วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๔
เวลาประมาณ ๑๖.๔๐ น. เราเริ่มกิจกรรม Student Forum ซึ่ง Theme ของงานคือ See, Show, Share
See
เป็นกิจกรรมที่ทำให้นิสิตนักศึกษาจากต่างสถาบันได้รู้จักกันว่าเป็นใครมาจากไหนกันบ้าง โดยมีทีมนิสิตของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นผู้ดำเนินรายการ
ซ้าย-ทีม ม.บูรพา ขวา-นิสิตนักศึกษาจากหลายสถาบัน
นิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม นั่งเรียงแถวกันตามสถาบัน มีการร้องเพลง โชว์ตัวให้รู้กันว่ามาจากสถาบันใด
สไตล์การแนะนำตัวของคนรุ่นใหม่
ดูเพื่อนก็สนุกดี
และแบ่งกลุ่มๆ ละ ๒๐ คน คละสถาบัน ให้แต่ละกลุ่มทำความรู้จักกัน ถามชื่อเล่น ชื่อสถาบัน แล้วให้ช่วยกันตั้งชื่อกลุ่มตนเอง เราได้ยินชื่อกลุ่มที่ออกเสียงแปลกๆ เช่น ฮือๆ อะไรหว่า น่ารักอ้า ฯลฯ
Show
นิสิตนักศึกษา ๔ สถาบันมาโชว์ผลการทำงานสร้างเสริมสุขภาพซึ่งเป็นที่น่าพอใจ
Rama"s Got Talent
Share
ตัวแทนนิสิตนักศึกษา ๔ สถาบันคือ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มรภ.สวนดุสิต และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขึ้นเวทีเล่าเรื่องการทำงานสร้างเสริมสุขภาพ โดยมี ผศ.ดร.นิคม มูลเมือง จากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เป็นผู้ดำเนินรายการ
เวทีเสวนา
มีคำถามให้ตอบคือมีเทคนิคอย่างไรให้เกิดการสร้างเสริมสุขภาพ มีแรงจูงใจอย่างไรจึงทำเรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ และสุดท้ายอยากฝากอะไรบ้าง
นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเล่าว่าได้ add โครงการต่อต้านบุหรี่เข้าไปในกิจกรรมของนักศึกษาปี ๑ แล้วเจาะลึกเข้าไปถึงคนที่สูบบุหรี่
นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เล่าว่าในการทำกิจกรรมในชุมชน มีช่วงเปิดใจที่ให้ทุกคนหลับตา...ใครรู้ตัวว่าสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ให้ยกมือ (ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้) พอเรารู้แล้วก็เข้าไปคุยกับเขา ชวนมาเป็นแกนนำ ชวนว่าอยากทำอะไรให้พ่อแม่
นักศึกษาจาก มรภ.สวนดุสิต เล่าเรื่องการประกวด HP Ambassador (คนมาเล่าได้เป็น Ambassador) มี VDO ภาพการประกวดและกิจกรรมในวันนั้นให้ดูด้วย... ได้ใช้ความคุ้นเคยชักชวนคนรอบข้าง ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ชวนคนนอกคณะมาร่วมกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ
นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เล่าว่ามีศูนย์ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุอยู่แล้ว มีการประสานกับชมรม เยี่ยมบ้าน... ชาวบ้านมีปัญหาปวดหลังปวดเข่า ให้รำไม้พลอง ยางยืด เอามาประยุกต์ให้ง่ายขึ้น
นักศึกษาพูดเก่งกันทุกคน หากฟังดีๆ ก็จะรู้ว่ามีเทคนิคที่เรานึกไม่ถึงมากมาย เสียดายที่อาจารย์ส่วนใหญ่กลับไปกันก่อน ไม่ได้อยู่ร่วมกิจกรรม และนิสิตนักศึกษาด้านล่างสนใจฟังได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ หันมาคุยกันเองเสียมากกว่า ประกอบกับเวลาล่วงเลยไปมาก นักศึกษาคงหิวจึงเดินเข้าๆ ออกๆ เราจึงขอให้ปรับกิจกรรมในช่วงสุดท้ายให้สั้นลง
AAR สำหรับกิจกรรมนี้ เป็นการริเริ่มที่ดีที่จัดเวทีสำหรับนิสิตนักศึกษาให้เขาได้รู้จักกันข้ามสถาบัน กิจกรรมการ Show มีความน่าสนใจ ส่วนการ Share แบบเล่าบนเวทีอาจดึงความสนใจเด็กวัยนี้ได้ไม่นาน อาจต้องปรับรูปแบบของกิจกรรมใหม่ หากให้เขา share กันในกลุ่มด้วยน่าจะได้เรียนรู้จากกันและกันมากยิ่งขึ้น
วัลลา ตันตโยทัย
เครือข่ายเด็กพยาบาล จะช่วยให้ชาติได้พัฒนาไปสู่คุณภาพที่มั่นคงครับ เชียร์ เชียร์