สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นขณะเข้าพื้นที่ คือ ทั้งศศช.(ศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา "แม่ฟ้าหลวง")และชุมชนมีการซื้อนำยาล้างจานมาใช้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเด็ก ๆ และคนในครอบครัว แต่พบว่าราคาสูงกว่าราคาปกติที่ซื้อในเมืองเป็นเท่าตัว ชาวบ้านบางครัวเรือนก็ล้างภาชนะด้วยน้ำเปล่าเท่านั้น เมื่อแนะนำให้ใช้น้ำด่างจากขี้เถ้า ชาวบ้านก็รู้สึกสกปรก ล้างภาชนะไม่สะอาด คณะทำงานจึงร่วมกันกับเยาวชนในการร่วมกันตั้งโจทย์ว่าจะทำอย่างไรดีจึงจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำยาล้างจานจากภายนอก และขยายผลไปยังครัวเรือนอื่น ๆ ให้ล้างภาชนะด้วยน้ำยาล้างจานเพื่อส่งเสริมสุขอนามัยที่ดี จุดเริ่มต้น คือ เยาวชนได้เก็บข้อมูลภูมิปัญญาการซักล้างจากพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย พบพืชหลายชนิดที่นำมาซักผ้าแต่ยังไม่พบสิ่งใดเลยที่นำมาล้างภาชนะ ขณะเดียวกันศึกษาค้นคว้าข้อมูลการทำน้ำยาล้างจานที่สามารถทำได้เองด้วย เมื่อพบว่าพืชที่มีรสเปรี้ยวสามารถนำมาขจัดคราบสกปรกได้ จึงนำแกนนำเยาวชนและชุมชนไปศึกษาดูงานการทำน้ำยาล้างจานจากพืชท้องถิ่น ที่บ้านแจ่มหลวง แล้วให้เปรียบเทียบกับพืชที่มีในบริเวณชุมชนของตนเอง
ทดลองทำน้ำยาล้างจานจากพืชท้องถิ่นมาตลอดปี พบพืช 6 ชนิด ที่มีคุณสมบัติขจัดคราบจากภาชนะต่าง ๆ ได้ เยาวชนและชุมชนเกิดการเรียนรู้เอง โดยที่คณะทำงานเป็นเพียงผู้แนะนำบางเรื่องหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ ปัจจุบันเยาวชนมีความสุขกับการทำน้ำยาล้างจานแจกจ่ายชาวบ้าน บางครั้งชาวบ้านเองเมื่อได้ไปสวน ไปไร่ ไปนา แวะเก็บผลไม้ต่าง ๆ มาฝากกลุ่มเยาวชนเพื่อแลกกับน้ำยาล้างจานไปใช้ที่บ้าน ส่วนบางคนที่ไม่ได้หามาก็ให้หาขวดมากรอกไปใช้ แต่คิดเงินในราคาขวดละ 5 บาท หรือมากกว่านั้นตามขนาดของขวดหรือภาชนะที่นำมากรอก (ราคาปกติ คือ ขวดน้ำขนาด 0.6 ลิตร ขายขวดละ 5 บาท)
สำหรับศศช.ก็มีกิจกรรมให้นักเรียนทำน้ำยาล้างจานใช้เองด้วยค่ะ
ภาพที่ ๑ เตรียมผลไม้และล้างให้สะอาด
ภาพที่ ๒ น้ำหมักพืชท้องถิ่น
ภาพที่ ๓ ผลิตภัณฑ์ จริง ๆ มีหลายสีค่ะ
เก็บข้อมูลและกระบวนการเรียนรู้ไว้ให้ดี ๆ นะครับ
โอกาสหน้าในอนาคตจะมีประโยชน์มาก
โดยเฉพาะการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นกว่านี้ ;)...
ไปนำเสนอบทความวิชาการมากแล้วค่ะอาจารย์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 54 นี่เอง ที่ มอ.สงขลาค่ะ
งั้นเก็บไว้ให้ดีเนาะ ;)...
เรียน ป.โท จะเป็นเรื่องง่ายเลยล่ะ
เรื่องเรียน ..ว่าจะปรึกษาอาจารย์อยู่ค่ะ
มีหลายเรื่องมากเลยที่จะปรึกษาค่ะ
แล้วจะกริ๊งกรั๊งไปนะค่ะอาจารย์