"หวาย" หนาม"แหลมคม".....ขม ๆ ฝาด ๆ !!!!


"หวาย" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า "Calamus sp" ชื่อสามัญว่า "Rattan palm" เป็นพื้ชไม้เลื้อยตระกูลปาล์ม ลำเถาพันเกาะต้นไม้ใหญ่มีความเหนียว ใบเป็นรูปขนนกเล็ก ๆ ใบย่อยนั้นเรียวยาว มีสีเขียวสด ก้านใบหนึ่ง ๆ จะมีใบย่อยประมาณ 60-80 คู่ เป็นเพืชที่สามารถพบได้ในพื้นที่ทั่วไป และเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยสามารถนำเอาลำต้นที่มีความยืดหยุ่นมากเป็นพิเศษมาจักสานเป็นเฟอร์นเจอร์ และของใช้ต่าง ๆ ในครัวเรือน และเครื่องประดับได้ ครับ...."

                                -"หนามแหลมคม" "รสขม" "ลูกรสฝาดๆ" นามนี้คือ "ต้นหวาย" ครับ.....และวันนี้ผมจะนำเอาเรื่องราวของ "หวาย"มาฝากท่านผู้อ่านกันครับ....."ต้นหวาย" ที่ผมได้ไปเก็บภาพมาฝากนี้เป็นภาพ "ต้นหวาย" เมื่อคราวที่ได้ไปจังหวัดพิจิตรครั้งก่อน...น่ะครับ....."ต้นหวาย" มีอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย....และที่สำคัญ..มี "ลูกหวาย" ให้ได้ชิมกันด้วยหละครับ.....ตามมารู้จัก "ต้นหวาย" กันได้เลยคร๊าบ!!!!!

1."หนามแหลมคม" "รสขมๆ" คือ"ต้นหวาย" เขาบอกว่า "ต้นหวาย" เป็นพืชทนแล้ง  ยอดอ่อนของหวายนำมาปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น อ่อมหวาย(อร่อยครับ.....รับรอง..ได้....)ยอดอ่อนที่แทงขึ้นมามีลักษณะคล้ายยอดมะพร้าว  ถ้าไม่ตัดออกขายจะเลื้อยเป็นเครือยาว เกิดเป็นเส้นหวายนำมาใช้ประโยชน์ในการจักสาน เป็นของใช้ชนิดต่าง ๆ ครับ.......

2.ตามผมมารู้จัก "ลูกหวาย" กันดีกว่าครับ.....ถือว่า"โชคดีมาก ๆ " ที่ผมได้มีโอกาสได้"ชิม" ..."ลูกหวาย" ....ครับ.."ชิม" แล้ว....ผลปรากฎว่า..."ลูกหวาย" จะมีเปลือกแข็ง ๆหน่อย....เมื่อแกะเปลือกแล้วข้างในจะมีเนื้อเยื่อหุ้มอยู่  รสชาติจะออกเปรี้ยวนิด ๆ และตามรสรสฝาด ๆ ครับ......มีหลายคนเขาบอกว่า "ลูกหวาย" สามารถนำไปดองก็ได้...อร่อยดี....เหมือนกันน่ะครับ........

วันนี้ใครสนใจเรื่อง "ต้นหวาย" ติดตามอ่านต่อได้ที่นี่ครับ  http://web.ku.ac.th/nk40/nk/data/13/paper2.htm  นะครับ

                                                                    สำหรับวันนี้......

                                                                                          สวัสดีครับ..

                                                                                        เพชรน้ำหนึ่ง

                                                                                        20/08/2553

ปล.ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.ku.ac.th  ที่ร่วมแบ่งปันข้อมูลด้วยนะคร๊าบ!!!!!

หมายเลขบันทึก: 386612เขียนเมื่อ 20 สิงหาคม 2010 16:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เคยกินแกงหวายครับ อร่อยมากๆๆ

ลูกกับต้น ดูไม่เข้ากันเลย

ต้นดูใหญ่โต รกรุงรัง

ลูกเล็กนิดเดียวเอง

ของแซบอีสานค่ะ ที่สวนปลูกไว้กินประมาณเกือบงาน ถ้าแกงจะมีรสขมค่ะแต่ถ้ากินยอดอ่อนสดจะออกรสขมๆหวานๆ

  • ลูกหวาย ถ้าจะให้อร่อย ต้องเก็บเมื่อแก่จัด โดยดูที่เปลือก จะมีสีเหลืองอมส้มเล็กน้อย ผิวจะแข็ง ออกเป็นมันใส
  • หลังเก็บ ต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 3-4 วัน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "ปล่อยให้ลืมต้น" หรือให้แป้งกลายเป็นน้ำตาลก่อน หรือจะลองแกะเปลือกดู เปลือกจะล่อนและแกะง่าย
  • ลองๆ ดูน๊ะครับ จะหวานปนฝาดเล็กน้อย

ผมอยู่ระยองปลูกไว้หลายต้นเหมือนกัน แต่หาคนที่อยากจะรับประทานไม่ค่อยได้ ไม่เหมือนแถบอีสาน

หวายมีหลายหลากพันธ์ ทีพอคุ้นชินผ่านพบมา ก้มีหวายลิง หวายเล็ก หวายขิง หวายขี้ไก่ หวายกำพวน หวายนวน แต่ปัจจุบันเดินป่าหาหวายยากแล้ว ที่ป่าต้นน้ำพะโต๊ะยังพอหาได้อยู่

ตอนเด็กๆชอบมากเจ้าลูกหวาย แต่น่าจะเป็นลูกหวายดองนะคะ อร่อยมากค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่เคยเห็นเลย พี่ดาเคยเห็นยอดหวาย ที่ชาวดอยมาขายทุกวันศุกร์ ซอยสุเหร่าใกล้ไนบาร์ซ่า คงจะทำอาหารเหมือนยอดตาลใช่ไหม

-สวัสดีครับอาจารย์ขจิต,ครู ป.1,คุณนิดหน่อย,คุณสามสัก,คุณปภินวิช,คุณวอญ่า,และพี่กานดา...

-แกงหวายอร่อยจริง ๆ ครับ เคยกินตอนอยู่อีสานของแท้ต้อง "อ่อมหวายใส่ไก่บ้าน" ครับ อาจารย์ขจิต...

-คุณวอญ่า...บอกว่าหวายมีหลายพันธุ์.....น่าสนใจ และเดี๋ยวต้องศึกษาเพิ่มเติมแล้วหละครับ....

-"ลูกหวายดองนะคะ อร่อยมาก" พี่กานดาบอกมา.......อย่างนี้จะต้องหามาชิมบ้างแล้วหละครับ..

-ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม/เป็นกำลังใจนะครับ

-สบายดี.........

เมื่อก่อนมีเยอะค่ะในคลองแถวหมู่บ้าน เขาใช้ทำเสื่อหวายค่ะ ภาษาพื้นเมืองทางเหนือเรียก"สาดแหย่ง"

ปูแล้วเย็นสบายไม่ร้อนค่ะ

เด๋ยวนี้หายาก เพราะที่ปลูกหวายไม่มีเหลือแล้ว ...น่าเสียดายนะคะ

ขอบคุณเรื่องราวดีๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท