คำสอนของพ่อ(๒)


มาอ่านกันต่อครับว่าป๋าคิดอะไรออกและทำอย่างไรกับการสร้างเนื้อสร้างตัว

จักรยานคู่ชีพ 

         เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่ปลอดจากลูกค้า เขาได้เข้าไปปรึกษากับแม่ว่าให้คุณแม่ขายของชำต่อไป ถึงแม้ว่าจะได้กำไรเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็พอเป็นค่ากับข้าวไปวันหนึ่งๆ ก็พออยู่ได้ แม้ว่าจะอดๆอยากๆ ก็ต้องทำต่อไป ส่วนตัวเขาเองขอออกมาค้าขายเป็นอิสระด้วยลำแข้งของตัวเอง ขณะนี้ครอบครัวเขาแทบจะไม่มีเงินติดตัวกันเลย โดเฉพาะตัวเขาไม่มีเลย แต่บังเอิญเขาขอหยิบยืมจากเพื่อนคนโน้นบ้างคนนี้บ้าง รวบรวมได้เงินมาก้อนหนึ่ง ก็นำไปดำเนินงานตามแผนที่คิดได้ในคืนก่อนโน้นทันที คือใช้จักรยานซึ่งมีอยู่แล้วแบบกลางเก่ากลางใหม่ ไปซื้อสินค้าหลายๆอย่างจากตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง ไปขายที่อำเภอท้ายเหมือง แล้วซื้อสินค้าต่างๆจากอำเภอท้ายเหมือง กลับไปขายที่ตำบลโคกกลอย สลับกัน เขาทำอย่างนี้เรื่อยๆมา ปรากฏว่าได้กำไรงามพอสมควร เหนื่อยแสนเหนื่อยแต่ก็ทนเอา ปั่นจักรยานในวันหนึ่งๆก็หลายกิโลเมตร จนน่องโตแต่มีกล้ามเนื้อเป็นก้อนๆ เขาบอกว่าถ้าเป็นคนไม่อดทนก็คงจะเลิกไปตั้งแต่แรกๆแล้ว ครั้นนานวันเข้าความคิดในคืนนั้นก็เริ่มมองเห็นความจริงขึ้นมาบ้างแล้ว

            ด้วยความที่ตัวเองยากจน เมื่อขายของได้แต่ละบาทแต่ละวัน เขาพยายามเก็บหอมรอมริบ จะใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น อีกอย่างโดยปกติเข้าก็ไม่เป็นคนสุรุ่ยสุร่ายอยู่แล้ว อันนี้เป็นมาตั้งแต่เด็กๆ

            อยู่มาวันหนึ่ง หลักจากที่เขาเสร็จจากการขายของมาถึงบ้านแล้ว มีเพื่อนคนหนึ่งมาชวนไปเล่นการพนัน ตอนนั้นเขากำลังหนุ่มแน่นอยู่ในวันที่อยากจะศึกษาและหาประสบการณ์ด้านต่างๆ เขาก็เลยไปกับเพื่อนด้วยความอยากจะเล่น เขาคิดว่าคงจะได้กำไรมาไม่มากก็น้อย บ้านหลังนี้เป็นของคนจีนแต่เปิดเป็นบ่อนการพนันขนาดใหญ่ มีคนมาเล่นหลายสิบคน เล่นตอนแรกๆก็ดีเพราะได้กำไรมาเรื่อยๆ พอเล่นนานเข้าๆกลับเสียหมด ต้องยืมเงินเพื่อนมาเล่นแก้ตัว แต่แทนที่จะได้กลับเสียหมด วันนั้นหมดเงินแถมยังเป็นหนี้เขาอีกด้วย แล้วเขาก็มานั่งคิดว่า “เราหาเงินมาได้ด้วยความยากลำบาก กว่าจะได้แต่ละบาทน้ำตาแทบกระเซ็น แล้วทำไมจะต้องเอามาเล่นเสียหมดในชั่วเวลาไม่กี่ชั่วโมงอย่างนี้ เราไม่ควรประพฤติเลย” เมื่อคิดได้ดังนี้ “ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้” เขาไม่เคยแตะต้องมันอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นการพนันแบบไหนประเภทไหนก็ตาม ความทรงจำอันนั้นยังฝังใจผมอยู่จนเดี๋ยวนี้

ใฝ่หาความรู้

 

            แม้ว่าเขาจะไม่ได้เรียนต่อ แต่เขาก็ไม่อยู่เฉยๆ เขาเป็นคนชอบอ่าน อ่านหนังสือเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวกับอาชีพต่างๆ ชอบอ่านที่สุด ในช่วงที่เขาปั่นจักรยานขายของเป็นช่วงที่เขาสนใจอ่านหนังสือเกี่ยวกับอาชีพมากที่สุด เพราะเขาคิดอยู่ในใจว่าถ้าหากไปเจออาชีพที่พอจะทำได้ ก็จะเลือกอาชีพนั้นและลองทำดู เนื่องจากการปั่นจักรยานหนักมาก ขายของไปด้วยเวลาว่างก็หาหนังสือมาอ่านกลับถึงบ้านถ้ามีเวลาว่างก็อ่าน วันไหนไม่อ่านมันหงุดหงิดชอบกล ก็เลยต้องอ่านทุกวัน

            บังเอิญเขาไปเจอเอาหนังสือที่ดีเล่มหนึ่ง เป็นตำราเกี่ยวกับการถ่ายรูปชนิดเรียนด้วยตนเอง เขาก็เลยซื้อเอามาอ่านดู เขาอ่านตลอดทั้งเล่ม อ่านอยู่หลายเที่ยวแล้วลองเอาไปปฏิบัติดู ปรากฏว่ามันได้ผลคือ “อ่านแล้ว ทำได้” และในหนังสือเล่มนั้นเขารู้แจ้งแทงตลอด รู้ขั้นตอนการถ่ายภาพหมด รวมทั้งวิธีอัด-ล้างด้วย ก็เลยคิดขยับขยายเปลี่ยนอาชีพใหม่

            จากการที่ได้ศึกษาตำราการถ่ายรูปด้วยตนเอง ทำให้เขาเกิดความมั่นใจมากว่าต้องเปิดร้านถ่ายรูปได้แน่ๆ และต่อจากนั้นไม่กี่วันเขาก็เปิดร้านถ่ายรูปร้านเล็กๆ ที่บนชั้นสองของร้านชำที่บ้านนั่นเอง ค่าใช้จ่ายต่างๆก็ได้จากเงินที่เก็บหอมรอมริบตอนที่ขี่จักรยานขายของนั่นเอง แม้จะไม่มากนักแต่ก็พอจะเปิดร้านเล็กๆได้ และก็ทำได้จริงๆ เขาสามารถถ่าย อัด ล้าง  ขยายรูปได้เหมือนร้านใหญ่ๆทั่วไป เขาภูมิใจมากเพราะเขาศึกษาจากตำราเท่านั้น ไม่มีใครมาสอนสั่ง ปรากฏว่ามีลูกค้ามาใช้บริการมากพอสมควร อย่างไรก็ดี เขาเลิกขี่จักรยานเด็ดขาดแล้วก็ดำเนินกิจการร้านถ่ายรูปต่อมาเรื่อยๆ แต่เขาคิดอยู่เสมอว่าคนเราเมื่อเกิดมาแล้วต้องต่อสู้ดิ้นรนต่อไปจนกว่าจะพบความสำเร็จเท่าที่ตัวเองคิดว่าพอใจแล้ว

ตัวแทนจำหน่าย

 

            เมื่อปิดร้านถ่ายรูปแล้ว เขาก็มาเปิดร้านจำหน่ายเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ และจักรเย็บผ้า โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทที่มีชื่อแห่งหนึ่ง เป็นตัวแทนอยู่ประมาณ ๖ ปี การที่มาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าดังกล่าว เพราะเขามีนิสัยไม่ชอบอยู่เฉยๆ แต่เขาชอบพูดคุยแนะนำคนอื่น จะให้เขาพูดทั้งวันก็ได้ เพราะสนุกที่ได้พูดชี้แจงเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง เมื่อเขามารับหน้าที่นี้ จึงเข้ากับลักษณะนิสัยที่แท้จริงของเขา งานนี้เป็นงานหนักเพราะจะต้องเดินไปหาลูกค้า ต้องออกหาทุกวัน ได้บ้างไม่ได้บ้าง  แต่อาศัยที่เขาเป็นคนชอบอย่างนี้ แทนที่จะเหนื่อยมากหนักมาก ก็หนักพอประมาณ ปรากฏว่าเขาทำสถิติจำหน่ายได้สูงสุดจนได้รับเข็มเกียรติยศจากทางบริษัท และได้รับแต่งตั้งจากบริษัทให้เป็นผู้จัดการสาขาที่โคกกลอยด้วย ความจริงแล้วการเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทนี้ มันทำให้เขาได้รับประสบการณ์ในงานอาชีพธุรกิจนี้มาก ได้ประสบการณ์หลายด้าน ทำให้มีความคล่องตัวในด้านธุรกิจมากกว่าแต่ก่อนมากและประการสำคัญถือได้ว่า ในช่วงนี้เขาได้ประสบความสำเร็จในอาชีพและความสำเร็จในชีวิตด้วย

            ๑๕ ปีต่อมา เขาได้เปิดธุรกิจด้านน้ำมันขึ้นมาอีก คือ เปิดปั๊มน้ำมันที่ตำบลโคกกลอย คือที่บ้านเกิดของเขาเอง เปิดขายระยะแรกๆรายได้ไม่สู้จะดีนัก แต่ต่อมาได้ปรับปรุงบริการด้านต่างๆหลายอย่างเพื่อดึงดูดลูกค้าให้กันมาสนใจบริการของเขา เช่น อบรมชี้แจงลูกน้อง(เด็กปั๊ม) ให้รู้จักต้อนรับลูกค้า ให้ทุกคนมีมนุษยสัมพันธ์รู้จักทักทายลูกค้าขอบคุณลูกค้า บริการให้รวดเร็วทันใจลูกค้า ให้มีความสะดวกและสะอาดทั้งบริเวณปั๊มและตัวพนักงานด้วย แม้แต่ด้านการบริหารภายในปั๊ม เขาก็ให้ความเป็นธรรมแก่ลูกน้องทุกคนเสมอหน้ากัน ระยะหลังๆนี้ดีขึ้นมากแล้ว และในบรรดากิจการทั้งหมดของเขาขณะนี้ปั๊มน้ำมันทำรายได้ดีที่สุด(ใกล้จบแล้วครับ อิอิ)

หมายเลขบันทึก: 411739เขียนเมื่อ 2 ธันวาคม 2010 23:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:25 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

                         

เส้นทางชีวิตคุณพ่อของอัยการชาวเกาะนี่ทั้งเข้มข้น บากบั่น บุกเบิก ระหกระเหิน
หลากหลาย แต่ที่ต่อเนื่องและเพิ่มพูนความงอกงามไปตลอดบนการเปลี่ยนผ่านในแต่ละจังหวะของชีวิตก็เห็นจะเป็นความอดทน ความริเริ่ม การใช้ทรัพยากรที่มีอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด มีการเรียนรู้เพื่อจะเข้าสู่สิ่งใหม่ๆด้วยการเรียนรู้เพื่อปฏิบัติให้ได้อย่างดีที่สุด

ที่สำคัญคือมีหัวพลิกแพลงและมีความสามารถในการแก้ปัญหา ทำให้สิ่งที่เข้าถึงไดด้วยการปฏิบัติของตนเองเป็นโอกาสที่ดีไปหมดอยู่ตลอดเวลาเลยนะครับ

อ่านเรื่องแล้ว ให้คิดว่ากว่าแต่ละคนจะตั้งตัวก็ได้ลองทำมาหลายๆอาชีพ ชื่นชมป๋าท่านอัยการ เจ๋งมาก และเท่ห์สุดๆเลยค่ะ ด้วยจิตคารวะค่ะ

ป๋าเป็นคนเรียบร้อยมากครับ อ.วิรัตน์ ภาษาไทยไม่ผิดพลาด เขียนหนังสือสวย

ชอบประดิษฐ์สิ่งของเอง ป๋าเล่าว่าเดิมจะชื่อประดิษฐ์ อาจะชื่อจำเริญ แต่ตอนไปแจ้งเปลี่ยนชื่อจากชื่อจีนเป็นไทย(ก๋งมาจากเมืองจีน เป็นต่างด้าว)ไม่ทราบสลับกันอย่างไร ชื่อพ่อกลายเป็นจำเริญ ชื่ออากลายเป็นประดิษฐ์

ความที่ป๋าเป็นคนคิดประดิษฐ์ของเล่นเอง จึงทำให้เกิดความคิดในการพลิกแพลงอยู่เสมอ ส่งผลต่อการทำงานครับ

ขอบคุณครับน้องปู

วิธีคิดวิธีทำของป๋า เป็นแบบอย่างที่ดีได้จริงไหม

  • ตามมาจากตอนที่แล้วครับ
  • มาลุ้นต่อครับว่าป๋าของท่านอัยการชาวเกาะคิดอะไรออก..
  • ชีวิตพลิกผัน ที่สำคัญท่านกล้าเปลี่ยนแปลง(อาชีพ)มากขอชื่นชมครับ
  • ...การพนันควรหลีกให้ไกล
  • ...เป็นนักจัดการความรู้ตัวจริงเลยนะครับ
  • รออ่านตอนต่อไปครับ

ขอบคุณครับสิงห์ป่าสัก

บ้านผมไม่ติดการพนันเพราะมีบทเรียนของป๋า และผมก็มีบทเรียนเรื่องการพนันของผมเหมือนกัน แต่เป็นเรื่องเล็กน้อยสมัยเด็กแค่หมดไป ๑๐ บาท กับบทเรียนที่ซื้อสลากมาขายเพื่อนในชั้นเรียนและครูไม่เปิดกระเป๋าตรวจให้โอกาสในฐานะเป็นหัวหน้าชั้น เท่านั้นและไม่ชอบการพนันอีกเลย

สวัสดีครับท่านอัยการ

เส้นทางนี้ขี่จักรยานนับว่าสุดยอดแห่งการอดทน

(ไปซื้อสินค้าหลายๆอย่างจากตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง ไปขายที่อำเภอท้ายเหมือง แล้วซื้อสินค้าต่างๆจากอำเภอท้ายเหมือง กลับไปขายที่ตำบลโคกกลอย สลับกัน )

ขอบคุณที่นำสุดยอดความอดทนมาเล่า จะได้นำไปเป็นตัวอย่างเรื่องความอดทนให้ลูกหลานฟัง

ป๋าบอกว่ารถถีบยางตันด้วย หนักอย่างแรงเลยบัง สมัยนั้นหนนไม่ลาดหยาง ยิ่งหนักเข้าไปเหลย...

เอาไปสอนเด็กปานี้ได้เลย เพราะเด็กปานี้ไม่ค่อยมีความอดทน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท