (ส่วนชาวนาจะทำหรือไม่เรื่องของเขาครับ!!!)

(hide -ปกติผมก็ไปจัดฉากถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับ มารับรายงานอีกทีครับ...)

ตกลงแล้ว ดิน-มันดี จริง? น้ำ-มันดีจริง ? แล้วที่นำเข้ามามันหายไปไหนหมด?

ผลผลิตต่อไร่ ไทยก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น ตามปัจจัยการผลิตที่เพิ่มขึ้น

สรุปแล้ว ชาวนา จะเดินไปทางไหนต่อ ครับ??? ...

เรื่องข้าวนี้เราจะไม่คุยกันเรื่องของราคา เพราะเป็นมายาภาพ

ข้าวราคาดี ไม่ได้บอกว่าชาวนาเหลือเข้ากระเป๋าตัวเอง เท่าไหร่

(ส่วนมากจะหมดไปกับ เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี ยาเคมี และบริจาคให้หมอช่วยรักษาสุขภาพ)

เพราะผลตอบแทนสุดท้ายจาก "การทำนา" คือ ผลกำไรที่เป็นตัวเงิน (รายได้(จำนวนผลผลิต*ราคา)-ต้นทุน) + กำไรสุขภาพ + ความสุขของครอบครัวอยู่พร้อมหน้า

วันนี้ผมตั้งคำถามถึง รูปแบบในการปรับเปลี่ยน จากโศกนาฏกรรม ไปสู่ สุขนาฏกรรม โดยตัวชาวนาเอง ไม่ต้องไปรอใครทั้งสิ้น รอไปรอมามันจะอดตาย

หาทางออกร่วมกันของชาวนาไทย จะไปกันทางไหนดี ???

"เริ่มที่ การรู้จักตัวเอง รู้จักสังคม รู้จักโลก รู้จักเปิดใจเรียนรู้ องค์ความรู้สากล เทคโนโลยีการผลิต และการจัดการเเบบร่วมสมัย เอามาปรับใช้ให้เข้ากับภูมิสังคม"

เราปล่อยให้คนสูงอายุทำนากันต่อไป อนาคตก็อาจจะไม่มีข้าวกินครับ

จริงๆ เราก็เรียนเรื่องพวกนี้มาตั้งเยอะ Problem Solving PDCA /QC Circle
แต่ใช้ในชีวิตจริง เอามาใช้ในฐานะลูกจ้างเป็นส่วนใ หญ่ แล้วก็จบอยู่ในบริษัท

เรื่องพวกนี้ เอาไปใช้กับกลุ่มการผลิตข้าว และชาวนาไทยได้ครับ ...
ทำนา อย่างเป็นระบบ ยกระดับ "ศิลปินชาวนา สู่กลุ่มชาวนามืออาชีพ"

เปลี่ยนระบบการผลิตข้าว จากเดิม

"ชีวะ" ---> "เคมี" ---> "ฟิสิกส์"

เปลี่ยนมาเป็น การใช้ "พลัง" จากธรรมชาติ และวิธีกล เข้ามาช่วยจัดการ

"ฟิสิกส์" --->"ชีวะ"--->"เคมี"

การผลิตข้าวแบบเดิมๆใช้ "ชีวะ" แบบผิดๆ(เข้าใจว่ามันยังดีอยู่) ทำให้ธรรมชาติในเเปลงนาแย่ลง ความเบียดเสียด ยัดเยียด เบียดแย่งเเสงของต้นข้าว ปล่อยน้ำแช่ในนา ดินเน่า รากเน่า โรคแมลงลงจากความอ่อนแอ ของต้นข้าว ทำให้ต้องใช้ "เคมี"เข้ามาในระบบการผลิตข้าว ทั้งปุ๋ยและยาเคมี

โศกนาฏกรรม จึงเกิดมาตั้งแต่บัดนั้น...

เขียนใน GotoKnow โดย ต้นกล้า ชาวนาวันหยุด
ใน เส้นทางสายนาดำ

คำสำคัญ (Tags): #การเลี้ยงเป็ดในนาดำ#ชาวนาวันหยุด#ทำนาลดโลกร้อน#ทำนาใช้น้ำน้อย#นาหล่ม#ป้องกันเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล#พรวนหญ้าในนา#เปียกสลับแห้ง แกล้งข้าว (AWD5/-15)ทำนาใช้น้ำน้อย ช่วยลดโลกร้อน ช่วยแก้ปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และแก้ปัญหานาหล่ม#แกล้งข้าว#แกล้งเป็ด

หมายเลขบันทึก: 460084เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2011 20:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 14:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน