ครูแท้..หัวใจทองคำ


“ ปริญญานี่คู่กับความรู้ความสามารถ ครูมาอยู่ที่นี่เพื่อสร้างคนใหม่ ตั้งแต่สามขวบขึ้นมา จนวันนี้เรามีเมล็ดพันธุ์ใหม่ ครูคิดว่าต้องสร้างงานใหม่โดยคนที่มีความรู้ความสามารถจะต้องเป็นคนดี คนเก่งของไทยมักจะโกง คนดีของไทยมักจะซื่อบื้อ แต่เราจะสร้างคนดนตรีให้เป็นทั้งคนดีและคนเก่ง ฉะนั้นเราจะมัวแต่ร้องไห้ไม่ได้หรอก”

ตอนเป็นเด็กเรียนอยู่ชั้นประถมต้นผมเรียนโรงเรียนประชาบาล
ครูคนหนึ่งถีบจักรยานมาโรงเรียนทุกวัน กางเกงสีกากีของแกมีรูปใบโพธิ์แปะอยู่ที่ก้นทุกตัว
หน้าตาเคร่งขรึมถือไม้เรียวประจำตัวตลอดเวลาแทบไม่เคยวาง
ไม้เรียวของแกมีไว้สำหรับชี้ กับเคาะโต๊ะ เคาะกระดานดำเสียงดังได้ยินไปทั่ว

...แต่ไม่เคยเห็นแกตีใครสักที..


จำได้ว่าแกไม่เคยเสียเวลากับเรื่องอื่นนอกจากการอยู่กับเด็กและสอนเด็ก
ไม่ขายของเงินผ่อน ไม่ทำผลงาน และไม่ประจบครูใหญ่
จบปอสองอ่านคล่องเขียนคล่องทุกคน แม้แต่เพื่อนที่ใครๆลงความเห็นว่าบื้อที่สุดก็ต้องอ่านได้เขียนได้


จบปอสองไม่มีเด็กหญิงคนไหนเขียนคำว่า "ทำอะไรอยู่คะ" เป็น "ทำอะไรอยู่ค่ะ" สักคนเดียว


วันนี้ถึงแกไม่อยู่แล้วแต่ลูกศิษย์ทุกคนยังจำได้และยังรักเคารพไม่เสื่อมคลาย

ชั้นประถมปลายครูอีกคนหนึ่งขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าขนาดห้าสิบซีซีสมัยพระเจ้าเหาของแก
ข้ามจังหวัดบนทางลูกรังเมื่อเกือบสี่สิบปีที่แล้วเป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตร
เพื่อหาซื้ออุปกรณ์มาทำโมเดลสื่อการสอนวิทยาศาสตร์
เพราะเห็นว่ามีเด็กอีกหลายคนที่ดูหนังสือแล้วฟังคำอธิบายอย่างเดียวไม่เข้าใจ


ด้วยทุนส่วนตัวของแกเอง


เป็นครูอีกคนหนึ่งที่ไม่ยอมให้เด็กแม้แต่คนเดียวผ่านแกไปโดยไม่เข้าใจสิ่งที่แกสอน

เมื่ออยู่ระดับมัธยมศึกษา เวลาที่มีการทดสอบย่อยในห้องเรียน
ครูคนหนึ่งบอกคะแนนพวกเราค้านสายตาจนแทบไม่มีใครเชื่อ
มีการตั้งคำถามกันมากมายว่าทำไมคนที่เรียนเก่งจึงได้คะแนนน้อยมาก
ส่วนคนที่อ่อนที่สุดกลับมีคะแนนสูงกว่าใครๆ
มีการตั้งคำถามถึงคุณภาพของข้อสอบและความผิดพลาดของการตรวจข้อสอบ
นำไปสู่การถกเถียงแพร่กระจายไปทั้งห้อง
แต่เมื่อสิ้นสุดคาบเรียน..ทุกอย่างก็กระจ่าง
เมื่อคุณครูบอกว่า..ถ้าอยากรู้คะแนนจริงของพวกเธอ..
ก็ให้เอาคะแนนที่ครูบอกไปลบจากคะแนนเต็ม
ต่อมาพวกเราจึงได้รู้ว่าคำถามง่ายๆที่ครูมักถามเด็กว่าใช่หรือไม่นั้น
เมื่อจะต้องมาตอบคำถามของแก มันช่างเย็นแสนเข็ญเสียเหลือเกิน


ดังนั้นถ้าวันนี้ลูกศิษย์แกไม่เชื่ออะไรง่ายๆแม้จะมาจากปากของศาสตราจารย์หรือบรมครู
โดยไม่มีข้อมูลอื่นสนับสนุน ก็อย่าได้สงสัยอะไรเลย

ครูแท้ที่ผมรู้จัก ทุกคนคลุกคลีอยู่กับลูกศิษย์ ทุ่มเวลา แรงกายแรงใจ
เพื่อประสิทธิประสาทวิชาการ คุณธรรมความเป็นมนุษย์ และอนาคตของลูกศิษย์
พร้อมทั้งชี้นำสังคมรอบข้างในเรื่องแห่งความเป็นจริงและประโยชน์สาธารณะ
ไม่ต้องการชื่อเสียง ไม่ต้องเป็นกรรมการที่นั่นที่นี่ ไม่ต้องมีโปรเจคระดับประเทศระดับอินเตอร์มากมาย


และไม่เล่นการเมือง ไม่ชี้นำสังคมโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมฝ่ายหนึ่ง ทำลายอีกฝ่ายหนึ่ง
ไม่พูดความจริงบางส่วน ปิดบังความจริงอีกบางส่วนเข้าไว้

ผมไม่เคยรู้จักรองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข หรือ ดร.แซ็ก มาก่อนหรอกนะครับเพียงแต่ที่ผ่านมาเคยเห็นในสื่อบ้างเวลาที่ลูกศิษย์ท่านไปแสดงฝีมือตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะรายการคุณพระช่วยต้องยอมรับว่าเป็นมืออาชีพจริงๆ แต่พอมาเกิดเหตุที่เป็นปัญหาข้อขัดแย้งก็เลยเข้าไปค้นดูที่ไปที่มาและรู้ว่าท่านกำลังต่อสู้อยู่กับใคร และเพื่ออะไร


อย่างน้อยที่สุดการทำเรื่องที่สุ่มเสี่ยงในภาวะที่สังคมเปราะบางเรื่องความรู้อย่างปัจจุบันเพื่อลูกศิษย์ของตนเอง
..ก็คงเพียงพอที่จะขอให้กำลังใจ..

ไม่รู้ว่าสิ่งที่ท่านทำจะบรรลุถึงเป้าหมายหรือไม่ เพราะรู้กันอยู่ว่าการต่อสู้ของท่านไม่ใช่การต่อสู้กับหลักการและเหตุผลเพียงอย่างเดียว

แต่เป็นการต่อสู้กับอีโก้และอคติแบบอนุรักษ์นิยมที่แม้แต่ทัศนคติผู้นำประเทศบางคนยังเคยพูดถึงเรื่องทำนองนี้เมื่อมีการรวมตัวเรียกร้องความเป็นธรรมว่า "จะกลายเป็นว่าบ้านเมืองไม่มีกติกาใครอยากได้อะไรก็เอาคนมากดดัน"

ซึ่งนั่นย่อมเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าการต่อสู้ของท่านไม่ได้เดินไปบนทางที่ราบเรียบนัก

"การยื่นใบลาออกของผมเป็นการประท้วง เพื่อให้สังคมหันมาดู แต่ถ้าสังคมพ่อแม่ ผู้ปกครองยอมรับสิ่งเหล่านี้ ผมก็ควรจะออกไป เพราะผมผิดแน่ๆ แต่ถ้าผมถูก ออกมาโวยสิครับ  ถ้าผมทำดีคุณไม่มาดูเป็นความผิดคุณ   ผมทำเต็มที่แล้ว และเชื่อว่า ทำถูกต้อง   เขาบอกให้ถอย ผมจะถอยไปไหนล่ะ ถอยไปหาผิดอย่างนั้นหรือ คนที่ถูกทำในสิ่งที่ถูก มันก็ถูกแม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น   สิ่งที่ผิดก็คือผิดแม้ทุกคนทำสิ่งนั้น"

"มหิดลเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ  แต่นักศึกษาจบออกมา รับราชการไม่ได้ ผมว่านักการศึกษาทุกคน ต้องทบทวน แม้แต่นายกสภามหาวิทยาลัยก็ต้องทบทวน ผมทบทวนแล้วด้วยการลาออก"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1314711939&grpid=01&catid=&subcatid=

“ ปริญญานี่คู่กับความรู้ความสามารถ ครูมาอยู่ที่นี่เพื่อสร้างคนใหม่ ตั้งแต่สามขวบขึ้นมา จนวันนี้เรามีเมล็ดพันธุ์ใหม่  ครูคิดว่าต้องสร้างงานใหม่โดยคนที่มีความรู้ความสามารถจะต้องเป็นคนดี คนเก่งของไทยมักจะโกง คนดีของไทยมักจะซื่อบื้อ  แต่เราจะสร้างคนดนตรีให้เป็นทั้งคนดีและคนเก่ง  ฉะนั้นเราจะมัวแต่ร้องไห้ไม่ได้หรอก”
http://news.voicetv.co.th/thailand/17355.html

สิ่งที่ท่านพูด เป็นสิ่งที่สังคมต้องฟัง

..จะแพ้..จะชนะ..จะสมปรารถนาหรือไม่เชื่อเถอะครับว่า..

..สังคมตัดสินสิ่งที่ท่านทำได้เองโดยไม่ต้องให้ใครมาชี้นำ.

นาทีนี้อย่างน้อยก็ขอเป็นกำลังใจ ด้วยความนับถืออย่างจริงใจสำหรับคนที่เป็น

ครูแท้..หัวใจทองคำ ดร.สุกรี เจริญสุข

 

Credit Video จาก http://www.youtube.com/watch?v=FFNqj3RGUuM

หมายเลขบันทึก: 458326เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2011 12:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 20:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ชอบวิธีการเล่าเรื่อง แบบเห็นภาพจากประสบการณ์จริงแบบนี้คะ ( ไม่ใช่- ค่ะ​ :-)
  • เห็นใจทั้งสองทาง..ขอให้ลงเอยด้วยดี
  • "Argument is inquiry" หากมองการโต้แย้ง จากความต่างทางอุดมคติ เหตุผล เพื่อนำไปสู่ทางแก้ปัญหา มิใช่เรื่องส่วนตัว..

ครับ..ขอให้ลงเอยด้วยดี

ยังไงก็ช่วยกัน "Pay More Attention" ด้วยก็แล้วกันครับ !

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท