หลังจากส่งคุณพี่ Rose
ขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทย
คุณ Steve พาไปทานอาหารจีนที่จัดวางขายคล้ายๆกับข้าวราดแกงของไทยที่ร้าน Panda Express ระหว่างทางกลับไปวัดธัมมาราม
นึกวาดฝันไว้ว่าจะได้เห็นธุรกิจอาหารไทยแบบนี้ที่นี่บ้าง
ช่วงบ่ายที่ Chicago
จึงเดินหาซื้อของฝากฯแถบ The Malls แต่The last stop อย่าง Chicago
ของฝากค่อนข้างหายาก แม้จะพยายามแล้วก็ตาม…..เฮ้อออออ….
เหน็ดเหนื่อยเกินกว่าจะไปเลือกหาให้ครบคน จึงตัดใจ….ฝากได้เท่าที่ซื้อสะสมไว้ก่อนหน้านี้เท่านั้น
พบครอบครัวนี้มาเช่าที่ปลูกผัก
อาจคาดหวังให้สมาชิกได้ทำกิจกรรมด้วยกัน..มากกว่าหวังผลผลิต
ภาพเขียนแปลกตา
คุณสุเวทย์ ...กรุณาขับรถพาไปสถานที่ต่างๆ
อำลา Chicago มุ่งสู่ Thailand
แผ่นดินแม่ .....
ภายในโบสถ์
ด้านนอกอาคาร
ผ่านขั้นตอนการ Check in นำกระเป๋าโหลดลงใต้ท้องเครื่องแบบสบายๆ การ
Check in สมัยนี้ผู้โดยสารจะดำเนินการด้วยตนเองโดยใช้ระบบออนไลน์
ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งเรียงรายบริการไว้ด้านหน้า อาจเป็นการใส่หมายเลขสมาชิก
หรือหมายเลขตั๋วที่จองแล้วกด Enter เพื่อจะไปตรวจสอบชื่อ-สกุล
ที่นั่ง Flight ที่บิน gate ที่จะขึ้นเครื่อง
จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตสำหรับกระเป๋าที่โหลด Upgrade ที่นั่ง
ฯลฯ และพิมพ์ตั๋วหรือข้อมูลอื่นๆ หากทักษะด้านภาษาอังกฤษอยู่ในระดับใช้การได้
ย่อมไม่มีปัญหา
พนักงานจะช่วยเหลือในขั้นตอนสุดท้ายที่นำป้ายฉลากชื่อติดกระเป๋าก่อนส่งผ่านสายพานเพื่อเอ็กซเรย์และลำเลียงขึ้นเครื่องต่อไป
ปีกเครื่องบินยามปกติ
ปีกขยับออกเพื่อต้านแรงเสียดทานยามขึ้น-ลง
อาจารย์ Mark
หนุ่มใหญ่ชาวอเมริกันทักทายเป็นภาษาไทยที่ฟังง่ายและออกเสียงได้ชัดเจน
แต่งงานกับสาวไทยมีลูกสาวสองคน ตั้งถิ่นฐานอยู่พิษณุโลกมา ๑๖ ปี
แวดล้อมไปด้วยเพื่อนร่วมงานชาวไทย
จึงไม่แปลกที่ภาษาไทยของอาจารย์จะค่อนข้างสมบูรณ์
อาจารย์เดินทางมาร่วมพิธีศพของคุณพ่อที่นี่
กล่าวว่าอยากกลับถึงบ้านที่พิษณุโลกโดยเร็วเพราะ Homesick
รักประเทศไทย เทิดทูนพ่อหลวงไทย
นับถือศาสนาพุทธ
ฟังแล้วรู้สึกภาคภูมิใจแทนชาวไทยทั้งประเทศ
อาจารย์กล่าวว่าเคยเดินทางไปกว่า ๔๐ ประเทศและทำงานที่ประเทศต่างๆ
กว่า ๒๐ ประเทศ แต่ประทับใจประเทศไทยที่สุด ชื่นชอบวัฒนธรรมไทยและความสัมพันธ์ที่ดีและอบอุ่นของครอบครัวไทย
หลังจากคุยเรื่องการงานและครอบครัว
ยังได้คุยเรื่องสถานการณ์อันตึงเครียดของประเทศไทย ความคิดที่เหมือนกันคืออยากให้เกิดความสงบสุขเพราะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศชาติ
รวมทั้งภาพลักษณ์โดยรวมของประเทศ
ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเป็นสิบปีกว่าจะกู้ภาพลักษณ์ที่ดีกลับคืนมา
ภาพหิมะปกคลุมเทือกเขาสูงเป็นบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล
อาจารย์ Mark จ่ายเงิน ๑๐๐ เหรียญเพื่อ Upgrade ไปนั่งแถว ที่จัดในโซน
Economy Plus มีเนื้อที่กว้างขึ้นเพราะมีปัญหาเรื่องเข่า
ตัวเล็กๆแบบผู้เขียนแค่ชั้นประหยัดเนื้อที่ยังเหลือให้เหยียดแข้ง-แกว่งขาได้สบายๆ
อาจารย์ Mark บอกว่า ระหว่างการเดินทางสิบกว่าชั่วโมงนี้หากรู้สึกเหงาก็ไปคุยเล่นเพื่อฝึกภาษาอังกฤษด้วยได้
ระยะเวลาสั้นๆที่ได้พูดคุยรู้จักอาจารย์ Mark
บอกได้ว่าเขาเป็นคนดี ที่กล้ากล่าวว่าดีเพราะเขารู้จักบุญคุณของแผ่นดินที่อาศัยพึ่งใบบุญอยู่ อีกเรื่องหนึ่งที่รับรู้ได้คือ
เขาเป็นคนปากหวาน เพราะชม ว่าผู้เขียนน่าจะอายุแค่ ๒๕ ปี
เคยลองเปรียบเทียบดูว่าระหว่างคนไทยกับคนต่างชาติใครจะปากหวานกว่ากัน
คำตอบที่ได้น่าจะเป็นชาวต่างชาติ เพราะกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นก็ชอบกล่าวประมาณนี้แหละ
ได้นั่งเคียงใกล้กับ Rico หนุ่มลูกครึ่ง Italian-turkish จะไปพักที่
๑๓ เหรียญเพื่อเรียนมวยไทย ๓ เดือน ปีที่แล้วพักอยู่ ๒ เดือน
เคยไปเที่ยวกระบี่และภูเก็ต ชอบอาหารไทยมาก
ก่อนเครื่องบินจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มีโทรศัพท์เข้ามาสายหนึ่ง
บอกว่าเป็นเพื่อนคนไทยโทรฯมาจากประเทศไทย
ผู้เขียนถามว่าสาวไทยโทรฯมาเหรอ
ตอบว่าไม่ใช่สาวเป็นเพื่อนชาย คงนึกบางสิ่งได้รีบบอกว่า
ชอบผู้หญิงนะ ไม่ใช่ชอบผู้ชาย
(ฮา) ฝึกพูดภาษาไทยหลายประโยคเหมือนกัน
และชวนให้ไปเที่ยวบ้านเขาที่เมือง Montreal ประเทศ Canada
ผู้เขียนมีเพื่อนหลายเชื้อชาติค่อนข้างเยอะ
ต่างก็ชวนให้ไปเที่ยวหา-เยี่ยมเยียน รายได้แบบผู้เขียนหากจะไปเยือนให้ครบสงสัยต้องกินลมเป็นอาหารและพิมพ์ธนบัตรใช้เอง
จริงอยู่ ว่าเจ้าภาพส่วนใหญ่จะรับรองเต็มที่
แต่ค่าตั๋วเดินทางก็หนักไม่ใช่เล่น สำหรับTrip นี้ เดินขึ้น-ลงเครื่องบิน ๑๙
Flights ดีนะที่เป็นคนชอบเครื่องบิน
พี่ๆๆกว่าจะได้กลับมา อ่านจนตอนสุดท้าย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ได้ความรู้มากเลย ที่ไหนๆๆก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเราหรอกเนอะพี่ วันนี้เจอพี่ครูใจดีและพี่ครูอ้อยเล็กด้วยครับ ...อิจฉาไหม (ขอเกทับอาจารย์ธนิตย์หน่อย ผมได้เสื้อและปากกาด้วยครับ ฮ่าๆๆ แถมธงชาติด้วย ฮ่าๆๆ เกทับอาจารย์บาปไหมพี่)
สวัสดีครับคุณ พอลลี่
ตามมาเที่ยว มาแล้วมีสุขสนุกไมต้องเสียตังค์
ขอบคุณนำความสุขมาแบ่งปันครับ