การประชุมวิชาการ KPI ครั้งที่ ๑๒ ที่มากกว่าการงานบนเวทีของนักวิชาการ...(อัลฮัมดุลิลละฮฺ)
อัลฮัมดุลิลละฮฺ (ขอบคุณพระเจ้า)...เมื่อวันที่ ๔-๖ พ.ย. ๒๕๕๓ ที่ผ่านมาคณะทำงานเสียงเล็กๆเพื่อสันติภาพได้รับเกียรติจากสถาบันพระปกเกล้าให้เข้าร่วมงาน KPI ครั้งที่ ๑๒ (การประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า) ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ โดยการประสานงานจากสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ที่มีลุงเอก (ท่านพลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ) เป็น ผอ.สำนัก การเข้าร่วมงานของคณะทำงานเสียงเล็กๆเพื่อสันติภาพในครั้งนี้ได้รับความอนุเคาระห์ในการเดินทางและอำนวยความสะดวกในเรื่องที่พักเป็นอย่างดี ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณคุณประภาพร จากสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล มา ณ โอกาสนี้ด้วย และขอบคุณ สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า ท่าน ผอ.ดร.ถวิลวดี บุรีกุล ที่ให้โควต้าเข้าร่วมงาน มา ณ โอกาสนี้เช่นกัน
(ฉากทัศน์บนเวทีในงาน)
การประชุมวิชาการในครั้งนี้ได้รับฟังการปาฐกถาจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีใจความตอนหนึ่งว่า... "...สภาพความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงสองปีที่ผ่านมาแท้จริงแล้วมีรากฐานมาจากความไม่เป็นธรรมของโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคม ด้วยเหตุนี้การแก้ไขปัญหาการเมืองการปกครองจึงไม่ได้อยู่แต่ในเรื่องประชาธิปไตยเท่านั้น..." ข้อความตอนหนึ่งดังกล่าวนี้ค่อนข้างเห็นด้วยว่าการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองนั้นไม่ได้อยู่เฉพาะเรื่องประชาธิปไตยเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วคำว่าประชาธิปไตยเต็มใบ คือ อะไรก็ไม่มีใครสามารถให้้นิยามที่แท้จริงได้ ความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เกิดขึ้นยังคงมีให้พบเห็นอยู่ร่ำไป
(คณะทหงานเสียงเล็กๆเพื่อสันติภาพ จากภาคส่วนต่างๆ)
สิ่งหนึ่งที่ผมอยากเห็นและอยากให้เห็นเป็นรูปธรรมมากกว่านี้คือเรื่องของการจัดการศึกษาที่เต็มใบ เข้าใจ และเข้าถึงการพัฒนาทุกพื้นที่อย่างแท้จริง ในที่นี้ผมขอยกตัวอย่างงานทางการศึกษาที่อยากให้ผลักดัน คือ การพัฒนาการสร้างหลักสูตรสมานฉันท์ในพื้นที่อย่างแท้จริง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจบริบทของพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะหากจะต้องปล่อยให้สถานศึกษาออกแบบหลักสูตรที่แม้จะบอกว่าเป็นหลักสูตรท้องถิ่น แต่ดิ้นรนอยู่บนพื้นฐานการเอาตัวรอดในการวัดค่าคุณภาพทางการศึกษาด้วยระบบการแข่งขันทางการศึกษา ผมมองว่าคำว่าหลักสูตรสถานศึกษาก็เป็นได้แค่เพียงภาพฝันที่อยากทำมันให้เป็นจริง
สิ่งที่ได้มากกว่าการได้เข้าร่วมการประชุมวิชาการในครั้งนี้ คือ การได้รู้จักเครือข่ายต่างๆ สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุด คือ อาหารเลี้ยงมื้อเย็นของ
ท่าน จิรภัฏ ฤกษ์มณีรัตน์ (แบมะ) ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตาม เร่งรัด ประเมินผล การแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ วุฒิสภา
ท่านรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา
ท่านพี่ชายที่แสนดี (พี่เมธัส) จากสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า
และอีกท่านจากนักวิชาการจากสายการบินไทย
การได้รับเลี้ยงของทั้ง ๔ ท่านร่วมกับคณะทำงานเสียงเล็กๆเพื่อสันติภาพ คือ การร่วมกันระดมความคิดช่วยกันแก้ไขปัญหาในพื้นที่ตามที่หลายฝ่ายจะช่วยได้ ซึ่งพวกเราได้รับการขอความช่วยเหลือในการผลักดันงานบางส่วนทีน่าจะทำได้ อัลฮัมดุลิลละฮฺ
สิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจมากๆ คือ การร่วมพูดคุยประเด็นเรื่องการศึกษาในพื้นที่ ซึ่งได้พูดถึงเรื่องของการพัฒนาหลักสูตรในโรงเรียนของรัฐที่เป็นหลักสูตรปุรณาการ
(คณะทำงานเสียงเล็กๆเพื่อสันติภาพ กับ ลุงเอก ผอ.สำนักสันติวิธีฯ สถาบันพระปกเกล้า)
และหากเรามองดูหลักสูตรปุรณาการ (บูรณาการ) ในพื้นที่ผมมองว่าโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ในภาคส่วนต่างๆทำเรื่องเหล่านี้ได้ค่อนข้างดี กับการปรณาการศาสนาควบคู่สามัญ แต่จะมีสักกี่โรงเรียน หรือไม่มีเลย ณ ตอนนี้ที่ ปุรณาการหลักสูตรสามัญศาสนา ที่เป็นแบบเรียนของกระทรวงศึกษาธิการโดยไม่แยกส่วน และที่สำคัญทำในโรงเรียนของรัฐ ชนิดที่ว่า พี่น้องมุสลิมก็เรียนได้ พี่น้องศาสนิกใดๆก็เรียนได้ อันนี้น่าคิดครับ เพราะเราเองคงปฏิเสธไม่ได้ว่า "เราไม่สามารถแยกศาสนจักรออกจากอาณาจักรของความรู้ทุกแขนงวิชาได้..." แล้วทำไมรัฐถึงไม่หันมามองหลักสูตรปุรณาการในโรงเรียนทุกภาคส่วน เพราะบางครั้งการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่นี่อาจเป็นคำตอบหนึ่งของการลดทอนปัญหาความมั่นคงที่เกิดขึ้นอีกแนวทางหนึ่ง...วัลลอฮฺอะลัม
....
...
...
มีเรื่องราวอีกมากมายที่หายไป...?
ความเห็น (4)
สลามครับน้อง ฟูอ๊าด อุทกภัย และวาตภัยโดนมากมั้ยครับ
ปากพะยูนเสียหายไปทั่งครับ
ขอบคุณมากครับบัง
ครับ...บางพื้นที่โดนหนักเหมือนกันครับดังปรากฎตามสื่อที่เห็นครับ ก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้ครับ
ที่สำคัญช่วยกันดุอาอฺครับ
sarsinaphar
จงยืนหยัดในความดี และมีพลังในการฟันฝ่าอุปสรรคนะคะ
ขอบคุณมากครับ
sarsinaphar