เกือบ 5 ปีของการเป็นสมาชิกที่ gotoknow.org เพิ่งจะเขียนบันทึกในบล็อกส่วนตัวได้แค่ 70 บันทึกเอง นอกนั้นก็เป็นเรื่องของอนุทินและที่มากหน่อยก็คงเป็นคอมเม้นต์ ที่เลือก gotoknow ก็คงเป็นเพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมบันทึกด้านความรู้และประสบการณ์ของผู้คนหลากหลายอาชีพ แม้ว่าช่วงหลังจะมีบันทึกสายลมแสงแดด ชื่นชมลูกหลานหรือเซลฟี่บ้างแต่หลักๆแล้วก็ยังเป็นแหล่งความรู้ที่ดีอยู่
ใน 70 บันทึกนี่เรื่อง "ตามรอยนักบินอวกาศจากประเทศไทยกับภารกิจของนาซาเมื่อ 45 ปีที่แล้ว" เป็นบันทึกที่ภูมิใจที่สุด เพราะต้องใช้ศักยภาพในการค้นคว้าข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตมากพอสมควร ใช้เวลานานมากกว่าสัปดาห์ และก็คิดว่าเป็นบันทึกภาษาไทยบันทึกเดียวที่เขียนเกี่ยวกับการส่งลิงจากประเทศไทยขึ้นไปโคจรรอบโลกก่อนที่นักบินอวกาศคนแรกของโลกในโครงการ Apollo 11 จะถูกส่งขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์เพียงไม่กี่วัน
28 มิถุนายน 1969 หรือวันนี้เมื่อ 45 ปี่ที่แล้ว บอนนี่ (Bonnie) ลิงไทยตัวนั้นถูกส่งขึ้นไปโคจรรอบโลกโดยมีหมายกำหนดการ 30 วันในอวกาศ แต่เพียงอีกแค่ 8 วันต่อมาปฏิบัติการถูกยกเลิก ยานถูกเรียกกลับสู่โลก หลังการเก็บกู้ไม่กี่ชั่วโมงบอนนี่ก็จากไป ทิ้งไว้เพียงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อสิทธิของสัตว์ทดลองซึ่งคนไทยในผืนแผ่นดินที่มันจากไปไม่เคยรับรู้เรื่องเหล่านี้เลย
เป็นเรื่องเศร้านะครับ สำหรับเจ้าบอนนี่ ;(
ชื่นชมบันทึกของอาจารย์มากค่ะ…ระลึกถึงลิงไทย บอนนี่ (Bonnie) ด้วยนะคะ
มีวิทยุ ทีวี ก็ไร้ประโยชน์ อยากฟังอยากดูอะไรที่เจริญหูเจริญตาบ้างก็มีแต่ "เพลงกล่อม (ให้) เชื่อง" (บางคนเรียกเพลงปลุกใจ)
ปีนี้ 2014 แล้วนะครับ ไม่ใช่ก่อน 1932 ผิดกฎหมายยังทำได้ กะอีแค่เปิดเพลงให้สร้างสรรค์บ้างไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยนะครับ (ยังอยากจะไปรับผิดชอบบ้านเมือง)
Beyonce' น่ะมีไหม เอาแบบที่เป็นเอ็มวีนะ...เบื่อจริง !!
ไม่มีความเห็น
ภาพปกนิตยสาร Byte ฉบับเดือนเมษายน 1981 วาดโดยศิลปินชื่อ Robert Tinney จินตนาการถึงคอมพิวเตอร์ในอนาคต ในยุคนั้นนี่ถือเป็นภาพฝันอันบรรเจิดสุดๆชนิดที่ใครๆก็เชื่อได้ยาก
Byte เป็นนิตยสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ชื่อดังของอเมริกา มีชื่อเสียงในด้านการเจาะลึกข้อมูลทางเทคโนโลยีมากกว่าการเป็นแค่นิตยสารสำหรับผู้ใช้ (user) ภาพนี้จึงเป็นจินตนาการบนวิสัยทัศน์ที่มีความเป็นไปได้เมื่อมองจากพื้นฐานทางเทคโนโลยีในเวลานั้น
แต่เมื่อถึงวันนี้ ถ้าเราเทียบภาพฝันเมื่อสามสิบสามปีที่ผ่านมากับนาฬิกาอัจฉริยะ (Smart Watch) ที่กำลังออกมาแย่งส่วนแบ่งการตลาดขณะนี้ กลับปรากฏว่าเทคโนโลยีของยุคปัจจุบันก้าวหน้าไปไกลกว่าภาพฝันในวันนั้นเสียอีก อย่างน้อยพวกเขายังคิดไม่ถึงหน้าจอแบบสัมผัส (Touch Screen) และหน่วยความจำที่ไม่จำเป็นต้องใช้แถบแม่เหล็กบนจานดิสก์อีกต่อไป อันนี้ยังไม่รวมถึงเทคโนโลยีไร้สายและระบบอินเตอร์เน็ตที่แพร่หลายไปทุกมุมโลก
ถ้าบอกว่ามนุษย์สามารถพัฒนาเทคโนโลยีไปได้ไกลกว่าจินตนาการนี่จะ "เว่อ" ไปไหมครับ
ไม่มีความเห็น
เรามักจะกล่าวกันเสมอว่าปัญหาที่สำคัญสำหรับการเรียนรู้ของเด็กไทยคือเรื่องของการคิดอย่างมีวิจารณญาณ (Critical Thinking) แต่ดูเหมือนการหาทางหรือวิธีการที่จะนำมาแก้ไขเรื่องนี้จะเป็นปัญหาหนักเสียยิ่งกว่า
ถ้าเรายังมัวแต่ประชุมสัมมนา ตะลอนไปดูงานในต่างประเทศอย่างที่แล้วๆมา สุดท้ายก็ไม่ได้จับเอาอะไรมาทำให้เป็นเรื่องเป็นราว เป็นชิ้นเป็นอัน มีแค่รีพอร์ตกับหมายกำหนดการสัมมนาในครั้งต่อไป มันก็คงเป็นเรื่องของการสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเป็นแบบนั้น ทำไมเราไม่ใช้วิธีง่ายๆ ดูจากที่เขาทำ แล้วเก็บเอามาใช้มันดื้อๆ หรือเอามาพัฒนาต่อยอด เริ่มมันตรงที่ลงมือทำ (Action) เลยดีกว่าไปเสียเวลาค้นหา (Find out) เพราะถึงค้นได้แต่ไม่รู้จะลงมืออย่างไรก็ไร้ประโยชน์
วันนี้ลองเอาตัวอย่างมาให้ช่วยกันดู แล้วจินตนาการถึงวิธีทำสักตัวอย่างครับ
ไม่มีความเห็น
เข้าไปเช็ค mail หลังจากไม่ได้เข้าไปดูหลายวันเจอเรื่องหงุดหงิดเลย เจ้า Ubuntu One ที่ใช้บริการ Cloud Storage อยู่แจ้งว่าจะปิดให้บริการแล้วให้รีบดาวน์โหลดข้อมูลของเรามาเสียก่อนที่จะถูกลบทิ้งไป ตามกำหนดคือสิ้นสุดการให้บริการ 1 มิ.ย. 2014 และดาวน์โหลดได้ถึง 31 ก.ค. 2014 สาเหตุคงเพราะ Canonical ซึ่งเป็นเจ้าของ Ubuntu ไม่อยากแข่งขันธุรกิจบนก้อนเมฆเนื่องจากมีผู้ให้บริการมากมายแล้ว แต่จะมาเอาดีทางด้านระบบปฏิบัติการ Ubuntu ทั้งบน PC โทรศัพท์มือถือ บนแท็บเล็ตและอุปกรณ์อื่นๆมากกว่า
ที่จริงแล้วไฟล์ที่เก็บไว้ที่นี่มีไม่เท่าไหร่หรอก ส่วนใหญ่เก็บไว้บน Dropbox เพราะช่วงแรก Ubuntu One บน windows ยังไม่ออกมาต้องแชร์ไฟล์กับคนที่บ้านที่ใช้ Windows เป็นหลักด้วยที่เสียดายก็คือ Dropbox มันให้เนื้อที่ (ฟรี) แค่ 2 GB แต่ Ubuntu One ให้ถึง 5 GB และเมื่อใช้บน Linux ฟีเจอร์ที่ให้ก็ดูจะเยอะกว่า
เอาเป็นว่าเดี๋ยวหาใหม่ ชนิดที่ให้ฟรี 50-100 GB ไปเลยแต่ต้องเอาแบบที่ใช้ได้ทั้งบน Windows, Mac, iOS, Linux, Android .. เหอๆ ยังไงเราก็คงทิ้งก้อนเมฆไม่ได้อยู่ดี .
ไม่มีความเห็น
"หลักการที่ต้องตามจริยธรรม คือ ผู้บังคับบัญชาสามารถมอบงานให้ผู้อื่นที่รองลงมาจากตนได้ แต่ไม่สามารถมอบความรับผิดชอบได้ กล่าวคือ ความรับผิดชอบในความสำเร็จและความล้มเหลวของงานคงอยู่กับตนเองตลอดไป"
จากบทความเรื่องด้วยรักและห่วงใยตอน "มันเร้นกายภายใต้ความเบลอ" โดยพลเอกอดุล อุบล อดีตเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก เจ้าของบทความเดียวกันนี้ตอน ยุทธการ "รุมยิงนกในกรง" ที่ออกมากระชากต่อมสำนึกกองทัพไทยเมื่อคราวสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553
อ่านบทความหลายๆตอนของท่านเพื่อระลึกถึงนายทหารอาชีพแท้ๆได้ที่นี่
http://www.ndc2548.net/ndc/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=85
ไม่มีความเห็น
เอาภาพยนตร์สารคดีเมืองไทยเมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้วมาให้ฟื้นความหลังกันครับ เขาให้ชื่อเรื่องไว้ว่า "Country boy of Thailand 1966" คุณ MichaelRogge แกอัพโหลดใส่ Youtube ไว้ให้ ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะผลิตและเผยแพร่โดย Unicef
สถานที่น่าจะเป็นแถวๆราชบุรี ก็คงจัดฉากกันบ้างเพราะเสื้อผ้าดูเนี๊ยบเกินจริงไปหน่อย แต่ถ้าดูแล้วต้องมีคนคิดถึงวันเก่าๆกันบ้างละครับ
ขอบคุณ MichaelRogge
นี่ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นความสงสัยของคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรในแวดวงนี้
สงสัยว่านี่เป็นคำสั่งทางปกครองหรือเปล่า ?
สงสัยว่าถ้านักศึกษาได้รับความเสียหายจากการต้องขาดเรียนจะฟ้องต่อศาลปกครองได้หรือเปล่า ?
สงสัยว่ารัฐและประชาชนได้อะไร ?
ตกลงที่ ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุลบอกว่า "มหาวิทยาลัยก็ถูกอำนาจรัฐและพลังอนุรักษนิยมดัดแปลงให้เป็นแค่โรงเลี้ยงเด็กของคนชั้นกลาง" มันหมายความว่าอะไรกันแน่ครับ เพราะวันนี้ดูเหมือน "อำนาจรัฐ" กับ "พลังอนุรักษนิยม" จะไม่ได้อยู่ข้างเดียวกันมิใช่หรือ ?
ขอบคุณภาพจาก internet
ไม่มีความเห็น
ผมไม่ได้เป็นครู แต่อยากได้ความเห็นของคุณครูเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ
Ten-year-old Chinese pupil jumps to his death from 30th floor window ‘on teacher’s orders’ because he had not written an apology for talking in class
http://www.dailymail.co.uk/news/article-2483313/Chinese-boy-commits-suicide-teachers-orders.html
ทำไมปล่อยเด็กเล็กอยู่บ้านคนเดียวอยู่บ้านคนเดียวไม่มีผู้ใหญ่ดูแล ตามข่าวที่อ่านยังไม่มีรายงานการสอบปากคำครู มีแต่ข้อเขียนของเด็กที่บอกว่า ทำไม่ได้ และผู้ใหญ่บอกว่าครูสั่งให้กระโดดตึกตาย ความจริงคืออะไร น่าจะมีรายละเอียดในข่าววันต่อมา
มีสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานเรื่องนี้ เสียดายที่อ่านภาษาจีนไม่ออกเพราะน่าจะมีรายละเอียดมากกว่าใคร
ที่จริงเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสะเทือนใจ กระทบต่อการจัดการศึกษามากๆแต่ดูเหมือนครูและบุคลากรการศึกษาของบ้านเราไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่ มันทำให้รู้สึกว่าถ้าไม่ใช่เรื่องของ “benefit” แล้วไม่น่าสนใจ
ในข่าวน่าจะบอกรายละเอียดพอสมควรแล้วนะครับ ตอนนี้ผมยังห่วงก็ครูคนต้นเหตุนั่นแหละครับว่าตอนนี้จะอยู่ในสภาพไหน
ใน The Telegraph : http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/asia/china/10419619/Chinese-boy-10-ordered-to-jump-from-building-by-teacher-after-talking-in-class.html
น่าจะมีรายละเอียดมากกว่านี้ ดูเหมือนมี case อื่นๆแบบนี้มารายงานด้วยครับ
รัฐขึ้นภาษีสุราคาดว่าจะเก็บภาษีเพิ่มได้อีก 10,000 ล้านบาท การบริโภคจะลดลง 5% http://www.manager.co.th/ibizchannel/viewnews.aspx?NewsID=9560000111095
เป้าหมายคงไม่ได้ต้องการรายได้เพิ่มเพราะหมื่นล้านถือว่าน้อยมากเทียบกับงบประมาณประจำปี 2.5 ล้านล้านบาทแล้วแค่เศษสตางค์
จริงๆแล้วคงต้องการปรับฐานภาษีให้เหมาะสมมากกว่า ส่วนเรื่องการบริโภคลดลงนั้นแค่เป็นการคาดเดา
วันนี้รัฐไทยต้องมียุทธศาสตร์สำหรับเรื่องนี้ให้ชัดเจนว่าตกลงเรารังเกียจเหล้าหรือคนเมากันแน่
หลายประเทศทั่วโลกเหล้าเบียร์เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าทางวัฒนธรรมสามารถเพิ่มรายได้ให้อุตสาหกรรมและผลิตผลทางการเกษตรของประเทศได้ไม่น้อย ผู้คนก็ใช่จะเป็นขี้เมากันทั้งประเทศหรือก็เปล่า
วิสกี้ของอังกฤษ เหล้าองุ่นและไวน์ในยุโรป ว๊อดก้าของรัสเซีย สาเกที่ญี่ปุ่น เป็นสินค้าพรีเมี่ยมนำเงินเข้าประเทศมหาศาลสามารถกระจายรายได้ให้ผู้เกี่ยวข้องอีกมากมาย
ในขณะที่บ้านเราอ้างคุณธรรมตั้งข้อรังเกียจว่าเป็นเรื่องมอมเมา มีแต่ผลเสียมากมายก่ายกอง
แต่เรากลับให้สัมปทานเพื่อผูกขาดโดยกลุ่มธุรกิจบางกลุ่ม...ร่ำรวยกันต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน
..ถามใจของเรากันอีกครั้งเถิดว่าจริงๆแล้ว..
..เรารังเกียจคนเมา หรือเหล้า (เบียร์ ไวน์ สุราแช่ ฯลฯ) กันแน่ครับ !
ไม่มีความเห็น
บนโลกกว้างใหญ่ทุกวันนี้มีเหตุน่าเศร้าสลดเกิดขึ้นกับเด็กๆทุกวัน ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ หรือจากการกระทำรุนแรงรูปแบบใดก็ตาม ไม่นับรวมสถานที่ๆมีความเสี่ยงมากๆอย่างในประเทศที่รบพุ่งทำสงครามกันอยู่อย่างซีเรีย แม้แต่ในประเทศที่มีความมั่นคงน่าจะปลอดภัยอย่างในสหรัฐอเมริกาหรือในยุโรปก็ไม่เว้น
วันนี้ในอเมริกามีข่าวเศร้าอีกแล้ว สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาเด็กหญิงวัย 6 ขวบคนหนึ่งเสียชีวิตหลังจากพี่ชายวัย 8 ขวบของเธอขโมยรถของแม่ออกมาขับเล่นแล้วเกิดอุบัติเหตุชนเสาข้างทาง
จ่าสตีฟ มาร์ทอส ตำรวจฟินิกส์ รัฐอริโซน่ากล่าวว่า ครั้งแรกแม่ของเด็กคิดว่าลูกๆของเธอถูกลักพาตัวไปหลังจากที่พบว่าพวกเขาได้หายตัวไป แต่ตำรวจไม่ยอมบอกชื่อของเด็กๆ
แม่เด็กสั่งลูกๆอาบน้ำและเข้านอนในเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง แต่เมื่อยายของพวกเขาขับรถกลับบ้านที่อยู่ใกล้ๆกันเธอเห็นประตูบ้านของลูกสาวเปิดอยู่ จึงได้เข้าไปเรียกและก็พบว่าเด็กทั้งสองหายตัวไปแล้ว เมื่อพวกเขาออกมาสอบถามเพื่อนบ้านก็พบว่ารถของแม่เด็กที่จอดไว้ด้านนอกก็ได้หายไปด้วย เธอจึงแจ้ง 911 เมื่อเวลาประมาณ สี่ทุ่มยี่สิบห้านาทีโดยบอกด้วยว่าเด็กน่าจะถูกลักพาตัวไป
ต่อมาทีรายงานว่าพบรถคันดังกล่าวซึ่งมีเด็กอยู่ข้างในชนกับเสาข้างถนน ประมาณสี่ทุ่มครึ่งตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุพยายามที่จะดึงรถออกมาและเข้าทำการช่วยเหลือในสถาณการณ์ที่คิดว่าเป็นการลักพาตัว ต่อมาก็พบว่าเด็กชายนั่งอยู่ในที่คนขับส่วนน้องสาวอยู่ที่เบาะโดยสารไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยและแอร์แบ็กไม่ทำงาน ทั้งคู่อยู่ในชุดนอนและได้รับบาดเจ็บ
เด็กหญิงเสียชีวิตในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ส่วนเด็กชายบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
ตำรวจบอกว่าพวกเขายังไม่ได้พูดคุยกับเด็กและไม่ทราบว่าอะไรเป็นแรงจูงใจให้เด็กชายขโมยรถแม่มาขับ และยังไม่ได้ตั้งข้อหาใดๆในตอนนี้
เป็นข่าวเศร้าจริงๆและก็ดูเหมือนคนอ่านก็ให้ความสนใจกันมาก ผมอ่านข่าวนี้ตอนประมาณ สามทุ่มครึ่ง(30 ส.ค.) มีคอมเม้นท์ประมาณ 2,250 คอมเม้นท์ ถึงตอนนี้สี่ทุ่มสี่สิบห้านาทีมีคอมเม้นท์แล้ว 2,276 คอมเม้นท์ แต่มีข้อสังเกตุจากสิ่งที่ได้จากข่าวนี้ก็คือ
1. ภาพข่าวจะไม่มีภาพของรถ และภาพของเด็กเลย
2. ตำรวจไม่ให้ชื่อเด็ก แม่เด็กและครอบครัวออกสื่อ
3. คอมเม้นท์ของคนที่อ่านข่าวส่วนใหญ่ดูเป็นเหตุเป็นผลมาก ไม่ดราม่า ไม่วิเคราะห์ส่งเดช และไม่โทษอะไรเลื่อนลอยไร้เหตุผล
จริงอยู่ข่าวนี้เป็นข่าวเศร้า แต่ก็อยากให้สื่อและสังคมของเรามีวิจารณญาณ มีสติ ในการบริโภคข่าวแบบนี้บ้างครับ
http://edition.cnn.com/2013/08/29/us/arizona-fatal-joyride/index.html?hpt=hp_t4
เช้าๆ ดูรายการสรยุทธ
มีเรื่องราวสลดใจมากมายเกิดขึ้นในสังคมค่ะ
เด็กหญิงวัยสี่ขวบ ถูกนำตัวไปฝากไว้ที่ศูนย์พักพิง ......โดนเด็กๆ ในศูนย์พักพิง ข่มขืนทุกวัน
แม่ติดยาเพิ่งออกจากคุกไปรับตัวเด็ก......แล้วเด็กน้อยจะเจออะไรอีกไหม .....ที่ไหนกันที่พึ่งพิงได้จริงๆ
เศร้านะคะ
สังคมเราน่าเป็นห่วง เรื่องที่คุณ Bright Lily เล่ามานี่ต้องมีผู้รับผิดชอบครับ
สื่อเองก็มักเน้นขายข่าว ปิดชื่อแต่เปิดเผยทุกบริบทเรียกว่าปิดก็เหมือนเปิดนั่นแหละครับ
เรื่องของเด็กนี่อยากวิงวอนขอร้อง เพราะพวกเขายังต้องเติบโตและใช้ชีวิตในสังคมนี้อีกนาน
วันนี้ออกหมายจับชายวัยใกล้ 60 เป็นผู้กระทำ ที่น่าตกใจผู้ปริหารศูนย์ปล่อยให้ชายฉกรรจ์ 5-6 คนไปอยู่ในศูนย์ได้อย่างไร คุณปวีณาจะผ่าตัดใหญ่เรื่องศูนย์พักพิงและจะจัดการเด็ดขาดกับผู้กระทำผิด เด็กน้อยผู้น่าสงสารคนนี้ก็ต้องเยียวยากันต่อไป
พรุ่งนี้ข่าวแฟนเก่าของผู้นำเกาหลีเหนือกับพวกที่ถูกประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าของสื่อไทย น่าจะมาแรงกว่าข่าวการเตรียมโจมตีซีเรีย
ไม่มีความเห็น
50th Anniversary March on Washington : Martin Luther King, Jr. "I Have a Dream"
ไม่มีความเห็น
CNN วันที่ 25 สิงหาคม 2013 : คุณย่าวัย 90 ปีถูกพบว่าเสียชีวิตจากการถูกยิงที่ศีรษะเหตุเกิดที่ Slaughter, Louisiana เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา ในชั้นต้นหลานชายวัย 8 ขวบยอมรับว่าเป็นอุบัติเหตุจากการที่เขาเล่นปืน
อย่างไรก็ตามหลังจากตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ลงความเห็นว่าเป็นเหตุฆาตกรรม
เจ้าพนักงานสอบสวนเชื่อว่าหลานชายวัย 8 ขวบของเธอจงใจยิงสังหารคุณย่าของเขาภายหลังจากเล่นวิดีโอเกมทีมีเนื้อหาความรุนแรง
ในขณะที่ตำรวจก็ยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจของการก่อเหตุในครั้งนี้
อย่างไรก็ดี ตามกฎหมายของหลุยส์เซียน่า เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ขวบจะได้รับการยกเว้นจากการรับผิดทางอาญาซึ่งหมายความว่าเด็กคนนี้จะไม่ต้องรับโทษตามกฎหมายสำหรับการกระทำของเขา
http://edition.cnn.com/2013/08/25/us/louisiana-boy-kills-grandmother/index.html?hpt=hp_t3
อ่านแล้วก็น่าตระหนก และหดหู่ในเวลาเดียวกัน แต่ถ้าพรุ่งนี้สื่อไทยเอาข่าวนี้มาลงผมยังสงสัยว่าผู้คนในสังคมไทยจะรุมประณามก่นด่าวิดีโอเกมส์กันอื้ออึงขนาดไหน ทั้งที่เหตุความรุนแรงต่างๆที่ผ่านมานักวิจัยยังไม่พบความเชื่อมโยงของสื่อหรือวิดีโอเกมที่มีเนื้อหารุนแรงแล้วไปมีผลให้เกิดเป็นแรงจูงใจในการกระทำอาชญากรรมแบบนี้เลย
สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ พ่อแม่ ที่ฝากลูกไว้กับเกม ทีวี และอินเตอร์เน็ต ครับ
หัวหน้าสำนักงานการศึกษาท้องถิ่นแห่งหนึ่งบนเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย เสนอให้มีการตรวจสอบความบริสุทธิ์ (virginity tests) ของนักเรียนหญิงระดับมัธยมปลาย ข่าวนี้ทำเอาชาวเน็ตก่นด่ากันขโมงโฉงเฉง ดีที่กระทรวงศึกษาอินโดนีเซียไม่เล่นด้วย แถมยังบอกว่าเป็นความคิดที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย คนที่เสนอก็เลยต้องกลับลำ
เอ้อ..ก็จะได้รู้ไว้ว่าพวก conservative สุดๆนี่ไม่ได้มีแต่แถวๆบ้านเราเท่านั้น
http://www.aljazeera.com/news/asia-pacific/2013/08/20138228310851480.html
ไม่มีความเห็น
เห็นภาพเด็กๆที่ถูกโจมตีด้วยแก๊สทำลายประสาทเสียชีวิตจำนวนมากในดามัสกัส ซีเรียวันนี้แล้วหดหู่มาก ใครได้เห็นก็รับไม่ได้เรียกว่าช็อกโลกเลยก็ว่าได้ น่าสงสารจริงๆ
จะเอารูปมาลงให้ดูก็ทำใจไม่ได้ครับ
น่าเศร้าใจจริง ๆ ภาวนาอย่าให้เกิดขึ้นกับไทยเลยนะครับ
กำลังสนใจซอฟท์แวร์ที่ชื่อ Docear (ตอนพัฒนาครั้งแรกใช้ชื่อ SciPlore MindMapping) โปรแกรมตัวนี้เป็น academic
literature suite for searching, organizing and creating academic literature สำหรับนักศึกษา นักวิชาการ และนักวิจัยน่าจะมีไว้ใช้ เป็น Open Source / Cross-Platform บน Java6 ใช้ได้ทั้งบน Windows, Mac, Linux
เว็บไซต์ http://www.docear.org/
ใครเคยใช้เขียนแนะนำกันบ้างซิครับ
ไม่มีความเห็น
คำถาม "คุณสามารถบอกชื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ได้ไหม?"
ถ้าไม่ได้ มันอาจจะเป็นสัญญาณแรกของอัลไซเมอร์สำหรับคนวัยกลางคน(40 - 65 ปี) อย่างพวกเรา
มาลองดู 6 รูปนี่ก่อนผมมองผ่านครั้งแรกแล้ว
จำหน้าและบอกชื่อได้ 4 คน คือ Einstein, Elvis, JFK, แล้วก็ Lady Diana
จำหน้าได้แต่นึกชื่อไม่ออก(อย่างที่พี่ไทยเรียกว่าอยู่ที่ริมฝีปาก)ไปเปิดเฉลยแล้วร้องอ๋อคือ Bill Gates
แค่คุ้นๆหน้านึกชื่อไม่ได้เลยก็คือคุณผู้หญิงผมฟูที่อยู่แถวกลางด้านบน (Oprah Winfrey)
เขาบอกว่ามันเป็นผลการวิจัยของ Northwestern University,Chicago พบว่าคนที่ต้องพยายามนึกหน้าบุคคลที่มีชื่อเสียงเหล่านี้เป็นการแสดงสัญญาณเตือนแรกของอัลไซเมอร์ คนที่จำชื่อไม่ได้มีแนวโน้มของการสูญเสียเนื้อเยื่อสมองกลีบซ้ายส่วนคนที่นึกหน้าไม่ออกมีแนวโน้มที่จะสูญเสียเนื้อเยื่อกลีบสมองทั้งสองด้าน (น่ากลัวจัง)
ตกลงข้าพเจ้าเป็นอัลไซเมอร์แล้วหรือยังครับเนี่ย !!
จาก MailOnline 13 August 2013
ผมยัง OK ครับ ;)...
Oprah อาจไม่ได้คุ้นหน้าพวกเราคนไทยมากเท่ากับคนอเมริกันที่เห็นเธอช่วงบ่ายๆ หน้าจอทีวีติดต่อกันเป็นยี่สิบปีครับ แบบทดสอบนี้น่าจะ localized เปลี่ยนหน้าเป็นคนไทยครับ :-)
โล่งใจ เรายังไม่เป็น
68 ปีแล้วเขาก็ยังรำลึกถึงเสมอ
Japan has been marking the 68th anniversary of the atomic bombing of Nagasaki.
ไม่มีความเห็น
วันนี้สื่อยักษ์ๆทั้งในยุโรปและอเมริการวมถึง Al Jazeera ลงข่าวสหรัฐและอังกฤษแจ้งเตือนให้พลเมืองรีบออกจากเยเมนและคาบสมุทรอาหรับเพราะ al-Qaeda จะโจมตีครั้งใหญ่หลังจากมีรายงานเครื่องบินไร้คนขับ ( drone) โจมตีในเยเมนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ข่าวนี้น่าติดตาม
ไม่มีความเห็น
มีข่าวว่าพรุ่งนี้จะมีทหารแก่(ๆ)ชักชวนไพร่พลออกมาชุมนุม
เอาเถอะประชาธิปไตยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย ยังไงก็อย่าลืมยาหอม ยาลม ยาดม ยาหม่อง พกไปด้วย
อ้อ..ฝากเพลงปลุกใจไปให้ด้วยครับ
ไม่มีความเห็น
อ่านข่าวเด็กนักเรียนชั้นประถมฯในอินเดียที่รับประทานอาหารกลางวัน(ฟรี)ในโรงเรียนแล้วเสียชีวิตไปกว่า 20 คนแล้วสลดใจ
..น่าสงสารครับ..
http://www.guardian.co.uk/world/2013/jul/17/school-meals-kill-indian-children
ไม่มีความเห็น
กำลังดูหนังช่อง TPBS เรื่อง "Flags of Our Fathers" เป็นเรื่องเกี่ยวกับทหารอเมริกันในการต่อสู้ที่อิโวจิม่าอันเป็นที่มาของภาพ "Raising the Second Flag on Iwo Jima" แต่ทำไมถึงเป็น "the second" ต้องเข้าไปดูที่นี่
http://en.wikipedia.org/wiki/Raising_the_Flag_on_Iwo_Jima#Raising_the_first_flag
Propaganda นี่มันมีมานานนักหนาแล้วทุกอย่างถูกหยิบเอามาใช้ได้ทั้งนั้น
ใครที่เคยดูเรื่อง "The Thin Red Line" พล็อตเรื่องน่าจะคล้ายๆกัน แต่เรื่องนั้นเป็นเหตุการณ์ที่กัวดาคะแนล
แต่ก่อนหนังจะมาบังเอิญไปเจอคลิปเพลงเกี่ยวกับการต่อต้านอเมริกาเข้า อัพโหลดตั้งแต่ปี 2007 เป็นคลิปเพลงสนุกๆ คนทำน่าจะเป็นทมิฬในศรีลังกา ก็ไม่ serious อะไรพรีเซ็นเตอร์ในเอ็มวีดูทะเล้นน่ารักมากกว่า ก็หักมุมไปจาก Flags of Our Fathers เป็นคนละเรื่อง ลองไปดูกัน
ไม่มีความเห็น
ไม่สงสัยเลยครับว่าทำไมเธอถึงได้รับเกียรติเช่นนี้
A world leader in the making. I wish her peace and success.