รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์)
รัชดาวัลย์ วงษ์ชื่น(อิงจันทร์) ครูตาล วงษ์ชื่น

เรื่อง "มิดีมิร้าย" แค่อยากบันทึกไว้ให้ลูกอ่าน


        วันที่ ๖ เมษายน ของทุก ๆ ปี  นอกจากจะเป็นวันสำคัญที่เกี่ยวข้องสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ยังเป็นวันที่เด็กชายคนหนึ่งลืมตามาดูโลกคุณพ่อตั้งชื่อให้ลูกว่า  ยศพล  ส่วนฉันผู้เป็นแม่ตั้งชื่อสั้น ๆ ว่า "ภูมิ" (พูม)  เพราะต้องการเตือนสติลูกว่า เรามาจาก "ดิน"  ส่วน "ต้นน้ำ" คือชื่อที่ลูกใช้เป็นนามแฝงนโลกอินเทอร์เน็ต จากสภาพครอบครัว ที่เริ่มจุดร้าวตั้งแต่ภูมิยังอยู่ในครรภ์ ทำให้ "ภูมิ" ต้องกลับไปลืมตาดูโลกที่บ้านเกิดของตัวเอง นั่นคือ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) จังหวัดสงขลา  และได้รับการเลี้ยงดูจากคุณตาคุณยาย จนกระทั่งอายุ ๓ ขวบ

        เด็กชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง เติบโตขึ้นมา จากการเลี้ยงดูของแม่ แม่ที่มีความกังวลตลอดเวลาว่า จะเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีได้อย่างไร  หลายครั้งที่ลูกแสดงอาการก้าวร้าว  โมโหง่าย  ขี้หงุดหงิด  แต่ฉันก็พยายามคิดว่า สิ่งเหล่านี้อาจเกิดจาก ความผิดพลาดของฉันขณะที่เขาอยู่ในครรภ์  เพราะฉันไม่ดูแลจิตของตัวเองให้ดี  ฉันพ่ายแพ้ต่อแรงกดดันภายนอกมากไป คิดถึงคนอื่นมากกว่าความสมบูรณ์ของลูกที่อยู่ในครรภ์  ถึงแม้ฉันจะดิ้นรนอุ้มท้องโย้ ๆ ไปปิดทองฝังลูกนิมิตวัดต่าง ๆ ทั้งในจังหวัดประจวบฯ และในจังหวัดเพชรบุรี จนครบ ๙ วัด  แต่ก็ไม่ได้ทำให้จิตแข็งแกร่งพอที่จะส่งผลถึงลูกในครรภ์ได้ 

        ณ วันนี้ ๑๓ ปีผ่านไป ขณะนี้ภูมิเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓  ภูมิ คือเด็กชายที่สร้างความภูมิใจให้กับแม่  ถึงแม้ลูกจะเรียนไม่เก่งในหลักสูตรที่ถูกบังคับให้เรียน  แต่ลูกก็เก่งใน "หลักสูตรชีวิต"  สามารถทำสิ่งต่าง ๆ นอกหลักสูตรได้อย่างสมวัย ไม่ว่าจะเป็นด้าน ไฟฟ้า  ประปา  จักรยานยนต์ กีฬาบาสเกตบอล  เล่นกีตาร์  ร้องเพลง  เต้นบีบอย วาดภาพ เริ่มขับรถยนต์ให้แม่นั่ง   โดยเฉพาะด้านคอมพิวเตอร์ "ภูมิ"มีเว็บไซต์เป็นของตนเองคือ

 http://www.virus-dee.com/ เป็นสถานีเพลงสำหรับเด็กวัยรุ่น ฝึกจัดรายการเพลง แบบดีเจที่จัดรายการวิทยุ มีดีเจร่วมทีมด้วย ๕ คน หมุนเวียนกันจัดรายการ  ฉันเคยแอบฟังลูกเวลาเขาจัดรายการหน้าคอมฯ เขาก็พูดได้ดี  รู้จักนำเรื่องราวที่เป็นข้อคิดมาพูด  หากวันใดเป็นวันสำคัญ เขาก็จะพูดถึงวันสำคัญนั้น เช่นการเตือนภัยเรื่อง คลื่นสินามิ 

          นอกจากนี้ภูมิยังสร้างและดูแลเว็บไซต์ให้โรงเรียนของคุณพ่อ ความสามารถของลูกทำให้ "พ่อ" หันกลับมาทำหน้าที่และแสดงบทบาทของความเป็น "พ่อ" มากขึ้น ดูแลครอบครัวมากขึ้น เพราะมีเรื่องให้พูดคุยกันมากขึ้น เมือ่พ่อมาเยี่ยมลูกครั้งคราใด ก็มักจะนั่งหน้าคอม อัพเว็บไซต์ ใส่ภาพบ้าง ใส่เสียงเพลงประจำโรงเรียนบ้าง ทำให้พ่อลูกผูกพันกันมากขึ้น 

         ภูมิสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างในบ้านได้  ดูแลแม่ และน้องยามเจ็บป่วย  ดูแลแม้แต่การแต่งกายของแม่ยามต้องออกไปร่วมงานเลี้ยง  หรือไปเที่ยว รูดซิปหลังให้แม่ยามที่แม่ใส่ชุดแซ็ก

        ใครบอกว่าไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้  สำหรับภูมิแล้วเขาทำได้ รวมทั้งการคอยเตือนแม่ในเรื่องต่าง ๆ "แม่!! ชุดนี้ไม่สวยเลยใส่แล้วอ้วน   แม่!! ใส่ชุดนี้ดีกว่านะ" แม่!!  จ่ายค่ำไฟฟ้าแล้วยัง แม่!! จ่ายค่าเน็ตแล้วยัง (อันนี้สงสัยกลัวอดเล่นเน็ต) แ !!ปิดเตาแก๊สแล้วยัง  แม่!! ดอกไม้หน้าพระเหี่ยวแล้วนะ แม่!! รถต้องถ่ายน้ำมันเครื่องแล้วนะ โซ่หย่อนแล้วนะ และ อีกจิปาถะ  

  

      ๑๒ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา "ภูมิ" บอกรักแม่ด้วยเกียรติบัตรจากโรงเรียน มอบให้ในวัน "ครอบครัวอรุณ" คือ เกียรติบัตร

          "นักเรียนผู้มีความประพฤติดี" 

เป็นที่ชื่นชมของคุณครูหลาย ๆ ท่าน แม้ลูกจะไม่โดดเด่นด้านวิชาการ  แต่ลูกคือผู้นำในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน เป็นที่รักของคุณครูและเพื่อน ๆ ทุกคน เกียรติบัตรใบนี้ถือเป็นเกียรติบัตรที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับแม่ แม้แต่คนเป็นพ่อก็ "ปลื้มใจ"รีบบินตรงมารับลูกเดินทางไปรับเกียรติบัตรด้วยตนเอง

 

        "แม่ครับ...ลูกอยากไปเรียต่อที่อินเดีย ถ้าลูกสอบชิงทุนไม่ได้แม่จะส่งลูกไปเรียนได้มั้ย"

        ฉันแปลกใจกับคำถามของลูกมาก เพราะลูกเคยเล่าให้ฟังเสมอว่า เพื่อน ๆ หลายคนไปเรียนต่อเมืองนอก เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น  ออสเตรเลีย  แต่ลูกฉันมาแปลก  อยากไปเรียนต่อที่อินเดีย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเรื่องการไปเรียนต่อเมืองนอกไม่เคยอยู่ในความรู้สึกนึกคิดของฉันเลย

        "แม่รู้มั้ย คนอินเดียหน่ะ เค้าเก่งคอมพิวเตอร์ที่สุดเลยนะแม่""ลูกชอบทางด้านนี้ และลูกก็จะเรียนต่อสายนี้" ลูกอธิบาย  ฉันก็ยังงง ๆ อยู่ดี

       "ลูกจะไปอยู่ได้เหรอ ลูกรู้เหรอว่าอินเดียหน่ะเขาอยู่กันอย่างไร สภาพประเทศเค้าเป็นอย่างไร"

       "โธ่แม่  ถ้าเราไปเรียนเราก็ต้องเรียนมหาวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็ต้องอยู่ในเมือง ไม่กันดารหรอกแม่"

       "เอาเถอะ ลูก  ค่อย ๆ คิดก็แล้วกัน  เหลือเวลาอีกตั้ง ๓ ปี ลูกต้องเรียนให้จบที่นี่ก่อน ถึงเวลานั้น ลูกอาจเปลี่ยนใจก็ได้"

      "แต่ลูกจะพยายามสอบชิงทุนให้ได้ ถึงเวลานั้น แม่ก็จะได้ไปเที่ยวอินเดีย ที่แม่อยากไปไง"ประโยคหลังนั้น ลูกพูด เพราะคงจำได้ว่า ฉันเคยตั้งใจจะเดินทางไปกราบพระ ที่อินเดียกับทัวร์ธรรมะคณะหนึ่ง แต่ก็มีเหตุบังเอิญให้มิอาจไปได้  แต่ใจก็ยังตั้งใจว่าจะไปให้ได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

     

         ๒๕ กุมภาพันธ์ นี้  "ภูมิ" จะต้องเดินทางไปเรียนต่อในระดับมัธยมปลายที่จังหวัดสงขลา ฉันรู้สึกเหงาจับใจล่วงหน้า ใจหนึงก็ไม่อยากให้ลูกไป แต่ต้องตัดใจเพื่ออนาคตของลูก และลูกก็เป็นคนเลือกเองว่าจะกลับไปเรียนที่บ้านเกิด  แม้ฉันจะบอกว่าถ้าลูกไม่อยากเรียนที่โรงเรียนเดิมก็ไปเรียนที่อื่น พร้อมทั้งเสนอชื่อโรงเรียนทั้งในกรุงเทพฯ เพชรบุรี นครปฐม แต่ลูกก็ไม่ยอมเปลี่ยนใจ และยืนกรานว่า

       "ลูกไม่ไปเรียนต่อในกรุงเทพฯแน่ ลูกไม่ชอบ อยากกลับไปเรียนที่หาดใหญ่ ตอนเย็นหลังเลิกเรียน ลูกจะไปตั้งแผงขายของที่ถนนคนเดิน จะได้เก็บเงินไว้เยอะ ๆ เผื่อสอบชิงทุนไม่ได้"ลูกยังคงพูดด้วยอารมณ์ดี

       ฉันมิอาจเดินทางไปส่งลูกที่หาดใหญ่ได้ เนื่องจากมิอาจทิ้งภารกิจการงานไปได้ และมิอาจทิ้งหรือนำน้องต้นกล้าไปด้วยได้ ลูกจึงเต็มใจที่จะเดินทางตามลำพัง 

       นับเป็นการเดินทางครั้งแรก หากไม่นับการเดินทางที่ลูกเดินทางไปเที่ยวดรีมเวิลด์ ซึ่งตอนนั้นลูกยังเรียนแค่ชั้นประถมสี่ และต้องดูแลน้องชั้นประถมหนึ่งด้วย ฉันจึงมั่นใจว่า ลูกจะต้องเดินทางคนเดียวได้แน่นอน แม้จะหวั่นไหวอย่างไร ก็มิอาจแสดงออกให้ลูกเห็นได้ กลัวจะเป็นการลดความมั่นใจในตัวเองของลูก

       วันนี้เห็นลูกจัดกระเป๋าเดินทาง นอกจากกระเป๋าเดินทางเพียง ๑ ใบแล้วลูกเตรียมสิ่งของที่จะนำไป เพียง 2 ชิ้น คือ กีตาร์  และ โน้ตบุ๊ค  ฉันรู้สึกใจหายพิกล ก็เราไม่เคยจากกันเลยนี่นา 

        แม่ขออวยพรให้ลูกเดินทางด้วยความปลอดภัยแม่เชื่อว่าลูกดูแลตัวเองได้  และเชื่อเหลือเกินว่าลูกจะต้องทำได้และสมหวังในสิ่งที่ลูกหวังอย่างแน่นอน "เชื่อใจลูก" นะ

                               

                                         

หมายเลขบันทึก: 428029เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2011 20:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

สวัสดีค่ะ

เหมือน...ป้าคิมได้ยินเสียงน้องภูมิด้วยทุกถ้อยคำค่ะ  อ่านแล้วไม่รู้น้ำตาของป้าคิมไหลได้  เพราะปราบปลื้มมากกว่านะคะ

ขอเป็นกำลังใจให้น้องภูมิได้ฝ่าฝันไปถึงฝัน  "ฝันเท่านั้นที่จะสมหวัง"  ป้าคิมเชื่อค่ะ  เพราะป้าคิมได้ประสบความฝันตามที่หวังเสมอ

ขอให้เดินทางปลอดภัย คราวหน้าจะเล่าเด็ก ม.๓ ญาติของป้าคิมชื่อ ณภพ พงษ์เจริญ  เป็นเด็กเกเร  พ่อแม่จึงส่งไปอินเดีย  เดี๋ยวณภพเป็นคนดี คนเก่งค่ะ

  • สวัสดีครับ
  • เป็นกำลังใจให้น้องภูมิและคุณแม่อิงครับ
  • ชอบคำนี้ครับ "หลักสูตรชีวิต" ผู้ที่เก่งหลักสูตรนี้ได้ ต้องเข้าใจชีวิต แล้วจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข วันนี้น้องภูมิรู้ถึงถนัด ความชอบของตนเองแล้วครับ และสามารถวางแผนชีวิตของตนเองไว้แล้ว ซึ่งเด็กวัยขนาดนี้บางคนยังต้องให้พ่อแม่ดูแล แม้ว่าจะเก่งด้านการเรียนก็ตามรางวัล  "นักเรียนผู้มีความประพฤติดี" รางวัลที่ได้ บอกได้ว่าน้องไม่ธรรมดา ไปครั้งนี้เพื่อเติบโต แม้จะรู้สึกใจหาย เหงาใจไปบ้าง แต่จะสร้างให้น้องยืนหยัด และแข็งแกร่งในหลักสูตรชีวิต ขอให้เดินทางปลอดภัย และประสบความสำเร็จอย่างที่น้องตั้งใจครับ
  • พี่อิงตั้งชื่อลูกคล้ายๆ กับผมครับ ลีซอ ชื่อจริงคือ ภูสิน ภู ก็คือแผ่นดินครับ ส่วนตัวเล็กชื่อเล่นชื่อ แซน แปลว่า ทราย แต่บางทีก็เรียก ลีแซน บ้าง แซนวิช บ้าง ส่วนเจ้าสองคนนี้ เรียกตัวเองว่า บู ที่ตั้งอย่างนี้เพราะอยากให้ติดดิน กินง่าย อยู่ง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อครับ

สวัสดีค่ะพี่คิมIco48

  • น้องภูมิ เค้าโตขึ้นมากค่ะพี่คิม
  • เรียนไม่เก่ง แต่มีความคิดความอ่านเป็นของตนเอง
  • รู้จักที่เรียนรู้โลกภายนอก  ไม่น่าเป็นห่วงมากนักค่ะ
  • ที่น่าห่วงคือ "เจ้าภาคย์" ค่ะ  ยังอ้อนแม่  ยังต้องให้แม่นอนกอดอยู่เลยค่ะ
  • จะรออ่านเรื่องเล่าจากพี่คิม เรื่องของ ณภพ  นะคะ

แม่ฟูมฟักรักห่วงใยในตัวเจ้า          แม่ยังเฝ้าส่งใจไปรักษา

ถึงกายห่างวางใจในศรัทธา            แม่รู้ว่าลูกนั้นดีที่จิตใจ

โลกนี้กว้างทางนั้นไกลภัยมีมาก    แม่ขอฝากเทว้ญท่านเอาไว้

แม่เคยอยู่ดูแลแต่เยาว์วัย               เมื่อเติบใหญ่ให้โบยบินโผผินดู

โลกนั้นกว้างทางยังไกลไปให้ถึง      เริ่มนับหนึ่งจากอกแม่...แน่คุณหนู

สุดสายตาส่งใจไปคอยดู                ให้เจ้าอยู่อย่างรู้ว่า..."ข้าแน่จริง"

ภูมิคุ้มภัยแม่สอนไว้ได้รักษา          ยามภัยมาทบทวนดูรู้ทุกสิ่ง

ทุกคำสอนคือพรให้ในรักจริง         ขอลูกนิ่งพิจารณาครามีภัย

"วุฒิภาวะ" แม่สร้างไว้ให้เจ้าแล้ว     เดินตามแนวของคนดีที่เจ้าได้

สรรพสิ่งเข้ามาค้นหาใจ                 อย่าหลงใหลเผลอจิตคิดหลงทาง

วันแม่อยู่ยังดูได้ให้ปรึกษา              แต่กายามิทานทนจนใจขวาง

หากวันใดแม่ต้องไปสุดปลายทาง    แม่ย้งหวังเจ้าอยู่ได้สบายดี

ไปเถิดลูกผูกหัวใจแม่ไว้นะ             แม่คือพระอยู่สถิตจิตเจ้านี้

เมื่อมีภัยขอให้เจ้าเอาความดี          เป็นศรชี้นำทางห่างเพทภัย

"แม่รักลูก"...ลูกคงรู้อยู่ว่ารัก          แม่ขอฝากฟ้าดินอินทร์พรหมให้

โปรดปกป้องคุ้มครองลูกทุกวันไป   จนเติบใหญ่...ให้เจ้าดี...นี้คือ..."พร"   


           

ฝากอิงจันทร์ ค้นหาเพลง ไม่รู้ว่า้ชื่อเพลงอะไร ใครร้อง นำมาใส่กับกลอน "ความรักของแม่" แล้วนำไปขึ้นไว้ในบล็อก เพื่อเผยแผ่ความรักของแม่ให้ลูกๆได้รับรู้

เนื้อเพลง..............

ตื่นขึ้นมาแต่เช้า แม่หุงข้าวต้มปลา จวนจะได้เวลา ไปท้องนาอึกครา

เมื่อลูกจบจากการศึกษา แม่คอยตั้งตาชื่นชม ลูกอย่าหลงระเริงสังคม จงหวลคืนบ้านมา

ตาแม่มองลูกรัก วันที่เจ้าจากไป.........

น้องครูอิงครับ.....อ่านแล้วเกิดอาการคล้ายเกลอคิม

เผยความนัยครับ....วันที่โทรหาเมื่อเลิกประชุมที่ปราณบอกว่าเลิกประเร็วกว่ากำหนดแล้วจะนั่งรถไปลงทับสะแก แต่ครูบอกว่ามาประจวบกับครอบครัว จึงไม่อยากให้กังวล ผมจึงตัดใจบอกว่าอาศัยรถเพื่อนกลับพัทลุงแล้ว  แต่ความเป็นจริงผมขึ้นรถมาประจวบตั้งแต่เที่ยงวัน จองตั๋วรถไฟ ได้เที่ยว1 ทุ่ม จึงเรื่อยๆนอนอ่านหนังสืออยู่หน้าหาดประจวบครึ่งวัน น้อง"พูม"มาเรียนที่หาดใหญ่ เรายังได้ทะกันอีกแน่ครับ(ด้วยเชื่อมั่นและศรัทธา เหมือนน้องพูม ศรัทธาในอินเดีย)

สวัสดีค่ะ

ณภพ เป็นลูกชายคนเดียว  ของพี่ชาย (ลูกชายของคุณลุง) ค่ะ  เป็นเด็กถูกตามใจและอยู่โรงเรียนประจำเพราะแม่เสียชีวิตตั้งแต่เล็ก  โตขึ้นระดับมัธยมต้นจึงเป็นเด็กคบเพื่อเกเร  นำเด็กหญิงเข้าบ้านตั้งแต่อายุ ๑๔

ภายหลังญาติพี่น้องประชุมกันว่า "นำไปปล่อยที่อินเดีย  หากเกเรก็ได้ภาษากลับมา  เพราะที่อินเดียค่าใช้จ่ายไม่แพงเหมือนประเทศอื่น"

เมื่อณภพ  ไปอยู่อินเดียเขาเริ่มปรับตัว เพราะต้องต่อสู้ชีวิต หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ  ปีที่ ๒ เขาขอบวชที่โน่น  ก็บวชได้ ๒ ปี  เรียนไปด้วย

ศึกออกมาเรียนมหาวิทยาลัยที่อินเดียเลยค่ะ  จบปริญญาตรีกลับมาบ้านและกลับไปเรียนปริญญาโทต่อ 

มีแฟนชาวเยอรมัน  พบกันที่อินเดีย  ปัจจุบัน ณภพ  เขารักประเทศอินเดียเป็นรองประเทศไทยค่ะ

อยากได้น้องภูมิไปเป็นวิทยากร ดี.เจ.น้อยที่ ไทยรัฐวิทยา ๖๓ จังเลย ชื่นชม ชื่นใจแทนครูอิงครับ สำหรับผมกับผมจะสอนลูกทุกคนว่า ชีวิตใครชีวิตมัน เลือกทางเลือกที่ดีที่สุดให้ตนเอง แต่เราคงโชคดีที่เขามุ่งมั่นทำในสิ่งที่เขาชอบครับ

สวัสดีค่ะน้องชำนาญIco48

  • พี่อิงเป็นลูกชาวนา เลือดชาวนาเข้มข้นเสมอ
  • ลูกก็ต้องเป็นลูกชาวนาค่ะ อยากเลี้ยงลูกให้เป็นคนติดดินไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่หวังความเป็นเลิศ  หวังเพียงลูกเป็นคนดีมีคุณธรรม อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
  • ก็พอใจแล้วค่ะ 
  • ขอบพระคุณน้องชำนาญมากนะคะสำหรับกำลังใจที่มอบให้

สวัสดีครับครูตาล

สวัสดีค่ะคุณIco48วิโรจน์ พูลสุข

น้ำตารื้นขอบตาเมื่องฟ้าสาง         อักษราจัดวางอย่างสร้างสรรค์

บทกลอนสวยอวยพรใสให้ลูกอิงจันทร์      ในคืนวันลูกจากลาสู่แดนไกล

ซึ้งน้ำใจในคำ "เพื่อน" คอยเตือนจิต      กัลยาณมิตรดีหนักหนายากหาไหน

คอยเติมคำให้ "ทำดี" มี "ธรรมใจ"        เคยอย่างไรก็อย่างนั้นใจมั่นคง

แม้นมิใกล้แต่ห่วงใยในคำ "เพื่อน"         คอยย้ำเตือนให้ทวนจิตไม่ติดหลง

ลดฐิติ ให้อภัย รู้ใจปลง                      ช่วยเสริมส่งส่องใจหายขุ่นมัว

        

สวัสดีค่ะพี่ครูอิงมีความสุขกับลูกน้ำต้น นะคะ วัยสดใสกับการทำความดี รู้จักประพฤติดี ดีใจมากๆค่ะ แสดงว่าอนาคตเค้าก็จะอยู่ได้ด้วยตนเอง หมดหว่งจริงๆ ภูมิใจค่ะ

สวัสดีค่ะ...

  • คนเราถึงแม้เรียนไม่เก่ง แต่เป็นคนดีของสังคม...ใช้หลักสูตรชีวิต + ประสบการณ์ของตนเอง เท่านี้ แม่ทุกคนก็ภูมิใจแล้วค่ะ...
  • สำหรับลูกคนไหนที่เรียนเก่ง นั่นคือ "ทุนเดิม" ที่ติดตัวเขามาค่ะ...
  • ซึ่งแม่ก็ไม่รู้ว่าลูกคนนั้นมาจากที่แห่งใด บุญเก่าเขาอาจทำมาดีก็ได้ค่ะ...
  • ความเป็นแม่คน ลูกคนไหนจะเรียนเก่งหรือไม่เก่งนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับแม่...ขอแค่คำว่า "ให้ลูก ๆ เป็นคนดีของสังคม" ก็พอแล้วค่ะ...
  • เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
  • ขอขอบคุณสำหรับบันทึกเรื่องที่เกี่ยวกับแม่ - ลูก ค่ะ...

สวัสดีค่ะคุณวิโรจน์Large_img_23315275755

  • ใจตรงกันจริง ๆ ค่ะ กำลังจะขยับเม้นท์ของท่านไปเขียนบันทึกใหม่
  • ก็พอดีได้เวลาไปทำงาน
  • แต่เรื่องเพลงประกอบนั้น ครูอิงยังมิได้คิด
  • อ่านเนื้อเพลงที่ท่านเสนอมาก็ทราบได้ทันที
  • ชื่อเพลง "แม่"  ของนักร้องแฮมเมอร์ค่ะ
  • ตอนนี้ครูอิงนำบทกลอนของท่านไปเขียนบันทึกใหม่เรียบร้อยแล้ว นะคะ
  • ขอบพระคุณในความเป็นกัลยาณมิตรที่มอบให้ค่ะ

ขอบพระคุณ คุณศิลาIco48มากค่ะสำหรับดอกไม้กำลังใจ

มีความสุขเสมอ ๆ นะคะ

สวัสดีค่ะท่านพี่วอญ่าIco48

  • ยิ่งทราบความจริงแล้วยิ่งพรื้อโฉ้
  • วันนั้นครูอิงก็กระวนกระวายทั้งวัน  เพราะติดต่อท่านพี่ไม่ได้
  • จริง ๆ แล้ววันนั้นครูอิงไปเยี่ยมเพื่อนรุ่นน้องที่ชุมพรค่ะ  เพื่อนรุ่นน้องเขามีปัญหากับสามี ถึงบ้านแตก  เลยต้องไปปลอบใจเขาหน่อย
  • ถ้าท่านพี่บอกความจริง ไม่ปดว่า อาศัยรถเพื่อนกลับพัดลุงแล้ว
  • ครูอิงก็ต้องหาวิธีให้ท่านพี่มาพักที่บ้านครูอิงก่อนแล้วขึ้นรถไฟเที่ยว 4 ทุ่ม สบายมากเลยค่ะ
  • ทีหลังอย่าปดกันแบบนี้นะคะ  ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ เพียงแต่ต้องตั้งหลักคิดนิดนึง
  • วันนั้นหลังจากกริ๊งคุยกันครั้งสุดท้ายแล้ว ครูอิงก็พยายามกดหาท่านพี่อิง กะว่าจะนัดเจอกันที่ชุมพร(เพราะคิดว่าท่านพี่เดินทางด้วยรถส่วนตัวของเพื่อน)  แต่ติดต่อท่านพี่ไม่ได้เลย
  • ถ้าเป็นเด็กเป็นเล็กน่าจับมาเฆี่ยนนัก 

สวัสดีค่ะพี่คิมIco48

  • อ่านเรื่องราวของ ณภพ แล้ว 
  • ปลื้มใจที่ "ภูมิ" รู้จักคิด  ไม่เห่อเหิมตามเพื่อน ๆ ที่อยากไปเรียนต่อในประเทศอื่น ๆ
  • เขามีความมุ่งมั่นที่จะไปอินเดียค่ะ
  • บอกว่าถ้าลูกไปอินเดีย  ตอนแม่ไปเยี่ยมลูกภูมิ  ลูกภูมิจะพาแม่ไปกราบพระให้ทั่วเลย
  • ขอบพระคุณพี่คิมมากมายค่ะ ทั้งหน้าไมค์ และหลังไมค์

 

สวัสดีค่ะท่าผอ.Ico48

  • ณ วันนี้ ครูอิงรู้สึกภูมิใจในตัวลูก  ภูมิใจที่เขารู้จักคิด
  • รู้ว่าตนเองถนัดอะไร  ควรจะไปเรียนสายไหน
  • ภูมิใจที่ลูกคิดอยากไป อินเดีย  แทนที่จะไป ประเทศแถบยุโรป  หรือ ญี่ปุ่น
  • ขอบพระคุณท่านมากค่ะที่แวะเยี่ยมเยียนเป็นกำลังใจ

สวัสดีครับน้องยีนส์Ico48

  • ขอบใจมากนะครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน
  • เก่งมากครับ 

สวัสดีค่ะน้องครูตูมIco48

  • เพิ่งก้าวจากอกแม่ ยังน่าเป็นห่วงอยู่มากค่ะ
  • หาดใหญ่เป็นสังคมในเมือง  คล้าย ๆ กับกรุงเทพฯ
  • อาจทำให้ลูกหลงทางได้เหมือนกันค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์บุษยมาสIco48

  • ขอบพระคุณค่ะ 
  • ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
  • เกรงอยู่เหมือนกันค่ะ กลัวลูกจะหลงระเริงในสังคมใหญ่
  • หาดใหญ่ ก็น่ากลัวอยู่เหมือนกันนะคะ กับสิ่งล่อตาล่อใจ
  • แต่ก็ไว้ใจลูกค่ะ

สวัสดีค่ะ..พี่ครูอิงจันทร์

เต็มตื้น..ชื่นใจ..สำหรับคนที่ได้ชื่อว่า..แม่

ไม่ว่าจะ แม่ของเรา หรือเราเป็นแม่ของลูก

น้องต้นน้ำโชคดีที่มีแม่แบบ..พี่ครูอิงจันทร์

พี่ครูอิงจันทร์โชคดีที่มีลูกแบบ..น้องต้นน้ำ

ขออวยชัยให้พรให้น้องต้นน้ำพบแต่สิ่งดีๆและมีความสุข

ขอให้มีโอกาสได้เดินทางไปสู่ดินแดนในฝัน..ของตนเอง..ตามที่ใจปรารถนา

สวัสดีค่ะน้องครูเล็ก

  • ขอบพระคุณมากค่ะ สำหรับกำลังใจ
  • ความรู้สึกของพี่ตอนนี้ ห่วงลูก  เราไม่เคยจากกันเลย
  • เกรงอยู่บ้าง  เกรงเรื่องการคบเพื่อนค่ะ
  • เพราะลูกเป็นคนใจดี มองโลกในแง่ดี  ความใจดีของเขาอาจต้องตกเป็นเครื่องมือคนชั่วได้
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท