โจรกรรมมรดกคุ้มเจ้าราชบุตร(หมอกฟ้า ณ น่าน)


ตัดสินใจโพสต์ลง gotoknow ด้วยความเคารพท่านเจ้าของคุ้ม แต่เรื่องร้ายเช่นนี้ สังคมจะเมินเฉยไม่ได้เป็นอันขาด

ผมตกใจกับข่าวมรดกล้ำค่าของทายาทเจ้าครองนครน่านถูกโจรกรรม ตั้งใจจะไปแสดงความเสียใจกับเจ้าของคุ้มเจ้าราชบุตร(หมอกฟ้า ณ น่าน) ซึ่งผมและครอบครัวรักใคร่และนับถือน้ำใจเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อตรวจสอบข่าวจากไทยรัฐออนไลน์ พบข่าวยืนยันตรงกันที่ http://www.thairath.co.th/content/region/173043 

และที่ Nan2Day http://www.nan2day.com/forum/index.php?topic=8710.0

จึงตัดสินใจโพสต์ลง gotoknow ด้วยความเคารพท่านเจ้าของคุ้ม แต่เรื่องร้ายเช่นนี้ สังคมจะเมินเฉยไม่ได้เป็นอันขาด

 

เจ้าสมปรารถนา ณ น่าน และคุณสถาพร สุริยา สามีภรรยาคู่นี้เป็นผู้มีจิตใจงาม เป็นผู้นำการอนุรักษ์ โดยเปิดบ้านพักอาศัยของตนให้ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมมรดกตกทอดทั้งเครื่องยศพระเจ้าน่านซึ่งได้รับพระราชทาน สิ่งของมีค่า วัตถุโบราณ และภาพประวัติศาสตร์อัดขยายจากฟิมล์กระจกครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเก็บรักษาไว้ ณ ชั้นสองของอาคารไม้สักอายุกว่าร้อยปี โดยไม่คิดค่าผ่านประตู ทำเช่นนี้มานานนัก นับยี่สิบปีได้ครับ

ผู้เข้าเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักวิชาการทั้งไทยและต่างประเทศ นักท่องเที่ยว แม้แต่นักเรียนในจังหวัดน่านหรือจากจังหวัดอื่นสามารถติดต่อเข้าชม โดยโทรศัพท์หรือนัดหมายล่วงหน้า

ในโลกนี้ มิเฉพาะแต่ในประเทศไทยมีน้อยคนนักที่จะมีน้ำใจ เปิดให้ชม Private collection ฟรีๆ

กรณีนี้ท่านให้เป็นวิทยาทานโดยแท้

ทุกครั้งเจ้าสมปรารถนา ณ น่าน และคุณสถาพร สุริยา จะนำชมเอง พร้อมเล่าเกร็ดประวัติที่มีชีวิตชีวา ผูกโยงกับความสุขวัยเด็กของท่าน ผมจึงแวะเวียนไปเสมอๆ ไม่เคยเบื่อเลย เพราะได้รับรู้คุณค่าผ่านการเล่าเรื่องจากทายาทเจ้าครองนครน่าน และรับทราบถึงความพยายามอนุรักษ์บ้านเก่าร้อยกว่าปี โดยทุนทรัพย์ของเจ้าของบ้านเอง ซึ่งต้องให้เงินส่วนตัวจำนวนมาก

ปัญหาอัคคีภัยและโจรกรรมนั้นมีความเสียงอย่างยิ่ง ผมสัมผัสได้ถึงความเสี่ยงดังกล่าว แต่เบาใจว่าเมืองน่านเป็นเมืองสงบ ไม่น่ามีคนใจร้ายทำได้ลงคอ

ข่าวตามปรากฎในเว็บสองเว็บข้างต้น ให้ข้อมูลตรงกันว่า...เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. คืนวันที่ 20 พฤษภาคม ถูกคนร้ายงัดเข้าทางประตูหลังบ้าน 2 ชั้น เข้าไปโจรกรรมงาช้างขนาดความยาว 1.50 เมตร จำนวน 2 คู่ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากห้องรับแขกของบ้านที่เคยเป็นคุ้มอาศัยของเจ้ามหาพรหม ว่า ก่อนหน้านั้น ตนและนายสถาพร สุริยา สามี ไปร่วมงาน 100 ปี กรมศิลปากรที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน อยู่ห่างจากคุ้มประมาณ 20 เมตร หลังกลับมาตรวจสอบพบว่างาช้าง 2 คู่ดังกล่าว ได้หายไปพร้อมกับเงินสดในตู้รับบริจาคประมาณ 20,000 บาท เพื่อใช้สำหรับซ่อมแซมคุ้มให้เป็นสถานที่ทัศนศึกษาทางประวัติศาสตร์เมืองน่าน

คนร้ายน่าจะวางแผนลงมือตอนเจ้าของบ้านไปร่วมงานที่พิพิธภัณฑ์ เพราะทั้งสองท่านเป็นบุคคลสำคัญ ต้องไปร่วมงานโดยปิดบ้านทิ้งไว้ โดยไม่มียามรักษาความปลอดภัยเฝ้า เพราะท่านดูแลกันเอง ไม่เคยมียาม

ผมไปเยี่ยนสถานที่นี้นับครั้งไม่ถ้วน เคยขออนุญาตท่านเจ้าของบ้านบันทึกภาพห้องโถงซึ่งประดิษฐานงาช้างลำค่าไว้ เพื่อนำเป็นภาพประกอบหนังสือ ในภาพนี้จะเห็นงาช้าง 1 คู่ และงาช้างขนาดใหญ่มาก 1 ข้าง ซึ่งคนร้ายไม่แตะต้อง ยกไปเฉพาะคู่ที่ยาวกว่าเมตรซึ่งอยู่ทางด้านขวาของห้อง ไม่ปรากฏในภาพนี้ งาช้างที่ถูกโจรกรรมคงเป็นสองคู่นั้น

ประวัติเมืองน่านนั้น ผู้ครองนครและราษฎรเป็นผู้ "ฝักใฝ่ในธรรม" มีกฎหมายสืบทอดมาเฉพาะ เรียกว่า "อาณาจักรหลักธรรม" การลักขโมยสมบัติของบ้านของเมืองแบบนี้ คนน่านไม่ทำ เพราะจะถูกสาบแช่งเป็นเปรต ดังเรื่องเล่าต่อๆ กันมาถึงคนขีฉ้อลักของหลวงซึ่งตอนจะตาย คนข้างบ้านเห็นขายืดยาวออกหลายเมตร ตายอย่างทุกข์ทรมาน

ท่านที่สนใจ ลองดาวน์โหลดอ่านประวัติน่านอย่างย่อได้ที่นี่ครับ  http://www.gotoknow.org/media/files/725984 ผลงานที่ผมรวบรวมไว้ให้เผยแพร่

ยังใจหาย ใจหายยิ่งกว่าการได้เห็น "ข้อเท้า" ของพระพุทธรูปไม้ทรงเครื่องกษัตริย์ ซึ่งเคยประดิษฐศถานที่วัดพระบรมธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง พระธาตุประจำปีเถาะ พ่ออุ้ยแม่อุ้ยว่างดงามสมส่วนมาก แต่ถูกคนร้ายเลื่อยอุ้มไปทั้งสององค์ เหลือแต่ "ข้อเท้า" ซึ่งหล่อติดฐานซิเมนต์ไว้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน จึงได้มาแต่ฐานข้อเท้า สองคู่เป็นที่ดูแล้วสลดใจอย่างยิ่ง

หมายเลขบันทึก: 441608เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2011 13:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เสียดายของเก่าที่เจ้าของท่านอุตส่าห์เปิดให้เป็นวิทยาทานแก่ผู้สนใจ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ...

ตามอ่านที่ Nan2Day.com แล้วมีผู้โพสต์แสดงความเสียใจมา 5 ท่าน แต่สังคมจะ "ปกป้อง" คนใจดีที่เต็มใจให้ชมบ้าน ชมมรดกของตระกูลอย่างไร จึงจะช่วยดูแลสอดส่องให้กันและกันได้ นักท่องเที่ยวปีละห้าแสนคนเยือนน่าน มีคนร้ายตามเข้ามาด้วย ผมก็ชักกังวลแล้วละครับว่า เมืองน่านจะออกจากบ้านโดยไม่คล้องโซ่ ล็อคประตู ฝากไว้กับเพื่อนบ้านประเดี๋ยวมา ดังเดิมได้อีกหรือไม่

คุณหมอครับ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่สมบัติเจ้าของคุ้มเจ้าราชบุตร(หมอกฟ้า ณ น่าน) เท่านั้น หากแต่เป็นสมบัติของคนเมืองน่านทั้งเมือง และเป็นเรื่องที่ประชาคมคนเมืองน่านต้องช่วยกันในการเป็นยามเฝ้าบ้าน และคืนความสุข สงบให้เมืองน่านครับ

บ้านพ่อแม่ผมที่ย่านธนบุรี ตอนนี้ปิดตายเพราะท่านเสียชิวิตแล้ว น้องๆ ก็ไม่กล้าอยู่ เพราะโจรชุมมากเลยครับ

ถูกโจรกรรม 13-14 รอบ คนไม่เหลืออะไรล่อขโมยแล้ว

เมื่อตอนต้นปี 53 มีข่าวขโมยเจาะหลังคาบ้านท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซี่งบ้านบรรพบุรุษท่านอยู่ย่านฝั่งธนบุรี อยู่ริมคลองเช่นกัน

ขโมยดวงถึงฆาต ตัดช่องลงมาถูกสายไฟฟ้าในบ้าน ไฟดูดตายคาเพดาน เข้าใจว่ามันไม่ทำงานคนเดี่ยว แต่สมุนคงกระเจิง

ตำรวจนำหมายศาลไปค้นบ้านขโมยรายนี้ พบของกลางกว่า 400 รายการ มีเรือหางยาวพาหนะขนของที่ขโมย 3 ลำ ผมอ่านข่าวก็เอะใจเพราะบ้านพ่อแม่ผมขโมยมาทางคลอง น้องๆ จึงไปดูของกลางซื่งมาก แต่จำได้ว่ามีตั่ง ตู้ เตียง ไม่สักแกะสลักของพ่อแม่ ซึ่งเคยแจ้งความว่าถูกโจรกรรมไว้แล้ว มีหลักฐานแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการให้ได้ของนั้นคืนมา 12 รายการ (จากที่แจ้งหายไปร้อยกว่ารายการ) ตำรวจไม่มีหมายค้นบ้านพี่บ้านน้องของหัวขโมยรายนี้ เข้าใจว่าคงซุกซ่อน ยักย้าย หรือขายไปมาก

ตำรวจให้ข้อมูลว่า แก๊งนี้มีใบสั่ง ใบสั่งเจาะจงของโบราณเป็นชุด หรือ "ยกชุด" ให้ครบ collection ไปเลย ขโมยแล้วไม่ต้องนำของมาบ้าน นัดส่งมอบของโจรกับผู้ว่าจ้างทันทีที่ได้ของ

ถ้าขโมยรายนี้ไม่ถูกไฟดูดตาย ผมคงไม่ได้ของพ่อของแม่คืนเป็นแน่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท