จันทร์: ตอน ๗


     กล่าวถึงบุคคลที่หลับน้อยตื่นนาน ๕  ประเภท มีบุคคล ๓ ประเภทหลัง คือ โจร  ๑  พระราชา  ๑ สมณะ ๑   แม้จะหลับน้อยก็จริง  แต่เมื่อถึงเวลาที่จะหลับ   คือสิ้นภาระหน้าที่ต่าง ๆ  แล้ว   ก็สามารถเอนกายหลับลงได้อย่างง่ายดายและหลับอย่างสงบ    แต่ประเภทแรกสิ    เมื่อยังไม่หลับก็ยากที่ข่มตาหลับลงได้   และเมื่อหลับก็หลับลงได้อย่างไม่สนิทใจ    คอยพลิกฟื้นตื่นผวาอยู่บ่อย ๆ   เต็มไปด้วยความทุกข์ความกังวลใจ   กระสับกระส่าย   กระวนกระวาย   รุ่มร้อน   เพราะอะไร   เพราะกังวลถึงคนที่ตนรัก   ยิ่งเกิดความรักชอบพอกันใหม่ ๆ   ยิ่งกังวลเมื่ออยู่ห่างกัน   เวลานอนก็นอนกระสับกระส่ายรอคอยเวลาที่จะสว่าง   เพื่อที่จะได้พบ    ได้พูดคุยกับคนที่ตนรัก เมื่อได้พบก็มองคนรักไม่รู้อิ่มไม่รู้เบื่อ   เมื่อได้พูดคุยก็ไม่เบื่อที่จะสนทนา   เมื่ออยู่ห่างไกลก็คิดถึงด้วยความเป็นกังวลใจ อยากอยู่ใกล้ ๆ  ภาพแห่งคนรักคอยฉายเข้ามาในความรู้สึกตลอดเวลา   เพราะฉะนั้นผู้ที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจแห่งความรัก   หรือถูกความรักครอบงำจิตใจ    จึงจัดว่าเป็นคนที่มีความทุกข์คนหนึ่ง ทุกข์ทางใจ    ทุกข์เพราะเอาใจเข้าไปผูกพันยึดไว้ในคนที่ตนรัก    และเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีอันต้องเปลี่ยนแปลงไป   เปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่น หรือเปลี่ยนแปลงไปเพราะอำนาจกฎธรรมดาธรรมชาติ    คือ   พลัดพรากล้มหายตายจากไปก็ดี   อีกฝ่ายที่ถูกพลัดพราก   หรือถูกทอดทิ้งก็เป็นทุกข์   และเป็นทุกข์มากด้วย   ยิ่งรักมากเท่าใด   ความทุกข์ก็มากขึ้นเท่านั้น   ทั้งนี้ก็เพราะไม่มีสติรู้เท่าทันความเป็นไปของความรัก เพราะไม่มีสติรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง   เมื่อมีอันต้องพลัดพรากจากไปในเฉพาะหน้า   ก็ยิ่งเป็นทุกข์มาก   นี่แล    ความรักจึงเป็นความร้ายที่เที่ยวทรมานคนทั้งโลกให้บอบช้ำตรอมตรม

 

     นี่แหละคนประเภทที่หลับลงได้ยาก   และคนที่หลับลงได้อยากอีกจำพวกหนึ่งก็คือคนที่คิดมาก จมปลักอยู่กับความทุกข์ในอดีต  ไม่รู้จักทำใจให้ปล่อยวาง  หรือประเภทที่วิตกฟุ้งซ่าน    หน่วงเหนี่ยวเอาความผิดหวัง   ความพลั้งพลาดในอดีตมาเป็นทุกข์ในปัจจุบัน   และอีกจำพวกนึงก็วิตกทุกข์ร้อนไปเกินกว่าเหตุ   เอาทุกข์   เอาปัญหาที่ยังไม่เกิด   มาคิดจนเป็นทุกข์ในปัจจุบัน ทั้ง   ๒   อย่างนี้ไม่ดี   ตามหลักพระพุทธศาสนาที่มาในภัทเทกรัตตคาถา   ที่ขึ้นต้นด้วยบาลีว่า   อตีตํนานฺวาคเมยฺย   ฯ เปฯ    พระพุทธเจ้าก็บอกว่าไว้ชัดเจนให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน   นี่แลจำพวกที่หลับลงได้ยาก    ยังส่วนแห่งราตรีให้หมดไปกับจิตใจที่ว้าวุ่น   กระวนกระวาย 

 

     ส่วนสมณะ ผู้ทำความเพียรเพื่อความหลุดพ้นจากกิเลสนั้น   ท่านเป็นผู้ตื่นอยู่เป็นส่วนมาก    คือนอนแต่เพียงเล็กน้อย    ตามหลักชาคริยานุโยค    ท่านให้นอนเพียง   ๔   ชั่วโมง    ใน   ๒๔ ชั่วโมง   อีก   ๒๐   ชั้วโมง   เป็นเวลาทำความเพียร    เจริญวิปัสสนา   คือ   นั่งสมาธิบ้าง   ยืนบ้าง    เดินจงกรมบ้าง    เวลาที่ท่านนอน   ได้แก่ เวลา   ๒๒. ๐๐  น. - ๐๒. ๐๐  น.   ของวันใหม่   ๔   ชั่วโมงเท่านั้น   ถ้านอนมากกว่านั้น    ถือว่าไม่ตรงตามหลักชาคริยานุโยค    สำหรับท่านที่มีร่างกายอ่อนแอ    นอนน้อยอย่างนี้ไม่ได้    ก็อนุโลมให้นอนเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย    ตามสมควร    อันนี้คือเรื่องราวของบุคคลผู้หลับน้อยตื่นนาน เรื่องราวของพระผู้อยากละกิเลส

 

    เช้าวันใหม่จันทร์ตื่นขึ้นมาก่อนรุ่งสาง   เตรียมหุงข้าว   ทำอาหาร   อันเป็นกิจวัตรของลูกผู้หญิงจะพึงทำ   ซึ่งผู้หญิงในสมัยก่อนทุกคนจะต้องได้รับการอบรมให้เป็นแม่ศรีเรือน   คือ   เก่งในเรื่องงานบ้านงานครัว   คนโบราณท่านจึงบอกว่า   ผู้หญิงที่ดี  ต้องรู้จัก   เรือน   ๓   น้ำ   ๔ และจะต้องปฏิบัติให้เรียบร้อยสมบูรณ์ดี   ซึ่งเรื่อง   เรือน   ๓   น้ำ   ๔   นี้   เธอเองก็เคยได้รับการอบรมสั่งสอนจากพ่อเช่นกัน   เรือน   ๓    น้ำ   ๔   พ่อเคยเล่าไว้มีดังนี้...

หมายเลขบันทึก: 431839เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2011 15:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

เรื่องหญิงสาว  ชื่อจันทร์ วันละนิด            แทรกข้อคิด คติธรรม  นำวิถี

เป็นเรื่องราว  ของบิดร  สอนบุตรี             ของบุพพการีที่ยากจน

สั่งสอนลูก  ปลูกฝัง แต่ยังเด็ก                  วันละเล็ก  ละน้อย  พลอยส่งผล

ทั้งคำพูด พร้อมแบบอย่าง ทางครองตน       ไม่สับสน  ในหนทาง ก้าวย่างไป

เรื่องของจันทร์   วันละนิด ต้องคิดก่อน       ทุกบทตอน  ต้องกลั่นกรอง  ให้ผ่องใส

ค่อยค่อยคิด ค่อยค่อยเพียร  ขีดเขียนไป     สะสมไว้  เป็นผลงาน  ด้านประพันธ์

อันที่จริง  ก็เขียนไว้ ใคร่อ่านเล่น               มิได้เป็น  เช่นกวี   ที่เฉิดฉัน

จะเพลิดเพลิน มิเพลิดเพลิน มิสำคัญ          แค่ในนั้น  มีหลักธรรม นำเรื่องราว

จึงได้ยก ตัวละคร  พ่อสอนลูก                  นำมาผูก  เป็นบทตอน  สอนหญิงสาว

แทรกธรรมะ คติธรรม นำเรื่องราว               เป็นเรื่องยาว  ชี้เหตุการณ์  ที่ผ่านมา

 

นมัสการพระคุณเจ้า

  • ครูอิงเองก็นอนวันละ 4-5 ชั่วโมง เองค่ะ
  • แต่น่าเสียดาย ที่ใช้เวลาในการทำสมาธิ วิปัสนากรรมฐานน้อยมาก
  • ทำบ้างไม่ทำบ้าง รู้สึกว่าอำนาจฝ่ายต่ำจะยังมีอิทธิพลอยู่มาก
  • เวลาจะหมดไปกับการอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เสียมากกว่า
  • ทำงานในหน้าที่การงานบ้าง  เขียนบันทึกบ้าง
  • จะพยายามแบ่งเวลาไปทำสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตา  ให้มากขึ้นค่ะ 
  • ชอบบทกลอนของพระคุณเจ้า ไพเราะมากค่ะ 

กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ

หากพระเณรอุบาสกอุบาสิกาปฏิบัติธรรมต่อเนื่อง นอนวันละ 4 ชม. ผลแห่งสมาธิ และการฝึกสติย่อมปรากฏอย่างแน่นอน

ผมขอยืนยันด้วยประสบการณ์ตนเองครับ

เป็นพระบวชมาแต่เล็กแต่น้อย มาพรรณนาเรื่องความรัก คงจะไม่ละเอียดละออเท่าไร ขอบคุณคุณครูที่มาเยี่ยมชม ให้กำลังใจ จริงๆ ก็เขียนไว้ เป็นการรวบรวมข้อมูลต่างๆ บางอย่างไว้ จะได้ง่ายต่อการค้นสำหรับตนเอง คนอื่นผ่านมาอ่านก็ถือว่าเป็นกำไร

ขอบคุณอาจารย์ที่มาเติมเต็มเรื่อง ชาคริยานุโยค   คำว่า ชาคริยา คำนี้ แม้เอาไปตั้งเป็นชื่อคนก็เพราะ ความหมายก็ดี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท