ความอยากรู้อยากเห็นที่ครูสามารถสนองต่อผู้เรียนในทางบวกได้

สถานการณ์ที่ข่าวลงหนังสื่อพิมพ์และสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของ จุลินทรีย์ ที่ชื่อว่า Escherichia coli หรือชื่อย่อว่า  E.coli (อี. โคไล) เป็นแบคทีเรียในกลุ่มโคลิฟอร์ม เป็นตัวชี้การปนเปื้อนของอุจจาระในน้ำ มีอยู่ตามธรรมชาติในลำไส้ใหญ่ของสัตว์และมนุษย์ แบคทีเรียชนิดนี้ทำให้เกิดอาการท้องเสียบ่อยที่สุด ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้ถ่ายอุจจาระเหลว หรือเป็นน้ำ แต่อาการมักไม่รุนแรง เพราะทั้งเด็ก และผู้ใหญ่มักมีภูมิต้านทานอยู่บ้างแล้ว เนื่องจาก ได้รับเชื้อนี้เข้าไปทีละน้อยอยู่เรื่อยๆ เชื้อนี้มักปนเปื้อนมากับอาหาร น้ำ หรือ มือของผู้ประกอบอาหาร ปกติเชื้อเหล่านี้อาจพบในอุจจาระได้อยู่แล้วแม้จะไม่มีอาการอะไร (http://th.wikipedia.org/wiki/Escherichia_coli)

  การระบาด(Outbreak) ที่เกิดขึ้นในแถบยุโรบ กลายเป็นปัญหาที่องการอนามัยโลกต้องออกประกาศตืน และรีบดำเนินการหยุดการแพร่ระบาด และเร่งสืบค้นหาแหล่งที่มาของ เชื่อแบกทีเรียดังกล่าว โดยเฉพาะในประเทศเยอรมัน ที่มีรายงานยอดผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 20 คน และยอดผู้ติดเชื่อสูงกว่า 1900 คน (6 มิ.ย. 2554)

 ข้อมูลที่ครูทราบมีเพียงเท่าที่แหล่งข่าวในประเทศแจ้งให้ทราบเท่านั้น  เมื่อ ครูได้นำเหตุการณ์ดังวกล่าวไปแจ้งให้กับนักเรียนทราบ และเฝ้าระวัง หน้าเสาธง ตอนเช้า กับนักเรียน ก็ได้เสียงตอบรับ มาในเชิงบวก มีนักเรียนสนใจเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก เพราะนักเรียนที่สนใจบ้าง ไม่สนใจบ้าง เขาสงสัยว่า ทำไมข่าวนี้ออกอากาศบ่อยครั้ง ทั้ง ๆ ที่เกิดในแถบยุโรป

  คำถามจึงสะท้อนกลับมาที่ครู แต่ละคำถามที่ครูได้รับนั้น ล้วนแต่เป็นคำถามต่อเนื่อง

เช่น  ๑.เชื่อโรคดังกล่าวชื่ออะไรค่ะ  ชื่อเรียกยากจัง

๒. E.coli ย่อมาจากอะไรค่ะ

๓.จุลินทรีย์เป็นอย่างไรค่ะ

๔.ไหนบอกว่าจุลินทรีมีประโยชน์ ทำไมถึงทำให้ชีวิตคนเราตายได้ครับ

 ๕.E.coli ,มีสารพิษใช่ไหมครับ จึงทำให้คนตายได้