สมสุข สุขใจ: สุขใจเป็นงูสวัดที่หน้า Herpes Zoster

โรคนี้ลุกลามเข้าไปที่ดวงตาได้ โดยเฉพาะบริเวณแก้วตาดำ ถ้าไม่แน่ใจให้ไปพบแพทย์ด่วน ยิ่งเร็วยิ่งดี

 สมสุขเจอหน้าสุขใจที่เดิมเช่นเคย คือที่ร้านกาแฟอาโก หลังจากไม่ได้เจอกันนานหลายอาทิตย์ ครั้งนี้สุขใจมาแปลกคือสวมหมวกมาด้วย พอถอดหมวก ก็เห็นที่ใบหน้าสุขใจดังในรูปด้านล่าง

 

สมสุขเห็นว่าหน้าสุขใจมีสะเก็ดอะไรสักอย่าง สีดำๆ อยู่ตรงระหว่างคิ้วตรงลูกศรสีเขียว  และมีรอยแดงๆ บริเวณข้างๆ สะเก็ดที่ลูกศรสีแดงชี้อยู่  และมีตุ่มเล็กๆ ขนาดเข็มหมุดที่สะเก็ดแตกแล้วตรงคิ้วข้างซ้าย 

สุขใจบอกว่า "ไม่คัน แต่มีอาการแปล๊บๆ ที่ใบหน้าด้านซ้ายเล็กน้อย"

สมสุขแนะนำให้สุขใจไปหาหมอโดยเร็ว สุขใจยังอิดออดอยู่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไปหาหมอสุขตอนสายๆ ได้ยากลับมากินสองอย่างและยาทาอีกหนึ่งอย่าง

วันรุ่งขึ้นสมสุขพบสุขใจ เห็นว่าอาการผื่นที่หน้าสุขใจยังคงเดิม ขณะที่สมสุขกำลังจะเอ่ยปาก สุขใจชิงพูดขึ้นมาว่า "คร้าบ ไปหาหมอมาแล้ว เอาละจะเล่าให้ฟังนะ ไปหาหมอตอนนี้ต้องจดบันทึกด้วย จะได้จดรายละเอียดมาเล่าให้เพื่อนฟัง"

"ผื่นที่เพื่อนมองเห็นว่าเป็นสะเก็ดดำๆ ที่หน้าเนี่ยนะ เป็นอาการของโรคงูสวัดที่ใบหน้าซีกซ้ายส่วนบน ตอนแรกก็นึกเถียงหมอในใจว่างูสวัดอะไรเป็นที่หน้า ทุกทีเห็นมีแต่ที่ตัว เป็นแนวยาวพาดที่ลำตัว ประมาณว่าถ้าเป็นรอบเอวเมื่อไหร่จะเสียชีวิตทำนองนั้น"

สุขใจดูบันทึกที่จดเอาไว้ขณะที่พบหมอ แล้วพูดต่อ "หมอบอกว่า โรคงูสวัดเป็นได้ทุกส่วนของร่างกาย บางครั้งเป็นที่ศีรษะก็มี ลักษณะสำคัญจะมีตุ่มพองเป็นกลุ่ม ผิวหนังบริเวณที่มีตุ่มพองนั้นจะแดงมากบ้างน้อยบ้าง พอตุ่มพองแตกก็จะเป็นสะเก็ดดำๆ อย่างที่เพื่อนเห็นที่หน้าผมนี่แหละ"

สุขใจพูดต่อไปอีกเหมือนกลัวสมสุขจะขัดจังหวะว่า "ไม่ใช่ว่าจะดูตุ่มพองแล้ววินิจฉัยได้ทุกรายนะ บางรายต้องทำการตรวจทางห้องปฎิบัติการ โดยการขูดที่ตุ่มไปส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ เห็นเซลตัวโตๆ ที่เกิดจากเซลผิวหนังหลายๆ ตัวมารวมกัน กลายเป็นเซลยักษ์ อันนี้หมอสุขก็ตรวจให้ผมด้วย ก็พบเซลตัวโตนี้ด้วย นอกจากนั้นยังสามารถตรวจได้โดยการเพาะเชื้อ รอผลประมาณอาทิตย์หนึ่ง หรือการตรวจพิเศษอื่นๆ เช่น Direct immunofluorescence ได้ผลประมาณสามวัน ส่วนใหญ่จะตรวจในรายที่ลักษณะไม่ชัดเจน เพราะต้องเสียเงินเพิ่ม และทำได้เฉพาะบางโรงพยาบาลเท่านั้น"

สมสุขถามแทรกขึ้นมาว่า "เออ... โรคนี้เกิดได้อย่างไร ติดต่อได้ไหม และต้องปฎิบัติตัวอย่างไร"

สุกใจพูดต่อ "เชื้อที่ทำให้เป็นโรคนี้เป็นเชื้อตัวเดียวกันกับโรคอีสุกอีใสหรือสุกใสนี่แหละ  พอเป็นโรคสุกใสแล้วเชื้อสุกใจจะยังคงอยู่ในร่างกายโดยเฉพาะที่ปมประสาท  พอช่่วงไหนร่างกายอ่อนแอ นอนไม่หลับ ลุยงานมาก ก็จะเป็นโรคนี้ได้"

สุกใจจิบน้ำชาแล้วพูดต่อ "โรคนี้ติดต่อได้ทางการหายใจ เชื้อโรคจะทำให้ผู้ที่ยังไม่เคยเป็นสุกใส เกิดเป็นสุกใสได้"

ว่าแล้วก็หยิบยาออกมาให้สมสุขดู "ได้ยากินมาสองอย่าง อย่างแรกเป็นยารักษาไวรัส ต้องกินวันละห้าครั้ง และนี่เป็นวิตามิน และยาทาอย่างหนึ่งเป็นยาทาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย"

"ที่สำคัญมาก เวลาที่เราเป็นมักมีผู้หวังดีแนะนำให้ไป ให้หมอ กลางบ้านหรือพื้นบ้าน พ่นหรือเป่า พอกยาต่างๆ บริเวณที่เป็นหมอสุขแนะนำและเน้นว่าไม่ให้ไปทำกิจกรรมดังกล่าว เพราะจะทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้"

"มีอีกเรื่องที่สำคัญมากคือ โรคนี้ลุกลามเข้าไปที่ดวงตาได้ โดยเฉพาะบริเวณแก้วตาดำ บางรายนอกจากจะทำให้ปวดบริเวณดวงตาแล้ว อาจมีแก้วตาทะลุ ทำให้ตาบอดได้  ถ้ามีผื่นอะไรที่ไม่แน่ใจ... ให้ไปพบแพทย์ด่วน ยิ่งเร็วยิ่งดี ถ้าเป็นงูสวัดให้ไปพบแพทย์ภายในสามวันนับแต่มีผื่นหรือตุ่มพองจะดีมาก เพราะการรักษาจะได้ผลดีมาก ดีนะที่เบิกค่ารักษาได้ทั้งหมด ไม่อย่างนั้นคงต้องจ่ายเงินหลายบาท"

 

• หมอสุข

[ขจิต ฝอยทอง]

น่าจะไปหาหมอโดยไว ทีแรกคิดว่าไม่มาก โอโห เป็นเต็มเลย ว่าแต่ว่าเป็นอะไรเนี่ย รออ่านครั้งหน้า คงไม่ใช่สาวๆข่วนนะครับ 555

[หมอสุข]

ขอบพระคุณอาจารย์ขจิตที่ให้ความเห็นครับ

สุขใจ มักมีเหตุการณ์เกี่ยวพันกับสาวๆ อยู่เนืองๆ

แต่ครั้งนี้ สาวๆ มีส่วนแบบอ้อมๆครับ

-หมอสุข

[หมอสุข]

สรุปว่าสุขใจเป็นงูสวัดที่ใบหน้า ติดตามอ่านได้ครับ

• หมอสุข

[วราภรณ์]

• สวัสดีค่ะ คุณหมอสุข
• แวะมาเยี่ยมทักทายค่ะ
• อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นจริง ๆ ค่ะ  ส่วนใหญ่เห็นเขาเป็น
  ในร่มผ้า  นี่เล่นมาขึ้นที่หน้าคงแสบร้อนทรมานน่าดู...
• ขอบพระคุณที่แบ่งปันข้อมูลดี ๆ ในการดูแลสุขภาพค่ะ

[หมอสุข]

ขอบพระคุณ และดีใจที่ ธรรมทิพย์ที่เคยเป็นขาประจำ มาแวะอ่าน และให้ความเห็นครับ