บันทึกนี้เขียนไว้หลายเดือนแล้ว....ตั้งแต่ละครทางไทยทีวีสีช่อง 3 ไม่จบ...ซึ่งตอนนี้ละครจบไปแล้ว...แต่ชีวิตจริงของเรายังไม่จบเลยขอโอกาสนำมาลงในบันทึกนี้แล้วกัน...
รักเรา...ไม่มีวันตาย…..ฉบับพิกุล กับ ต๋อม
ดิฉันและสามีแต่งงานกันเมื่อปี 2548 ตอนนี้มีลูกด้วยกันสองคน คนโตเป็นผู้หญิงชื่อว่าน้องอิงค์ อายุ 6 ขวบ คนเล็กเป็นผู้ชายชื่อน้องอาร์ตี้ อายุ 2 ขวบกว่าๆ
....เราสองคนตัดสินใจแต่งงานกันหลังคบกันได้ 6 เดือน เพราะต่างคนต่างอกหักมา ทำให้คิดว่าหมดหวังในความรักและการจะคบใครจริงๆจังๆ จะอยู่ไปโดยไม่มอบความรักให้ใครอีกเลย แต่พอเราได้เจอกันความคิดนั้นก็เปลี่ยนไป เราเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยเรียนคณะเดียวกันแต่คนละวิชาเอกแค่เคยเห็นหน้ากันแต่ไม่เคยได้พูดคุยกัน หลังจากจบปริญญาตรีเราก็ได้มีโอกาสทำงานที่เดียวกันและได้รู้จักกันประมาณ 6 เดือน เราก็เป็นเหมือนเพื่อนสนิทเราก็เลยคุยเรื่องกันถึงเรื่องความรักในอดีตโดยไม่ปิดบังกันละไม่คิดว่าเขาจะรับได้ แต่เขากลับบอกดิฉันว่าไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดหรอกเขาก็ไม่มีดีเลิศมาจากไหน เขาจึงมาขอแต่งงาน ดิฉันบอกเขาว่า มั่นใจแล้วเหรอเขาก็บอกว่ามั่นใจ เราก็เลยคุยกันว่าหากจะคบกันเราจะเริ่มนับจากหนึ่งจะไม่นับติดลบซึ่งหมายถึงเรื่องในอดีต เราจะเดินต่อไปโดยไม่แคร์ความหลัง และไม่หยิบยกเรื่องราวในอดีตมาเป็นมีดกรีดใจตัวเอง....
5 ปี ที่แต่งงานกันมาเราไม่มีเรื่องทะเลาะกันมีงอนบ้างนิดหน่อยแต่ไม่เคยเกิน 1 วัน....เมื่อปี 51 ดิฉันอุ้มท้องลูกคนเล็ก แล้วก็ได้ทราบจากคุณหมอว่าสามีมีเนื้องอกในสมองต้องรับการผ่าตัดโดยด่วนดิฉันอุ้มท้อง 6 เดือนไปนอนเฝ้าสามีที่โรงพยาบาลกลางคืนก็นอนใต้เตียงคนไข้...ดิฉันนอนไม่ค่อยหลับสามีก็เช่นกันเขาแอบมองหลายๆครั้งเราไม่ได้พูดอะไรกันแต่ดูจากสายตาที่มองมาก็รู้ว่าเขารักและเป็นห่วงแค่ไหนดิฉันรู้ว่าเขาต้องกังวลใจ เขาพูดกับคนอื่นๆ ว่าฝากดิฉันและลูกถ้าหากการผ่าตัดไม่เป็นผลและต้องตายจากไป ดิฉันพอทราบก็ได้มีโอกาสบอกเขาก่อนเข้าห้องผ่าตัด...ดิฉันพูดกับเขาว่า“ไม่ต้องห่วงดิฉันและลูก เพราะถึงแม้การรักษาเขาจะออกมาอย่างไรเขาจะมีสภาพพิกลพิการอย่างไร ฉันก็จะดูแลลูกและเขาจนกว่าชีวิตจะหาไม่....เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว...เราก็จะรักและซื่อสัตย์ต่อกัน”
...คำพูดของดิฉันจึงเป็นเหมือนสัญญาที่เราทั้งคู่ไม่เคยลืมจนวันนี้ผ่านคำพูดนั้นผ่านมาได้ 3 ปีแล้ว สามีดิฉันได้รับข่าวร้ายหลังจากผ่าตัดและคุณหมอส่งผลชื้นเนื้อไปตรวจ พบว่าเป็นมะเร็งที่สมองซีกซ้าย ขนาดเท่าไข่เป็ด คุณหมอบอกว่ามีเชื้อมะเร็งน่าจะเป็นระยะที่ 2 ดิฉันกังวลใจไม่น้อย แต่ก็ต้องอดทน
ตอนนี้การผ่าตัดผ่านมาครั้งที่ 4 แล้ว ล่าสุดผ่าตัดที่กรุงเทพฯเมื่อเดือนธันวาคม 2553(หมอบอกว่าเป็นระยะที่ 3 ) เราต้องเดินทางมาจากต่างจังหวัดกัน 2 คน
และฝากลูกไว้กับย่า ยาย เราต้องเดินทางมากรุงเทพฯเกือบทุกเดือนเราจึงได้พูดคุยและได้อยู่ด้วยกันเกือบตลอดเวลา ....เขาเคยถามคุณหมอว่า“ผมจะมีโอกาสหายไหม?”คุณหมอบอกว่าโรคนี้ไม่มีทางรักษาให้หายขาดแต่หากการรักษาเป็นผลดีก็สามารถยืดอายุออกไปได้ 5 ปี 10 ปี
....เราสองคนจึงบอกกันว่าเราต้องมีความหวังเราต้องอยู่เพื่อลูกและครอบครัวของเรา...ถึงตอนนี้เราทั้งสองคนรู้ดีว่าทุกเวลานาทีสำหรับเรามันมีค่ามากแค่ไหน
เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันเวลาที่เราจะได้ดูแลและเก็บรักษาความรักของเราให้ยาวนานที่สุด.....ให้เหมือนว่าความรักของเราจะไม่มีวันตาย.....
สู้ ๆ เข้มแข็งเชื่อมั่น
อดทนอดกลั้น...กำลังใจ
ชนะ...ทุกสิ่ง
มาให้กำลังใจ ยาดีที่สุดคือคนไกล้ชิด เชื่อมั่นและศรัทธาเป็นที่ตั้ง
รัก ไม่มีวันตายจริงๆ
ความรัก ความหวัง กำลังใจสร้างปาฏิหารย์ได้เสมอ
เป็นกำลังใจให้กับครูพิกุลและครูต๋อมนะคะ
ขอเป็นกำลังใจให้คู่รัก..ที่จะต้องไม่มีวันตาย
มีกำลังใจจากลูกน้อยอีก 2 คน สู้ๆๆๆๆ
แม้โรคจะไม่หาย..แต่อาจไม่กระจาย
ให้เราอยู่คู่กันได้อีก..นานเท่านาน
ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะครับ
และเชื่อมั่นว่าอานุภาพแห่งความรักจักนำพาให้คุณครูทั้งสองก้าวพ้นจากความทุกข์ที่มีอยู่ได้อย่างแน่นอน
ขอเอาใจช่วยครับ
ขอบคุณคุณกระติก~natachoei ที่ ~natadee ที่แวะมาทักทายทายทัก...สะพายเป้แล้วดูสดใสวัยรุ่นจริงๆนะคะเนี่ย
ขอบคุณมากๆนะคะ คุณ วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- ...ยังทำหน้าที่เข้มแข็งอยู่เสมอ...ขอบคุณจริงๆๆจ้ะ
ขอบคุณพี่สาวที่แสนดี ครู ป.1 ต้องขอโทษที่ห่างหายไปนาน
และขอบคุณคุณอักขณิช ที่แวะมาทักทายให้กำลังใจ
ขอบคุณจริงๆเลยค่ะ
มาให้กำลังใจนะค่ะ และขอให้พี่ทั้งสองคนเข้มแข็งเอาชนะเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาให้ได้ค่ะ
อ่านแล้วอิ่มเอมในหัวใจจังเลยครับครู
...
เป็นกำลังใจในการประคองและใช้ชีวิตให้กับครูทั้งคู่นะครับ
คิดถึง และ มาเพิ่มกำลังใจให้มากๆอีกนะคะ
ขอบคุณคุณแสงแห่งความดี ที่แวะมาให้กำลังใจนะคะ ขอบคุณจริงๆค่ะ
ขอขอบคุณคุณอักขณิช
ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอบคุณคุณอาร์ม และพี่กานดา พี่สาวที่แสนดีเสมอมา
ต้องขออภัยที่ห่างหายไปนาน ยังสบายดีค่ะ
ขอบคุณทั้ง 2 ท่านมากๆๆค่ะที่ส่งกำลังใจมาหา
ขอบคุณนะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจตอนนี้ผ่านพ้นมาได้ได้รับข่าวดี เนื้องอกไม่เพอมขนาดแล้วหลังผ่ามา 1 ปี เป็นข่าวที่ดีมากๆๆเลยค่ะ
"ความจริงคือสิ่งไม่..ตาย..ความตาย..จึงหนีไม่..พ้น"..ใครคนหนึ่ง..ตาย..จาก..ชีวิต..คู่...อีก..คน(อยู่)..ต้อง(สู้)..ต่อไป..เป็นกำลังใจให้..เจ้าค่ะ...(ทั้งนี้..เคยใช้คำพูดนี้..กับคนข้างกาย..ที่จากไป..เพียงสามวัน..ก่อนหน้า..ความตาย)...สู้ๆๆ..ชีวิตนั้น..เป็น..เช่นนั้น...ด้วยปราถนาดี..บุญรักษาเจ้าค่ะ.....(ยายธี)
ขอบคุณยายธีมากๆเลยค่ะ...ที่ได้ให้กำลังใจและขอเป้นกำลังใจยายธีด้วยเช่นกันนะคะ..สู้ๆๆค่ะ