ครอบครัวใหญ่ผมอยู่ที่ลำปางมีที่นา แต่ไม่ได้ทำ ผู้คนไม่เคยเรียกครอบครัวใหญ่ผมว่า ชาวนา แต่มีคนเรียกให้เหมาะสมกับครอบครัวใหญ่คือ นายทุนทึ่นา เราให้คนอื่นทำโดยแบ่งปันผลประโยชน์ลงตัวบ้างไม่ลงตัวบ้าง ไม่มีมาตรฐานกำหนดชัดเจนบางปีก็คนทำ 3 ส่วนเรา 1 ส่วน บางปีก็คนทำ 2 ส่วนเรา 1 ส่วน ครอบครัวใหญ่เราก็เดาเป็นว่าแล้วแต่ธรรมชาติและผลผลิต แต่ผมมันพวกสายวิทยาศาสตร์ คิดแบบฉลาดไม่ชอบคิดแบบปัญญา ก็ต้องการการพิสูจน์ว่าเพราะอะไรก็เลยตัดสินใจลงมือทำนากะจะได้พิสูจน์คู่ขนานไปด้วยว่าที่ชาวนาพูดนะจริงหรือไม่ โดยไปเซ้งที่แถวสระบุรี 25 ไร่ ราคา 140,000 บาท ตอนนี้บ้านผมอยู่อยุธยา โดยเอาเงินครอบครัวเล็ก(ผม ภรรยาและลูกๆ) มาใช้และหมดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นที่ยังไม่เริ่มลงมือทำอีก 80,000 บาท นี่แหละคืออาชีพ "รับจ้างทำนา" ของผมจึงได้เริ่มขึ้น นารอบแรกผมลงทุนปลูกโดยการหว่านก่อนข้าวรวงสวย สูงๆต่ำๆ ผลเจ๊งไม่เป็นท่า ชนิดเจ้าของรถเกี่ยวสงสารลดค่าจ้างเกี่ยวให้ก็เพราะไอ้ข้าวที่เห็นนั้นมันเป็นข้าวที่รถยังไม่ทันเกี่ยวมันก็ร่วงก่อนเข้าหัวเกี่ยวมันร่วงกับพื้น เจ้าของรถเกี่ยวลดราคาเราก็คิดว่าเขาเกี่ยวไม่ดีนะซิ เขาก็อธิบายว่านี่คืออีดีด มันจะดีดออกตอนเกี่ยว ก็สงสัยอีกนั้นแหละก็เลยปรึกษาเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยข้าวก็ถึงบางอ้อ จะอีดีด อีเด้ง อีแดง ระมานต่างๆมันก็คือข้าววัชพืชที่ราชการกำลังแก้ไขให้กับชาวนานี่แหละ รอบที่สอง ตัดสินใจทำนาดำแต่ก็ไม่สามารถทำได้ครบ 25 ไร่เพราะควบคุมน้ำไม่ได้และนาหล่มมากก็หว่าน ผลเจ๊งอีก จนคนที่ให้ที่เซ็งนาผมบอกว่าต้องจัดการเรื่องน้ำก่อน(ทั่งที่ตอนแรกก็บอกเราว่านาพร้อมทุกอย่างทั้งระบบทำได้เลย) คราวนี้ให้คุณแม่กู้ธกส.อีก 150,000 (ทำให้เหมือนชาวนา) ก็ " รับจ้างทำนา " อีกนั่นแหละเพื่อมาทำระบบน้ำและทำให้เห็นว่านาที่ดำไม่มีข้าววัชพืช ส่วนนาที่หว่านมีข้าววัชพืช เพียบ รอบสามปี 2550 นี้กะเต็มๆรอบสองแปลงนาดำให้ผลผลิตสูงกว่านาหว่าน ตัดสินใจซื้อรถดำนาพร้อมถาดเพาะกล้ามาทำนา หยุดงานเสาร์-อาทิตย์ลงมือเรื่องนา เหนื่อยมากเพราะเลือกซื้อรถดำรุ่นนั่งขับ กะว่าทำสบายๆแบบชาวนาญี่ปุ่น ที่ไหนได้ รถมันดำเร็วก็ต้องใช้กล้าเติมให้ทันด้วย ทำคนเดียวไม่ไหว นี่เป็นเพราะไม่ดูกำลังตัวเอง (ต้องวางแผนก่อนซื้อนะครับ) สุดท้ายจ้างคนมาช่วยถ้าย้อนได้ตอนช่วงเวลานี้ผมมีนา 25 ไร่ทำ 2 รอบก็ 50 ไร่ ผมเลือกรถดำนาเดินตามดีกว่าเหมาะสมทั้งรายรับและรายจ่าย เพราะถ้าจ้างคนมาดำจะมีต้นทุนรวมทั้งพันธุ์ข้าว ไถตกกล้าดูแล ถอน และดำ ด้วยแรงงานคน รวม 1,500 บาท x 50 ไร่ก็ 75,000 บาทต่อปี ราคาซื้อรถดำรวมถาด 2,500 ใบก็ 220,000 บาท ก็ 3 ปีคืนทุนจากราคาค่าจ้าง ถ้าขายข้าวด้วยก็หมดเร็วกว่านี้ เอาละก็ทำไปวันเพาะกล้าวันสองวันแรกสนุกวันที่สามชักเหนื่อยเหมื่อนกันเพราะใช้เครื่องเพาะแบบมือเข็นเพาะกล้า 2 คนกับภรรยาได้วันละ 300 ถาดทั้งขบวณการตั้งแต่บรรจุวัสดุเพาะลงถาด ยกมาโรยเมล็ด วัสดุปิดหน้า จนบ่มซ้อนถาด ที่ว่าวันที่สามเหนื่อยก็เพาะถึงเวลาเอาบางส่วนที่บ่มแล้วลงแผ่ในแปลงด้วย ก็อนุบาลกล้าในแปลงตามเจ้าหน้าที่แนะนำ(ตอนที่ผมซื้อร้านค้ายังไม่มีศูนย์เรียนรู้ แต่ตอนนี้เขามีการสอนที่ศูนย์ก่อนซื้อ) พอกล้าอายุครบ 18 วันก็ขนกล้ามาปักดำ จุดนี้แหละที่บอกว่าเหนื่อยมากเมื่อไม่ได้วางแผนตามสภาพการทำงานให้เหมาะกับรถดำ แนะนำถ้าใช้รถนั่งขับต้องมีคนประมาณ 3~4 คนคอยช่วยลอกกล้า ขนกล้าและดำ แต่ถ้าเป็นรุ่นเดินตามใช้ 1~2 คนก็ทำงานได้ ดำไปทุกวันให้สมกับลาพักร้อนด้วยที่ดำไปก็ไม่กล้าดูเพราะคนมาดูเพียบ รถติดหล่มเพราะมันเลยสเปครถต้องเสียเวลานำรถขึ้นหล่ม (ตรงนี้ขอแนะนำว่านาหล่มลึกไม่เหมาะกับรถแบบนั่งขับ ให้นำกล้าบางส่วนมาดำหรือโยนกล้าช่วยดีกว่า) มีเสียงแซวด้วยว่าจะได้ข้าวหรือเพราะในนาต้นกล้าทำท่าจะตายหรือไม่ตาย หอยก็กินตามต้องลงซ่อมแซม (ขอแนะนำให้กำจัดหอยเชอรี่ ด้วยสมุนไพร ที่ไม่ทำอันตรายต่อปลาก่อนดำจะดีที่สุด) ที่สุดแล้วการดำก็ผ่านพ้นไป ครบ 1 อาทิตย์มาดูใหม่กะว่าเป็นงัยเป็นกัน พระช่วยข้าวติดแล้วโดยใช้มือดึงต้นกล้าที่ดำแล้วมันตึงมือเลยถอนดูปรากฏว่ามันเกิดรากใหม่แล้ว รีบโทรฯบอกแม่ว่า " แม่เงินที่ผมกูธกส.ไม่สูญแล้ว " ข้าวมันรอดบางส่วนมันหายไปทั้งกอแต่ส่วนน้อยไม่เป็นไร รีบไปซื้อปุ๋ยอินทรีย์อัตรา 30 กิโลกรัมและเคมีสูตร 16-20-0 สำหรับนาดินเหนียว 10 กิโลกรัม มาผสมกันหว่านวันนั้นเลย หลังจากนั้นอีก 15 วันช่วงแตกกอสุดผมหว่าน 45-0-0 อัตรา 5 กิโลกรัมผสม 16-8-8 อีก 5 กิโลกรัมหว่าน ผลผลิตผมออกมาดี มีเงินจ่ายค่ารถและธกส.แปลงข้างเป่าหูเลยเดี๋ยวรอบต่อไปจะจ้างให้ผมดำ โอลั่นลามีอาชีพใหม่แล้วรับจ้างดำนา กำหนดราคาเลยไร่ละ 900 บาทตอนนั้น รอบสี่ ตัดสินใจกู้ธกส.ก้อนที่สองทีนี่ 180,000 บาทซื้อถาดเพาะกล้าได้มาราคาใบละ 30 บาท ซื้อ 5,000 ใบที่เหลือเอามาหมุนจ่ายค่าแรงค่าวัสดุเพาะกล้า ส่วนนาก็จะตัดสินใจใช้อินทรีย์เลยเพื่อจะขายข้าวได้อีกราคา งานรับจ้างดำนาเข้ามาเพียบตัดสินใจรับงานตามกำลังรถ 16 ไร่ต่อวัน จำได้ว่าเป็นกลุ่มรถดำนากลุ่มแรกๆที่รับจ้างดำวิ่งกันข้ามจังหวัด กว่าจะเสร็จ นาตัวเองจึงทำล้ากว่าคนอื่น จนการใส่ปุ๋ยไม่เป็นไปตามแผน วันสุดท้ายของการเก็บเกี่ยว อุแม่เจ้า! เจ๊งยับเยิน ไม่เจ๊งได้งัยก็วันที่ข้าวออกดอกดันเป็นช่วงอากาศหนาวดอกฝ่อซิครับมีแต่เปลือก ที่รู้ก็เพราะสงสัยจึงไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยข้าว เขาอธิบายให้ซะละเอียดเลย รอบห้าคำนวณแล้วตรงกับอากาศร้อนและโรคระบาดจึงไม่ทำรออีกซักหน่อย หันไปรับจ้างดำนาดีกว่า ผลปรากฏว่าพอจะกลับมาทำนาตัวเอง เฮ้ย! มีคนทำนาแทนเรา หาไปหามาว่าเป็นใคร ปรากฏว่าคนที่ให้เราเซ้งเอานาเราไปให้คนอื่นเซ้งต่อ โมโหก็โมโห แต่เอาเถอะเราก็คิดว่าค้าคนดีกว่าค้าความ แต่ก็เฝ้าดูตามนิสัยนักวิทย์ว่าคนที่ดื้อทำ มันจะได้ผลผลิตดีมั้ย สุดท้ายก็ผลผลิตต่ำกว่าผมและข้าววัชพืชขึ้นบานปล่อย เพลี้ยลง ให้เขาเกาหัวงงเล่น แต่ผมน่ะรู้แล้ว...และพิสูจน์แล้วโดยคุณทำแทนผม สุดท้ายก็ให้ค่าวิชาพร้อมอธิบายให้ฟังว่า ข้าวออกดอกกระทบร้อน และช่วงหน้าร้อนก็มีการระบาดของเพลี้ย ทำแค่ 2 ครั้งก็พอ และข้าววัชพืชนั้นนาหว่านมันเอื้อให้ข้าวพวกนี้โตเร็ว แก้ด้วยอะไรก็ไม่หาย ต้องแก้ด้วยนาดำเท่านั้น และถ้าจะดำก็จ้างผมได้ เพราะผมรูว่านาที่คุณทำนั้นผมทำมาก่อน ตอนนี้ก็หาที่ใหม่ทำตามเหตุผลที่ทนทำ เพราะผมเป็นนักคิดแบบฉลาดที่ต้องลงทุนและทำเอง ไม่ใช่นักคิดแบบปัญญา ที่อาศัยการต่อยอดก็งานจบเร็ว ปัจจุบันยัง รับจ้างทำนา จ่ายค่างวดให้เงินครอบครัวเล็กและธกส. ส่วนสมองก็อุทิศให้สังคมและสิ่งแวดล้อม ความเป็นต้นแบบ วิสาหกิจชุมชน บุคคลทั่วไป ครับผม
สวัสดีครับท่านบันทึกนี้ต้องบอกว่า
"เรียนรู้ด้วยการฝึกหัด ปฎิบัติเพื่อหวังทางศึกษา ทดลองลงทุนทำเพื่อชีวิตวัฒนา จะได้ใช้วิชาบริหารงานสังคมด้วยการด้วยการทำจริง
ดีใจมากที่ได้ ลปรรกันครับท่าน
มาสวัสดียามเจ๊าครับ อ้ายต๋อง
บรรยาย แบบว่าไม่มีภาพประกอบแต่ก็เห็นภาพ ได้ครับ
share ครับ
ผมเคยถามเกษตรกรตัวจริง หลายท่านว่าทุกครั้งที่เจอว่า ระหว่างข้าว "ข้างนา" กับ "ข้าวกลางนา"
พื้นที่ไหนรวงข้าว น้ำหนักรวง ดีกว่ากัน .................
คำตอบ "ข้าวข้างนา ครับ " เพราะ ข้าวกลางนาเบียดเเย่งเเสงกัน แต่ข้างนา ได้รับเเสงเต็มที่ อากาศถ่ายเทได้ดี ...........แต่ข้างนาเป็นพื้นที่ส่วนน้อยครับ ....
ธรรมชาติของพืชทุกชนิดต้องการ "แสงเเดด" เพื่อการเติบโต อย่างเเข็งแรง
จะได้เต็มที่ก็ต่อเมื่อ เกษตรกร ต้องจัดระเบียบการปลูก ให้ข้าว ได้รับแสงเเดด อย่างเต็มที่ดีเหมือนข้างนา ทั้งเเปลง ...เพิ่มผลผลิต และก็ลดต้นทุนค่าปุ๋ย ได้ครับ
*** มาให้กำลังใจผู้ผลิตข้าว - กระดูกสันหลังของชาติไทยค่ะ ! ***
" สุขสันต์วันลอยกระทงนะคะ "
ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้ ทำอย่างไรกันดี ใครคิดสูตรสำเร็จ หนีหนี้ได้บอกกันบ้างครับ
ขอบคุณอ๋ายต๋องมากครับ เป็นการยืนยัน จากการพิสูจน์เชิงประจักษ์ว่า
"โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" There is no such thing as a free lunch
ถ้าจำเป็นต้องลงทุน ....ต้องคิดยาว ๆ ครับ
จ่ายแล้วหมดไป ="ค่าใช้จ่าย"
จ่ายแล้วกลับมา = "การลงทุน"
ไม่มีประสบการณ์ใดได้มาโดยไม่ได้ "ลงทุน" แน่นอน
พอจะสรุป ดังนี้ "นาหว่าน นาโยนมั่วซั่ว"
สมการการทำนา
นาหว่าน :3 ถังต่อไร่ =ข้าวงอกในนา =หญ้างอกพร้อมข้าว =ฉีดยาหญ้า=ข้าวเฉา = ใส่ปุ๋ย=ข้าวเขียวอวบ=แมลงลง=ฉีดยา=ตาย
ต้องตั้งคำถามว่าที่ผ่านมาใครส่งเสริม
นาโยน = ไร้ระเบียบ=หญ้าขึ้น =ฉีดยาหญ้า=ข้าวเฉา = ใส่ปุ๋ย=ข้าวเขียวอวบ=แมลงลง=ฉีดยา=ตาย
ข้อมูลประกอบ
ข้อมูลเพิ่มเติม
1.Aging Society จะเกิดอะไรขึ้น? ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป เมื่อ "อายุ ไม่เข้าใครออกใคร เกษตรกรต้องเตรียมตัวให้พร้อม ก่อนแก่"
http://gotoknow.org/blog/supersup300/407780
2.ระบบการเพิ่มผลผลิตข้าว S.R.I “Achieving More with Less: A new way of rice cultivation" “ผลิตให้มากขึ้นด้วยทรัพยากรที่น้อยลง: หนทางใหม่ในการเพาะปลูกข้าว”
http://gotoknow.org/blog/supersup300/405066
3.ทางเลือกในการผลิตข้าว "เมื่อการทำนา คือ การลงทุน ที่ไม่รู้ผลตอบแทน"
http://gotoknow.org/blog/supersup300/404456
4.การเลี้ยงเป็ดในนาข้าว ก้าวสู่เกษตรอินทรีย์ ในไต้หวัน ญี่ปุ่น
http://gotoknow.org/blog/supersup300/404338
5.Q:ประสิทธิภาพการจัดการเเปลงนาหลังการเก็บเกี่ยว อยู่ที่ไหน
A:อยู่ที่ "ทัศนคติ" ที่มีต่อฟางข้าว และเพื่อนร่วมโลก
ผมไม่ถนัดการทำนา ผมชอบปลูกป่า จึงไม่มีความสามารถที่จะแนะแนว
oho! ส่งลูก Go to school กลับมาส่งตัวเอง Gotoknow ขอบคุณทุกความคิดเห็น
ผมชอบเพลง ศรัทธา ของหินเหล็กไฟ และผู้ชนะ ของเสก โลโซ แนะนำให้ฟังสร้างกำลังใจดีมาก
ผมรับปากคราวหน้าจะทำเป็นภาพ ให้เห็นผลผลิตที่เป็นความจริง ตอนนี้เรียนตามตรงมือใหม่อยู่ สำหรับ GTKnow
ผู้ปลูกป่าครับ ที่บ้านผม"ลำปาง"ผมก็ปลูกสักทอง และตอนนี้กำลังศึกษายางพารา ว่าที่ลำปางจะปลูกแล้วให้ต้นและน้ำยางดีมั้ย
ใครรู้ถ่ายทอดกันหน่อยนะครับ....บอกเล่าแบบสู่กันฟังด้วย..คร๊าบพี่น้อง
สะใจครับ /สะใจที่ลุยได้สุดๆ ถ้างั้นผมใช้เครื่องดำนาแบบเดินตามน่ะเหมาะแล้ว เพราะผมไม่ได้หวังว่าจะรับจ้างดำนา แต่อนาคตไม่แน่ ฟังดูแล้วก็เจอปัญหาเดิม คือหาแรงงานยาก อีกอย่างคือแกลบดำเพาะกล้าหายากอยู่เหมือนกัน ปัตตานีไม่มีโรงสีข้าวครับ ที่มีก็เล็กๆ แกลบน้อยไม่พอใช้ ขนาดซื้อเครื่องดำนามาเป็นปี กว่าจะได้ดำเป็นครั้งแรก แต่ท้ายที่สุดก็ประสบความสำเร็จครับ ดำได้ แม้จะไม่เสมอทุกกอเพราะกล้าโดนน้ำท่วม แต่ก็เอาต้นที่ติดนั่นแหละกระจายออกไป ก็ใช้ได้ครับ ดีกว่าทำนาหว่านเยอะ