คุณภาพการศึกษาหรือจะเอาแค่ปฏิรูป
ตอนที่ 1 การเรียนรู้กับวิวัฒนาการของมนุย์
หากมีโอกาสได้สนทนาพูดคุยกับผู้คนที่อยู่ในแวดวงการศึกษาถึงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถ้าคนที่ท่านกำลังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เป็นผู้ที่มุ่งมั่นปรารถนาดีต่ออนาคตของเยาวชนไทย ต่อพัฒนาการในกระบวนการจัดการศึกษาของชาติแล้วคงจะไม่พ้นที่จะต้องสัมผัสได้ถึงความหนักอกหนักใจของทุกคนที่มีต่อความตกต่ำถดถอยของการจัดการศึกษาชาติอย่างไม่ต้องสงสัย
จริงอยู่ว่าเรามักจะเปรียบเทียบคุณภาพของสิ่งที่ปรากฎในปัจจุบันกับสิ่งที่เป็นประสบการณ์ในอดีตของแต่ละคนที่ผ่านมา แต่นั่นก็ถือว่าเป็นการประเมินคุณค่าขั้นพื้นฐานของสิ่งที่เราสนใจและนำมาเป็นหัวข้อในการสนทนา ตรงนี้เองที่มีทั้งคนเห็นด้วยและคัดค้าน ผู้ที่เห็นด้วยก็จะอธิบายถึงความอ่อนแอทางวิชาการ ความถดถอยด้านคุณธรรมจริยธรรม คุณภาพในการควบคุมอารมณ์ จิตใจ สุขภาพอนามัย ความรับผิดชอบต่อส่วนรวมต่อการทำงาน ของเหล่าเยาวชนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่จะต้องมารับผิดชอบต่อสังคมสืบต่อจากคนในรุ่นปัจจุบัน ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็จะอ้างถึงสถานการณ์และวิวัฒนาการของโลกที่เปลี่ยนไปจากอดีตซึ่งย่อมมีผลต่อพัฒนาการของผู้คนทั้งด้านวัฒนธรรมที่หลากหลาย เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆที่เกิดขึ้น การย้ำคิดอยู่แต่ในยุคอดีตมีมิติของเวลาและองค์ประกอบที่แตกต่างกันจึงไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกันได้
อย่างไรก็ดีเราต้องไม่ลืมว่าท้ายที่สุดแล้วสังคมมนุษย์จะดำรงอยู่ได้ คนในสังคมจะต้องมีคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานที่พอเพียงต่อการดำเนินชีวิตเสียก่อน พัฒนาการความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก การค้นคิดนวัตกรรมใหม่ๆเพื่อนำมาใช้อำนวยความสะดวกของมนุษย์ซึ่งนับวันจะก้าวข้ามจากสิ่งจำเป็นไปสู่สิ่งที่ใช้เพื่อสนองต่ออารมณ์ต่อความบันเทิงเริงรมณ์มากยิ่งขึ้น ในขณะที่อีกด้านหนึ่งจำนวนประชากรมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ในการผลิตอาหารลดลง ถึงแม้จะมีความพยายามในการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับประชากรโลกเพราะที่ดินได้ถูกเบียดบังไปเป็นที่อยู่อาศัย เป็นโรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้งการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่นับวันจะมีความถี่ มีความหลากหลาย และมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในขณะที่ทรัพยากรธรรมชาติที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของผู้คนกลับถูกรุมทึ้งจนลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย
สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ต้นทุนในการดำเนินชีวิตของประชาชนในปัจจุบันสูงกว่าผู้คนในอดีตเมื่อห้าสิบปีที่แล้วอย่างเทียบกันไม่ได้ การที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี จะต้องมีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ มีทักษะในการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมที่เข้มแข็งและปลอดภัย ซึ่งความรู้และทักษะเหล่านี้จะมีได้ก็จากการเรียนรู้ทั้งในด้านวิชาการและการฝึกฝนปฏิบัติจนเกิดเป็นประสบการณ์ที่ครอบคลุมเพื่อนำไปใช้ในชีวิตจริง ความรู้และทักษะที่ว่า จะต้องมีพัฒนาการในระดับที่เท่าทันหรือมากกว่าการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ต้องสามารถใช้และบริหารจัดการเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ทุกๆวันเพื่อไม่ให้ตกเป็นทาษของสิ่งเหล่านี้แทนที่จะนำมารับใช้ผู้คนที่สร้างมันขึ้นมา ต้องรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงการหลอมรวมทางวัฒนธรรม สามารถเลือกที่จะใช้ให้เหมาะสมกับสังคมของตนเองได้
ในสมัยโบราณมนุษย์และสัตว์ต่างดำรงชีวิตอยู่ในธรรมชาติ การที่จะอยู่รอดและสามารถดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ได้จะต้องมีทักษะในการหาอาหาร การป้องกันตนเองจากภัยอันตรายต่างๆ ผู้ที่ปรับตัวได้ก็สามารถที่จะดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ได้ สัตว์อาจมีสัญชาตญานในการเอาตัวรอดติดมากับเผ่าพันธุ์ของตนแต่สำหรับมนุษย์แล้ว การอยู่รอดและดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ได้ไม่ได้เกิดจากการมีร่างกายแข็งแรง มีเขี้ยวเล็บเป็นอาวุธติดตัวที่เหนือกว่าสัตว์อื่น ความจริงแล้วมนุษย์อ่อนแอเกินกว่าจะมีชีวิตรอดอยู่ในธรรมชาติด้วยซ้ำไป แต่การที่มนุษย์นอกจากสามารถดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ได้แล้วยังมีวิวัฒนาการจนมีอิทธิพลเหนือสรรพสัตว์ทั้งปวงในโลกก็เพราะมนุษย์มีสมอง มีกระบวนการคิด การวิเคราห์และมีการเรียนรู้ที่น่ามหัศจรรย์เป็นสิ่งที่มีอานุภาพเสียยิ่งกว่าเขี้ยวเล็บและอาวุธใดๆ จนอาจกล่าวได้ว่าบนโลกแห่งนี้ถูกครอบครองโดยมนุษย์
ไม่มีความเห็น