กินเมี่ยงปลานิลเผา...ถึงหนองคาย


ปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง เนื้อแน่นหนานุ่มเคี้ยวชุ่ม.....หอมกลิ่นเผาด้วยถ่าน สมุนไพรไส้เมี่ยง เป็นอาหารเอกลักษณ์ชาวแม่น้ำโขง

นอกจากการทำนาปีละ  2  ครั้ง  นาปรังใช้น้ำจากคลองชลประทาน  สูบน้ำจากแม่น้ำโขงขึ้นมาด้วยไฟฟ้า  โดยกลุ่มที่จัดการสูบน้ำอยู่ที่บ้านจอมแจ้ง  ต.สีกาย  คนละตำบลกัน  บ้านพร้าวใต้  หมู่  6  อยู่ที่ ต.หินโงม  อ.เมืองหนองคาย  แต่มีผืนดินทุ่งนาติดต่อกัน  ชายฝั่งริมโขงต่อเนื่อง  บ้านพร้าวใต้อยู่ทิศเหนือ  บ้านจอมแจ้งอยู่ใต้น้ำลงไป  น้ำท่วมล้นสระสาธารณประโยชน์ของบ้านพร้าวใต้  เมื่อต้นเดือนสิงหาคมปีนี้  ปลายังว่ายไหลออกไปกับน้ำถึงบ้านจอมแจ้ง

ในแม่น้ำโขง  โชคดีนอกจากน้ำขุ่นแล้ว  ไม่มีผลกระทบต่อปลานิลในกระชัง  ไม่มีปลาหาย  ไม่มีปลาตาย  ไม่อย่างนั้นทุนเริ่มต้นปีแรก  90,500  บาทต่อกระชัง  อาจไม่ได้รับกลับเป็น  108,750  บาทต่อกระชัง  ปีที่สองต่อมาทุ่นค่ากระชังลงไปอีก  20,000  บาท  แค่เพียงซ่อมแซมเล็กน้อย  ส่วนต่างที่เป็นรายรับสุทธิในปีที่ 2  จะมากขึ้น  กลุ่มเลี้ยงปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง  จึงยังมีผลประกอบการที่น่าพอใจ  เป็นรายได้หลักอันดับ 2  ของชาวบ้านพร้าวใต้  รองจากการทำนา

ในวันที่พวกเราเหล่าทันตเภสัชบุคลากร  นักวิชาการสาธารณสุข  อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จากอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดหนองคายและบึงกาฬ  อสม.จากทุกหมู่บ้านของตำบลหินโงม  ร่วมกับชาวบ้านพร้าวใต้  ศึกษาชุมชนบ้านพร้าวใต้ 

ทำความเข้าใจองค์ประกอบชุมชนที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กัน  ไม่ว่าด้านสิ่งแวดล้อม  ทรัพยากร  ด้านสังคม  และด้านเศรษฐกิจ  เมื่อวันที่  15 – 16  สิงหาคม  2554  ที่ผ่านมา  แล้วกำนัน  กรรมการหมู่บ้าน  แกนนำชุมชน  ผู้นำด้านต่าง ๆ  อสม.  ของบ้านพร้าวใต้  ได้เก็บข้อมูลต่อ  รวบรวม  วิเคราะห์เบื้องต้น  เพื่อนำเสนอข้อมูลชุมชนในวันที่  26  สิงหาคมนี้เอง  ที่ศาลาวัดศรีสมพร 

มาบ้านพร้าวใต้อีกเป็นวันที่ 3  วันนี้  จึงได้กินปลานิลในราคาขายหน้ากระชัง  กิโลกรัมละ  54  บาท  แต่ขนาดนั้นกินขาด  ใหญ่โตมาก  เนื้อแน่นหนานุ่มเคี้ยวชุ่ม.....หอมกลิ่นเผาด้วยถ่าน  เป็นอาหารเอกลักษณ์ชาวแม่น้ำโขง   ส่งออกอุดรธานี  หนองบัวลำภู  ดังนั้น ถ้าไม่ได้กินเมี่ยงปลานิลเผา....ถือว่ามาไม่ถึงหนองคายนะจ๊ะ

บางร้านจิ้มแจ่ว  3  แบบ  แจ่วบอง  แจ่วส้ม  แจ่วหวาน  วันนี้สูตรบ้านพร้าวใต้  2  แบบ  แจ่วบอง  และรวมแจ่วส้มหวาน  ทูอินวัน  แถมกินกับส้มตำเป็นแบบที่  3  ก็ได้ 

สมุนไพรไส้เมี่ยง  ล้วนหาได้ในหมู่บ้าน  รสชาติผสานพอเหมาะ  เผ็ด  มัน  เปรี้ยว  ฝาด  หวาน  หอมแดงซอย  กระเทียม  พริกสด  กล้วยดิบ  ข่า  ตะไคร้  ถั่วลิสงคั่ว  พริก  มะเขือ  มะเขือเทศ  ผักดองหั่นฝอย 

ผักที่ใช้ห่อและกินแนม  หลัก ๆ ก็ใบชะพลู  ผักกาดหอม  ผักชีลาว  ผักกระโดน  และผักสดทุกชนิดประดามี  ที่จัดใส่ได้จนเต็มถาดนั่นแหละค่ะ  มีกลุ่มแป้งและไขมัน ก็แค่ขนมจีนและแคบหมูเท่านั้น  เลือกที่จะไม่ใส่เข้าไปในคำเมี่ยงก็ได้

กว่าจะค่อย ๆ ห่อ  ค่อย ๆ เคี้ยวแต่ละคำ  ใช้เวลาพอควร  รสปลา  สารพัดผัก  คลุกเคล้าเข้ากับไส้เมี่ยง  หอมกลิ่นสมุนไพร  สมองรับรู้ได้ว่าอิ่มพอเหมาะ  เบาท้อง 

จึงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพดีของทุกคน  ที่ไม่เกี่ยงการกินผัก  รับประกัน...แซ่บอีหลี  มากินที่นี่  ที่จังหวัดหนองคาย  มาบ้านพร้าวใต้  มานอนด้วยก็ได้....หมู่บ้านโฮมสเตย์

 

หมายเลขบันทึก: 456503เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2011 00:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:32 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

จำได้ว่าทานครั้งแรกตอนไปดูบั้งไฟพญานาค

ชอบกลิ่นย่างปลา หอมๆ

เห็นภาพที่ถ่ายมาแล้วน่าทานมากคะ

ที่ปากพะยูนก็เลี้ยงปลาทับทิมกันมาก แต่หลังน้ำท่วม สารเคมีจากภูเขาลงมา ปลาตายจนถึงขั้นเลี้ยงไม่ได้เป็นผลประทบต่ออาชีพ

ปลาทับทิมเผาเกลือน่าอร่อยน่ะหมอ

โห คุณหมอทำให้เห็นภาพอาหาร เกิดอยากกินขึ้นมาทันใด รับประกันว่าปลาเผาหนองคายอร่อยสุดๆ แถวๆบึงกาฬก็ปลาเผาก็อร่อยเช่นกันค่ะ

พยายามดูราคาปลาเผาแต่ไม่เห็น

ตามขนาดปลาแล้วที่หัวหินราคา90บาท

โดยประมาณ ไม่ทราบว่าทางโน้นราคาเท่าใด

ว้าว!......เห็นเมนูอาหารแล้ว อยากไปแอ่วที่นั่นจังเลยนะครับ

ของโปรดทั้งน้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555

สวัสดีค่ะ คุณหมอ CMUpal

  • เลยขอนแก่นไปก็หากินยากแล้วล่ะค่ะ
  • ต่างภาคออกไป...ไม่รู้มีไหม
  • ยิ่งต่างประเทศแล้วไซร้
  • จะกินเผื่อบ่อย ๆ แล้วกันนะคะ

ปลาทับทิมย่างเกลือ อืมมมม...เป็นตาแซ่บ

เมนูนี้แหละค่ะ ถ้าท่านลุงบังมา จะแยกแคบหมูออกไป ไม่ให้มากล้ำกรายเลยทีเดียว

ชาวนาที่นี่ก็ใช้ปุ๋ยเคมีกันเยอะนะคะ ยาฆ่าหอยเชอรี่ ยาฆ่าหญ้าด้วย

แต่คงยังไม่ถึงคราว

กำนันตำบลหินโงมเห็นแนวโน้มนะคะ ท่านว่าจะลองทำนาแบบปุ๋ยอินทรีย์

เรื่องนี้ต้องติดตาม

อ.โสภณคะ

แถวหนองคาย สระใคร อำเภอเมือง

มีตั้งแต่ 80 , 90 , ... จนถึง 120 เฉพาะปลาล้วน ๆ ตามขนาดค่ะ

ขนาดเท่าจานเปลนี่ก็ 120 ค่ะ

ถ้าเอาชุดเมี่ยงด้วยเพิ่มอีก 30 บาท ปริมาณประมาณจาน 10 นิ้ว

ส่วนที่กินที่บ้านพร้าวใต้นี้

ชาวบ้านทำให้แบบเหมารวมกับอย่างอื่นด้วย

ก็เลยไม่มีราคาเมี่ยงปลานิลบอกอาจารย์นะคะ

แต่รับรองความสดของปลาตามธรรมชาติ

และคุณภาพสมุนไพร

นึกทีไร..น้ำลายไหลทุกที

ใช่แล้วค่ะ คุณ krukorkai

ไม่เชียร์จังหวัดเรา...แล้วเราจะเชียร์ใคร

หนองคาย - บึงกาฬ มีส่วนที่คล้ายและเชื่อมโยงด้วยแม่น้ำโขง

ร้านแถว ๆ ริมโขงของบึงกาฬ....ปลาเผาแซ่บจริง ๆ ...ฟันธง

คุณอักขณิช ก็มาซิคะ

มานอนโฮมสเตย์ คิดถึงบรรยากาศอิสานบ้านเฮา

ตำบักหุ่งที่ไหนก็ไม่หอมกลิ่นปลาร้าเหมือนที่อิสานดอกเด้อ...สิบอกไห่

"ตื่นมากลางดึกนึกถึงปลาเผาบ้านพร้าวใต้

นี้ถ้าได้กินกับข้าวเคล้ากับเมี่ยง

จึงย่องมาบ้านหมอ"ธิรัมภา"มามองเมียง

ปัดโธ่เอ๋ยเหลือเพียงก้างกับหัวปลา".......(ลุกขึ้นมากินข้าวซะโฮร์ เพื่อถือศิลอด)หมดเวลกินตั้ง 04,50 น. ตอนกลางวัน งดน้ำงดอาหาร งดทุกชนิด ไปดื่มกินอีกครั้งตอนเย็น 18. 40 น. กลางคืนทานได้ทุกอย่างครับหมอ

ท่านลุงคะ

หัวปลายังกินได้อีกนะคะ

วิธีกิน ทับศัพท์ภาษาอิสานว่า "ไจ้หัวปลา"

ใช้มือเท่านั้น..

ว่าแต่ตอนนี้..หมดช่วงศีลอดแล้ว

กินกลางวันได้แล้วซิคะ

ตอนนี้พิจิตรน้ำท่วมปลาเพียบ..แต่ตัวเล็กๆนะคะ

ว่างๆจะไปทานตัวใหญ่ๆที่โน่นบ้างค่ะ

เอาใจช่วย ทำใจให้ชินกับน้ำท่วมนะคะ คุณ Oraphan

เดือนก่อน 31 กรกฎาคม บ้านที่หนองคายก็ท่วมนะคะ เกือบฟุต ข้าวของ ลังหนังสือตั้งกับพื้น เปียกหมดเลยค่ะ

กว่าจะล้างขี้ตมออกหมด...หอบไปหลายยก

วันนี้ผ่านสะพานน้ำสวย ถนนมิตรภาพ ตรงอำเภอสระใครนี่ละค่ะ

น้ำขึ้นเกือบถึงท้องสะพาน มีชาวบ้านมายกยอ (อิสานเรียก สะดุ้ง) ได้ปลาซิวหางแดง แล้วก็ตำเครื่องคลุกเคล้า

ห่อเป็น "หมกปลา" ปิ้งบนเตาถ่าน...หอมมาก ขายริมทางเลยล่ะค่ะ

ลักษณะนามอิสาน เรียกว่า "หมก"

หมก (ห่อ) ละ 10 บาท วันนี้ซื้อมา 14 หมก ฝากบ้านคุณยาย 4 หมก

ที่เหลือถึงบ้านตัวเอง ยังอุ่น ๆ กินทั้งบ้าน กับข้าวเหนียว....แซ่บมาก

ยังมีอีก 4 หมก...รอรับนะคะ อิอิ

หรือจะมากินเองที่หนองคาย ที่สระใคร...ทั้งปลานิลตัวใหญ่ ปลาซิวตัวเล็ก

เชิญนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท