ดอกส้มสีทอง(จบ)การแก้ปัญหาครอบครัว


                นับว่าละครเรื่องดอกส้มสีทองทำให้ผมเขียนบันทึกยาวเป็นประวัติการณ์เพราะนี่เป็นตอนที่ ๗ เข้าไปแล้ว จากเรื่องละตอน เป็นสองตอน เป็นสี่ตอน คราวนี้รวดเดียว ๗ ตอน หรือว่าผมจะขี้บ่นขึ้นไปทุกวันละเนี่ย..ฮ่าๆๆ

                ยังอยากจะเขียนเปรียบเทียบให้เห็นการแก้ปัญหาครอบครัวระหว่างคู่ของสินธรกับเด่นจันทร์กับคู่ของคุณใหญ่กับณฤดี(คุณดี๋)เพื่อที่จะบอกว่าการแก้ปัญหาครอบครัวนั้นไม่มีข้อสรุปเป็นสูตรตายตัวครอบครัวใครก็ของคนนั้น

                สินธรเป็นคนเจ้าชู้ชอบใช้โอกาสแทะเล็มสาวๆอาศัยความร่ำรวยของภรรยาจับจ่ายใช้สอยอย่างสุนกมือแอบไปมีเด็กซึ่งเดี๋ยวนี้จะว่าผู้ชายมีเมียน้อยบางทีอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไปนะครับเพราะเขามีคำจำกัดความ(ผมลอกมาจากเมล์ที่ส่งต่อๆกันมาไม่รู้ว่าใครทำ ขอบคุณคนทำไว้ณ ที่นี้ด้วยครับ)

  
          คุณภรรยาหลวงทั้งหลายกรุณาทำความเข้าใจจะได้ด่าสามีให้ถูกต้องว่าเขามีอะไรแน่เมียน้อย หรือเมียเก็บ หรือกิ๊ก หรือกั๊ก หรือ แควน หรือควิ๊ก แฮ่ๆ.....

        เด่นจันทร์รู้ว่าสามีเป็นคนเจ้าชู้ก็พยายามทำตัวให้ดูเซ็กซี่ตลอดเวลา ปรุงรสปรุงรักทุกรูปแบบเพื่อให้สามีชอบจะได้ติดใจไม่ไปหลงใหลหญิงอื่นพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้สามีหายเจ้าชู้แต่อย่างว่าแหละคนมันเจ้าชู้อย่างสินธรต่อให้ใช้วิธีไหนก็เอาไม่อยู่ แต่วิธีการนี้ผมเชื่อว่าสามารถใช้ได้กับอีกหลายครอบครัวที่สามีภริยาจะมาคุยกันถึงเรื่องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตสมรสเพราะผมเชื่อว่าเมื่อมนุษย์อิ่มแล้ว คงไม่ไปสวาปามเพิ่มอีกแต่ถ้าอดอยากปากแห้งแล้วมีคนมายื่นให้ ผู้ชายนะครับไม่ใช่พระอิฐพระปูน เอ้อ...พูดไปเหมือนกับจะพูดแก้ตัวให้ตัวเองเลยพับผ่า...คริคริ แต่ผมเขียนเรื่องนี้เพื่ออธิบายว่าการที่ผู้ชายไปมีอะไรนอกบ้านผู้หญิงจะมองว่าผู้ชายไม่ซื่อสัตย์แต่ผู้หญิงไม่เคยมองจุดบกพร่องในเรื่องทางเพศของตัวเองเลย ถ้าผู้หญิงที่เป็นภรรยาทำอย่างเด่นจันทร์ผมว่าผู้ชายที่ออกไปเที่ยวนอกบ้านจะลดปริมาณลงกว่าที่เป็นอยู่อีกเยอะ...

        เราลองมาดูวิธีการแก้ปัญหาของเด่นจันทร์เนื่องจากเป็นลูกสาวผู้มีอิทธิพล ร่ำรวย มีลูกน้องพ่อเยอะแยะจึงใช้วิธีการรุนแรงเข้าไปจัดการ และใช้เงินฟาดหัวจึงเอาผู้หญิงอย่างเรยาอยู่ ในขณะนั้นสินธรก็ร่วมมือที่จะไม่สานต่อกับเรยาอีกและไม่ยอมให้เรยาข่มขู่แต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งผมเห็นว่าหากจะแก้ปัญหาครอบครัวแล้วละก้อ คนในครอบครัวก็ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา แต่..หลังจากจบเรื่องเรยาไปแล้วสินธรยังไม่หยุดเจ้าชู้และไม่ได้รู้สึกกลัวว่าจะเจอผู้หญิงอย่างเรยาอีก เด่นจันทร์จึงต้องใช้วิธีสุดท้ายคือหย่าขาดจากการเป็นสามีภรรยา และเมื่อสินธรมีลูกเล่นไม่ยอมหย่าเพราะรู้ตัวว่าถ้าหย่าตนก็จะไม่เหลืออะไรจึงต้องถูกพ่อของเด่นจันทร์ใช้ความรุนแรงให้ลูกน้องทุบมือของสินธรและหากยังไม่ยอมเซ็นอีกก็ให้ยิงทิ้งได้จนสินธรต้องเซ็นใบหย่าให้การแก้ปัญหาแบบนี้เป็นความรุนแรงและเป็นเรื่องผิดกฎหมายแต่บางทีคนรวยอย่างเด่นจันทร์อาจรู้สึกว่าสินธรไม่ได้รักเธออย่างแท้จริงเลยหวังแต่จะได้อยู่สะดวกสบายมีเงินมีทองใช้ขอหย่าดีๆก็ไม่ยอม เมื่อรู้สึกว่ายังจะเกาะเธอกินอีกก็ต้องสลัดออกจากตัวให้ได้

        คราวนี้มาดูคุณใหญ่กับคุณดี๋ คุณใหญ่ไม่ได้มองเรื่องกามารมณ์เป็นเรื่องสำคัญในชีวิตครอบครัวสักเท่าไหร่ภรรยาอย่างคุณดี๋จึงไม่ได้ทำตัวอย่างเด่นจันทร์แต่พอเกิดเรื่องคุณดี๋รู้ว่าคุณใหญ่ได้เรยาเป็นเมียเก็บ(กลับไปดูที่ชาร์ทข้างบนนะครับ เพราะยังแอบซ่อนอยู่)คุณดี๋แก้ปัญหาโดยไม่โวยวาย ผมถือว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ถ้าเป็นกรณีคุณใหญ่ที่ไม่เหมือนในละคร เกิดติดใจรสชาติทางเพศกับเรยาแล้วถูกคุณดี๋จับได้ก็จะเป็นช่วงที่ม้าพยศจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ถ้าภรรยาท้าหย่าผมว่าสามีก็พร้อมที่จะเซ็นใบหย่าให้ทันทีเหมือนกันเห็นมาเยอะแล้วครับ

        การที่คุณดี๋ไม่ยอมที่จะอยู่บ้านคุณใหญ่อีกใครพูดก็ไม่ยอมขอหย่าลูกเดียว เป็นเรื่องปกติธรรมดาของผู้หญิงที่รู้สึกเสียใจที่สามีสุดที่รักไปทำสิ่งที่ไม่อยากให้อภัยแต่ลองดูว่าถ้าคุณดี๋คิดแค่นี้ ทำแค่นี้ ชีวิตคุณดี๋ก็จะจมไปกับความทุกข์ตลอดชาติแต่พอตี๋เล็กมาพูดโน้มน้าวให้พิจารณาถึงการตัดสินใจด้วยเหตุผลกับความรัก คุณดี๋จึงแก้ปัญหาอย่างมีชั้นเชิงและสมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย

        เรามาดูกันว่าคุณดี๋แก้ปัญหาอย่างไร เรยาเอาลูกมาทิ้งไว้ คุณดี๋ไม่อยากได้ลูกของเรยาไว้แน่ แต่คุณดี๋เองก็รู้ว่าอาม๊าเม่งฮวยอยากได้หลานและยิ่งเป็นหลานชายด้วยแล้ว หากเธอยอมอยู่กับคุณใหญ่ต่อไปเธอจะสมประโยชน์เพราะคุณใหญ่จะกลับมาอยู่กับเธออย่างมีความสุขเพราะคุณใหญ่กับเรยาตัดขาดกันแล้วแต่จะทำอย่างไรที่จะแก้ปัญหาป้องกันมิให้เรยามาวุ่นวายซึ่งในละครเขียนให้คุณใหญ่ไปแจ้งเกิดว่าเป็นลูกของคุณดี๋ที่มาแจ้งเกิดช้าไปหกเดือน  บรรดาผู้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กก็งงกันไปแถบๆว่าคุณใหญ่ไปแจ้งเกิดได้อย่างไรเพราะใบเกิดไม่มีและเรยาก็แจ้งเกิดแล้ว ผมว่าก็ไปแจ้งเกิดว่าคลอดเองกับหมอตำแย เพราะปวดท้องคลอดขณะไปเที่ยวป่า  ว่าไปโน่น...อิอิ จะออกมาโรงพยาบาลก็ไม่ได้เพราะรถติดหล่มไม่มีเครื่องมือ...ว่าเข้านั่น...

        การเอาเด็กมาเลี้ยงเป็นเครื่องมือแก้แค้นเรยาได้ด้วยนะเพราะคุณดี๋บอกกับเรยาว่าเธอจะเลี้ยงเด็กคนนี้เป็นลูก ถ้าเรยามาเอาคืนเรยาจะต้องพบกับความเสียใจและเจ็บปวดยิ่งกว่าหากลูกรู้ว่าแม่ทิ้งเขาตั้งแต่ยังเล็กและต่อให้เธอฟ้องกว่าจะชนะก็ต้องอดทนในการพิสูจน์กันหน่อยละ...สะใจบรรดาคอละครทั้งหลาย

        แต่สิ่งที่ผมอยากเขียนถึงก็คือวิธีการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธีของคุณดี๋นี่แหละที่จะทำให้เชื่อมต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวให้กลับคืนมาและที่สำคัญคนที่สร้างปัญหาอย่างคุณใหญ่ก็ต้องร่วมมือในการแก้ไขเลิกเกี่ยวข้องกับเรยาอีกโดยเด็ดขาดชีวิตครอบครัวอาจจะมีบางครอบครัวที่เกิดปัญหา ถ้าคู่สมรสที่คู่สมรสฝ่ายหนึ่งเกิดไปกระทำผิดพลาดโดยมิได้ตั้งใจคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งให้อภัยและร่วมมือในการแก้ปัญหาและการแก้ปัญหานั้นควรใช้ทั้งเหตุผลและความรักผสมกัน ถ้าใช้แต่เหตุผลอย่างเดียวชีวิตสมรสก็อาจมีปัญหา ใช้ความรักอย่างเดียวอีกฝ่ายหนึ่งก็จะมีแต่ความทุกข์ ถ้าแก้ปัญหาอย่างลงตัวคู่สมรสคู่นั้นก็จะกลับมาอยู่กันอย่างมีความสุขเหมือนเดิม

        ดูละครเรื่องนี้แล้วได้ข้อคิดในการใช้ชีวิตคู่และเตือนสติบรรดาชายไทยไม่ทราบชื่อทั้งหลายว่า“อย่าเห็นผู้หญิงอย่างเรยาเป็นแมว เพราะเธอจะมองคุณเป็นหนู”  ฮ่าๆๆ.

หมายเลขบันทึก: 441247เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2011 00:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

สวัสดีค่ะ

อยากเตือนพวกผู้ชายด้วยคนนะคะ...จากข้อความของท่าน

“อย่าเห็นผู้หญิงอย่างเรยาเป็นแมว เพราะเธอจะมองคุณเป็นหนู” ฮ่าๆๆ.

สวัสดีครับท่าน อัยการ

ไม่เคยได้ดูละครเรื่องนี้เลย ต่ติดตามอ่านจากบันทึกท่านอัยการ เป็นการดูละครนอกระบบ เหมือนเรียน กศน. พอเข้าใจ แต่ไม่ได้ออรถรสเต็มที่

อีกอย่างแวะมาส่งข่าวว่า วันนี้อยู่ภูเก็ต จะแวะไปคารวะในวันอาทิตย์ แห่งครอบครัว วันนี้ได้ชวนผบทบ.มาด้วย ครับท่าน

ขอบคุณท่าน ศน.ลำดวน ที่มาช่วยกันเตือนครับ อิอิ

ด้วยความยินดีครับบัง

วันนี้ผมอยู่บ้าน มีเพียงช่วงเช้าที่จะไปงานบวชที่วัดหลองครับ

ดอกเอย ดอก(สี)ทอง มองย้อน แล้ว สะท้อน สังคมไทย ห่างไปให้ไกล อย่าเลย อย่าเป็น ดอก(สี)ทอง

ขอบพระคุณ อ.JJ และ อ.โสภณ มากๆครับ

อ้าว  มีตอนจบแถมท้ายมาให้คิดอีกอีก  ว่าวิธีที่ดีที่สุดคือต้องร่วมมือกัน

ทั้งสองฝ่าย  หลังจากต่างคนต่างยอมรับและให้อภัยกันแล้ว

ความผิดพลาดจะเป็นบทเรียนที่สอนให้เรามีสติและเข้มแข็งขึ้นนะคะ

เดี๋ยวนี้เขาแก้ปัญหาครอบครัวกันด้วยการหย่าร้างและฟ้องร้องกันมากทีเดียวนะค่ะ ไม่รู้ว่าเลียนแบบกันมาจากดาราเทศและไทยหรือเปล่าหนอ

ถูกใจทุกประเด็นค่ะ  ติดตามอ่านเสมอ  “อย่าเห็นผู้หญิงอย่างเรยาเป็นแมว เพราะเธอจะมองคุณเป็นหนู”   ท่านอัยการชาวเกาะเก่งจังเลยค่ะ จะรอติดตามเรื่องต่อไปอีกนะคะ..

ขอบคุณครูกีร์ที่มาช่วยเติมเต็มให้กับบันทึกนี้นะครับ

อ.จัน ครับ

สมัยนี้สิทธิความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง ทำให้คนเราเกิดความเชื่อมั่นในตนเองสูงขึ้น ฉันมีความเก่งพอที่จะไม่ต้องง้อเมื่อเธอทำไม่ดีก็เลิกกัน ฉันมีความรู้ความสามารถที่จะเลี้ยงตัวเองได้ไม่เห็นจะต้องง้อเลย โดยเราลืมนึกถึงคำว่าครอบครัวคืออะไร เราตัดสินแก้ปัญหาจากการยึดเอาตัวเองเป็นหลักจึงทำให้เกิดปัญหา กับอีกอย่างหนึ่งก็คือคนสมัยใหม่ขาดความอดทน เพราะเราใช้ fast life ไม่เหมือนสมัยก่อนที่เราใช่ slow life ความอดทนของคนจึงผิดกัน

ขอบคุณครับคุณเมียวดี ที่ยังติดตามผลงาน

ติดตามผลงานท่านอัยการ เหมือนติดตามละคร อิอิ

สมกับที่เค้าว่า ดูละครแล้วให้มองย้อนดูตัวเรา...นอกจากความสนุกสนานแล้วยังได้อะไรอีกหลายอย่าง

แถมมาอ่านบันทึกนี้ได้ความรู้เพิ่มเติมอีกด้วย

ขอบคุณนะคะ

ขอบคุณครับคุณ blue star

ถ้าเราใช้ชีวิตบนโลกใบนี้โดยการมองมันในทางบวก เราก็จะมีความสุขกับการใช้ชีวิต

ถ้าเรามองละครเรื่องนี้มีแต่เรื่องไม่ดี มันก็เป็นละครที่ไม่ดี

ถ้าเรามองละครเรื่องนี้เป็นเรื่องการการสอนการใช้ชีวิตครอบครัวอย่างระมัดระวัง เราก็จะมีความสุขในชีวิตครอบครัวครับ

...ไม่สงสัยต่อไปแล้ว..กับ..สังคม.แมวๆกับหนูๆ..เพราะคนไทย(เคยเห็น).เสกน้ำมัน..ทาหนูกับแมวให้เล่นเป็นเพื่อนกันได้..อ้ะๆ..หนูตัวใหญ่ขึ้นเพราะเหตุนี้เอง..อิอิ

ดีใจที่ยายธีสนุกกับเรื่องแมวกับหนูครับ อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท