ช่วงวันที่ได้หยุดพัก ส่วนใหญ่ผมมักให้รางวัลกับชีวิตด้วยการไปอยู่ที่สวนชึ่งได้เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ตามอัธยาศัย ชื่อว่า แหล่งเรียนรู้ตามอัธยาศัยสวนยายเฮ้า ตั้งอยู่ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ บ้านโนนจาน ตำบลเมืองเตา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม การได้อยู่กับต้นไม้ อยู่กับน้ำ อยู่กับสรรพสัตว์ และที่สำคัญคือการอยู่กับคนที่เรารัก ทำให้จิตมีกำลังอย่างน่าอัศจรรย์
แหล่งเรียนรู้แห่งนี้ผมตั้งใจให้เป็นพื้นที่อุ่นใจของกัลยาณมิตรทุกผู้นาม ไม่จำกัดวัยวุฒิและคุณวุฒิ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเราร่วมกันเรียนรู้ถึงการใช้พืชในท้องถิ่นมาทำเครื่องปรุงรสอาหาร ทุกคนสนุกสนานตื่นตาตื่นใจกับสิ่งใกล้ตัว เราหวังว่าสิ่งที่ทำจะเป็นพลังขับเคลื่อนสุขภาวะที่ดี
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ในท้องทุ่งกุลาร้องไห้ ช่วงเย็นหรือเช้า เราจะได้ยิน ได้ฟังเสียงประกาศจากหอกระจายข่าวหลายหมู่บ้าน มุมหนึ่งเห็นว่าเป็นเสียงสะท้อนวิถีชุมชน เช่นช่วงเทศกาลงานบุญต่างๆ มีการบอกบุญถึงชุมชนอื่น มีการบอกกล่าวถึงคนในชุมชนตนเอง และที่น่าดีใจมากๆคือทุกเสียงบอกกล่าวมักจบลงด้วยการบอกข่าวถึงเด็กและเยาวชน ลูกหลานทั้งหลายให้รับรู้และเข้าร่วมกิจกรรม
หอกระจายข่าวในชุมชน หากใช้ด้วยจิตที่ผ่องใสเราจะได้คุณประโยชน์พร้อมคุณค่ามากมาย แต่บางชุมชนหอกระจายข่าวกลายเป็นแหล่งปลดปล่อยอารมณ์ที่ขุ่นมัวอันเป็นผลพวงจากความสับสน วุ่นวายใจของผู้นำชุมชนที่เริ่มตระหนักว่า การพัฒนาชุมชน เช่นปัจจุบันจะนำพาพวกเขาไปสู่จุดใด
เห็นภาพยรรยากาศจาการบรรยายเลยค่ะ
วันหยุดแบบนี้ถ้าหากได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์แบบนี้ทำให้การจะเริ่มงานหลังวันหยุดมีพลังมากมายเลยค่ะ
เอาภาพมาดูเลยครับ ไม่ได้ไปนานมากๆๆต้นไม้โตขึ้นมากแล้วใช่ไหมครับ...
อ่านดูบรรยากาศอบอุ่นจริงๆ
ธรรมชาติก็คือธรรมะ
ที่ใดธรรมะที่นั่นก็มีธรรมชาติที่สวยงาม
การทำแหล่งเรียนรู้แห่งนี้ของอาจารย์ ไปมาแล้ว บอกได้เลยว่า เป็นสวนที่มีสิ่งที่ให้มากมาย ที่สำคัญ คือการให้ใจ ใจที่มีความเชื่อ ความศรัทธา ชื่นชม เสมือนอยู่ในที่ที่มีสิ่งที่มีความตั้งใจที่จะเิดินไปในทิศทางเดียวกัน แม้ว่าเส้นทางเดินเส้นทางนี้จะมีน้อยคน แต่คาดหวังว่า วันข้างหน้าคงมีคนที่อยากร่วมเดินในเส้นทางเหล่านี้เหมือนกันใช่ไหมคะ่อาจารย์ อยากเชิญชวนให้ลองเดินทางไปที่สวนแห่งนี้ลองดู แล้วมาแลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้กันนะคะ
สวัสดีครับอาจารย์ นานแล้วไม่ได้มาแวะเวียน
สวนยายเฮ้า บรรยากาศร่มรื่นน่าอภอรมย์ในการผูกเปลนอน