ยูยินดี
นาย นายธรรมศักดิ์ ช่วยวัฒนะ

คิดถึงพ่อ "ความเชื่อมั่นของวิทยาศาสตร์จนลมหายใจสุดท้าย"


หากแม้นวันนี้ผมจะได้รับผลตรวจที่เหมือนกับพ่อ แต่ปณิธานสุดท้ายที่พ่อยังคงเป็นครูจนลมหายใจสุดท้าย

เนื่องจากในรายการอนุทินที่อนุญาตให้บันทึกได้ไม่เกิน 1000 อักขระ จึงใคร่ขอนำเรียนบนบล็อกถึงความทรงจำที่ไม่อยากจะจำ กับเหตุการที่จะครบรอบหนึ่ง ปี ของครูประจำห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

   ครูท่านนี้เป็นบิดาของนายยินดี ชื่อว่า ครูช่วยคำ ช่วยวัฒนะ เป็นบุตร ของนายคำ ช่วยวัฒนะ และนางคาน ช่วยวัฒนะ(อาจหาญ) เป็นครูคอมพิวเตอร์ที่อายุ 57 ปี

  ห้องครูช่วยคำจะอยู่ติดกับห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ถึงชั่วโมง เด็ก ๆ ก็จะวิ่งลู่เข้าเพื่อแย่งที่นั่ง ดูแล้วจึงเกิดความตั้งใจที่จะทำให้นักเรียนสนใจวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกับห้องคอมพิวเตอร์

   ในช่วงเวลาสองปีที่ทราบผลการตรวจสุขภาพของพ่อนั้น ทำให้ความรู้สึกผม  รักพ่อมันมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ผมอดที่จะมองดูท่านสอนนักเรียนไม่น้อยกว่าลูก ๆ ที่เรียนโรงเรียนนี้เช่นกัน

   ผลการตวจที่ออกมาทำให้ครอบครัวกับเข้มแข็ง ด้วยความที่เชื่อในทางวิทยาศาสตร์ พร้อมที่จะยืนหยัดของการรักษาศาสตร์ปัจจุบัน ตลอดระยะเวลาการเดินทาง ไปกลับโรงพยาบาลศรีนครินทร์  กับ บ้าน อ.รัตนบุรี ห่างกันประมาณ 600 กิโลเมตร เป็นเสมือนเส้นทางที่คุ้นเคย

   พ่อมีความเชื่อมั่น ว่าโรคนี้รักษาหายเช่นเดียวกันกับผม ที่ให้กำลังใจพ่อเสมอว่า วิทยาศาสตร์ดีจริง วิทยาการสมัยปัจจุบัน เยี่ยมจริง ๆ พ่อก็ยินดีที่จะตัดต่อลำไส้ และปล่อยลอยลำไส้ไว้ที่พุงข้าง หลังจากที่ทราบว่าก้อนเนื้อร้ายที่ติดลำไส้มีขนาดใหญ่เกินที่จะผ่าออก

   อาจารย์แพทย์จึงแนะนำให้ทำ "เคมโม" ซึ่งเป็นกระบวนการหนึ่งแห่งการบำบัดด้วยสารเคมีและรังสีบำบัด

   พ่อไปตามนัดวันพฤหัสบดีทุกครั้ง ได้เจอเพื่อนร่วมชะตากรรม คนแล้วคนเล่าที่ห่างหายก่อนการดำเนินการบำบัด

   ครั้งสุดท้ายที่พ่อดีใจห่องการนัดหมายของแพทย์ที่จะดำเนินการทำเคมโม เราเดินทางไปตามนัดก่อนเวลาเหมือนเช่นเคย แต่ครั้งนี้นำแม่ไปด้วย พ่อได้ลำดับที่ 14 ซึ่งมีคนสุดท้ายคือลำดับที่ 17 แต่เนื่องด้วย วันที่10 เมษายน 2552 มีปัญหาขัดข้องบางประการ ความต้องใจของพ่อ ซึ่งใกล้จะถึงคิวของตนเอง เพียงอีกสองคน ก็ถูกยกเลิกไปในวัดถัดไป และอยู่ในช่วงสงกานต์

   พ่อทรุดลงมาก จนไม่รู้สึกตัว ผมได้ได้คำแนะนำจากทีมคณะแพทย์ว่า "ทางเราได้พยายามเต็มที่แล้ว" การที่จะให้ท่านจากไปโดยสงบหรือปาฏิหารที่จะเกิดขึ้นคงจะอยู่กับเราเท่านั้น

   พ่อจึงได้กลับบ้านในสภาวะที่ไม่มีสติ มีเพียงชีพจรที่เต้นเบา ๆ จนถึงโรงพยาบาลรัตนบุรีในวันที่ 13 เมษายน 2552 และพ่อก็ตื่นมาอย่าปาฏิหารจริงในเช้าวันที่ 14 เมษายน 2553 และจบลงในวันนี้

   ใกล้วันครบรอบแห่งการสูญเสียของตนเอง แต่กลับได้กำลังใจที่เข้มแข็ง

  หากแม้นวันนี้ผมจะได้รับผลตรวจที่เหมือนกับพ่อ แต่ปณิธานสุดท้ายที่พ่อยังคงเป็นครูจนลมหายใจสุดท้าย

   พ่อเป็นครูแห่งนักปฏิบัติการของผม

      นายยินดี 

คำสำคัญ (Tags): #ลมหายใจของครู
หมายเลขบันทึก: 342065เขียนเมื่อ 5 มีนาคม 2010 16:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน 2012 03:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะ อาจารย์ P

อ่านอย่างช้าๆ  ทำความเข้าใจในเรื่องราว ซาบซึ้งในความรักและความศรัทราในตัวของผู้เป็นพ่อ  ที่เป็นต้นแบบชีวิตที่งดงามของลูก

บันทึกจบด้วยถ้วยคำที่ประทับใจมากๆ ค่ะ

ใกล้วันครบรอบแห่งการสูญเสียของตนเอง แต่กลับได้กำลังใจที่เข้มแข็ง

 

  หากแม้นวันนี้ผมจะได้รับผลตรวจที่เหมือนกับพ่อ แต่ปณิธานสุดท้ายที่พ่อยังคงเป็นครูจนลมหายใจสุดท้าย

   พ่อเป็นครูแห่งนักปฏิบัติการของผม

 

ขอบคุณที่ไปทักทาย และชื่นชมผลงานนักเรียนของครูใจดีค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักกับครูนักสู้ อีกท่านหนึ่ง  หวังว่าคงได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันต่อไปค่ะ

   

 

ขอคุณครูใจดีที่มอบกำลังใจให้

ทุกคนที่เกิดมาแล้ว ล้วนแต่ใช้เวลาชีวิตที่เหลือ หากเวลาที่เหลือของเราจะน้อยลง ก็อยากที่จะให้มันมีค่ามากที่สุด ผมก็ยังเชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์ ลูกศิษย์ที่เก่งๆ เสมือนฮีโร่ของครูเสมอ... เขาเหล่านั้นยืดเลาชีวิตที่มีค่าของเราได้ 

  • เป็นกำลังใจให้ครูวิทยาศาสตร์เช่นกัน
  • และไม่มีพ่อเหมือนกัน
  • และรักพ่อและศรัทธาในคำสอนของพ่อมาก
  • แม้ว่าพ่อของเรา
  • จะเป็นชาวนาค่ะ
  • เป็นเรื่องเล่าที่คล้ายชีวิตตัวเองมาก แต่ผมเป็นแม่ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วครับ..
  • ขอบคุณครับ

ขอให้ท่านหลับให้สบายสู่ภพภูมิอันประเสริฐนะครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท