บ้านแห่ เรือโบราณ


     เมื่อปีที่ผ่านมาชาวบ้านแห่ได้นำเรือเก่าอายุหลายร้อยปีขึ้นมาจากลำน้ำชี   เป็นเรือขุดลำใหญ่มาก   เมื่อได้เรือขึ้นมาแล้วชาวบ้านก็พากันทำพิธีรับขวัญ  สู่ขวัญตามประเพณี   บ้างก็อ้างว่าเป็นเรือของคนนั้นคนนี้ในสมัยเมื่อนานมาแล้ว   แต่ความเป็นจริงเป็นเช่นไรไม่มีใครทราบได้ ซึ่งต่อมาชาวบ้านก้พากันไปขอหวยบ้าง  ไ ปขอโชคลาภบ้างตามความเชื่อ   บ้างก็มีถูก   บ้างก็ไม่ถูก   แรกๆก็ถูก   เพราะต่างคนก็ต่างไป   หลายคนเข้าก็ได้หวยคนละตัว   ในจำนวนคนหลายๆ   คนก็ต้องมีคนถูกบ้างเป็นธรรมดา   แต่จะเอาแน่นอนกับเรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้

 

     เรื่องศรัทธาความเชื่อของคนนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน    แต่ในทางพระพุทธศาสนาท่านสอนก็ให้มีความเชื่อเช่นกัน   คือเชื่อในเรื่องของกรรม (กัมมสัทธา)   ผลของกรรม   (วิปากสัทธา)  เชื่อว่าทุกคนเป็นผู้มีกรรมเป็นของ ๆ  ตน   (กัมมัสสกตาสัทธา)   และเชื่อในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า   (ตถาคตโพธิสัทธา)    แต่ความเชื่อในที่นี้จะต้องประกอบไปด้วยเหตุด้วยผล   ด้วยปัญญา   บาลีเรียกว่า สัทธาญาณสัมปยุต   ไม่ใช่   อธิโมกขสัทธา   คือน้อมใจเชื่อโดยไม่ได้พิจารณาอะไรเลย    ที่ว่าเชื่อในเรื่องของกรรมก็เช่นกัน   ไม่รู้ว่าชาวบ้านจะเข้าใจคำว่ากรรมนี้ในลักษณะไหน   หรือจะเข้าใจว่า   กรรมคืออำนาจลึกลับที่มองไม่เห็นตัวและสามารถดลบันดาลให้คนประสบสิ่งไม่ดี   ถ้าเข้าใจอย่างนี้ก็ผิด 

 

     กรรม แปลว่าการกระทำที่ประกอบไปด้วยเจตนา   ดังพระบาลีว่า เจตนาหํ   กมฺมํ   วทามิ   เรากล่าวเจตนานั่นแหละคือกรรม   เจตนาก็คือความตั้งใจ   แต่คนเราชาวบ้านผู้ห่างไกลศาสนาไม่ได้เข้าใจอย่างนี้   กลับคิดว่ากรรมเป็นคำที่ใช้ในทางที่ไม่ดีอย่างเดียว   เช่น   เป็นกรรมเป็นเวร   อะไรทำนองนี้   จริง  ๆ  แล้วกรรมเป็นคำกลาง  ๆ   แปลว่าการกระทำ   ใช้ได้ทั้งทางดีและทางไม่ดี   การกระทำที่ดี   เรียกว่ากุศลกรรม   การกระทำที่ไม่ดี   เรียกว่าอกุศลกรรม    อันนี้คือเรื่องของกรรมโดยย่อ    เรื่องกรรมนี้มีสิ่งที่ให้ศึกษามาก 

 

      พูดถึงเรื่องเรือโบราณแรก  ๆ   ก็นิยมกันนัก   แต่ปัจจุบัน   นี้ก็เงียบเหงาเป็นธรรมดา   ที่จริงน่าจะทำเป็นแหล่งเรียนรู้   เป็นของโบราณ   ศึกษาถึงเรื่องวิถีชีวิตคนในอดีต     แต่คนที่ไปดูเรือเก่าลำนั้นจะได้ข้อคิดอะไรบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้    ที่จริงถ้าคิดในเรื่องของธรรมะ ก็คิดได้หลายอย่าง    คือทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ภายใต้กฏของไตรลักษณ์   คือ   อนิจจัง   ไม่เที่ยง   ทุกขัง   เป็นทุกข์   อนัตตา   ไม่มีตัวตน  คือ   มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น   แปรปรวนไปในท่ามกลาง ดับสลายไปในที่สุด   แม้ในเรื่องศรัทธาของชาวบ้านก็เช่นกัน   แรก ๆ ศรัทธาก็มาแรง   แต่ปัจจุบันนี้ก็หดหายไป     ตามกฎธรรมดาธรรมชาติ    แต่ก็ขออนุโมทนากับความสามัคคีที่สามารถเอาเรือขึ้นจากลำน้ำชีได้   และสภาพเรือก็สามารถประกอบเป็นลำเรือได้ ว่าลำใหญ่ขนาดไหน

                         

                           เรือขุดลำใหญ่นี้         เป็นพยาน

                    บอกบ่งความโบราณ        เก่าแท้

                   อายุนับประมาณ                คงจะ  มากนา

                  ที่สุดยังพ่ายแพ้                   กฏข้ออนิจจัง

  

 

 

หมายเลขบันทึก: 431324เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2011 22:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

นมัสการหลวงพี่

  • ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันนะคะ

ขอบคุณคุณหมอ ที่มาเยี่ยมชม ต้นคันมอนที่ว่า คนละต้นกันจริงๆ

พระคุณเจ้าครับ ผมมาหาความที่นี่บ่อยๆ ถ้าชาวพุทธอ่านและศึกษามากว่าการเชื่อตามๆกัน ผมว่าการพบเรือจะมีความหมายมาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท