สาระสนุกๆ


กลอนน่าอ่าน

อารมณ์ขันจากคำประพันธ์

                             โคลงเล่นอักษร

        นกน้อยนอนแนบน้ำ              ในนา 

      ตมเตอะติดเต็มตา                      ตื่นเต้น 

      จิบจาบจับเจรจา                         จะแจ่ม 

      เรไรร่อนร้องเร้น                        เรียบร้อยริมรัง 

                  .............................................................................

            ยิ้มเย้ยยิ้มยั่วเย้า            ยวนยี  อย่านา 

      ยิ้มเยาะยิ้มอย่างมี                       เล่ห์ร้าย 

      ยิ้มแย้มแหละเป็นศรี                   สง่าดี  ตนเอย 

      ยิ้มนิดยิ้มหน่อยน้อย                    หนึ่งนี้มีคุณ 

               .....................................................................

            ยามเย็นฝนหยาดย้อย            หยิมหยิม 

      มาแม่มาตีขิม                           กับข้า 

      อย่าเอาเยี่ยงยายฉิม                    เก็บเห็ด 

      หอยเห็ดอย่าเพ่อค้า                     ห่อนให้คลายคน 

 

                                   ลางลิง 

       ลางลิงลิงลอดไม้                  ลางลิง          

        แลลูกลิงลงชิง                           ลูกไม้ 

      ลิงลมไล่ลมติง                           ลิงโลด  หนีนา 

      แลลูกลิงลางไหล้                        ลอดเลี้ยวลางลิง 

                                    (ลิลิตพระลอ) 

 

         โคลงกระทู้ 

                                 นึกสมอมยิ้ม 

            นึก  น้องนุชนาฏเนื้อ             นางนวล 

      สม  สู่สมสุขสวน                        สร่างเศร้า 

      อม  องค์อบอาบอวล                   โอยแอบ  อกเอย 

      ยิ้ม  เยาะยียวนเย้า                     ยั่วแย้มยามยล 

                                    (ชิต  บุรทัต)                                                 

                                โคลงอักษรสามหมู่ 

บึงบัว

                      บึงบัวตุมตุ่มตุ้ม             กลางตม

            สูงส่งทนทานลม            ล่มล้ม

            แมลงเม้าเม่าเมาฉม              ชมชราบ

            รูรู่รู้ริมก้ม                         พาดไม้ไทรรอง                                                 (พระศรีมโหสถ)

 

เขาขัน

                  เขาขันคูคู่คู้                  เคียงสอง

            เยื้องย่างนางยูงทอง               ท่องท้อง

            ทิวทุ้งทุ่งทุงมอง                   มัจฉพราศ

            เทาเท่าเท้ายางหย้อง              เลียบลิ้มริมทาง

                                          (พระศรีมโหสถ)มโหสถ)                                                      

 กลอนเล่นอักษรและวรรณยุกต์

             จะเข้กรีดดีดเรงเหรงเหร่งเหร้ง

        เหนงเหน่งเหน้งเสียงระนาดออกผาดโผน

        คนตีกรับกริ๋งกรับขยับโยน

        เสียงทับโทนโจ๋งทิงทิ่งทิ้งเลย

        ฉับฉิ่งฉิ้งฉิงฉับทั้งกรับขลุ่ย

        ตุ้ยตุ๋ยตุ่ยตอดเชิดเปิดนิ้วเผย

        คนขับหญิงหยิ่งยิ่งทุกสิ่งเอย

        เออเอ่อเอ๋ยเอ่ยเอ้อเอ่ยโอดพัน

        ร้องพระลอล่อล้อล่อตามไก่

        เลี้ยวไหลไหล่ไหล้ในไพรสัณฑ์

        เสด็จดอมด่อมด้อมล้อมกั้นกัน

        ชื่อตรีเพชรพวงพันนั้นแบบเอย

          จะนั่งจะนอนก็ยังเป็นกลอนเป็นบท

                  จะยืนจะตดก็ยังเป็นบทกลอน

 

                  เมื่อมั่งมีมากมายมิตรหมายมอง

            เมื่อมัวหมองมิตรมองเหมือนหมูหมา

            เมื่อไม่มีมวลมิตรไม่มองมา

            เมื่อมอดม้วยหมูหมาไม่มามอง        

 

ใจ

            ใครลืมลืมใครใจรู้          ใครอยู่ใครไปใจเห็น

      ใครสุขใครเศร้าเช้าเย็น           ใจเป็นที่แจ้งแห่งเรา

      ใครชอบใครชังช่างเถิด           ใครเชิดใครชูช่างเขา

      ใครเบื่อใครบ่นทนเอา            ใจเราร่มเย็นเป็นพอ

                                    (ชาญ  สิโรรส)    

กลอนดอกสร้อย

                                    นารีมีหลายคำ

                        นาเอ๋ยนารี

                  ภคินี  กันยา  สุดา  สมร

                  นุชนาถ  จินดา  พะงางอน

                  สายสวาท  บังอร  พธู  นวล

                  ยุพดี  กานดา  ยอดยาจิต

                  โฉมมิ่งมิตร  นงนุช  สุดสงวน

                  สิบเก้าแล้ว  ยังไม่หมด  บทกระบวน

                  เออสำนวน  นามผู้หญิง  มากจริงเอย

                                (ชิต  บุรทัต)

ไฟริษยา

            ริษยา      พาใจ      ให้โสโครก

            ริษยา      ทำโลก    ให้ฉิบหาย

            ริษยา      พาจิตคน  ให้วุ่นวาย

            ริษยา      คือมารร้าย  ทำลายคน

            ริษยา     ไม่เคยให้    ใครมีสุข

            ริษยา     มีแต่ทุกข์    ทุกสมัย

            ริษยา     มีแต่ทาง    สร้างบรรลัย 

            ริษยา     คือไฟ      ประลัยกัลป์

อยู่อย่างไร

                  อยู่อย่างคน           สนใจในความสะอาด

            อยู่อย่างปราชญ์             สนใจในความรู้

            อยู่อย่างครู                  สนใจในวิชา

            อยู่อย่างหมา                สนใจในการนอน

            อยู่อย่างหนอน              สนใจในของเน่า

            อยู่อย่างพระพุทธเจ้า           สนใจในความสะอาด สว่าง สงบ

คำกลอนสอนนักเรียน

                        เด็กดีมีความขยัน

                  อันเด็กดี   ย่อมมี ความขยัน

         ทุกคืนวัน  หมั่นเพียร เรียนหนังสือ

         ช่วยพ่อแม่ ทำงาน หมั่นฝึกปรือ

         โลกเลื่องลือ   ว่าเด็กนั้น ขยันเอย

   

นักเรียนที่ดี

      ไม่โยกเก้าอี้  ไม่หนีโรงเรียน    ไม่เขียนข้างฝา

ไม่ด่าครูสอน     ไม่นอนตื่นสาย   ไม่หน่ายการเรียน

ไม่เกลียดการงาน  ไม่ผลาญเงินตรา   ไม่ซ่าหาเรื่อง

ไม่เคืองโกรธฉัน  ไม่พลันทำผิด      ไม่คิดมุ่งร้าย

มีใจเมตตา   กรุณาทั่วกัน    สุขสันต์ทั่วหน้า

สิ้นปัญหาแน่ๆ   คุณครูและพ่อแม่ ก็ชื่นใจ

                        (พระปลัดพวง  สุตาจาโร)

 

                        เด็กดื้อ – เด็กดี

    เด็กดื้อเป็นคน....                         เด็กดีเป็นคน....

      ว่ายากสอนยาก                         ว่าง่ายสอนง่าย

      ไม่อยากเล่าเรียน                       ตั้งใจเล่าเรียน

      เกียจคร้านทำงาน                      พากเพียรทำงาน

      ล้างผลาญเงินตรา                      ประหยัดเงินตรา

      โกรธด่าพ่อแม่                         บูชาพ่อแม่

      เกลียดแต่คุณครู                       รักแต่คุณครู

      ชอบหลู่คุณคน                         ไม่หลู่คุณคน

      ไม่สนคำสั่ง                             สนใจคำสั่ง

      ไม่ฟังคำสอน                           เชื่อฟังคำสอน

      แน่นอนเด็กดื้อ                       แน่นอนเด็กดี

 

            ถ้าคร้านเรียน   เรียนอะไร  ก็ไม่รู้

    ถ้าคร้านดู   ดูอะไร  ก็ไม่เห็น

    ถ้าคร้านทำ ทำอะไร ก็ไม่เป็น

    ต้องลำเค็ญ เป็นขอทาน เพราะคร้านเอย

 

ห้องสุขา

        ห้องสุขา         เหล่านี้      ที่หนูเห็น

    ทุกเช้าเย็น      จงช่วยกัน   หมั่นรักษา

    อย่าให้ดู         สกปรก     รกนัยน์ตา

    น้ำ-ไฟฟ้า       ปิดเรียบร้อย    จึงค่อยจร

 

รวมทุกข์

   รวมทุกข์ไว้รอบรัก    ผูกสมัครไมตรีตรึง

รดน้ำพร่ำรำพึง            รักนี้หนึ่งในดวงใจ

คือรักโรงเรียนเรา             มิรู้เศร้าในฤทัย

ระเบียบและวินัย          เรารักมั่นนิรันดร

 

    โรงเรียนดี มีหลักฐาน    เพราะบ้านช่วย

บ้านจะสวยโรงเรียนจัดดัดนิสัย

บ้านโรงเรียนผลัดกันช่วยยิ่งอวยชัย

ถ้าขัดกันก็บรรลัยทั้งสองทาง

   ครูเป็นเรือจ้างหรือ

        มุ่งอบรมบ่มนิสัยให้ศิษย์ดี

       ความเหนื่อยยากมากมีก็ไม่ว่า

      เจริญตามรอยบาทพระศาสดา

       จะเรียกว่าเรือจ้างได้อย่างไร

 

     หนึ่งนาทีที่มีค่า

   การอบรมบ่มนิสัยให้ศิษย์นั้น

  เพียงแต่วันละนาทีก็มีผล

  ศิษย์จะดีมีค่าหรือล่มจม

  อาจเป็นเพราะการอบรมหนึ่งนาที

 

 

ครูดี – ศิษย์ดี

        ศิษย์จะดีเพราะมีครูช่วยชูเชิด

   ครูจะเลิศเพราะมีธรรมนำนบไหว้

   ครูรักศิษย์ศิษย์รักครูคู่กันไป

   เป็นหลักชัยในชีวิตศิษย์กับครู

 

ครูควรระวัง

        เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า

   ทำทีท่าแม้นละม้ายคล้ายพ่อแม่

   ได้ครูดีเด็กก็งามตามเหล่ากอ

   ได้ครูบ้าเด็กก็บอพอพอกัน

เสียงจากครู

        สักวันหนึ่งคงจะรู้ว่าครูรัก

   สักวันหนึ่งคงประจักษ์เป็นสักขี

   สักวันหนึ่งคงจะรู้ว่าครูดี

   สักวันหนึ่งคงได้ดีเพราะเชื่อครู

 

 

 

                  การผายลม(ตด)...บอกนิสัย

      ตามตำราโหงวเฮ้งโบราณอายุพันปี   เรามาพิจารณานิสัยใจคอของคนจากการผายลมได้ดังนี้

คนใจเย็น.............คนที่กลั้นผายลมจนถึงขั้นจุดระเบิด

คนไม่จริงใจ..........คนที่ผายลมแล้วหันไปจ้องหน้าเด็กคนข้าง

คนงก....................คนที่ชอบยืนดมกลิ่นผายลมของตัวเอง

คนขี้โอ่..................คนที่ผายลมเสียงดังสนั่นแล้วยืนหัวเราะชอบใจ

คนโชคร้าย...........คนที่พยายามผายลมขณะเอามือตบโต๊ะไปด้วยแต่พลาดจังหวะ

นักวิทยาศาสตร์......คนที่สามารถวิเคราะห์ได้หลังจากสูดกลิ่นผายลมเข้าไปว่าอาหารก่อนหน้านั้นประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต      โปรตีน  ไขมัน  อย่างละกี่เปอร์เซ็นต์

ซาดิสด์...................คนที่ผายลมในผ้าห่มแล้วกดหัวคู่นอนให้เข้าไปดม

คนเจ้าเล่ห์..............คนที่ผายลมพร้อมกับไอกระแอมเบาๆ

คนสุภาพ.............. คนที่กล่าวขอโทษก่อนและหลังการผายลมแม้จะอยู่เพียงคนเดียว

ผู้ดี.......................คนที่กลั้นผายลมไว้หลายชั่วโมงจนท้องอืด  เพื่อเก็บไว้                          กลับไปผายลมที่บ้าน

คนมั่นคง..............คนที่ผายลมเป็นจังหวะสม่ำเสมอ  ต่อเนื่องและ ยาวนาน

คนอำมหิต............คนที่ผายลมไร้เสียง  แต่กลิ่นเหม็นร้ายกาจ

คนดีแต่พูด...........คนที่ผายลมดังปัง  แต่ไร้กลิ่น

คนหลายใจ...........คนที่ผายลม  ปัสสาวะ  อุจจาระในเวลาเดียวกัน

แพทย์..................คนที่ล้างมือก่อนผายลม

คนใจบุญ.............คนที่ผายลมเหนือลม  ให้ทุกคนได้รับอานิสงค์โดยทั่วกัน

คนตาย................คนที่ไม่เคยผายลมในปัจจุบัน  แต่เคยผายลมในอดีต

 

โรครัก

      รัก:  โรคร้ายแรงชนิดหนึ่งซึ่งเป็นแล้วจะตาบอด  หูหนวก  พาหะนำโรคชนิดนี้  พาหะจะเป็นเพศตรงข้ามกับตัวเรา  โรคชนิดนี้จะเกิดขึ้นกับคนทั่วไป  ไม่จำกัดอายุ  มีมากในช่วง ๘-๒๕  ปี 

อาการเริ่มแรก   จะเหม่อลอย  ฝันถึงพาหะบ่อยครั้ง

อาการระยะที่พาหะเข้าสู่ร่างกาย:     ไม่เป็นอันเรียน  อันทำงาน  พาหะขึ้นสมอง    ตาบอด  หูหนวก

อาการระยะสุดท้าย:   แต่งงาน

วิธีรักษา:    การหย่าร้าง

สถานที่รักษา:    ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง

ผู้รักษา:    นายอำเภอ....หรือปลัดอาวุโส

นิสัยคนไทย

๑. ชอบเล่นพวก

๒. ชอบนับญาติ

๓. ชอบผิดนัด

๔. ชอบการมีอภิสิทธิ์

๕. เห็นใครเก่งกว่า  ดีกว่าไม่ค่อยได้

๖. มักคิดใหม่  ทำใหม่  แต่นิสัยเดิม

 

พจนานุกรมใจ

น้อยใจ.....อาการอ่อนแอของจิตใจที่ไม่ได้รับการตอบสนอง  ยามที่เกิดความต้องการให้คนเอาใจ

วิธีแก้    อย่าเอาแต่ใจ

เจ็บใจ.....  อาการเป็นพิษของจิตใจที่ลามมาจากหาง  เวลามีใครมาเหยียบมัน

วิธีแก้  ตัดหางทิ้งซะ  อย่ายกหางตัวเอง

ละอายใจ....อาการใฝ่ดีของจิตใจ  ที่ออกมาชี้หน้าด่าเรา

วิธีแก้    เมื่อละชั่วได้  ก็ไม่อายแก่ใจ

เสียใจ.....อาการวูบทางจิตใจ  เกิดจากความไม่มั่นคงเพราะชอบเอา ใจไปผูกเอาไว้กับสิ่งอื่น

วิธีแก้  ตัดใจซะสิ  อย่าไปผูกมันไว้

ใจหาย....อาการนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้ว

วิธีแก้  หายใจเข้าสิ  หายใจลึกๆแล้วจะเลิกใจหาย

หลายใจ....  อาการสืบพันธุ์ของจิตใจโดยการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วนำไปสู่อาการน้อยใจแก่คนรอบข้างได้ในเวลาต่อมา

วิธีแก้  ระลึกไว้  มีแต่พวกอะมีบาที่ใช้วิธีแบ่งแบบนี้เท่านั้น

ทำใจ....อาการที่แปลกที่สุดของหัวใจ  ยิ่งทำมากเท่าไร  ใจยิ่งว่างเท่านั้น

วิธีแก้  กินยาแก้ปวดหัวชื่อคล้ายๆกันนั่นแหละ

งานอดิเรกบอกนิสัย

๑.ชอบเล่นกีฬา  ออกกำลังกาย  เป็นคนร่าเริง  แจ่มใส  มองโลกด้วยทัศนะสุขนิยม  ทำงานเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่สับสนวุ่นวาย

๒. ชอบอ่านหนังสือ  ฟังดนตรี  เป็นพวกรักความสงบ  ส่วนใหญ่เป็นคนฉลาดและมีสติปัญญาล้ำเลิศ  แต่มักเสียเพราะเป็นคนช่างสะเทือนใจ

๓. ชอบงานออกแบบ  วิศวกร  เครื่องบิน  ยานอวกาศ  ส่วนใหญ่เป็นคนมีเหตุผล  มีความสมดุล  รู้จักควบคุมชีวิตได้

๔. ชอบงานเทคนิค  เป็นพวกที่มีความอยากรู้อยากเห็นสูง  สุขนิยม  เข้ากับคนง่าย  ไม่เย่อหยิ่งกับความสำเร็จของตนเอง  และมักจะมีความสุขกับงานเล็กๆน้อยๆของตนเองเสมอ

๕. ชอบวิทยาศาสตร์  ดาราศาสตร์  ภูมิศาสตร์  เป็นคนมีเหตุผล  มีหลักเกณฑ์ในการตัดสินปัญหา  ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่  สายตากว้างไกล  ชอบหัวเราะให้กับทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

๖. ชอบสะสม  เช่นสะสมของเก่า  สะสมแสตมป์  มักเป็นคนฉลาด  ความรู้กว้าง  คุยเก่ง  เพื่อนเยอะ  ไม่ค่อยเหงา

๗. ชอบศิลปะและดนตรี  เป็นคนที่มีความรู้สึกสลับซับซ้อน  มีอารมณ์ศิลปินอ่อนไหว  ทำให้มองชีวิตและโลกสวยงามหลากหลายรูปแบบ  ชอบแสดงออกให้คนชื่นชม  แต่ปกติเป็นคนสมถะ

๘. ชอบธรรมชาติ  ท่องเที่ยว  ชอบตกปลา  เป็นคนจริงใจ  รักความยุติธรรม  ไม่เพ้อฝัน  ค่อนข้างเงียบขรึม  แต่จิตใจสงบมั่นคง

๙. ชอบถ่ายรูป  อุปนิสัยสลับซับซ้อน  ชอบเครื่องจักรเครื่องกล  แต่ก็รักศิลปะ  อีกทั้งนิยมสะสมของบางอย่าง  เป็นคนเจ้าอารมณ์  พึ่งพาอาศัยได้  มีรสนิยมหลายอย่างผสมกัน

๑๐. ชอบดูหนัง  ดูทีวี  เป็นพวกที่หลีกหนีความเป็นจริง  ฉลาดมีน้ำใจ แต่เพ้อฝันมากเกินไปหน่อย  จึงมักจะรู้สึกเหงา

๑๑. ชอบวาดรูป  ส่วนใหญ่จะเป็นคนเก่ง  เปิดเผย  ใจร้อน  แต่มักหลงภาพหรือคนใหม่ๆที่เข้ามาในชีวิตเสมอ  ทำให้เปลี่ยนใจบ่อยๆ  เป็นพวกจิตนาการสูงมาก  มักจะโอเวอร์เกินความจริง

๑๒. ชอบอ่านเมลแล้วส่งต่อ  ส่วนใหญ่จะเป็นคนดีเลิศประเสริฐศรี  แต่....ตกงานง่าย...จัง   เพราะเวลาว่างเยอะ

 

ข้อดีของความทุกข์

ความทุกข์แม้จะเป็นข้อเสีย   แต่ก็มีข้อดีมิใช่น้อย.....ดังนี้

๑. ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น

๒. ทำให้รู้ค่าถึงความสุข

๓. ทำให้เรามีความสามารถมากขึ้น

๔. ทำให้เรามีสิ่งที่ต้องทำ(ทำเพื่อให้หายทุกข์)

๕. ทำให้เรามีประสบการณ์ในการแก้ปัญหามากขึ้น

๖. ทำให้เรามีความอดทนมากขึ้น

๗. ทำให้ความสุขมีค่ามากขึ้น

๘. ทำให้มีความระมัดระวังมากขึ้น

๙. ทำให้เรามองโลกกว้างมากขึ้น

๑๐. ทำให้เราเห็นได้ว่าใครคือคนที่เป็นที่พึ่งพายามยากของเรา

๑๑. ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่ห่วงเรา

๑๒. ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่เป็นมิตรแท้ของเรา

๑๓. ทำให้เราได้รู้ว่าเพื่อนของเรามีความสามารถแค่ไหน

๑๔. ทำให้เรารู้ว่าใครมีความสามารถขนาดไหน

๑๕. ทำให้เรารู้ได้ว่ามีคนไหนที่รักเราจริง

๑๖. ทำให้เรารู้ว่าการหัวเราะเป็นสิ่งจำเป็น

๑๗. ทำให้เราพยายามที่จะมองโลกในแง่ดีมากขึ้น

๑๘. ทำให้เรามาค้นหาข้อดีของความทุกข์

 

เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส

รักเธอแต่ไม่กล้าเอ่ยปาก

      อย่างนี้ต้องซ้อมบอกรักกับคนอื่นให้เกิดความเคยชินเสียก่อน  พ่อครับ  ผมรักคุณพ่อมากครับ....แม่ครับ  ผมรักคุณแม่มากครับ...ไอ้ตูบข้ารักเอ็งมากนะ...เฮ้ย....เจ้าศักดิ์  เรารักนายจริงๆว่ะ  ฯลฯ อิอิ....    ทีนี้พอพูดคล่องแล้วจึงค่อยไปบอกรักกับเธอ

ส่งยิ้มให้เธอแล้ว  เธอไม่แยแส

      ยังดีนะ..นะเนี่ยที่เธอไม่ด่ากลับมา   นี่แสดงว่าเธอยังทีน้ำใจดีอยู่บ้าง  โอ....ซาบซึ้งเหลือเกิน  ถึงเราจะแห้ว....แต่เราก็ยังประทับใจในความดีของหล่อน

อกหักอีกแล้ว

      ไม่เป็นไร  ได้เรียนรู้ชีวิต  นี่เป็นการพิสูจน์สัจธรรมอีกครั้งว่า  รักแท้คือแม่เรา  ส่าแต่ตัวเราเอง  คอยปรับปรุงตัวให้ดีๆเหอะ   ชีวิตดีขึ้นเดี๋ยวก็มีคนมาชอบเราเองแหละ

ครูสอนไม่รู้เรื่อง

      ท้าทายมาก...ท้าทายมาก  นี่หมายความว่าคุณครูกำลังท้าทายเราว่าถ้าข้าสอนห่วยๆแบบนี้  เอ็งจะรู้เรื่องหรือเปล่าอย่างนี้ยอมไม่เ  เราต้องขวนขวายเอาเอง  เพื่อพิสูจน์กึ๋นให้คุณครูรู้ว่าเรานี้ก็ไม่เบ้เหมือนกัน

ผิดหวังผลสอบดูหนังสือแทบตายได้แค่ เกรด B

      เรียนแล้วได้วิชาความรู้  มันก็เหมือนทำงานแล้วได้เงินเดือน  การได้เกรด A  ก็คล้ายๆกับว่าเราได้โบนัส  ทีนี้ถึงเราจไม่ได้โบนัสมันก็ไม่น่าจะเสียใจอะไร  ก้อเราได้เงินเดือนแล้วนี่นา

 

วันหยุดการบ้านเพียบ

      สบายมาก...คุณครูกำลังท้าทายความสามารถของเรา (อีกแล้ว)  เรารู้ทันหรอกน่า  การบ้านเยอะอย่างนี้เราก็ว่าดีนะ   เพราะได้ฝึกตัวเองให้เป็นคนสู้งานหนัก  เราต้องสู้ไม่ถอยในวันนี้  อนาคตไปโลดแน่ๆ

ทำไมโรงเรียนต้องบังคับนักเรียนชายให้ตัดผมด้วย หมดหล่อเลยเรา

      เผด็จการชัดๆ  ลดความหล่อบ้างสักนิดก็ดีนะ  สาวๆจะได้ไม่กวน  ขอบคุณครับคุณครูที่ช่วยให้ผมเรียนหนังสือเต็มที่กับเจาเสียที  ที่สำคัญสระผมง่ายดีไม่เปลืองแชมพู

เพื่อนนินทา

      เพื่อนนินทาเรา  แสดงว่าเราต้องมีดีอะไรสักอย่าง  จนเพื่อนมันอิจฉาซึ่งดีกว่าสมเพช  อย่างนี้เราน่าจะภูมิใจตัวเองแทนที่จะไปโกรธเพื่อนคนนั้น พูดง่ายๆเขาไม่มีจุดเด่นเหมือนเราเขาจึงนินทาว่างั้นเถอะ เพื่อนๆในห้องมีแฟนกันหมดแล้วมีเหลือแต่เรา “แหง่ว....ว     อยู่คนเดียวคิดมุมกลับ...เพื่อนๆในห้องหาเรื่องร้อนรนทุรนทุรายกันหมดแล้วเหลือแต่เราอยู่เย็นเป็นสุขอยู่คนเดียว  เย....! ไม่นานหรอกมันจะอิจฉาเราที่มีอิสระกว่าพวกมันเยอะ

อิจฉาเพื่อนแฟนมันสวย

      มีแฟนสวยก็ยินดีด้วย  แต่เราว่ามีแฟนนิสัยดี  ดูแลเอาใจใส่ดีและมีความรู้ดีแบบนี้สุดยอดกว่านะ  เพราะของเพื่อนเป็นประเภท “สวยงาม”  แต่ของเราเป็นประเภท “ความคิด”  และน่าภูมิใจว่าเรายังไม่ถึงขั้นมีแฟนประเภท “ตลกขบขัน”

นิสัยตัวเองไม่ดีชอบจ้องจับผิดคนอื่น “มิน่าเล่า  เราถึงไม่มีเพื่อนที่ดีเหลือเลยสักคน  จับผิดตัวเองดีกว่าสนุกกว่ากันเยอะเลย”   เราตะได้พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นทุกวัน

เสียงหัวเราะบอกนิสัย

ชอบหัวเราะเบาๆ

      คนที่ชอบหัวเราะเบาๆนั้นมักเป็นคนที่มีความระมัดระวัง  คิดอะไรลึกๆไม่ใช่แค่ผิวเผินเป็นคนที่รอบคอบมากละเอียดเป็นที่สุด  มีอะไรจะคิดๆอย่างรอบคอบจึงเป็นคนที่เชื่อถือได้และก็ยังมีน้ำใจอีกด้วย  เป็นคนที่พึงพาได้

ชอบหัวเราะเสียงดังลั่นห้อง

      ส่วนใหญ่เป็นคนที่จริงใจและมีความกล้าสูงตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเสมอ  มักเป็นคนกระตือรือร้นมาก  เสียแต่ว่าไม่ค่อยรอบคอบเลย

ชอบหัวเราะเสียงหนักแน่น

      มักเป็นพวกที่ชอบอะไรที่มันสมบูรณ์แบบเท่านั้น  ไม่ว่าจะเรื่องใดๆ  เรียนก็ตั้งใจเต็มที่เพื่อให้ได้อันดับสูงๆแต่เป็นคนที่มีอารมณ์ขัน  และมีจินตนาการแปลกๆเสมอทำให้เป็นคนเครียดจนเกินไป

ชอบหัวเราะเสียงทุ้ม

      มักเป็นคนเจ้าชู้  มักพูดจาหว่านล้อมชักแม่น้ำทั้ง ๕เก่งมาก  เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย  แต่ก็มีแนวความคิดที่แยบยลจนน่าเลื่อมใส  สามารถดึงดูดให้ผู้อื่นคล้อยตามได้อย่างไม่น่าเชื่อ  ทำให้เป็นที่นิยมของผู้อื่นอยู่เสมอ

ชอบหัวเราะเสียงสูง

      เป็นคนกระตือรือร้นมาก  มีไฟสูง  มักประดิษฐ์คิดค้นสนใจศึกษาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆทำให้เป็นที่ประหลาดใจของผู้อื่นเสมอ  แต่ก็เป็นคนที่มีจิตใจงดงาม  มีคุณธรรมสูงมาก  เชื่อและไว้วางใจเพื่อน

ชอบหัวเราะเสียงแหะๆ

      เป็นคนที่สู้ชีวิต   เป็นคนใจดีชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก  มีความละเอียดมากๆ  มองคนได้ทะลุปรุโปร่ง  คบคนที่จิตใจมากกว่าหน้าตาหรือว่าฐานะชอบใช้ชีวิตเรียบง่ายสมถ

ชอบหัวเราะไปน้ำตาไหลพราก

      เป็นคนที่จริงจังมีอุดมการณ์ชอบช่วยเหลือผู้อื่นมาก  เป็

คำสำคัญ (Tags): #สาระที่สนุกๆ
หมายเลขบันทึก: 306983เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2009 20:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 15:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีครับครู เยี่ยมมากครับ

ถ้าครูลงเป็นตอนๆให้สั้นๆจะน่าอ่านมากครับ นี่กว่าจะอ่านหมดตาลายครับ

อ่านผ่านเครื่องไม่เฟื้องเหมือนอ่านในหนังสือ

อยู่ปกาสัย มีเพื่อน ชื่อ สมยศ ปกาศัย คนทำงานชุมชน พอช.ด้วยกันครับ

กลอนดอกสร้อย

นารีมีหลายคำ

นาเอ๋ยนารี

ภคินี กันยา สุดา สมร

นุชนาถ จินดา พะงางอน

สายสวาท บังอร พธู นวล

ยุพดี กานดา ยอดยาจิต

โฉมมิ่งมิตร นงนุช สุดสงวน

สิบเก้าแล้ว ยังไม่หมด บทกระบวน

เออสำนวน นามผู้หญิง มากจริงเอย

ขอนำบทนี้ไปใช้ต่อน่ะครับ )ถ้านิ่งไม่ตอบถือว่าอนุญาติครับ

สวัสดีครับคุณpoonsuk

  • ขอบคุณมากๆนะครับ ที่แวะไปเยี่ยม ทักทายกัน
  • นี้แหละครับความงามของภาษไทยเรา ให้ได้ทุกอารมณ์
  • มีความสุขมากๆนะครับ

แวะมาขอบพระคุณที่แบ่งปัน

ความงาม และสวยสดของภาษาไทย

ทำให้ภูมิใจในความเป็นไทยยิ่งขึ้นครับ

สวัสดีค่ะ มาเป็น เด็ก ม.3 ด้วยคนค่ะ  (สองคน) อิอิ

เรียน คุณครูค่ะ 

ดิฉันขอรบกวนคุณครูด้วยนะค่ะว่า ใครเป็นผู้แต่งกลอนบทนี้ค่ะ เพราะได้จำมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วค่ะ แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้แต่งไว้ ขอรบกวนด้วยค่ะ

"เด็กวันนี้ คือ ผู้ใหญ่ในวันหน้า

ทำทีท่า แม้นละม้าย คล้ายแม่พ่อ

ผู้ใหญ่ดี เด็กก็งาม ตามเหล่ากอ

ผู้ใหญ่บ้า เด็กก็บอ พอพอกัน"

ด้วยความเคารพ

บุญตา  ทัศมาลี

เคยได้อ่านมาเหมือนกันค่ะ..แต่จำชื่อคนแต่งไม่ได้...ขอโทษจริงๆค่ะที่ให้คำตอบไม่ได้..เดี๋ยวหากทราบคนแต่งค่อยบอกมานะคะ

ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ จะรอคำตอบนะค่ะ ความสงสัยจะได้หายไปเสียทีค่ะ

ต้องขอรบกวนด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

บุญตา ทัศมาลี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท